ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 516,339 ครั้ง
แฮก Facebook คนอื่นน่ะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแบบมหันต์เลยนะ ไม่ใช่เรื่องดีที่ควรทำเลย แต่การรู้วิธีเจาะเข้า Facebook ไว้ก็ใช่ว่า เพราะคุณสามารถเอาไว้ใช้ป้องกัน Facebook ของตัวเองถูกเจาะได้ ถ้าใครเปิด Login Approvals ไว้ (ระบบยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอนของ Facebook) วิธีเดียวที่จะเข้า Facebook ได้ ก็คือต้องมีมือถือที่เขาใช้เล่นด้วยนั่นแหละ
ขั้นตอน
ต้องได้อีเมลของเขามาซะก่อน. เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเริ่มขั้นตอนรีเซ็ตรหัสผ่าน- คุณอาจต้องขอความร่วมมือจาก mutual friend ของเขาและคุณ 3 คนด้วยกัน เอาคนที่เต็มใจจะช่วยคุณเจาะ Facebook ใครคนนั้น ส่วนรายละเอียดมากกว่านี้ขอติดไว้ก่อน
เปิดหน้าล็อกอินของ Facebook ขึ้นมา. ถ้าลงชื่อเข้าใช้อยู่ให้ออกมาก่อน
คลิกที่ปุ่ม "Forgotten your password?".
ใส่อีเมลที่เป้าหมายของคุณใช้ล็อกอินเข้า Facebook. จากนั้นกด "Search"
คลิกที่ปุ่ม "No longer have access to these?".
ใส่อีเมลใหม่ที่คุณจะใช้ อีเมลที่ไม่ได้พ่วงกับ Facebook นั้น.
พยายามตอบ security question ให้ได้. ถ้าผ่านด่านนี้ไปได้ ก็จะเปลี่ยนรหัสผ่านได้ แต่ถ้าพลาด ให้อ่านต่อไป
คลิก "Recover your account with help from your friends" ถ้าตอบ security question ไม่ได้
เลือกเพื่อน 3 คนที่ไว้ใจได้ มาช่วยคุณเจาะ Facebook นั้น. Facebook จะส่งรหัสผ่านกู้คืนบัญชีไปให้เพื่อน 3 คนนั้น ถ้ามี mutual friend ที่เต็มใจจะช่วย คุณก็สามารถให้ส่งรหัสผ่านนั้นไปที่พวกเขาได้ไง- 10รีเซ็ตรหัสผ่านได้เลย. พอใส่รหัสผ่านที่ได้มาจากเพื่อน 3 คนนั้นแล้ว คุณก็จะสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านได้แล้ว[[Image:Get Someone's Facebookโฆษณา
Password Step 10 Version 4.jpg|center]]
เปิดใช้ Login Approval. หรือก็คือระบบยืนยันตัวตน 2 ชั้นของ Facebook ที่ป้องกันได้แทบทุกการเจาะบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต เวลามีคนมาพยายามล็อกอินเข้า Facebook คุณจากเครื่องที่ไม่รู้จัก จะมีรหัสส่งไปที่มือถือของคุณ และต้องใส่รหัสนั้นถึงจะล็อกอินเข้าไปได้ ถ้าไม่มีรหัสนี้ คนที่หวังเจาะ Facebook คุณก็จะไม่สามารถเข้าไปได้- ล็อกอินเข้าไปใน Facebook ของคุณ
- คลิกปุ่ม Menu ที่มุมขวาบน แล้วเลือก "Settings"
- คลิกแถบ "Security"
- คลิก "Edit" ถัดจาก "Login Approvals"
- ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏเพื่อเปิดใช้ Login Approvals คุณต้องพ่วงเบอร์มือถือของคุณกับ Facebook ซะก่อน
เลือกรหัสผ่านที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์. พยายามอย่าใช้ชื่อ วันเกิด ที่อยู่บ้าน หรือคำทั่วไปในรหัสผ่าน เพราะมันเดาได้ง่ายเหลือเกิน เพื่อให้แน่ใจว่าจะปลอดภัยหายห่วง รหัสผ่านของคุณควรเป็นลูกผสมระหว่างคำและตัวอักษร เอาแบบที่คาดเดาไม่ได้ พูดง่ายๆ คือยิ่งยาวและมั่วแค่ไหน ก็ยิ่งดี
อย่าใช้รหัสผ่านเดียวกันไปซะทุกอย่าง. ถ้าใช้รหัสผ่านเดียวเหมาหมดทั้งอีเมล online banking และ Facebook ก็หวานหมูสำหรับคนที่จ้องจะแฮกเข้ามาเอาข้อมูลของคุณ แค่รู้รหัสเดียวก็จอดไม่ต้องแจว
หมั่นเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อยๆ. ถ้าคุณสังหรณ์ใจว่ามีคนอื่นแอบรู้ข้อมูลที่ใช้ในการล็อกอินของคุณ ก็ถึงเวลาเปลี่ยนรหัสผ่านได้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประสงค์ร้ายนั้นมาแฮกเข้าบัญชีของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต
ใช้เสร็จต้องลงชื่อออก. โดยเฉพาะถ้าคุณไปล็อกอินในเครื่องคนอื่นเขา ไม่ว่าจะคอมหรือมือถือ และถึงจะใช้เครื่องตัวเอง ก็หัดล็อกเอาต์ไว้บ้างไม่เสียหาย โดยเฉพาะถ้าใช้คอมนั้นร่วมกับคนอื่นๆ ด้วย
ติดตั้ง firewall เพื่อดักจับ keylogger. firewall จะแจ้งเตือนคุณทุกครั้งที่ข้อมูลในคอมรั่วไหลไปยังบุคคลภายนอก โดยการขออนุญาตการส่งออกข้อมูลจากคุณก่อนโฆษณา
ลองเดาด้วย keyword และวันที่. หลายคนตั้งรหัสผ่านจากชื่อคนสำคัญและวันที่ที่น่าจดจำในชีวิต อาจเป็นได้ทั้งชื่อสัตว์เลี้ยง วันเกิด บ้านเลขที่ และอื่นๆ ถ้าคุณรู้จักเป้าหมายดีพอ ให้ลองจับคู่ keyword กับวันสำคัญของเขาดู
พื้นฐานน่าสนใจของการตั้งรหัสผ่าน. มีบางเรื่องที่รู้ไว้ใช่ว่า เวลาจะเดารหัสผ่าน- ถ้าในรหัสผ่านมีตัวเลขด้วย ก็มักจะเป็น "1" หรือ "2" และมักจะห้อยอยู่ด้านท้ายของรหัสผ่าน
- ถ้ารหัสผ่านมีอักษรตัวพิมพ์ใหญ่อยู่ด้วย ก็มักจะเป็นตัวแรกสุดนั่นแหละ แล้วตามด้วยเสียงสระ
- ผู้หญิงมักนิยมใช้ชื่อคนใกล้ชิด ในขณะที่ผู้ชายจะใช้งานอดิเรกมาตั้ง
ลองใช้รหัสผ่านยอดนิยมตลอดกาลดู. มีคนเป็นล้านที่ชอบใช้รหัสผ่านสุดเบสิค จะได้จำได้ไม่ลืมไง เพราะงั้นให้ลองใช้รหัสผ่านยอดนิยมข้างล่างนี่ดู[1]- password
- 123456
- 12345678
- abc123
- qwerty
- monkey
- letmein
- dragon
- 111111
- baseball
โฆษณา
ต้องเข้าคอมเขาได้ซะก่อน. คนส่วนใหญ่ชอบเก็บรหัสผ่านไว้ในไฟล์เอกสาร จะได้ไม่ต้องมานั่งจำทั้งหมด ถ้ามีโอกาสแอบเข้าไปดูในคอมของเขาได้ละก็ อาจจะหาไฟล์นี้เจอก็ได้
ลองหาดูในโฟลเดอร์ Documents. เป็นไปได้มากว่าถ้าเขาเคยเก็บรหัสผ่านไว้ในไฟล์เอกสาร ก็คงอยู่ในโฟลเดอร์ Documents นี่แหละ ลองค้นโฟลเดอร์นี้ดูเผื่อจะเจอ
ลองค้นในคอมดู ด้วยคำว่า "password", "login" หรือ "accounts". อาจช่วยให้คุณเจอเอกสารเก็บรหัสผ่านที่เก็บไว้ในส่วนอื่นของคอมพิวเตอร์
อย่าลืมดูที่ Recent Documents ด้วย. เปิด word ในคอมของเขาขึ้นมา แล้วดูตรง Recent Files ว่าเขาเพิ่งเปิดเอกสารที่เก็บรหัสผ่านไปไม่นานนี้หรือเปล่าโฆษณา
เคล็ดลับ
- เป็นข้อบังคับทางกฎหมายที่นายจ้างต้องบอกพนักงานเวลาเก็บบันทึก keystrokes ของเขาไว้ แต่กลับไม่มีกฎหมายคุ้มครองผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจากแฮกเกอร์ด้วยนี่สิ[2]
โฆษณา
คำเตือน
- การลักลอบเข้าไปใช้ Facebook คนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเขา พึงสังวรณ์ในข้อนี้ให้มากก่อนคิดจะแฮก Facebook ใคร
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 516,339 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 516,339 ครั้ง
หมวดหมู่: Facebook
มีการเข้าถึงหน้านี้ 516,339 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
