วิธีการ จีบผ่านการส่งข้อความ

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

เริ่มการจีบ

ดึงความสนใจของคนที่คุณชอบ

จบให้สวย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ในสังคมปัจจุบันที่เทคโนโลยีรุดหน้าไปมาก คุณอาจใช้เวลาไปกับการส่งข้อความหาคนที่คุณชอบมากกว่าที่จะได้ออกไปไหนมาไหนกับเขาหรือเธอ นั่นหมายความว่าคุณอาจจะไม่ได้แต่จีบคนที่คุณชอบเมื่ออยู่ต่อหน้ากัน แต่ใช้ข้อความในการจีบกันด้วย ถ้าคุณอยากจะจีบใครผ่านการส่งข้อความ คุณต้องรู้จักทำตัวขี้เล่น มีไหวพริบ และมีเสน่ห์ด้วยข้อความเพียงหนึ่งหรือสองประโยค อ่านต่อตั้งแต่ขั้นตอนแรกด้านล่างเลย

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

เริ่มการจีบ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สร้างสรรค์เข้าไว้. มันยากที่จะสรรหาคำที่มาจากตัวคุณเองขึ้นมาเวลาคุยกันผ่านข้อความ ดังนั้น คนที่คุณอยากจะจีบจะยิ่งประทับใจถ้าคุณสามารถทำเช่นนั้นได้ ยามคุณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาคนพิเศษในขีวิตคุณคนนั้น คุณควรพยายามคิดถึงสิ่งที่ไม่มีใครสามารถพูดได้นอกจากคุณ สิ่งนี้จะกระตุ้นความสนใจของคนที่คุณชอบและมีแนวโน้มมากว่าเขาจะตอบคุณกลับทันที

   • ทำให้คนที่คุณแอบชอบหัวเราะ เริ่มจากคำพูดอะไรสั้นๆ ตลกๆ เกี่ยวกับบางสิ่งที่คุณทั้งคู่เพิ่งไปพบเจอมา หรือพูดถึงบทสนทนาก่อหน้าก็ได้
   • คอยสังเกตอีกฝ่ายให้ดี คนที่คุณแอบชอบจะสนองตอบต่อสิ่งนั้นแน่นอน จีบอีกฝ่ายด้วยไหวพริบถือเป็นกลวิธีที่ยอดเยี่ยม
   • เป็นตัวของตัวเอง เขียนสิ่งที่ไม่มีใครสามารถพูดได้นอกจากคุณ
2. 
   2
   ถามคำถามปลายเปิด. คำถามปลายเปิดเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายไม่สามารถตอบแค่ใช่หรือไม่ใช่ การถามคำถามประเภทนี้เป็นวิธีที่ดีสำหรับสร้างความประทับใจและใช้จีบคนที่คุณชอบ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้แค่ส่งข้อความคุยกับเขาเพราะคุณแค่อยากคุยเฉยๆ แต่เป็นเพราะคุณต้องการมีบทสนทนากับอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ และเพราะคุณแคร์ว่าคนที่คุณชอบจะคิดอย่างไร และนี่คือสิ่งดีๆ ที่คุณควรระลึกไว้เมื่อคุณถามคำถาม:

   • ถามเรื่องง่ายๆ เข้าไว้ เพียงถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นหรือในสัปดาห์นั้น เช่น ปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนของเธอเป็นอย่างไรบ้าง หรือช่วงวันหยุดสั้นๆ ของเธอสนุกอย่างที่คิดหรือไม่
   • ถามคำถามปลายเปิดให้มาก อย่าถามสิ่งที่อีกฝ่ายได้แค่ตอบสั้นๆ ว่า "ใช่" หรือ "ก็ดีนะ" เปิดโอกาสให้คนที่คุณชอบได้อธิบายหรือถามอะไรกลับบ้าง
   • อย่าถามคำถามปลายเปิดที่ "เกิน" ไป อย่าถามคำถามเชิงปรัชญาที่ลึกซึ้งที่อีกฝ่ายไม่รู้จะตอบยังไง พวกเขาอาจมึนงงและเลิกคุยไปเลย
   • อย่าเป็นนักส่งข้อความที่น่าเบื่อ มีแนวโน้มที่อีกฝ่ายจะไม่ตอบถ้าคุณถามคำถามเช่น เช่น "เป็นไง" หรือ "สบายดีมั้ย" เป็นตัวเราเองแม้ยามถามคำถาม
   • รู้จักเอาใจใส่ ถ้าคุณรู้ว่าคนที่คุณชอบมีงานสำคัญเมื่อวันก่อน ข้อความถามถึงงานนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้างแสดงให้เห็นว่าคุณเอาใจใส่เขา
3. 
   3
   ระวังการสะกดคำและไวยากรณ์. สิ่งนี้อาจฟังดูไร้สาระและไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เวลาจีบกัน เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าคนที่ชอบ คุณเองก็ต้องแน่ใจว่าคุณบรรจงเลือกเสื้อผ้าที่เข้ากัน และจัดแต่งทรงผมอย่างดี ดังนั้น ถ้าจะส่งข้อความ คุณก็ควรแน่ใจว่าคุณใช้เครื่องหมายวรรคตอนได้ถูกต้องเหมาะสมและประโยคนั้นครบถ้วนสมบูรณ์

   • ถ้าคุณส่งข้อความลวกๆ อ่านไม่รู้เรื่อง มันจะดูเหมือนคุณไม่แคร์คนที่คุณส่งข้อความหามากพอที่จะใช้เวลาตรวจดูข้อความของคุณ
   • ข้อความของคุณไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟ็ค แค่อ่านเช็คเร็วๆ สักครั้งก่อนจะส่งข้อความ
4. 
   4
   อย่าออกตัวแรงเกิน. ความคลุมเครือเป็นกุญแจสำคัญเมื่อคุณเริ่มการสนทนาผ่านข้อความ คุณจึงไม่ควรที่จะออกตัวแรงเกินไป ไม่เช่นนั้น เขาอาจเห็นว่าคุณออกตัวแรงเกินทั้งที่หนทางยังอีกไกล แค่ทำใจให้สบายและส่งข้อความเมื่อเวลาเหมาะสม และอย่าคิดมากเกินไป คุณไม่ควรใช้เวลามากกว่าหนึ่งนาทีในการตัดสินใจว่าข้อความไหนดีที่สุดที่จะส่งถึงคนพิเศษของคุณ

   • อย่าเป็นคนที่ส่งข้อความก่อนทุกครั้งไป ถ้าคุณเป็นเช่นนั้น คนที่คุณชอบอาจจะไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่เวลาได้รับข้อความ ทำนิ่งไว้ และรอให้เขาชวนคุยก่อนบ้างเป็นบางครั้ง
   • อย่าพยายามมากเกินที่จะตลก ถ้าเป้าหมายของคุณรู้ว่าคุณใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ สร้างบทสนทนาอันไร้ที่ติ มันไม่คุ้มหรอก
   • จำไว้ว่าการจีบกันผ่านการส่งข้อความไม่ได้ต่างจากการจีบกันในชีวิตจริงสักเท่าไหร่ คุณควรผ่อนคลาย และทำตัวสบายๆ หากอยากจะจีบให้ติด
   เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

   

   Joshua Pompey

   โค้ชด้านการเดท

   โจชัว ปอมปีย์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ที่มีประสบการณ์ช่วยผู้คนสำรวจโลกของการหาคู่ออนไลน์มากว่า 10 ปี โจชัวตั้งบริษัทเองในปี 2009 โดยมีอัตราความสำเร็จถึง 99% งานของเขาเคยถูกพูดถึงทางรายการ CNBC, Good Morning America, Wired, และ Refinery29 และได้รับการอ้างอิงให้เป็นนักจับคู่เดทออนไลน์ที่ดีที่สุดในโลก

   

   Joshua Pompey
   โค้ชด้านการเดท

   อย่ารอนานหลายวันเกินไปในการส่งข้อความหลังการออกเดท ไม่มีเหตุผลที่จะรอถึงสองสามวันกว่าจะติดต่อคนนั้น ทุกคนต่างมีโทรศัพท์มือถือ คุณมีโอกาสมากมายที่จะคุยกันเสียแต่เนิ่นๆ

   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

ดึงความสนใจของคนที่คุณชอบ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   หยอกคนที่คุณชอบ. การหยอกเย้าผ่านข้อความเป็นวิธีจีบที่ดี คุณทำตัวขี้เล่นได้นิดๆ หน่อยๆ และแกล้งคนที่คุณชอบเล่นได้ และจงปล่อยให้อีกฝ่ายแกล้งคุณกลับบ้าง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้จริงจังกับชีวิตจนสนุกไม่เป็นและแสดงให้เห็นด้วยว่าคุณสนใจคนที่คุณคุยด้วย

   • ทำให้บทสนทนาสนุกเข้าไว้ หยอกล้อคนที่คุณชอบหากเขาไปดูหนังเห่ยๆ มา หรือหมกมุ่นกับกีตาร์มากเกินไป
   • ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณล้อเล่น ควรให้เข้าใจชัดว่าคุณไม่ได้จะทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก ให้เข้าใจว่าคุณแค่อยากจะเล่นสนุกเฉยๆ
   • ถ้าคุณมีชื่อเล่นขำๆ ที่จะใช้เรียกคนที่คุณชอบ จงใช้เรียกอีกฝ่ายเวลาส่งข้อความคุยกัน
   • ส่งอิโมติคอนหน้าขยิบตาเพื่อแสดงว่าคุณกำลังหยอกเล่น
2. 
   2
   ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณแคร์เขา. หากคุณอยากจะจีบใครผ่านข้อความ คุณก็ควรหาทางทำให้คนที่คุณคุยด้วยรู้ชัดว่าคุณแคร์เขา ไม่ว่าจะโดยการถามคำถามเกี่ยวกับชีวิตของเขาหรือแค่ถามว่าเขารู้สึกยังก็ได้

   • ถ้าคนที่คุณชอบรู้สึกไม่สบาย ให้เช็คอาการว่าของเขาว่าดีขึ้นหรือไม่
   • เรียกชื่อของคนที่คุณชอบเป็นครั้งคราว สิ่งนี้จะทำให้อีกฝ่ายเซอร์ไพรส์และตื่นเต้นเวลาคุยกัน
   • ถามความเห็นเขาเกี่ยวกับหนังที่เพิ่งเข้าฉายหรือร้านอาหารใหม่ๆ สิ่งนี้อาจจะกลายเป็นแพลนให้คุณทั้งคู่ได้ออกไปสำรวจอะไรใหม่ๆ ด้วยกัน
   • ชมคนที่คุณชอบ หาวิธีเนียนๆ ที่จะให้เธอรู้ว่าเธอดูน่ารักเมื่อคืนก่อน หรือให้เธอรู้ว่าคุณชอบผมทรงใหม่ของเธอ
3. 
   3
   ทำตัวซุกซนบ้าง. คุณสามารถหาวิธีเนียนๆ ในการกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่ายผ่านข้อความ และเพื่อแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าคุณไม่ได้คิดติดเรท18+ กับเขาหรือเธอ ไม่ต้องถึงกับถามว่า “คุณใส่ชุดอะไรอยู่” ต่อไปนี้คือทริคที่คุณอาจลองใช้ดู:

   • พูดลอยๆ ว่าคุณเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
   • เปิดเผย บอกไปเลยว่า "ผมหยุดคิดถึงชุดที่คุณใส่คืนก่อนไม่ได้เลย"
   • บอกไปว่า "ผมมีไวน์ในตู้เย็นอยู่ขวดหนึ่ง และไวน์ขวดนั้นดูเหงาหงอยมากเมื่อไม่มีคุณ" การเชิญคนที่คุณชอบมาดื่มไวน์ด้วยกันเป็นคำเชิญที่จะนำไปสู่เรื่องอื่นๆ
4. 
   4
   อย่าเยอะเกิน. จำไว้ว่าคุณควรนิ่งเข้าไว้เวลาคุยกันผ่านข้อความ เพื่อที่ว่าคุณจะได้ไม่ต้องเป็นคนที่ส่งร้อยข้อความอย่างต่อเนื่องหรือถามคำถามแล้วใส่เครื่องหมายคำถามเป็นล้าน ถ้าคุณทำตัวตื่นเต้น "เกิน" กับการส่งข้อความคุยกัน มันจะทำให้อีกฝ่ายหมดอารมณ์สุดๆ

   • ทำให้แน่ใจว่าคุณและเขาส่งข้อความหากันมากพอๆ กัน ถ้าทุกครั้งที่เธอตอบกลับมาหนึ่งข้อความคุณส่งกลับไปห้า คุณมีปัญหาแล้วล่ะ
   • อิโมติคอนใช้ได้ดีในบางโอกาส แต่อย่าใช้มากเกิน การใช้เครื่องหมายตกใจหรือเครื่องหมายคำถามก็เช่นกัน
   • อย่าตอบทันที่ที่คุณได้รับข้อความ ทำนิ่งไว้และรอสักสองสามนาที หรือแม้แต่สองสามชั่วโมงก็ยังได้ เว้นแต่ว่าข้อความที่ส่งมานั้นเป็นอะไรที่ควรตอบทันที ถ้าคนที่คุณชอบใช้เวลาเป็นวันในการตอบกลับ อย่ารีบยิงข้อความกลับไปทันทีเพราะจะทำให้คุณดูสิ้นหวังมาก
5. 
   5
   อย่าใช้การส่งข้อความในการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมีความหมาย. ไม่มีความสัมพันธ์ไหนที่ถูกสร้างขึ้นหรือทำลายลงด้วยข้อความทางโทรศัพท์ เมื่อคุณส่งข้อความหาคนพิเศษ จำไว้ว่าการคุยกันด้วยวิธีนี้ดีสำหรับใช้จีบกัน ใช้วางแผนและนำความสัมพันธ์นั้นไปสู่โลกความเป็นจริง แต่ไม่ใช่วิธีที่ดีที่จะผูกสัมพันธ์หรือทำความรู้จักใครสักคนอย่างจริงจัง

   • จำไว้ว่าควรทำให้การจีบเป็นเรื่องสนุกๆ การจีบกันเป็นเรื่องของความสนุกและการหยอกเย้ากันล้วนๆ ไม่ใช่มาถกอะไรจริงๆ จังๆ
   • ถ้าคุณชอบคนๆ นั้นมากๆ พยายามหาเวลาคุยกับเขาหรือเธอให้มากกว่าส่งข้อความหา
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

จบให้สวย

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   รู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะหยุดส่งข้อความ. คุณคงไม่อยากจะเป็นคนที่คอยส่งข้อความชวนคุยเป็นชั่วโมงๆ หลังจากไม่มีอะไรจะคุยอะไรกันแล้ว อย่างเวลาคุณชวนคนที่คุณสนใจที่เจอที่บาร์คุย คุณแค่พูดให้อีกฝ่ายสนใจก็พอ แล้วตัดบทว่าคุณต้องไปแล้ว เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเป็นคนลากยาวบทสนทนาที่ดูเหมือนจะเริ่มต้นดีตอนแรก ในการส่งข้อความคุยกันก็ใช้หลักการเดียวกัน

   • ถ้าคุณพูดอยู่ฝ่ายเดียว นั่นถึงเวลาที่คุณจะต้องหยุดส่งข้อความแล้ว
   • ถ้าคุณเอาแต่ส่งข้อความยาวๆ แล้วไม่ได้อะไรกลับมากนอกจากคำตอบเพียงคำเดียว นั่นถึงเวลาที่คุณจะต้องหยุดส่งข้อความแล้ว
   • ถ้าคุณรู้สึกได้ว่าคุณทั้งคู่ต่างต้องพยายามหาอะไรมาคุยกัน นั่นก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องหยุดคุยกันแล้ว
   • ถ้าคุณรู้สึกได้ว่าคุณพูดอยู่ฝ่ายเดียวเสียเป็นส่วนมากในทุกครั้งที่คุยกัน และอีกฝ่ายไม่ได้ดูจะกระตือรือร้นที่จะตอบอะไรกลับ นั่นอาจถึงเวลาที่จะต้องหยุดคุยกัน – เป็นการถาวร
2. 
   2
   บอกลากันด้วยคำพูดดีๆ. ไม่ว่าจะเป็นการจบบทสนทนาเพราะคุณยุ่งหรือเพราะคุณกำลังจะพบกัน คุณก็ควรจบโดยมีอะไรให้เขาคิดถึง อย่าแค่ “บาย!” ไม่งั้นอีกฝ่ายจะไม่คิดถึงคุณหลังคุยจบ

   • ถ้าคุณนัดเจอกัน อย่ากลัวที่จะพูดว่าคุณรอที่จะพบคนๆ นั้นไม่ไหวแล้ว
   • ถ้าคุณต้องไปแล้ว ให้บอกอีกฝ่ายว่าคุณกำลังจะไปไหนและคุณกำลังทำอะไรอยู่ จะได้ดูเหมือนว่าเมื่อออกจากโลกของการส่งข้อความ คุณก็มีชีวิตดีๆ เหมือนกัน และนั่นจะทำให้คนที่คุณคุยด้วยสนใจคุณ
   • ทิ้งข้อความที่จะเปิดโอกาสสู่การพูดคุยครั้งต่อไปในเวลาอื่น บอกอีกฝ่ายว่าคุณรอคอยที่จะได้พูดคุยกันอีกถึงเรื่องใดก็ตามที่อยู่ในใจของคุณ
3. 
   3
   ใช้ข้อความเป็นเครื่องมือในการชวนคนที่คุณชอบออกไปเจอกันข้างนอก. หากการพูดคุยกันที่ผ่านๆ มาเป็นไปด้วยดีมากๆ และการจีบกันเริ่มจริงจังขึ้นเรื่อยๆ คุณก็ควรยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นอีกขั้น และใช้การส่งข้อความเป็นโอกาสที่จะชวนอีกฝ่ายออกมาเจอกัน

   • ไม่ต้องซีเรียส ถ้ากำลังคุยกันอยู่ แค่พูดว่า “คุณอยากจะคุยกันต่อตอนทานอาหารค่ำหรือตอนดื่มด้วยกันมั้ย?”
   • ถ้าส่งข้อความกับคนที่่คุณชอบมาพักใหญ่แล้ว คุณสามารถบอกอีกฝ่ายได้ว่า “ผมชอบส่งข้อความหาคุณมากเลย แต่ผมว่าผมอยากจะพูดคุยกับคุณมากกว่า เรามาเจอกันแล้วคุยกันต่อดีมั้ย?”
   • ทำตัวสบายๆ บ้างก็ได้เหมือนกัน แทนที่จะชวนอีกฝ่ายออกไปเดทจริงๆ จังๆ คุณอาจจะเชิญเธอมาร่วมดื่มกับคุณและเพื่อนของคุณ หรือชวนไปงานปาร์ตี้แทน
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• พูดอะไรแปลกๆ ขำๆ ที่ทำให้เขาหัวเราะ และทำให้บทสนทนาน่าสนใจขึ้น
• สำหรับคนที่คุณไม่ได้รู้จักเป็นอย่างดี อย่าถามคำถามที่คุณเองก็ไม่อยากถูกถาม
• ทำตัวสม่ำเสมอ อย่าเอาแต่จีบอีกฝ่ายผ่านทางโทรศัพท์อย่างเดียวแต่พอเจอกันทำเฉย มิฉะนั้นเขาจะคิดว่าคุณแค่เล่นๆ
• อย่ากลัวที่จะถามคำถาม คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับอีกฝ่ายมากขึ้น และนั่นเป็นสิ่งดี
• อย่าให้ข้อความของคุณดูเป็นการจีบอีกฝ่ายหากคุณมีแฟนอยู่แล้ว คุณไม่มีทางรู้ได้ว่าจะมีใครเห็นข้อความของคุณบ้าง
• ใช้กฎ 1-6 นาที ในการตอบข้อความ อย่าตอบกลับทันที
• อย่างใช้สไมล์ลี่หรืออิโมติคอนแบบนั้นมากเกินไป มันดูประหลาดๆ ถ้าคุณใช้เยอะเกิน
• อย่ากลัวที่จะบอกเขาว่าคุณรู้สึกยังไง อาจจะน่ากระอักกระอ่วนแต่คุณก็ไม่เห็นหน้าเขาอยู่ดี อะไรๆ จึงจะง่ายขึ้นสำหรับคุณ
• ให้แน่ใจว่าคุณรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ พึงระวังสิ่งที่คุณส่งไป รู้ขอบเขตของตัวเอง และเชื่อใจคนที่คุณกำลังคุยด้วย
• อย่าลังเลที่จะทำตัวซุกซนบ้าง ตราบเท่าที่มันไม่ทำให้คุณดูเหมือนคนสิ้นหวังจนเกินไป

โฆษณา