วิธีการ ตั้งงบรายจ่ายที่ได้ผลจริง

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การตั้งงบรายจ่ายเป็นวิธีจัดการการเงินที่ดีและช่วยให้คุณเก็บเงินได้เพื่อเป้าหมายบางอย่าง หรืออาจจะแค่เพื่อปลดหนี้ก็ได้

  1. How.com.vn ไท: Step 1 ตั้งเป้าหมาย.
    การระบุเป้าหมายจะทำให้คุณใช้เงินตามที่ตั้งงบไว้ได้ง่ายขึ้น และทำให้คุณมีหลักการที่วัดได้ว่าคุณประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในการทำตามเป้าหมายนั้น ทำไมคุณถึงอยากตั้งงบประมาณการใช้จ่ายล่ะ คุณอาจจะอยากเก็บเงินไว้เรียนต่อมหาวิทยาลัย หรือคุณอาจจะอยากปลดหนี้ ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นอะไร อย่าลืมตั้งเป้าหมายตามหลัก SMARTER (เป้าหมายที่ Specific (เจาะจง) Measurable (วัดได้) Achievable (ทำได้จริง) Relevant (เกี่ยวข้อง) Time-bound (มีกำหนดเวลาแน่ชัด) Evaluated (ประเมิน) และ Reviewed (ทบทวน) อย่างสม่ำเสมอ) เพื่อเพิ่มโอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จตั้งแต่ต้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 คำนวณว่าปกติแล้วคุณมีรายได้หลังหักภาษีเท่าไหร่....
    คำนวณว่าปกติแล้วคุณมีรายได้หลังหักภาษีเท่าไหร่. เริ่มจากการหาให้ได้ว่าแต่ละเดือนคุณได้เงินเท่าไหร่ รายได้สุทธิหลังหักภาษีและค่าลดหย่อนอื่นๆ ได้แก่ค่าจ้าง ทิปส์ ทุนการศึกษา เงินได้ตามชอบด้วยกฎหมาย เช่น เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูบุตร ค่าอุปการะเลี้ยงดู เงินช่วยเหลือจากรัฐบาล และเงินอื่นๆ ที่เข้ามาในกระเป๋าหรือบัญชีของคุณ ทั้งหมดนี้คือรายได้ของคุณ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 คำนวณค่าใช้จ่าย.
    เก็บใบเสร็จรับเงินไว้สัก 2 – 3 สัปดาห์หรือสัก 1 เดือน การรู้ค่าใช้จ่ายเช่นค่าซื้อของเข้าบ้านหรือค่าน้ำมันรายเดือนจะทำให้ขั้นตอนต่อไปง่ายขึ้น ถ้าคุณอยากเริ่มตั้งงบรายจ่ายตั้งแต่วันนี้แต่ไม่มีใบเสร็จ ก็ทำได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะยากกว่ากันนิดหน่อย
    • ค่าใช้จ่ายตายตัวคือค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างเสมอต้นเสมอปลายในแต่ละเดือน ค่าใช้จ่ายตายตัวก็เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนหนี้ ค่าน้ำค่าไฟ และค่าประกัน ค่าใช้จ่ายตายตัวที่หลายคนมองข้ามคือเงินเก็บ คุณต้องจ่ายให้ตัวเองก่อนในรูปแบบของบัญชีออมทรัพย์ก่อนจ่ายให้คนอื่น วิธีนี้จะทำให้คุณได้วางแผน "รองรับ" ทางการเงินเอาไว้เพื่อรองรับคุณในช่วงที่มีปัญหาด้านการเงิน
    • ค่าใช้จ่ายแปรผันคือค่าใช้จ่ายที่แปรผันไปในแต่ละเดือน เช่น ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหารนอกบ้าน ค่าบันเทิง ค่าเสื้อผ้า ค่าของใช้ในบ้าน ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว และค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว รายจ่ายส่วนนี้จะเป็นส่วนแรกที่คุณตัดออกเมื่อคุณใช้จ่ายเกินกว่าที่หาได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 แบ่งงบการใช้จ่ายออกเป็นประเภทพื้นฐาน.
    เช่น "บ้าน" "อาหาร" "รถยนต์" "บันเทิง" "เงินเก็บ" "เสื้อผ้า" "รักษาพยาบาล" และ "เบ็ดเตล็ด" นอกจากนี้คุณอาจจะแบ่งประเภทค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งจำเป็น เช่น ค่างวดหนี้และค่าไฟ กับสิ่งที่อยากได้ เช่น เสื้อผ้าและความบันเทิง
  5. How.com.vn ไท: Step 5 บันทึกค่าใช้จ่ายแต่ละรายการลงในแต่ละประเภท....
    บันทึกค่าใช้จ่ายแต่ละรายการลงในแต่ละประเภท. ลองยกตัวอย่างค่าใช้จ่ายประเภท "รถยนต์" สมมุติว่าแต่ละเดือนคุณส่งงวดรถเดือนละ 9,000 บาท และค่าประกันอีกเดือนละ 3,000 บาท นอกจากนี้ทุกเดือนคุณยังต้องจ่ายค่าน้ำมันเฉลี่ยเดือนละ 7,500 บาท ค่าซ่อมบำรุงอีก 1,500 บาท ค่าภาษีและค่าธรรมเนียม เช่น ค่าต่อทะเบียนรถอีก 300 บาท เพราะฉะนั้นในประเภท "รถยนต์" งบการใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือนจะอยู่ที่ 21,300 บาทเป็นอย่างน้อย ถ้าด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้คุณไม่รู้จำนวนค่าใช้จ่ายที่แน่ชัดในหมวดนี้ ให้คำนวณดีๆ ยิ่งคุณกะได้ใกล้เคียงเท่าไหร่ คุณจะยิ่งทำตามแผนงบการใช้จ่ายที่วางไว้ได้มากเท่านั้น
  6. How.com.vn ไท: Step 6 รวมค่าใช้จ่ายทุกประเภท.
    ขั้นตอนนี้จะทำให้คุณเห็นค่าใช้จ่ายรายเดือนทั้งหมด หรือเงินที่คุณนำออกจากกระเป๋าหรือบัญชีธนาคารในแต่ละเดือน เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับรายได้ของคุณ
  7. How.com.vn ไท: Step 7 เลือกวิธีติดตามการใช้เงินตามงบรายจ่าย.
    คุณจะใช้วิธีแบบเก่าอย่างสมุดบัญชีแยกประเภทที่มีขายตามศูนย์การค้าทั่วไปในราคาประมาณ 150 บาทก็ได้ แต่หลายคนชอบใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์อย่าง Quicken Microsoft Money หรือ Excel มากกว่า
  8. How.com.vn ไท: Step 8 จัดการสมุดบัญชีแยกประเภท.
    ถ้าคุณเลือกใช้สมุดบัญชีแยกประเภท ปล่อยหน้าคี่ 5 หน้าแรกว่างไว้ เดี๋ยวเราจะกลับมาทีหลัง แบ่งส่วนที่เหลือของสมุดตามจำนวนประเภทค่าใช้จ่ายหลักที่คุณมี เขียนค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทไว้ที่หน้าแรกของแต่ละส่วน วิธีนี้จะทำให้คุณมีพื้นที่สำหรับบันทึกรายการใช้จ่ายลงในแต่ละประเภท ประเภทค่าใช้จ่ายที่มีการซื้อบ่อยๆ เช่น "อาหาร" จะต้องใช้หลายหน้าหน่อย
  9. Step 9 เขียน "งบรายจ่าย" สำหรับแต่ละประเภทในช่วงเริ่มต้นของระยะเวลา...
    เขียน "งบรายจ่าย" สำหรับแต่ละประเภทในช่วงเริ่มต้นของระยะเวลา จากนั้นรวมค่าใช้จ่ายในประเภทนั้นทั้งหมดที่เกิดขึ้นตลอดช่วงระยะเวลาที่กำหนด. เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายประเภท "รถยนต์" ก็จะเริ่มที่ 21,300 บาทสำหรับ 1 เดือน จากนั้นก็บันทึกค่าใช้จ่ายแต่ละรายการสำหรับ "ค่าน้ำมัน" 1 รายการสำหรับ "ค่างวดรถ" และอาจจะมีอีก 1 รายการเป็น "ค่าประกัน" (แล้วแต่ว่าคุณแบ่งชำระค่าประกันเป็นรายเดือนหรือไม่)
  10. How.com.vn ไท: Step 10 ใช้ส่วนแรกของสมุดบัญชีแยกประเภทที่เราปล่อยว่างไว้ก่อนหน้านี้บันทึกรายได้และงบรายจ่ายที่เราหักออกมาในแต่ละช่วง....
    ใช้ส่วนแรกของสมุดบัญชีแยกประเภทที่เราปล่อยว่างไว้ก่อนหน้านี้บันทึกรายได้และงบรายจ่ายที่เราหักออกมาในแต่ละช่วง. เช่น ถ้าเงินคุณออกศุกร์เว้นศุกร์ ก็ควรมีบันทึกรายรับที่แสดงให้เห็นถึงจำนวนรายได้ในช่วงเวลาเดียวกัน (ทุกศุกร์เว้นศุกร์) ดังนั้นถ้างบการใช้จ่ายรายเดือนของคุณคือ 84,000 บาทและจะถูกหักออกทุกวันที่ 1 และ 15 ของทุกเดือน ในส่วนที่เป็นรายได้วันที่ 1 และวันที่ 15 ก็จะต้องบันทึกว่ามีรายได้เข้ามาทั้งหมด 42,000 บาท และในช่วงเวลาเดียวกันค่าใช้จ่ายประเภท "รถยนต์" ก็ควรจะตั้งงบใช้จ่ายไว้ที่ 10,650 บาท ซึ่งเป็นส่วนที่คุณจะหักออกไปใช้ได้ตามที่คุณตั้งงบรายใช้จ่ายไว้
  11. How.com.vn ไท: Step 11 ปรับค่าใช้จ่าย.
    ในการที่จะทำให้งบรายจ่ายของคุณสมดุลและทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ รายได้ของคุณต้องมากกว่าหรือเท่ากับรายจ่าย เพื่อหาว่างบรายจ่ายของคุณสมดุลหรือไม่ คุณต้องหักค่าใช้จ่ายตายตัวและค่าใช้จ่ายแปรผันจากรายได้ของคุณ
    • งบการใช้จ่ายที่สมดุลก็คือ ถ้ารายได้ของคุณเท่ากับรายจ่าย หรือจะให้ดีกว่านั้นคือมากกว่ารายจ่าย ก็แสดงว่าคุณได้สร้างแผนการใช้จ่ายที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว แม้ว่าคุณจะอยากได้เงินก้อนที่ "เกินมา" ขนาดไหน ขั้นตอนต่อไปที่ควรทำก็คือ คุณต้องให้เงินส่วนที่เหลือนั้นทำงานให้กับคุณ สิ่งที่เรียกว่า "เงินเหลือ" นั้นไม่มีอยู่จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีหนี้หรือเป้าหมายการเก็บเงินที่ยังทำไม่ได้ แทนที่จะเอาเงินส่วนที่เหลือไปเพิ่มในงบค่าใช้จ่ายประเภท "บันเทิง" ให้นำไปใช้หนี้และเก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์เสมอ
    • งบการใช้จ่ายที่ไม่สมดุลก็คือ ถ้าคุณใช้จ่ายมากกว่าที่คุณหามาได้หรือได้รับ ก็แสดงว่าคุณต้องพยายามตั้งงบรายจ่ายให้สมดุลอย่างจริงจัง เริ่มจากการตรวจสอบและปรับค่าใช้จ่ายแปรผันก่อน ก่อนอื่นคุณต้องค่อยๆ ลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วยการลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น ค่าอาหารที่รับประทานที่ร้าน ค่าบันเทิง และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอื่นๆ (เช่น ของแบรนด์เนม) ถ้างบการใช้จ่ายของคุณยังไม่สมดุลอีก ลองลดค่าใช้จ่ายตายตัวด้วย บางทีคุณอาจจะเช่าห้องหรือหารูมเมตมาแชร์ค่าเช่า หรือบางทีคุณอาจจะต้องเปลี่ยนไปใช้รถที่ถูกลงหรือประหยัดน้ำมันมากขึ้น ในทางกลับกันคุณก็อาจจะพยายามเพิ่มรายได้ด้วยการทำงานพาร์ตไทม์ ทำงานล่วงเวลา (ถ้ามี) เปลี่ยนงาน หรือเริ่มทำธุรกิจที่บ้าน
    • ประเมินอยู่เรื่อยๆ สถานการณ์ทางการเงินของคุณจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นคุณต้องปรับเปลี่ยนแผนการใช้จ่ายของคุณอยู่เรื่อยๆ ถ้าคุณใช้หนี้หมดแล้ว ได้ขึ้นเงินเดือน หรือสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านอื่นๆ ในชีวิต ให้ปรับแผนการใช้เงินเสียใหม่โดยอาศัยข้อมูลใหม่ที่มี และจำไว้ว่าการจ่ายหนี้ เงินออม และความมั่นคงทางการเงินเป็นสิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1 ในชีวิตเสมอ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จำไว้ว่าคุณต้องไม่ให้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกินรายได้ คุณจึงจะไปถึงเป้าหมายได้
  • ในช่วง 2 – 3 เดือนแรกและเมื่อเวลาผ่านไป คุณจะพบว่าแผนการใช้จ่ายในตอนแรกมีข้อบกพร่องบางอย่าง ซึ่งไม่เป็นไรเลย อย่าไปกังวลกับมัน แค่ปรับให้เข้ากับสถานการณ์และปรับปรุงแผนการใช้จ่ายของคุณเมื่อคุณเห็นภาพการใช้จ่ายของคุณมากขึ้นแล้ว เพราะยิ่งเราทำบ่อยเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งทำได้ดีขึ้นเท่านั้น!
  • ถ้าคุณมีปัญหาในการตั้งงบรายจ่ายให้สมดุล พยายามเลิกนิสัยบางอย่าง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ไปรับประทานอาหารนอกบ้านบ่อยๆ ชอปปิ้ง หรือค่าบันเทิง ทั้งหมดนี้เป็นค่าใช้จ่ายมหาศาลในงบรายจ่ายของคุณทั้งนั้น และคุณจะสังเกตถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดด้วยการเลิกนิสัยเหล่านี้!
  • เช่นเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในส่วนของงานอดิเรกและการท่องเที่ยวก็ต้องบริหารจัดการให้ดีด้วยการคำนึงถึงความมั่นคงทางการเงินในปัจจุบันและในอนาคตเป็นสำคัญ การท่องเที่ยวครั้งถัดไปให้ลองไปที่ใกล้ๆ หรือจะใกล้มากขนาดที่ว่าพักร้อนบนโซฟาหรือเตียงของตัวเองก็ได้ นอกจากนี้คุณยังควรนึกถึงตัวเลือกของงานอดิเรกที่ใช้เงินน้อยกว่าด้วย เช่น ถ้างานอดิเรกของคุณคือการเล่นกอล์ฟ คุณอาจจะลองเดินเร็วแทนจนกว่าคุณจะมีเงินกลับไปเล่นกอล์ฟได้อีกครั้ง
  • ตั้งงบการใช้จ่ายสำหรับรายจ่ายที่ไม่ได้วางแผนไว้แยกออกมาต่างหาก และเรียกว่า "รายจ่ายแบบไม่ต้องคิด" และ "รายจ่ายที่ไม่คาดคิด" รายจ่ายแบบไม่ต้องคิดคือของที่คุณซื้อเพราะอยากซื้อ เช่น ไอศกรีมที่คุณอยากกินมากตอนตีสาม โทรศัพท์/ของเทคโนโลยีล่าสุด หรือของเก๋ๆ ที่ลดราคาอยู่ ส่วนรายจ่ายที่ไม่คาดคิดคือสิ่งที่คุณไม่ได้วางแผนว่าจะซื้อแต่สถานการณ์บีบบังคับให้ต้องซื้อเดี๋ยวนั้น เช่น ยางที่คุณต้องเปลี่ยนใหม่เพราะดันไปเหยียบตะปูเข้าบนทางด่วน หรือกางเกงขายาวตัวใหม่ที่ต้องซื้อเพราะตะเข็บแยกกลางคันในวันทำงานพอดี
  • นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลาจ่ายเงินคืนในบางช่วงที่คุณอาจจะมีรายได้เพิ่ม และเมื่อช่วงนั้นมาถึงคุณก็จะมีเงินส่วนเกิน (เย่!) ซึ่งก็แล้วแต่คุณเลยว่าคุณจะใช้เงินส่วนที่เกินมานี้อย่างไร แม้ว่าคุณอาจจะใช้เงินส่วนนี้ได้เลย แต่จะดีกว่าหากคุณเอาเงินส่วนนี้ไปไว้ในเป้าหมายของคุณ หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้นคือเก็บไว้ในบัญชีธนาคารเป็นเงินสำรองฉุกเฉินเพื่อเสริมค่าใช้จ่ายส่วนที่เป็น "รายจ่ายที่ไม่คาดคิด"
  • อย่างที่บอกไปในเคล็ดลับก่อนหน้านี้ ถ้าคุณเก็บเงินสำรองฉุกเฉินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ คุณจะเลี่ยงความเย้ายวนใจในการใช้เงินส่วนนั้นได้ยากเมื่อคุณเห็นของชิ้นใหม่วาววับที่คุณอยากจับจองมานาน ทางเลือกที่ดีกว่านี้คือการหาบัญชีกองทุนรวมตลาดเงินที่ปันผลในอัตราที่น่าพอใจ (ประมาณ 4-5%) แล้วคุณจะมีเงินเก็บล้ำหน้าเกินใคร
  • หรือถ้าคุณมีเงินไม่มากพอที่จะเปิดบัญชีกองทุนรวมตลาดเงิน (โดยทั่วไปจะมีการซื้อขายขั้นต่ำที่ 5,000 บาท) ให้ลองเก็บเงินสำรองฉุกเฉินไว้ในบัญชีออมทรัพย์กับสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารหลักที่คุณใช้อยู่ ถ้าจะให้เห็นประเด็นสุดท้ายชัดเจนขึ้นก็คือ ถ้าปกติคุณมีบัตรเอทีเอ็มที่คุณใช้เป็นหลักกับ "ธนาคาร A" ก็ให้เปิดบัญชีออมทรัพย์ไว้กับ "ธนาคาร B”
  • พยายามอย่าเริ่มงบรายจ่ายใหม่ในเดือนแรกหลังจากมีเหตุการณ์ในชีวิตที่คุณใช้เงินไปเยอะหรือเก็บได้เยอะ เช่น ไปพักร้อน จัดงานแต่ง ย้ายบ้าน หรือรักษาตัวในโรงพยาบาลโดยไม่ได้คาดคิด รอจนกว่าสถานการณ์ทางการเงินของคุณจะ "อยู่ตัวและเป็นระเบียบ" อย่างน้อย 3 – 6 เดือนก่อนจะเริ่มงบรายจ่ายใหม่
โฆษณา

คำเตือน

  • บางครั้งการตั้งงบรายจ่ายอาจดูเหมือนอึดอัดเกินไป แต่จำไว้ว่ามันก็เป็นสิ่งที่ให้อิสรภาพแก่คุณได้เช่นกัน! เมื่อช่วงพักร้อนมาถึง คุณก็จะมีเงินที่ปันส่วนเอาไว้จากการตั้งงบรายจ่ายอยู่แล้ว และคุณก็ไม่ต้องกระเบียดกระเสียนเพื่อให้ได้ไปพักร้อน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 34 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 3,052 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,052 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา