บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Brandon Beckwith. แบรนดอน เบ็ควิทเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำความสะอาดบ้านและ CEO ของ Reliable Housekeeping ในซาคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย แบรนดอนและทีมของเขาเชี่ยวชาญในการทำความสะอาดบ้านในรูปแบบต่างๆ เช่น การทำความสะอาดเพื่อบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพดี การทำความสะอาดแบบละเอียด การทำความสะอาดก่อนย้ายเข้าและหลังย้ายออก การทำความสะอาดอพาร์ตเมนต์ รวมถึงการทำความสะอาดสถานประกอบการ การทำความสะอาดกระจก และการทำความสะอาดพรม สมาชิกทั้งหมดของทีม Reliable Housekeeping ได้รับการตรวจสอบภูมิหลังและผ่านการฝึกอบรมแบบมืออาชีพ ธุรกิจนี้มีครอบครัวเป็นเจ้าของและดำเนินกิจการ มีใบอนุญาต มีประกันภัย และมีหลักประกัน
บทความนี้ถูกเข้าชม 2,713 ครั้ง
ถ้าเพิ่งทำไวน์แดงหก ก็ขจัดคราบได้ง่ายนิดเดียว โดยเทน้ำเดือดราดผ้าจนคราบจางหายไป แต่การขจัดคราบไวน์แดงที่ แห้งแล้ว นี่สิที่เป็นงานหิน แต่ก็เพิ่งเครียดไป เพราะบทความวิกิฮาวนี้มีหลายวิธีขจัดคราบไวน์แดงที่แห้งแล้วแบบบ้านๆ มาฝากกัน
ขั้นตอน
- ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับน้ำยาล้างจานในสัดส่วนที่เท่ากัน. ถ้าใช้แยกกันจะไม่ได้ผล แต่พอรวมกัน จะได้น้ำยาขจัดคราบไวน์แดงแห้งกรังที่เห็นผลสุดๆ[1] น้ำยาล้างจานที่ใช้ต้องเป็นแบบไม่ผสมน้ำยาฟอกขาว และไม่เป็นด่าง แต่ถ้าผ้าคอตตอนสีขาว ก็ใช้แบบที่ผสมน้ำยาฟอกขาวได้ ไม่เป็นไร เพราะน้ำยาฟอกขาวใช้ขจัดคราบได้จริง แต่ใช้กับผ้าสีแล้วสีตกหรือซีดจางได้เลย![2]
- ถ้าอยากได้สูตรเข้มข้น ให้ผสมน้ำยาล้างจาน 1 ส่วนกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 2 ส่วน
- ลงน้ำยาแล้วถูที่คราบ. ขั้นแรกให้ลงน้ำยาที่ผสมแล้วที่คราบเล็กน้อย จากนั้นใช้นิ้วถูให้ทั่ว โดยถูจากนอกเข้าใน คือจากขอบของรอยเปื้อนเข้าไปตรงกลาง คราบจะได้ไม่เลอะขยายวงกว้าง
- ก่อนจะลงน้ำยาที่ผสมแล้ว ให้เอาผ้าขนหนูสอดใต้ผ้าที่เป็นคราบก่อน คราบที่ละลายจะได้ไม่ซึมลงไปถึงอีกด้าน เพราะผ้าขนหนูซับไว้หมด
- ถ้าไม่อยากใช้มือเปล่าถูรอยเปื้อน หรือเนื้อผ้าค่อนข้างบอบบาง ขาดง่าย ให้ใช้วิธีซับคราบแทน โดยเทน้ำยาที่ผสมแล้วใส่ผ้าขนหนูสะอาด แล้วเอาไปซับๆ กดๆ ที่คราบ
- ทิ้งไว้ให้น้ำยาที่ผสมจากสบู่กับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ออกฤทธิ์ประมาณ 30 นาที. ต้องลงน้ำยาให้ชุ่มคราบที่ผ้า จากนั้นทิ้งไว้ให้น้ำยาทำปฏิกิริยาอย่างน้อย 30 นาที แล้วค่อยล้างน้ำยาออกให้สะอาด
- ล้างออกด้วยน้ำอุ่น. เติมน้ำอุ่นใส่ชามหรือกะละมัง แล้วเอาผ้าไปแช่ โดยที่แช่ทั้งผืนจนชุ่ม หรือจะเปิดน้ำอุ่นจากก๊อกแล้วเอาผ้าไปรองให้น้ำไหลผ่านคราบและน้ำยาก็ได้
- แช่คราบในน้ำร้อน. ย้ายผ้าไปแช่น้ำร้อน แล้วทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง หรือซักเครื่องแบบ soak cycle ได้ยิ่งดี
- ไม่ต้องใส่น้ำยาซักผ้า! เพราะมีน้ำยาที่ผสมจากน้ำยาล้างจานกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อยู่แล้ว
- ล้างน้ำเย็นจัด. พอแช่ผ้าในน้ำอุ่น-ร้อน 1 ชั่วโมงแล้ว ก็เอาไปแช่น้ำเย็นจัดต่อ โดยที่ไม่ต้องใส่น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอก ถ้าไม่อยากซักมือ ก็ซักเครื่องด้วยน้ำเย็นจัด (cold cycle) แทน
- ตากไว้ให้แห้ง. อย่าใช้เครื่องอบผ้า โดยเฉพาะถ้าเป็นผ้าคอตตอน 100%! เพราะถ้าร้อนจัด ผ้าคอตตอนเปียกๆ จะหดได้ ถ้ายังเหลือคราบไวน์แดง ก็ทำซ้ำตามขั้นตอนโฆษณา
- แช่ผ้าคอตตอนในน้ำเย็นจัด. เป็นขั้นตอนที่ทำให้คราบแห้งกรังเปียกชื้นขึ้นมา จะได้ขจัดออกง่าย แต่ไม่ต้องแช่นานมาก แค่พอให้ผ้าชุ่มทั่วถึง
- บีบหมาด. ให้ผ้าเปียกหมาดๆ ไม่มีน้ำหยด แต่บิดเบาๆ ไม่งั้นผ้าจะขาดหรือยืดได้
- เทน้ำมะนาวใส่คราบไวน์. จะบีบมะนาวใส่คราบโดยตรง หรือใช้น้ำมะนาวสำเร็จรูปแบบขวดสำหรับทำอาหารก็ได้ แต่คราบต้องชุ่มน้ำมะนาว กรดจะได้ทำปฏิกิริยากับไวน์
- ขัดคราบด้วยเกลือ. พอผ้าชุ่มน้ำมะนาวแล้ว ให้โรยเกลือใส่คราบ แล้วใช้นิ้วถูให้เกลือกับน้ำมะนาวซึมลงไปในคราบ ถ้าถูเกลือทั้งด้านบนและข้างใต้คราบอีกฝั่งของผ้าได้ยิ่งดี[3]
- ให้ใช้เกลือปรุงอาหารธรรมดานี่แหละ แต่จริงๆ จะเกลือแบบไหนก็ใช้ได้ทั้งนั้น กระทั่งทรายหรืออะไรที่ผิวหยาบหน่อยก็ใช้ขัดได้
- ล้างน้ำแล้วบิด. เปิดน้ำเย็นจัดจากก๊อกรดผ้าใต้คราบ จากนั้นบิดผ้า ขยำๆ เน้นตรงคราบ ระวังผ้าขาดหรือยืด แต่ก็ต้องออกแรงนิดหน่อย ไม่งั้นคราบที่ฝังแน่นจะไม่ออก พอคราบจางเต็มที ให้ห่อผ้าด้วยผ้าขนหนูสะอาด ให้หายชื้น แห้งเร็วๆ
- ต้องเปิดน้ำราดที่ผ้าใต้คราบเสมอ จะได้ล้างคราบออกจากผ้า ไม่ใช่กลับลงไปในผ้า!
- เพิ่มน้ำมะนาว. บีบน้ำมะนาวใส่คราบเพิ่ม ให้เข้มข้นกว่าเดิม แล้วเอาผ้าไปตากแดด โดยแผ่ไว้บนที่ราบ แห้งแล้วผ้าจะได้ไม่หด ทั้งกรดของมะนาวกับรังสี UV จากแสงแดดจะเป็นเหมือนน้ำยาฟอกขาวตามธรรมชาติ ที่ปลอดภัยต่อเส้นใยของผ้าโฆษณา
- ขัดคราบด้วยไวน์ขาว. ถ้าผ้าที่เปื้อนเป็นสีขาว ก็ใช้ไวน์ขาวช่วยขจัดคราบได้ ส่วนการขจัดกลิ่น แค่ซักมือก็ได้แล้ว[4]
- ใช้ครีมออฟทาร์ทาร์กับน้ำ. ผสมครีมออฟทาร์ทาร์กับน้ำในสัดส่วนที่เท่ากันจนเป็น paste เหนียวข้น แล้วเอาไปขัดคราบที่ผ้าเหมือนน้ำยาอื่นๆ เป็นส่วนผสมที่ช่วยให้คราบชื้น แล้วจะค่อยๆ จางลง
- ใช้สารทำละลายกับสบู่ก้อน. ขั้นแรกให้แช่ผ้าในน้ำ คราบจะได้เปียกชื้น ไม่แห้งกรัง แล้วค่อยลงสารทำละลาย (เช่น น้ำมันก๊าด) ที่คราบให้ชุ่ม ทิ้งไว้สักพัก แล้วถูด้วยสบู่ก้อนจนคราบจางหาย
- ตัวทำละลายช่วยขจัดคราบได้แบบไม่ทำร้ายเส้นใยผ้า แต่ถ้าลงน้ำยาซักผ้าทันที เนื้อผ้าจะเสียหายได้ เพราะผ้ากำลังบอบบางและน้ำยาแรง
- ใช้น้ำยาทำความสะอาดสำเร็จรูป. ถ้าผ้าเป็นสีขาว ก็ใช้น้ำยาฟอกขาวได้เลย แต่ถ้าเป็นผ้าสี ก็ต้องเลือกน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่ทำร้ายเส้นใยและไม่ทำให้สีตกโฆษณา
เคล็ดลับ
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.apartmenttherapy.com/how-to-remove-red-wine-stains-57951
- ↑ http://vinepair.com/wine-blog/5-ways-remove-red-wine-stain/
- ↑ http://www.thekitchn.com/removing-red-wine-stains-how-do-you-do-it-170275
- ↑ http://www.mowinecellar.com/how-to-remove-a-red-wine-stain
- ↑ http://winefolly.com/tutorial/how-to-remove-red-wine-stains/
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.