วิธีการ ดูแลริมฝีปากให้นุ่มชุ่มชื้น

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ริมฝีปากแห้งแตกเห็นแล้วไม่น่ามอง ยังไม่นับว่าเจ็บอีกต่างหาก โชคดีที่คุณดูแลปกป้องริมฝีปากได้ง่ายกว่าที่คิด ขอแค่เลือกผลิตภัณฑ์ได้ถูกต้องเหมาะสม และลดละเลิกพฤติกรรมทำร้ายริมฝีปาก การดื่มน้ำมากๆ ใช้ลิปสติกและลิปบาล์มเพิ่มความชุ่มชื้น รวมถึงผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเป็นประจำ จะทำให้ริมฝีปากอิ่มสวยน่ามอง แต่ก่อนหน้านั้นต้องเริ่มจากหลีกเลี่ยงอะไรที่ทำให้ริมฝีปากแห้งแตก และอย่าเผลอเลียปากบ่อยๆ เพราะเป็นตัวการทำริมฝีปากสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายมาก

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ดูแลริมฝีปากให้นุ่มชุ่มชื้นด้วยวิธีธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ดื่มน้ำเยอะๆ.
    หนึ่งในวิธีแก้ปากแห้งเสียได้ดีที่สุด ก็คือต้องเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก พยายามดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร (ประมาณ 8 แก้ว) ของแถมจากการดื่มน้ำเยอะๆ ก็คือริมฝีปากจะดูอิ่มสวยขึ้นด้วย[1]
    • พกกระบอกเก็บความเย็นหรือขวดน้ำไปด้วย จะได้พร้อมจิบน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากตลอดวัน
    • การดื่มน้ำเพียงพอ นอกจากดีต่อริมฝีปากแล้ว ยังทำให้สุขภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้นอีกด้วย[2]
    • ชา/กาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน (ดีแคฟ) น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มอื่นๆ ก็รวมอยู่ในปริมาณน้ำที่แนะนำในแต่ละวันด้วย ที่ต้องหลีกเลี่ยงเด็ดขาดคือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมถึงที่โซเดียมสูง เพราะจะทำให้ปากแห้งง่าย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เปิดเครื่องทำความชื้น.
    humidifier นั้นจะช่วยสร้างความชื้นในบรรยากาศโดยรอบ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้มากถ้าห้องนั้นอากาศแห้งเป็นพิเศษ วิธีใช้ก็ง่ายๆ แค่เปิดสวิตช์แล้วทิ้งไว้ให้เครื่องทำงานไป 2 - 3 ชั่วโมงต่อวัน รับรองริมฝีปากจะนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในไม่นาน[3]
    • เครื่องทำความชื้นมีตั้งแต่ไม่กี่พันไปจนถึงหลักหมื่น แต่บอกเลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคา
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทาน้ำมันธรรมชาติอย่างน้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะพร้าว หรือเชียบัตเตอร์....
    ทาน้ำมันธรรมชาติอย่างน้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะพร้าว หรือเชียบัตเตอร์. ใช้ปลายนิ้วป้ายน้ำมันมาพอประมาณ แล้วเอาไปทาให้ทั่วริมฝีปาก น้ำมันจากไขมันนี่แหละเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ตามธรรมชาติ เพราะทำให้ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื้นและวาวสวยดูสุขภาพดี ถ้าจะให้ได้ผลดีสุด ต้องทาวันละ 2 - 3 ครั้ง[4]
    • น้ำมันอัลมอนด์นั้นเป็น hypoallergenic คือเป็นสารที่ไม่ก่อภูมิแพ้ ใช้ทาหัวจรดเท้าได้ทุกสภาพผิวอย่างสบายใจและปลอดภัย[5]
    • น้ำมันตามธรรมชาติอุดมวิตามินเอและอี ที่มีสรรพคุณชะลอวัยและต้านริ้วรอย ทำให้ริมฝีปากดูอ่อนกว่าวัยเมื่อใช้ไปนานๆ ยิ่งเข้มข้นก็ยิ่งเห็นผล เพราะงั้นให้ลองใช้น้ำมันวิตามินอีบริสุทธิ์ดู[6]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 คืนความชุ่มชื้นด้วยแตงกวา.
    ฝานแตงกวาสุกเป็นชิ้นบางๆ แล้วแปะบนริมฝีปากทั้งบนและล่าง นอนผ่อนคลายให้สบาย หรือจะเอาแต้มๆ แตะๆ ที่ริมฝีปากแทนก็ได้ แค่ไม่กี่นาทีริมฝีปากก็จะดูดซับน้ำแตงกวาที่เต็มไปด้วยสารอาหารและความชุ่มชื้นเข้าไป หลังจากนี้ปากจะนุ่มชุ่มชื้นนานตลอดวันเลย[7]
    • วิธีคืนความชุ่มชื้นด้วยแตงกวานี้ทำได้สะดวก เห็นผลทันใจ ทำต่อจากขั้นตอนบำรุงผิวตามปกติได้เลย
    • เอาผลไม้มาแปะก็ช่วยแก้ปากแห้งลอกหรือไหม้แดดได้ด้วย[8]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันปากแห้งแตก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เลือกลิปบาล์มที่ป้องกันปากแห้งแตก.
    เลือกผลิตภัณฑ์สูตรบำรุงริมฝีปาก โดยผสมส่วนผสมต่างๆ เช่น เชียบัตเตอร์ วิตามินอี น้ำมันมะพร้าว และโจโจ้บาออยล์ เพราะทั้งหมดนี้จะสร้างชั้นป้องกันตามธรรมชาติที่ผิวริมฝีปาก ไม่ให้สารต่างๆ มาทำให้ปากแห้ง และไม่ให้ริมฝีปากสูญเสียความชุ่มชื้น[9]
    • ลิปบาล์มคุณภาพดีจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ทาแล้วปากนุ่ม เนียน ไม่หวั่นต่ออากาศหนาวและลมแรง
    • อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี camphor หรือ menthol เพราะยิ่งทำให้ผิวแห้งแตก ถ้าปากระคายเคืองอยู่แล้วยิ่งแสบ[10]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 สครับปากผลัดเซลล์ผิว.
    การสครับปากจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงผิวแห้งลอก เหลือไว้แต่เนื้อเยื่อสุขภาพดี เพราะงั้นต้องหมั่นสครับริมฝีปากทุก 2 - 3 วัน หรือเมื่อไหร่ที่จำเป็น ยิ่งหน้าหนาวหรือใครอยู่แต่ในห้องแอร์ทั้งวันยิ่งจำเป็น[11]
    • สครับผลัดเซลล์ผิวนั้นมีขายทั่วไปตามร้านขายยาและเครื่องสำอาง
    • หรือใครอยากทำสครับใช้เองก็ได้ โดยเลือกวัตถุดิบและส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น เกลือทะเล (sea salt) น้ำตาลทรายแดง น้ำผึ้ง น้ำมันมะกอก และน้ำมันมะพร้าว[12]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทากันแดดที่ปากด้วย.
    คุณอาจจะไม่รู้ตัว แต่บอกเลยว่าริมฝีปากนั้นก็ไหม้แดดได้ง่ายพอๆ กับแขนขาของคุณเลย โชคดีที่เดี๋ยวนี้มีลิปสติกและลิปบาล์มหลายยี่ห้อที่มีกันแดดในตัว ก่อนไปทะเลหรือแค่ออกแดดจัดช่วงบ่าย ก็ต้องรีบหยิบมาทากันไว้ก่อน[13]
    • ทาลิปกันแดดซ้ำทุก 2 - 3 ชั่วโมงตามคำแนะนำการใช้งาน ปกติจะมีวิธีใช้และข้อควรระวังติดอยู่ที่ฉลาก
    • ลิปกันแดดปกติจะมีค่า SPF สูงถึง 15 ทีเดียว
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทาลิปสติกด้าน (เนื้อ matte)...
    ทาลิปสติกด้าน (เนื้อ matte) แล้ว ให้ลงผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นด้วย. ลิปสติกแบบเนื้อด้านจุดเด่นคือติดแน่นทนนาน เลยทำให้ริมฝีปากแห้งไปด้วย วิธีป้องกันไม่ให้ปากแห้งเป็นทะเลทราย ก็คือต้องพยายามเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากบ่อยเท่าที่จะทำได้ หรือใช้สลับไปมาเพื่อคืนความชุ่มชื้นระหว่างการทาลิปแต่ละครั้ง[14]
    • ทั้งเชียบัตเตอร์ วิตามินอี น้ำมันมะพร้าว และโจโจ้บาออยล์ ต่างก็เป็นส่วนผสมที่บำรุงริมฝีปากได้ดี ช่วยคืนความชุ่มชื้นที่เสียไปตอนทาลิปเนื้อ matte
    • ถ้ายังไงก็อดใจทาลิปเนื้อด้านไม่ได้จริงๆ ก็ต้องทาน้ำมันบำรุงริมฝีปากบางๆ ก่อนทาลิปสติก เหมือนสร้างชั้นป้องกันไว้ก่อน[15]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

พฤติกรรมอันตรายที่ควรหลีกเลี่ยง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เลิกเลียปาก.
    การเอาปลายลิ้นเลียปากให้แฉะๆ เหมือนจะช่วยแก้ปากแห้งได้ แต่ก็แค่เฉพาะหน้าเท่านั้น จริงๆ แล้วเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ถ้าเลียปากนานๆ ไปเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อย (พบได้ในน้ำลาย) จะกัดชั้นป้องกันที่บอบบางบนผิวริมฝีปากออกไป[16]
    • พยายามพกลิปสติกหรือลิปบาล์มไว้เติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากทันทีที่ต้องการ แบบนี้จะได้ใช้สะดวก ไม่ขี้เกียจหา ขี้เกียจทา จนเลียปากแก้ขัดอีก[17]
    • พยายามเลือกลิปบาล์มที่ไม่แต่งรส เพราะอาจจะหอมแถมอร่อยจนต้องเลียบ่อยๆ ซะงั้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดหรือเปรี้ยว.
    อย่างไก่แซ่บหรือน้ำส้มสักแก้ว พวกนี้มีความเป็นกรดมากพอจะทำให้ปากแห้งผากทันทีที่กิน ยิ่งถ้ากิน/ดื่มเยอะๆ จะถึงขั้นแห้งแตกหรือแสบปากได้เลย อาหารมันๆ ก็ตัวดี เพราะมักเป็นคราบติดปาก เช็ดออกยาก[18]
    • ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้หลอดหรือส้อมในการกินอาหารหรือดื่มน้ำทุกครั้ง และค่อยๆ กิน ให้อาหารหรือเครื่องดื่มสัมผัสริมฝีปากน้อยที่สุด[19]
    • ลิปบำรุงริมฝีปากที่ทำจากส่วนผสมธรรมชาติ เช่น เชียบัตเตอร์ และวุ้นว่านหางจระเข้ ใช้บรรเทาอาการระคายเคืองหรือแสบปากได้ดี
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หายใจทางจมูก.
    ลองสังเกตตัวเองดู ถ้าเผลอหายใจทางปาก ให้เปลี่ยนมาหายใจเข้าออกทางจมูก เพราะเวลาหายใจทางปาก ลมจะเข้าออกผ่านริมฝีปากจนแห้งในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าใครห่วงสวยก็ลองคิดดู ว่าหุบปากไว้เฉยๆ กับอ้าปากพะงาบๆ เรื่อยๆ อะไรจะทำลิปสติกเลอะได้มากกว่ากัน[20]
    • ถ้าตอนออกกำลังกายเหนื่อยจนต้องหอบหายใจทางปาก ก็ให้อ้าปากกว้างขึ้นอีกนิด จะได้ไม่กลายเป็นห่อปากเป่าลมแทน
    • นอกจากนี้แล้ว การหายใจทางปากยังเป็นต้นตอของอีกหลายปัญหาในช่องปากด้วย เช่น เชื้อราในปาก กัดฟัน และน้ำลายไหลเลอะหมอน แค่คิดก็ขนลุกแล้ว![21]
    • ถ้าแก้นิสัยหายใจทางปากของตัวเองได้ยาก ก็ต้องนัดตรวจกับคุณหมอหู คอ จมูก (ENT - Ear, Nose, Throat) เพื่อตรวจรักษาต่อไป เพราะอาจเป็นโรคผนังกั้นช่องจมูกคด (deviated septum) ได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 อากาศหนาวต้องป้องกัน.
    ใครไปเที่ยวทางเหนือหรือไปเที่ยวเมืองนอกช่วงหน้าหนาว จะรู้ว่าทรมานปากมาก ถ้าต้องเผชิญอากาศเย็นจัด แห้ง ลมแรง ควรหาผ้าพันคอหรือเสื้อโค้ทปกตั้ง จะได้ซ่อนใบหน้าครึ่งล่างของคุณป้องกันลมหนาวได้ นอกจากช่วยถนอมริมฝีปากแล้ว ยังทำให้อุ่นสบายอีกด้วย[22]
    • สำคัญมากว่าต้องสวมเสื้อผ้าหนาๆ หรือหลายๆ ชั้นเวลาเดินฝ่าลมหนาวพัดแรง หรือต้องอยู่ข้างนอกนานๆ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คุณทาลิปบาล์มได้ตลอดเวลา เพราะการป้องกันปากแห้งนั้นง่ายกว่าแก้ไขทีหลังเยอะ
  • เก็บผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปากให้นุ่มชุ่มชื้นไว้หลายๆ ที่ เช่น หัวเตียง กระเป๋าถือ ล็อคเกอร์ กระทั่งช่องเก็บของในรถ จะได้พร้อมดูแลริมฝีปากทันทีที่ต้องการ
  • ถ้าปัญหาของคุณคือริมฝีปากแห้งแตกรุนแรงจนลอก ให้ลองเปลี่ยนจากเครื่องสำอางไปใช้เวชสำอางที่มีส่วนผสมของ ceramides แทน ซึ่งเป็นโมเลกุลที่สร้างชั้นไขมันตามธรรมชาติเคลือบป้องกันริมฝีปากไว้
โฆษณา

คำเตือน

  • ปากแห้งเรื้อรังอาจเป็นอาการแพ้สารเคมีบางอย่าง เช่น ยาสีฟัน หมากฝรั่ง (หมากฝรั่งซินนามอนบางทีก็ทำปากไหม้ได้) น้ำหอม และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด/เครื่องสำอางต่างๆ ถ้าลองทุกวิธีที่แนะนำแล้วยังปากแห้ง แนะนำให้ไปหาคุณหมอโรคผิวหนังจะดีกว่า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Margareth Pierre-Louis, MD
ร่วมเขียน โดย:
แพทย์ผิวหนังที่มีใบรับรอง
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Margareth Pierre-Louis, MD. ดร. มาร์กาเร็ธ ปิแอร์-หลุยส์เป็นแพทย์ผิวหนังที่มีใบรับรองและเป็นผู้ก่อตั้ง Twin Cities Dermatology Center และ Equation Skin Care ในมินเนอาโพลิส Twin Cities Dermatology Center เป็นคลินิกที่ดูแลคนไข้ทุกช่วงวัยทั้งด้านการรักษาและการดูแลเสริมสวย ส่วน Equation Skin Care ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบบธรรมชาติอย่างเห็นผลได้ เธอจบปริญญาตรีด้านชีววิทยาและ MBA จากมหาวิทยาลัยดยุค และจบปริญญาโทแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนาแห่งชาเปลฮิลล์ และผ่านการเป็นแพทย์ประจำที่มหาวิทยาลัยมินเนโซตา บทความนี้ถูกเข้าชม 1,413 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,413 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา