วิธีการ จัดทำแผนการเรียนการสอน

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การจะจัดทำแผนการเรียนการสอนออกมาได้มีประสิทธิภาพ ต้องทุ่มเทเวลาและแรงกายแรงใจ แต่ที่สำคัญกว่าคือความเข้าใจ ว่าเด็กแต่ละคนนั้นมีเป้าหมายอะไรและมีความสามารถมากแค่ไหน แต่สำหรับผู้สอนอย่างคุณ ต้องมีจุดมุ่งหมายเป็นการกระตุ้น สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กอยากเรียน ทำยังไงให้เขาเข้าใจและคงไว้ซึ่งความรู้นั้น เรามีไอเดียสร้างห้องเรียนในฝันมาฝากกัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เริ่มที่โครงสร้างพื้นฐาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จุดประสงค์ของคุณคืออะไร.
    ไม่ว่าจะสอนเรื่องอะไร ต้องเริ่มด้วยจุดประสงค์ของการเรียนการสอนนั้น กำหนดให้สั้นๆ ง่ายๆ ที่สุด ประมาณว่า "นักเรียนจะได้รู้และแยกแยะได้ว่าโครงสร้างร่างกายของสัตว์แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ทั้งการกิน หายใจ เคลื่อนไหว และเอาชีวิตรอด" พูดง่ายๆ จุดประสงค์ในการเรียนการสอนก็คือสิ่งที่นักเรียนจะทำได้หลังเรียนวิชานี้จบไงล่ะ! ถ้าอยากให้พิเศษยิ่งขึ้น ก็เพิ่มเติมไปด้วย ว่านักเรียนจะทำสิ่งนั้น ได้ยังไง (อาจจะผ่านคลิปวิดีโอ เกมส์ บัตรคำ หรืออื่นๆ เป็นต้น)
    • ถ้านักเรียนของคุณยังเล็กมาก อาจจะตั้งเป้าไว้กว้างๆ ว่า "พัฒนาทักษะการอ่านหรือการเขียน" จะเป็นแนวคิดโดยทั่วไปหรือระบุทักษะไปเลยก็ได้ คุณสามารถศึกษาวิธีเขียนจุดประสงค์ทางการศึกษาเพิ่มเติมได้จากในอินเทอร์เน็ต
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เขียนโครงร่างโดยสรุป.
    เลือกมาเขียนโครงร่างเฉพาะหัวข้อเด่นๆ เช่น ถ้าคุณจะสอนเกี่ยวกับ สุนทรภู่ โครงร่างของคุณก็ควรพูดถึงประวัติของสุนทรภู่และผลงานเด่นๆ เป็นต้น
    • โครงร่างของคุณขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการสอน เราจะขอนำเสนอขั้นตอนพื้นฐานในการเรียนการสอนประมาณ 6 ขั้นตอน ซึ่งคุณก็น่าจะนำไปปรับใช้กับโครงร่างของคุณได้ แต่จะเพิ่มเติมอะไรเข้าไปอีกก็ตามสบาย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 กำหนดตารางเวลา.
    ถ้าเวลามีจำกัด แต่เนื้อหานั้นเยอะเหลือเกิน ให้คุณลองแตกย่อยแผนการเรียนการสอนของคุณออกเป็นช่วงๆ โดยสามารถลัดขั้นตอนหรือชะลอไว้ก่อนได้ตามสถานการณ์ ตัวอย่างข้างล่างคือแผนการเรียนการสอนสำหรับระยะเวลา 1 ชั่วโมง
    • 13:00 - 13:10: เกริ่นนำ เป็นช่วงนำเข้าสู่บทเรียน รวมถึงย้อนทวนบทเรียนเมื่อวานเรื่องประเภทของกวี จากนั้นค่อยโยงเข้าประวัติของสุนทรภู่
    • 13:10 - 13:25: เข้าสู่บทเรียน นำเสนอประวัติของสุนทรภู่ และผลงานเด่นอย่าง "พระอภัยมณี"
    • 13:25 - 13:40: ทำกิจกรรมร่วมกัน นำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับผลงานสำคัญอื่นๆ ของสุนทรภู่
    • 13:40 - 13:55: ฝึกเขียนรายบุคคล ให้นักเรียนเปรียบเทียบวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมในผลงานของสุนทรภู่กับสังคมไทยในปัจจุบันพร้อมแสดงความคิดเห็นประกอบใน 1 ย่อหน้า อนุโลมให้เขียนเพิ่มเป็น 2 ย่อหน้าได้สำหรับคนที่อ่านแล้วน่าสนใจ ส่วนคนที่ยังเข้าใจไม่ชัดเจนต้องให้คำแนะนำไปปรับปรุงแก้ไขย่อหน้าเดิม
    • 13:55 - 14:00: สรุปบทเรียน รวบรวมผลงานของนักเรียน มอบหมายการบ้านเพิ่มเติม จบคาบเรียน
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทำความรู้จักนักเรียน.
    ต้องรู้ชัดว่านักเรียนของคุณคือใคร มีสไตล์การเรียนแบบไหน (เน้นภาพ เสียง สัมผัส หรือทุกอย่างผสมผสานกันไป)? มีพื้นฐานอะไรมาบ้างแล้ว และอะไรที่ต้องสร้างเสริม? การเรียนการสอนของคุณต้องเหมาะสมกับนักเรียนส่วนใหญ่ในชั้นเรียน และมีการเสริมหรือปรับแต่งบทเรียนบ้างตามสถานการณ์ เพื่อให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนที่ด้อยทักษะความสามารถกว่า พิจารณาเพิ่มเติมว่าใครอ่อน ใครไม่ตั้งใจ และใครที่มีพรสวรรค์เป็นพิเศษ
    • แน่นอนว่าต้องมีทั้งคนที่กล้าแสดงออก และ บางคนที่รู้แต่อาจไม่ชอบแสดงตัว บางคนก็ทำงานคนเดียวได้ดีกว่า ในขณะที่อีกคนจะโดดเด่นเมื่อทำงานเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม คุณต้องสังเกตจนรู้เรื่องพวกนี้ก่อน ถึงจะออกแบบกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นประโยชน์กับนักเรียนแต่ละคนได้
    • แต่สุดท้ายก็จะมีนักเรียนบางคนที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นดีพอๆ กับคุณ (โชคร้ายหน่อยนะ!) และบางคนที่ถึงรู้ ก็ดันทำหน้าเหวอยังกับคุณพูดภาษาต่างดาว ถ้าคุณจับได้ไล่ทันว่ามีใครเป็นแบบนี้บ้าง ก็จะรู้เองว่าควรจับใครแยกหรือมารวมกับใคร (จะได้สอนอย่างสบายใจ!)
    • จำนวนของสิ่งต่างๆ ที่คุณจะรวมเข้าในแผนการสอนและระยะเวลาของแผนการนั้นจะขึ้นอยู่กับนักเรียนของคุณ จงพยายามปรับตามความต้องการที่แตกต่างกันในพวกเขาแต่ละคน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน.
    บางคนก็ทำงานเดี่ยวได้ดี บางคนต้องทำเป็นคู่ ส่วนอีกหลายคนชอบทำเป็นกลุ่ม จะแบบไหนก็ขอให้มีปฏิสัมพันธ์กันไว้และได้ประโยชน์กันทุกคน ถึงจะเป็นการเรียนการสอนที่ประสบผลสำเร็จ ที่บอกให้คุณออกแบบกิจกรรมหลายๆ รูปแบบ ก็เพราะนักเรียนแต่ละคนนั้นมีสไตล์การเรียนแตกต่างกันออกไป ถ้าคุณใส่ใจเรื่องนี้ นักเรียนของคุณ (และชั้นเรียนโดยรวม) ก็จะพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน!
    • ทุกกิจกรรมสามารถปรับแต่งตามสไตล์การเรียนของนักเรียนแต่ละคนได้หมดแหละ ไม่ว่าจะทำงานเดี่ยว งานคู่ หรืองานกลุ่ม ถ้าคุณร่างไอเดียออกมาแล้ว ให้มาพิจารณาว่าจะปรับเปลี่ยนตรงไหนได้บ้าง สุดท้ายแล้วบางทีก็แค่ต้องเพิ่มกรรไกรให้มากขึ้นเท่านั้นแหละ!
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ยอมรับสไตล์การเรียนที่แตกต่างกันของนักเรียนแต่ละคน....
    ยอมรับสไตล์การเรียนที่แตกต่างกันของนักเรียนแต่ละคน. แน่นอนว่าคุณต้องบังเอิญมีนักเรียนบางคนที่ไม่มีสมาธิพอจะนั่งดูคลิปยาว 25 นาทีแบบรวดเดียวจบ ส่วนอีกคนก็เป็นพวกทำใจอ่านบทคัดย่อแค่ 2 หน้าจากในหนังสือไม่ไหว นั่นไม่ได้หมายความว่านักเรียนทั้งสองแบบเป็นคนโง่นะ เป็นหน้าที่คุณต่างหากที่ต้องเอื้อประโยชน์ให้นักเรียนโดยปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมของคุณให้นักเรียนแต่ละคนได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า
    • ไม่มีนักเรียนคนไหนเหมือนกันไปซะหมดหรอก บางคนชอบอ่าน บางคนชอบฟัง แต่บางคนก็ชอบลงมือเลย ถ้าคุณสอนมาพอแล้ว ลองเปลี่ยนมาฟังความคิดเห็นของพวกเขาดูบ้าง ถ้านักเรียนอ่านหนังสือมาแล้ว ก็ให้ลองหากิจกรรมที่นำความรู้นั้นมาใช้จริงดู จะได้ไม่น่าเบื่อไงล่ะ!
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ลงรายละเอียดการเรียนการสอนแต่ละช่วง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เกริ่นนำ.
    ก่อนเริ่มบทเรียน นักเรียนมักจะยังไม่ทันตั้งตัวรับข้อมูล ถ้าอยู่ๆ คุณก็เริ่มสอนเข้าประเด็นสำคัญเลย อย่างการวิเคราะห์ความหมายแฝงจากเรื่องพระอภัยมณี สุดท้ายทั้งคุณและเด็กก็จะรู้สึกประมาณว่า "เอ้ย เดี๋ยวๆ ใจเย็น กลับไปเล่าก่อนไหม ว่า "สุนทรภู่" คือใคร?" ค่อยๆ ปูทางให้นักเรียนดีกว่า นั่นแหละจุดประสงค์ของช่วงเกริ่นนำ นอกจากจะได้ประเมินความรู้ของนักเรียนแล้ว ยังเป็นการสร้างบรรยากาศนำเข้าบทเรียนด้วย
    • การนำเข้าสู่บทเรียนนั้นอาจจะให้นักเรียนเล่นเกมสั้นๆ ง่ายๆ ก็ได้ (เช่นเกี่ยวกับคำศัพท์หรือเกร็ดความรู้ในเรื่องที่จะสอน เพื่อวัดพื้นฐานความรู้ของนักเรียน (หรืออย่างน้อยก็ดูว่าพอจำอะไรได้บ้างจากที่สอนไปเมื่ออาทิตย์ก่อน!) หรือจะถามคำถาม ขอความคิดเห็น หรือให้ดูรูปก็ได้เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วม อะไรก็ได้ที่ทำให้นักเรียนเปิดปากพูด ให้เริ่มคิดเกี่ยวกับเนื้อหาที่จะเรียน (ถึงจะยังไม่ทันเข้าสู่การเรียนการสอนจริงจังก็เถอะ)
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เข้าสู่บทเรียน.
    ก็ตามนั้นแหละ เริ่มสอนเนื้อหาของวันนี้กันได้เลย ไม่ว่าจะสอนแบบไหน คุณต้องเริ่มจากการนำเสนอข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอ เพลง เอกสาร หรือแค่แนวคิดก็ตาม นี่แหละแก่นของการเรียนการสอนล่ะ ถ้าขาดไปละก็ นักเรียนจะเหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่างเลย
    • บางทีก็ต้องเริ่มสอนกันตั้งแต่ศูนย์ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับระดับความรู้ความสามารถของนักเรียนด้วย ลองพิจารณาดูว่าต้องเท้าความไปไกลแค่ไหน คุณคงจะไม่ซาบซึ้งถึงความมหัศจรรย์ของ "พระอภัยมณี" ใช่ไหมล่ะ ถ้าไม่รู้จัก "สุนทรภู่" ซึ่งประพันธ์วรรณคดีเรื่องนี้ตั้งแต่สมัย "ต้นรัตนโกสินทร์" ซะก่อน ตั้งแต่ยังไม่มีนิยายแฟนตาซีเกลื่อนตลาดเหมือนสมัยนี้ คุณต้องนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นก่อน แล้วค่อยเชื่อมโยงไปยังบทเรียนต่อไป (หรือหลายๆ บทต่อไป)
    • จะดีกว่าถ้าคุณแบไต๋ซะให้หมดว่าจะเรียนจะสอนอะไรกันบ้าง หรือก็คือ นักเรียนจะได้อะไรจากการเรียนการสอนในวันนี้ ไม่มีอะไรจะกำปั้นทุบดินไปกว่านี้แล้ว! แบบนี้พอจบคาบ นักเรียนจะได้ รู้ ว่าวันนี้เรียนอะไรไปบ้าง ง่ายๆ แบบนั้นเลย!
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทำกิจกรรมร่วมกัน.
    ตอนนี้พอนักเรียนได้ศึกษาจากบทเรียนแล้ว ก็ถึงเวลาทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อนำความรู้มาใช้จริง ตอนนี้นักเรียนยังใหม่อยู่ ต้องมีคุณหรือก็คือผู้สอนคอยแนะแนวทาง ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ อย่างแบบฝึกหัด การจับคู่ หรือผ่านภาพ ก่อนจะให้เขาลุยเดี่ยวก็ต้องสอนให้เขาพอรู้วิธีซะก่อนสิ!
    • ถ้ามีเวลาพอทำได้มากกว่า 1 กิจกรรมก็ยิ่งดี เพราะจะได้ประเมินความรู้ที่เพิ่งเรียนไปของนักเรียนในหลายระดับความยาก-ง่าย เช่น ทักษะการเขียนและการพูด (ซึ่งถือเป็นทักษะคนละขั้ว) และอย่าลืมคอยแนะนำนักเรียนที่อ่อนกว่า หรือแยกออกมาเป็นกิจกรรมเฉพาะเลยก็ได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ตรวจงานแล้วประเมินผล.
    พอจบกิจกรรมแล้วก็ถึงเวลาประเมินผลงานของนักเรียน ดูซิว่านักเรียนเข้าใจสิ่งที่คุณสอนไปหรือเปล่า? ถ้าเข้าใจก็ดีไป จะได้ขยับขยายไปยังบทเรียนที่ยากหรือลึกซึ้งขึ้น ไม่ก็ฝึกฝนซ้ำด้วยแบบฝึกหัดที่ยากขึ้น แต่ถ้านักเรียนยังไม่ค่อยเข้าใจ ให้กลับไปทวนบทเรียน คราวนี้คิดพิจารณาเพิ่มเติมด้วยว่าจะนำเสนอให้แตกต่างออกไปอย่างไร นักเรียนถึงจะเข้าใจมากขึ้น?
    • ถ้าคุณสอนนักเรียนกลุ่มเดิมมาพักนึงแล้ว คุณก็คงพอรู้ว่านักเรียนคนไหนที่ยังตามเพื่อนไม่ค่อยจะทัน ถ้ารู้แล้วก็ให้จับคู่นักเรียนคนนั้นกับคนที่แข็งกว่า จะได้ช่วยดึงกันไป คุณไม่อยากสอนต่อไปทั้งที่ยังมีคนไม่เข้าใจแน่ แต่จะสอนซ้ำบ่อยๆ เพื่อนักเรียนส่วนน้อยก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะไม่มีทางที่เราจะรอจนนักเรียนเก่งเท่ากันได้ในเวลาไม่นาน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ฝึกเขียนรายบุคคล.
    ตอนนี้พอนักเรียนมีพื้นฐานแล้ว ก็ถึงเวลาปล่อยให้เขาแสดงความรู้ความสามารถด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้แปลว่าให้คุณเดินออกจากห้องไปซะเดี๋ยวนี้นะ! แค่ปล่อยให้นักเรียนได้ใช้หัวคิด สร้างสรรค์อะไรๆ ด้วยตัวเองให้มากขึ้น หัดนำความรู้ที่ได้เรียนไปมาใช้จริง ดูซิว่าจะออกมาเป็นยังไง?
    • ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับวิชาที่คุณสอน และทักษะที่คุณต้องการให้นักเรียนได้พัฒนา คุณจะให้นักเรียนสร้างหุ่นเชิดง่ายๆ ใน 20 นาที หรือจะรวมกลุ่มแสดงละครจริงจัง โดยให้เวลาซ้อม 2 อาทิตย์ก็ไม่ว่ากัน
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เหลือเวลาไว้ให้เด็กสอบถามด้วย.
    ถ้าในคาบมีเวลาพอเหลือ ให้เก็บ 10 นาทีสุดท้ายหรือมากกว่านั้นไว้สำหรับช่วงถาม-ตอบ อาจจะเริ่มจากการอภิปรายกันจนขยับขยายไปเป็นคำถามเกี่ยวกับบทเรียนก็ได้ หรือจะปล่อยเป็นช่วงให้นักเรียนยกมือถามได้ตามสบายก็แล้วแต่ แบบไหนก็มีประโยชน์กับนักเรียนทั้งนั้นแหละ
    • ถ้าคุณเจอนักเรียนประเภทเขินอายไม่ยอมยกมือถามกัน ก็ลองให้เขาถกกันเองในหมู่นักเรียนก็ได้ ลองเสนอแนะหัวข้อดู แล้วให้เวลาเขาอภิปรายกันประมาณ 5 นาที จากนั้นก็เอาผลที่ได้มานำเสนอหน้าชั้นเรียนแล้วสรุปร่วมกันอีกครั้ง รับรองว่าได้ความคิดเห็นแปลกใหม่น่าสนใจมาเต็ม!
  7. How.com.vn ไท: Step 7 สรุปปิดท้ายบทเรียนแบบชัดเจน.
    ในมุมนึง การเรียนการสอนก็เหมือนการพูดคุยสนทนากัน ถ้าอยู่ๆ ก็ตัดจบไปซะเฉยๆ ก็เหมือนคนที่พูดกันไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอก...แต่จะทิ้งความรู้สึกประหลาดๆ บอกไม่ถูกไว้นี่สิ ถ้าเวลาเอื้ออำนวย ให้คุณสรุปปิดท้ายก่อนเลิกเรียน เป็นเหมือนการ บอก นักเรียนไปตรงๆ ไงล่ะ ว่าวันนี้สรุปแล้วเขาได้อะไรติดตัวกลับไปบ้าง!
    • ทวนบทเรียนที่สอนไปทั้งหมดสัก 5 นาที แล้วลองถามคำถามเกี่ยวกับบทเรียน (ไม่ต้องเสริมเติมอะไรใหม่ๆ เข้ามานะ) เพื่อทบทวนสิ่งที่ได้รับและกิจกรรมที่ได้ทำไปในวันนั้น เพื่อให้ครบวงจรการเรียนการสอน ปิดท้ายได้อย่างสมบูรณ์!
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เตรียมตัวเข้าสอน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ถ้าตื่นเต้น ให้เขียนเป็นสคริปต์ไว้พูดเลย.
    พวกครูใหม่ๆ จะรู้สึกอุ่นใจเวลามีสคริปต์ไว้ว่าต้องพูดอะไรบ้าง ปกติก็ไม่ต้องทุ่มทุนสร้างขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าทำแล้วช่วยได้ก็ทำไปเถอะ ถ้าคุณรู้ล่วงหน้าแบบเป๊ะๆ ว่าจะถามอะไรและต้องการให้อภิปรายกันไปในทางใด จะได้หายตื่นเต้นไงล่ะ
    • แต่พอสอนไปจนเชี่ยว ขอให้ลดสคริปต์ลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายคุณสอนได้ด้วยการด้นสด อย่ามาเสียเวลาวางแผนหรือเขียนอะไรที่นอกเหนือแผนการเรียนการสอนคร่าวๆ เลย! ให้เป็นเรื่องของคุณครูมือใหม่เขาดีกว่า
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ยืดหยุ่นหน่อย.
    คุณลงรายละเอียดถึงขั้นนาทีต่อนาทีเลยใช่ไหม? ดีมาก แต่ขอให้เอาไว้ใช้เป็นแนวทางก็พอ อย่าถึงขนาดบอกนักเรียนว่า "เด็กๆ! บ่ายโมงสิบห้าแล้ว! ทำอะไรอยู่ให้หยุดก่อนนะ" แบบนั้นไม่ใช่การเรียนการสอนที่ดีเท่าไหร่ ถึงจะเป็นเรื่องดีที่ควรสอนไปตามแผน แต่ก็ต้องเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ด้นสดหรือพลิกแพลงตามสถานการณ์บ้างแหละ
    • ถ้าพบว่าสอนไม่ค่อยจะทัน ต้องรู้ว่าอันไหนข้ามได้ อันไหนสำคัญ อะไรที่ต้องสอนเด็กถึงจะได้ประโยชน์ที่สุด? อะไรที่แค่เสริม ถ้าไม่มีเวลาก็ตัดออกได้? แต่ตรงกันข้าม ถ้าคุณเหลือเวลาเยอะเกิน ก็ต้องมีแผนสำรอง เช่นกิจกรรมอื่น ให้งัดมาใช้ได้ทันเวลา
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เกินดีกว่าขาด.
    มีกิจกรรมที่จะสอนเยอะเกินเวลายังดีกว่าเหลือเวลาแล้วไม่มีอะไรจะสอน ถึงจะลงรายละเอียดไปจนแน่นตารางแล้ว ก็ต้องมีแผนสำรองไว้ ถ้าอะไรที่จะใช้เวลา 20 นาที ให้ลองทำให้ได้ใน 15 นาทีดู ไม่แน่ นักเรียนของคุณอาจซุ่ม มีพื้นฐานแน่นเรื่องนั้นกันมาแล้วก็ได้!
    • วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ง่ายที่สุดก็คือปิดท้ายด้วยเกมหรือกิจกรรมสนุกๆ ไม่ก็ถามความคิดเห็นของนักเรียน ให้จับกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็ได้ ไม่ก็คุณนั่นแหละเป็นฝ่ายถามเอง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 แผนการเรียนการสอนต้องชัดเจน คนอื่นเข้าใจได้....
    แผนการเรียนการสอนต้องชัดเจน คนอื่นเข้าใจได้. เผื่อเกิดเหตุสุดวิสัยคุณเข้าสอนไม่ได้ คนอื่นที่มาสอนแทนจะได้อ่านแผนการเรียนการสอนของคุณเข้าใจ หรืออีกแง่นึงคือถ้าคุณเขียนล่วงหน้าไว้นานจนลืม พอเอากลับมาอ่านใหม่จะได้เข้าใจทันทีไงล่ะ
    • มีเทมเพลตเยอะแยะให้เลือกสรรในเน็ต หรือจะลองเลียบๆ เคียงๆ ปรึกษาวิธีการเตรียมแผนการเรียนการสอนจากเพื่อนหรือรุ่นพี่ครูคนอื่นๆ ก็ได้ แต่ขอให้ยึดไว้แบบเดียว จะได้ทำความเข้าใจและคุ้นเคยง่ายๆ ยิ่งใช้บ่อยก็ยิ่งคล่องตัว!
  5. How.com.vn ไท: Step 5 แผนสำรองนี่แหละสำคัญ.
    ในชีวิตการเป็นครูของคุณ ต้องมีบ้างแหละที่เจอเด็กเทพ สอนนิดเดียวก็เข้าใจฉลุยจนคุณถึงกับอึ้ง หรือวันที่เลื่อนการสอบ มีเด็กมาเข้าเรียนแค่ครึ่งห้อง ไม่ก็วิดีโอหรือดีวีดีที่สู้อุตส่าห์เตรียมมาเกิดเปิดไม่ออกซะอย่างนั้น เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยที่คุณไม่คาดคิด แผนสำรองนี่แหละที่จะช่วยชีวิตคุณ
    • สุดยอดครูผู้ชำนาญต่างก็ต้องมีแผนการเรียนการสอนสำรองเก็บซ่อนไว้พร้อมใช้เสมอ ถ้าคุณเพิ่งสอนได้ถูกใจนักเรียนห้องนึง จะเอามารีไซเคิลปรับนู่นนิดนี่หน่อย แล้วใช้สอนห้องอื่นก็ไม่ว่ากัน หรือถ้าคุณบังเอิญเจอเรื่องใหม่ๆ ที่น่าสนใจใน Youtube หรือในเน็ต ก็หมั่นเซฟเก็บไว้บ้างล่ะ (เช่น เอาข่าวหน้าหนึ่งประจำวันมาโยงใช้สอนเรื่องศีลธรรม หรือขนบธรรมเนียมประเพณีที่แตกต่างกัน ระหว่างปัจจุบันกับยุคสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เป็นต้น)
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พร้อมรับมือเผื่อแผนการเรียนการสอนออกทะเลเสมอ อย่าลืมวิธีดึงความสนใจของนักเรียนกลับมาด้วยล่ะ
  • ต้องแจ้งนักเรียนให้ชัดเจน ว่าคุณต้องการให้เขาตอบคำถามในชั้นตามวันและเวลาที่กำหนด
  • แนะนำบทเรียนใหม่ๆ ให้นักเรียนรู้ล่วงหน้า จะได้เตรียมตัวเตรียมใจ 1 - 2 อาทิตย์ก่อนเรียนจริง
  • พอสอนจบแล้ว ให้คุณมาพิจารณาว่าแผนการเรียนการสอนของคุณนั้นใช้ได้ผลแค่ไหน คราวหน้ามีอะไรที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง?
  • จะสอนอะไรก็แล้วแต่ ต้องสอดคล้องกับหลักสูตรของโรงเรียนและประเทศ
  • ถ้าคุณอึดอัดเวลามีแผนการเรียนการสอนตีกรอบไว้ ให้ลองใช้วิธีสอนแบบ Dogme ดู เป็นการเรียนการสอนแบบไม่มีตำรา และเปิดโอกาสให้นักเรียนกำหนดการเรียนการสอนตามความสนใจ[1]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 6,976 ครั้ง
หมวดหมู่: การศึกษา
มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,976 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา