ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความบทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 7,137 ครั้ง
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการซ่อนสถานะเวลาออนไลน์ Facebook Messenger อยู่ รวมถึงซ่อนรายชื่อ contacts ที่ออนไลน์อยู่ด้วย แต่ timestamp หรือเวลา "Last Active" ที่ขึ้นว่าคุณใช้ออนไลน์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่จะยังอยู่ ซ่อนไม่ได้ ที่สำคัญคุณอาจต้องปิดทั้งแอพ Messenger และเว็บ Facebook โปรไฟล์ของคุณถึงจะไม่ขึ้นว่าออนไลน์อยู่
ขั้นตอน
เปิด Messenger. แตะไอคอนของแอพ Messenger ที่เป็นสายฟ้าในลูกโป่งคำพูดสีฟ้า เพื่อเปิดหน้าหลักของ Messenger ถ้าล็อกอินไว้แล้ว- ถ้ายังไม่ล็อกอินเข้า Messenger ให้พิมพ์เบอร์โทร แตะ Continue แล้วใส่รหัสผ่าน
แตะ tab People. ที่เป็นไอคอนรูปคน ปกติอยู่ท้ายหน้าจอ (iPhone) หรือด้านบนของหน้าจอ (Android) แตะแล้วรายชื่อคนที่ออนไลน์อยู่จะโผล่มา
แตะ tab Active. ด้านบนของหน้าจอ ใต้แถบค้นหาพอดี- ถ้า tab Active เป็นสีฟ้า แสดงว่าเจอแล้ว
แตะสวิตช์สีเขียว. ทางขวาของชื่อคุณ ทางด้านบนของหน้าจอ แล้วสวิตช์จะกลายเป็นสีขาว
เท่านี้คนอื่นใน Facebook ก็จะเห็นว่าคุณไม่ได้ออนไลน์อยู่
- ถ้าใช้ Android สวิตช์นี้จะเป็นสีฟ้าหรือฟ้าอมเขียวแทนสีเขียว
- แต่ timestamp "Last Active" ที่โผล่มาข้างชื่อคุณตอนเลิกออนไลน์ไปแล้ว จะยังเป็นตัวฟ้องว่าคุณแตะสวิตช์นี้เมื่อไหร่
โฆษณา
เปิด Facebook. โดยพิมพ์ https://www.facebook.com/ ในเบราว์เซอร์ จะเห็นหน้า News Feed ถ้าล็อกอิน Facebook ไว้แล้ว- ถ้ายังไม่ได้ล็อกอิน Facebook ให้ใส่อีเมล (หรือเบอร์โทร) และรหัสผ่านก่อน
คลิกไอคอน Messenger. ที่เป็นลูกโป่งคำพูด มีสายฟ้าตรงกลาง อยู่ด้านขวาบนของหน้า Facebook คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมา
คลิก See All in Messenger. ที่มุมซ้ายล่างของเมนู Messenger ที่ขยายลงมา
คลิก Settings. ที่เป็นไอคอนรูปฟันเฟือง ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง Messenger คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมา
คลิก Settings. ทางด้านบนของเมนูที่ขยายลงมา
คลิกสวิตช์สีเขียว. ทางด้านบนของหน้านี้ ข้างชื่อคุณ คลิกแล้วสวิตช์จะกลายเป็นสีขาวโปรไฟล์คุณจะถูกซ่อนจากรายชื่อ "Active Now" ของเพื่อนๆ.- แต่ timestamp "Last Active" ที่โผล่มาข้างชื่อคุณตอนเลิกออนไลน์ไปแล้ว จะยังเป็นตัวฟ้องว่าคุณแตะสวิตช์นี้เมื่อไหร่
โฆษณา
เปิด Facebook. โดยพิมพ์ https://www.facebook.com/ ในเบราว์เซอร์ จะเห็นหน้า News Feed ถ้าล็อกอิน Facebook ไว้แล้ว- ถ้ายังไม่ได้ล็อกอิน Facebook ให้ใส่อีเมล (หรือเบอร์โทร) และรหัสผ่านก่อน
- คุณซ่อน Active Now list ในแอพ Messenger ไม่ได้
ต้องเปิดแถบข้างหรือ sidebar ไว้. ถ้าไม่เห็นรายชื่อ contacts ที่กำลังออนไลน์ ทางขวาของหน้า แสดงว่า Active Now list ของคุณซ่อนอยู่
คลิก Settings. ที่เป็นไอคอนรูปฟันเฟืองท้าย sidebar แล้วเมนูจะโผล่มา
คลิก Hide Sidebar. กลาง sidebar แล้วแถบแชทของ Facebook จะหายไปจากทางซ้ายของหน้าจอ จุดเขียว "Active Now" ทั้งหมดกับชื่อคนก็จะหายไปด้วย- ถ้าอยากแสดง sidebar ตามเดิม ให้คลิกแถบ Chat มุมขวาล่างของหน้าต่าง Facebook
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ส่วนของ "Active Now" บางทีก็โผล่มาเอง เวลา contact ใหม่ออนไลน์เข้ามา
คำเตือน
- คุณปิดข้อความ "Last Active" ที่โผล่มาหลังคุณเลิกออนไลน์แล้วไม่ได้
- คุณซ่อน "Active Now" ไม่ได้ ถ้าไม่ปิด Chat ใน Messenger เวอร์ชั่นคอมซะก่อน
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 7,137 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
