วิธีการ ประเมินราคาการ์ดโปเกมอนของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ประเมินราคาของการ์ดโปเกมอน

ตีราคาหรือขายการ์ดของคุณ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

คุณอยากจะขายการ์ดโปเกมอนของคุณไหมล่ะ? หรือคุณอยากรู้ไหมว่าการ์ดของคุณมีค่าเท่าไร? การค้นดูการขายการ์ดออนไลน์ส่วนบุคคลเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหาราคาที่เหมาะสม แต่คุณควรจะหาการ์ดที่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปให้เจอก่อนที่คุณจะซื้อมัน ถ้าการ์ดเป็นการ์ดฟอยล์ มีชื่อเฉพาะ หรือแค่แปลก คุณอาจต้องการคำแนะนำเพื่อที่จะรู้ว่าการ์ดพวกนี้เรียกว่าอะไรสำหรับใช้ในการค้นหาบนอินเตอร์เน็ต ขอให้คุณโชคดีและจำไว้ว่า: การ์ดโปเกมอนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกขายในราคา 3 ล้านบาท

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 2:

ประเมินราคาของการ์ดโปเกมอน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เช็คระดับความหายากของการ์ด. การ์ดโปเกมอนแต่ละใบจะมีระดับความหายากที่จะเป็นตัวกำหนดโอกาสที่คุณจะเปิดเจอมันในซองการ์ด ถึงแม้ว่านี่ไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่จะเป็นตัวกำหนดราคาของการ์ด แต่สิ่งนี้มักจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดูที่มุมขวาล่างของการ์ดเพื่อหาสัญลักษณ์บอกความหายากซึ่งอยู่ถัดจากหมายเลขการ์ด:

   • “วงกลม” หมายความว่าเป็นการ์ดธรรมดา ในขณะที่สัญลักษณ์ “ข้าวหลามตัด” หมายถึงการ์ดพิเศษ การ์ดพวกนี้หาได้ง่ายและโดยปกติจะไม่ค่อยมีราคามากนัก เว้นแต่จะเป็นการ์ดที่พิมพ์ในปี ค.ศ. 1999 หรือ ค.ศ. 2000
   • “ดาว” หมายความว่าเป็นการ์ดหายาก ในขณะที่ “ดาว H” หรือ “ดาวสามดวง” คือการ์ดหายากพิเศษ การ์ดระดับนี้เป็นการ์ดราคาสูงที่มีโอกาสหาเจอได้มากที่สุด ฉะนั้น จงแยกมันออกจากกองการ์ดซะ
   • สัญลักษณ์อื่นโดยปกติแล้วจะหมายความว่าเป็นการ์ดที่ขายเป็นส่วนหนึ่งกับผลิตภัณฑ์พิเศษ ไม่ใช่การ์ดที่หาได้จากซองการ์ด ลองค้นหาการ์ดเวอร์ชั่น “Promo” “Deck Kit” หรือ “Boxtopper” เพื่อตรวจสอบราคาดู การ์ดพวกนี้มีขอบเขตราคาตั้งแต่ไม่กี่สตางค์จนถึงมากกว่า 3 พันบาท ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์
2. 
   2
   มองหาการ์ดโฮโลกราฟิค. การ์ด “Holo” จะมีชั้นแผ่นฟอยล์สะท้อนแสงติดอยู่บนรูปโปเกมอน ในขณะที่การ์ด “Reverse Holo” จะมีชั้นแผ่นฟอยล์สะท้อนแสงติดอยู่ทั่วการ์ด ยกเว้น บนภาพโปเกมอน ความพิเศษลักษณะนี้ไม่ได้ทำให้การ์ดมีราคาสูงในทันที แต่แน่นอนว่าการ์ด Holo (หรือ Reverse Holo) มีค่าพอที่จะเก็บแยกไว้

   • การ์ดพิเศษบางใบจะมีขอบสะท้อนแสงรอบๆ การ์ดทั้งใบ แต่ส่วนอื่นของการ์ดจะไม่ติดฟอยล์ การ์ดพวกนี้ก็อาจจะมีราคาสูงได้เช่นกัน และสามารถจะกำหนดราคาให้สูงขึ้นอีกได้หากมีลักษณะอื่นๆ ตามด้านล่างนี้
3. 
   3
   ตรวจดูสัญลักษณ์พิเศษหรือคำที่ต่อท้ายชื่อการ์ด. การ์ดโปเกมอนส่วนใหญ่จะมีเลเวลของโปเกมอนอยู่ทางขวาของชื่อการ์ดด้านบน อย่างเช่น “Pikachu LV.12” แต่การ์ดโปเกมอนบางใบจะมีสัญลักษณ์พิเศษต่อท้ายแทน และลักษณะพวกนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้การ์ดมีมูลค่าเพิ่มจากไม่กี่สิบบาท เป็นหลายพันบาทตรวจดูชื่อการ์ดที่ตามด้วย ex, ☆, LV.X หรือ LEGEND การ์ดหายากพิเศษอื่นๆ ที่เรียกว่า “SP” แทน “Special Pokémon" จะมีชื่อที่ตามด้วย G, GL, 4, C, FB หรือ M ซึ่งการ์ดพวกหลังนี้จะดูรู้ได้ง่ายโดยการดูเครื่องหมาย “SP” ที่มุมซ้ายล่างของภาพการ์ด

   • การ์ดโปเกมอนในตำนานบางการ์ดจะพิมพ์ข้ามการ์ดสองใบ ซึ่งต้องวางการ์ดทั้งสองใบในแนวนอนและต่อกันในแนวตั้งเพื่อที่จะมองเห็นความสามารถและภาพของการ์ดทั้งใบ
4. 
   4
   ตรวจดูการ์ดที่ผลิตออกมาในช่วงแรกให้ดี. การ์ดที่พิมพ์หลังจากเกมวางขายในทันทีจะมีราคาสูงเป็นพิเศษ แม้แต่การ์ดธรรมดาและการ์ดพิเศษก็อาจจะมีมูลค่าเกือบ 200 บาทต่อใบหรือมากกว่านั้น การ์ดใบไหนก็ตามที่มีคำว่า “Wizards of the Coast” ที่ด้านล่างของการ์ด คือการ์ดที่ผลิตในปี ค.ศ. 1999 หรือก่อนปี ค.ศ. 2000 และควรค่าพอที่จะตรวจสอบ ถ้าลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างตามที่ว่ามานี้ปรากฏอยู่บนการ์ด และการ์ดเป็นการ์ดหายาก การ์ดอาจจะสามารถขายได้ในราคากว่า 300 บาทหรือมากกว่านั้น

   • หาตราพิมพ์ครั้งแรกที่ด้านซ้ายล่างของภาพการ์ด ตราจะมีลักษณะเป็นเลข “1” อยู่ในวงกลมสีดำที่มีเส้นรัศมีอยู่เหนือด้านบน
   • ถ้ากรอบรูปไม่มี “เงา” อยู่ใต้กรอบ นักสะสมจะเรียกการ์ดใบนั้นว่า การ์ด “ไร้เงา”
5. 
   5
   ตรวจดูหมายเลขสะสม. ดูหมายเลขสะสมที่มุมขวาล่าง นี่เป็นอีกวิธีในการตรวจมูลค่าการ์ด และเป็นวิธีที่สามารถบอกความพิเศษและมูลค่าของการ์ดได้ด้วย

   • การ์ดลับจะมีหมายเลขสะสมสูงกว่าเลขยอดรวมของการ์ดทั้งหมดที่ (คาดว่า) พิมพ์ขึ้นในชุดนั้น ตัวอย่างเช่น “65/64” หรือ “110/105”
   • ถ้าหมายเลขสะสมนำหน้าด้วย “SH” การ์ดใบนั้นจะเป็นการ์ด “Shiny Pokémon” ซึ่งจะมีภาพโปเกมอนที่มีสีต่างไปจากโปเกมอนปกติ และการ์ดชนิดนี้จะเป็นการ์ด “Reverse Holo” ทุกใบด้วย
   • หากไม่มีหมายเลขสะสมล่ะก็ การ์ดอาจจะเป็นการ์ดที่พิมพ์ออกมาก่อนหน้านี้ แม้ว่าการ์ดเวอร์ชั่นญี่ปุ่นจะไม่ได้แสดงหมายเลขสะสมต่อไปอีกสักพักก็ตามไม่ใช่ว่าการ์ดทั้งหมดนี้จะมีราคา แต่มันก็ควรค่าแก่การตรวจดู
6. 
   6
   หาสัญลักษณ์อื่นๆที่บ่งบอกถึงมูลค่า. โปเกมอนได้ออกวางจำหน่ายการ์ดพิเศษ การ์ดหายากพิเศษ และการ์ดโปรโมชั่นมากมายทุกปี การ์ดพวกนี้ส่วนใหญ่จะมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กล่าวมาในข้างต้น แต่การ์ดบางส่วนจะต่างออกไป และบางครั้งก็มีราคาสูง หากมีลักษณะดังนี้:

   • การ์ดที่มีภาพที่ใหญ่ทั่วการ์ดทั้งใบ ซึ่งจะมีข้อความพิมพ์ทับอยู่บนภาพการ์ด นักสะสมเรียกการ์ดชนิดนี้ว่า “FA”
   • การ์ดจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกจะมีลักษณะด้านหลังของการ์ดที่ต่างไปจากการ์ดปกติ การ์ดชนิดนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เล่นในการแข่งขัน แต่การ์ดบางใบจะมีราคาสูงถึง 300 บาทหรือมากกว่านั้นสำหรับการเก็บเป็นของสะสม
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 2:

ตีราคาหรือขายการ์ดของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ค้นดูราคาการ์ดจากเว็บไซต์ขายการ์ดออนไลน์. เว็บไซต์จะมีการ์ดโปเกมอนพิเศษกว่าพันใบและราคาก็จะเปลี่ยนตลอดเวลาตามคนขาย คนซื้อ และคนเก็งราคา การ์ดที่เพิ่งพิมพ์ออกมาอาจจะราคาตกลงเมื่อการ์ดพวกนี้ไม่สามารถใช้ในการแข่งขันได้อีกต่อไป เพราะปัจจัยเหล่านี้เอง การค้นดูการ์ดที่ลงขายจริงจึงเหมือนการบอกราคาที่แม่นยำแก่คุณมากกว่าอ้างอิงตามหนังสือแนะนำราคา ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่ไม่ทันสมัย

   • ลองเข้าดูเว็บไซต์Cards Online, Pokecorner หรือ eBay หรือค้นหาบนอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับ (ชื่อการ์ดของคุณ) + “Selling” อย่าลืมใส่ข้อมูลลักษณะพิเศษที่มี โดยใช้ข้อมูลที่ได้อธิบายไว้แล้วในขั้นตอนการประเมินราคาการ์ด
   • รายการบนอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่จะเผยว่าบริษัทขายการ์ดเท่าไร ค้นดู “Buylist” เพื่อดูว่าบริษัทจะจ่ายเงินเท่าไรเพื่อซื้อการ์ดของคุณ หากคุณขายให้กับผู้เล่นคนอื่น ราคาที่คุณได้มักจะตกลงอยู่ระหว่างสองราคานี้
2. 
   2
   ถามคนเล่นการ์ดหรือนักสะสมการ์ดโปเกมอน. บ่อยครั้งที่การหาราคาการ์ดที่ขายบนอินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะการ์ดหายากพิเศษที่ไม่มีการซื้อขายกันบ่อยนัก ลองค้นหากระทู้เกี่ยวกับการ์ดโปเกมอนบนอินเตอร์เน็ตและโพสต์ภาพหรือคำอธิบายการ์ดของคุณเพื่อขอคำแนะนำดูสิ คุณยังสามารถถามจากร้านขายของเล่นหรือร้านเกมใกล้บ้านคุณได้อีกด้วย

   • ระวังพวกเกรียนออนไลน์ พิจารณาความเห็นเกี่ยวกับมูลค่าการ์ดของคุณให้ดีก่อนที่จะขายการ์ดให้กับคนแปลกหน้า
3. 
   3
   ตรวจสภาพของการ์ด. ถ้าการ์ดไม่มีรอยตำหนิทั้งสองด้านนอกจากขอบการ์ดที่อาจเป็นขุยเล็กน้อย การ์ดจะถือว่ามีสภาพสมบูรณ์ (Mint) หรือเกือบสมบูรณ์ (Near Mint) และจะขายได้ในราคาเต็ม บริษัทต่างๆ จะมีนโยบายในการพิจารณาการ์ดที่มีตำหนิต่างกัน แต่โดยปกติการ์ดจะมีมูลค่าต่ำลง หากการ์ดมีสีซีดลง มีรอยขีดข่วน มีรอยประทับตราหรือรอยเหยียบ หลายคนจะไม่ซื้อการ์ดที่มีรอยขีดเขียน เปื่อยน้ำ หรือฉีกขาด
4. 
   4
   ขายการ์ดมูลค่าต่ำด้วยกันเป็นชุด. การ์ดใบไหนก็ตามที่ไม่มีลักษณะตรงตามที่กล่าวไว้ในขั้นตอนการประเมินราคาอาจจะขายได้ไม่กี่บาท ตามที่คุณอาจจะรู้แล้วจากการค้นดูราคาการ์ดหายากที่คนอื่นขายกัน การ์ดเหล่านี้จะมีมูลค่าน้อยกว่า 1 บาท ร้านขายของบนอินเตอร์เน็ตที่ขายการ์ดโปเกมอนส่วนบุคคลมักจะซื้อการ์ดแบบเป็นชุดด้วยเช่นกัน และนี่อาจเป็นราคาที่ดีที่สุดสำหรับคุณในการหาเงินจากการ์ดเหล่านี้
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ขายการ์ดที่เพิ่งพิมพ์ออกมาก่อนที่การ์ดเหล่านี้จะไม่สามารถใช้ในการแข่งขันได้ เพื่อที่จะขายได้ในราคาเต็ม
• พยายามเก็บรักษาการ์ดของคุณให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือเกือบสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในอนาคตอันใกล้ การ์ดเหล่านี้จะมีโอกาสสูงที่จะขายได้มากขึ้น

โฆษณา

คำเตือน

• ตามห้างร้านที่ขายการ์ดเป็นปกติอยู่แล้วจะไม่รับซื้อการ์ดจากคนอื่น

โฆษณา