วิธีการ ขจัดคราบหมึกปากกาลูกลื่น

ปากกาลูกลื่นหมึกซึมหรือหัวปากกาแตกจนหมึกไหลออกมาเลอะเทอะได้ง่ายมาก แป๊บเดียวก็ชุ่มขยายวงกว้าง ที่สำคัญคือเป็นคราบแล้วซักล้างไม่ค่อยออก โดยเฉพาะถ้าเลอะนานแล้ว เพราะงั้นเลอะหมึกเมื่อไหร่ต้องรีบทำความสะอาด เสื้อผ้า พรม หรือเฟอร์นิเจอร์ของคุณจะได้ไม่เสียหายถาวร มีหลายผลิตภัณฑ์เลยที่ใช้ขจัดคราบหมึกปากกาได้ ตั้งแต่ของใช้ในบ้านอย่างสเปรย์ฉีดผม แอลกอฮอล์ล้างแผล ไปจนถึงน้ำยาทำความสะอาดโดยเฉพาะ กระทั่งวัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างเนย

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 6:

ขจัดคราบที่ผ้าด้วยน้ำยาทำความสะอาดสูตรแอลกอฮอล์

ดาวน์โหลดบทความ

ลงน้ำยาทำความสะอาดที่ผ้าแค่เล็กน้อย ตรงบริเวณที่ไม่เป็นที่สังเกต จากนั้นล้างน้ำให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง
เพื่อคั่นระหว่างส่วนที่เป็นคราบกับส่วนอื่นของเสื้อผ้า หรือก็คือรองผ้าขนหนูใต้ผ้าส่วนที่จะลงน้ำยาขจัดคราบ คราบหมึกจะได้ไม่ไหลซึมผ่านเนื้อผ้าจนเลอะเป็นวงกว้างกว่าเดิม
3
ลงน้ำยาทำความสะอาดสูตรแอลกอฮอล์ที่คราบ. พวกน้ำยาที่มีในบ้าน เช่น เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ แอลกอฮอล์ล้างแผล (isopropyl) หรือสเปรย์ฉีดผมถูกๆ พวกนี้แหละใช้ได้ โดยลงน้ำยาให้ทั่วคราบ
- ทิ้งน้ำยาไว้ 10 นาที เพราะต้องให้เวลาน้ำยาได้ซึมลงในคราบ
- อย่าใช้แอลกอฮอล์แบบกินได้ (เหล้าและอื่นๆ) เพราะใช้ขจัดคราบไม่ได้
- ถึงจะไม่ผสมแอลกอฮอล์ แต่น้ำยาล้างเล็บก็เป็นน้ำยาที่มักมีติดบ้าน แถมใช้ขจัดคราบหมึกได้ดี
พอลงน้ำยาทำความสะอาดจนชุ่มคราบแล้ว ก็ให้หยดน้ำยาซักผ้า (สีใส) ตามไป 2 - 3 หยด แล้วถูด้วยนิ้วหรือผ้าอื่น^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โดยใส่น้ำยาซักผ้าในปริมาณปกติ แล้วตั้งค่าซักด้วยน้ำร้อน ให้ซักผ้าที่เลอะหมึกเดี่ยวๆ อย่ารวมเสื้อผ้าชิ้นอื่น จะได้ไม่เปื้อนกันไปหมด^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถึงตอนนี้คราบควรจะหายไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้ายังมีจางๆ ให้ทำซ้ำตามขั้นตอน ตั้งแต่ลงน้ำยาสูตรแอลกอฮอล์ไปจนถึงซักผ้า พอคราบหายแล้วก็อบผ้าให้แห้งตามปกติได้เลย
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 6:

ขจัดคราบที่ผ้าด้วยเนย

ดาวน์โหลดบทความ

เพื่อคั่นระหว่างส่วนที่เป็นคราบกับส่วนอื่นของเสื้อผ้า หรือก็คือรองผ้าขนหนูใต้ผ้าส่วนที่จะลงน้ำยาขจัดคราบ คราบหมึกจะได้ไม่ไหลซึมผ่านเนื้อผ้าจนเลอะเป็นวงกว้างกว่าเดิม
ใช้นิ้วหรือเศษผ้าก็ได้ ทาเนยเค็มให้ทั่วคราบหมึก^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} จากนั้นถูวน ขยับไปเรื่อยๆ พลิกผ้าบ่อยๆ อย่าให้หมึกซึมลามไปที่อื่น
3
เอาไปตากแดด. เลือกที่ตากได้นานๆ และไม่โดนฝนสาด ถ้าตากกลางแจ้ง โดนแดดตรงๆ ได้จะดีที่สุด ตากทิ้งไว้แบบนั้น 1 - 2 วัน จนน้ำมันเนยทำให้คราบนิ่ม แตกตัว ส่วนเกลือในเนยประกอบกับแสงแดดจะช่วยให้คราบหลุดขึ้นมาจากเส้นใยผ้า^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ซักผ้าที่ขจัดคราบแล้วในเครื่องซักผ้า โดยใส่น้ำยาซักผ้าในปริมาณปกติ แล้วตั้งค่าซักด้วยน้ำร้อน ให้ซักผ้าที่เลอะหมึกเดี่ยวๆ อย่ารวมเสื้อผ้าชิ้นอื่น จะได้ไม่เปื้อนกันไปหมด
- ถ้าผ้าชนิดนั้นซักไม่ได้ (เช่น ไวนิล) ให้ใช้ผ้าเปียกบิดหมาดเช็ดเนยออก อย่าลืมใช้ผ้าชุบน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนเล็กน้อย จะช่วยให้เช็ดง่ายขึ้น
ถึงตอนนี้คราบควรจะหายไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้ายังมีจางๆ ให้ทำซ้ำตามขั้นตอน ตั้งแต่ทาเนยไปจนถึงซักผ้า พอคราบหายแล้วก็อบผ้าให้แห้งตามปกติได้เลย
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 6:

ขจัดคราบที่ผ้าด้วยน้ำยาขจัดคราบโดยเฉพาะ

ดาวน์โหลดบทความ

1
ซื้อน้ำยาขจัดคราบโดยเฉพาะ. เช่น OxiClean กับ Mr. Clean Magic Eraser พวกนี้หาซื้อได้ตามซูเปอร์ไม่ก็ในเน็ต เป็นน้ำยาสำหรับขจัดคราบฝังลึกอย่างหมึกปากกา ดินโคลน และคราบสกปรกอื่นๆ โดยเฉพาะ
- อ่านคำเตือนและคำแนะนำการใช้งานที่ฉลากแล้วทำตามอย่างเคร่งครัด
ลงน้ำยาทำความสะอาดที่ผ้าแค่เล็กน้อย ตรงบริเวณที่ไม่เป็นที่สังเกต จากนั้นล้างน้ำให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง
เพื่อคั่นระหว่างส่วนที่เป็นคราบกับส่วนอื่นของเสื้อผ้า หรือก็คือรองผ้าขนหนูใต้ผ้าส่วนที่จะลงน้ำยาขจัดคราบ คราบหมึกจะได้ไม่ไหลซึมผ่านเนื้อผ้าจนเลอะเป็นวงกว้างกว่าเดิม
4
ลงน้ำยาให้ทั่วคราบ. โดยทำตามคำแนะนำการใช้งานที่ฉลาก จากนั้นทิ้งไว้ 1 - 5 นาที จนน้ำยาซึมลงไปตามคราบ เข้าไปละลายหมึกปากกา
- ถ้าใช้ OxiClean ให้ผสมผงทำความสะอาดกับน้ำจนเหนียวข้นเป็น paste โดยผสมให้ได้สัดส่วนที่ถูกต้อง ตามที่แนะนำข้างฉลาก
5
ซับด้วยผ้าขนหนูหรือเศษผ้าสีขาว. เอาเป็นว่าผ้าอะไรก็ได้ที่ไม่ใช้หรือจะทิ้งแล้ว เพราะหมึกจะติดไปแน่นอน ให้ซับเบาๆ โดยกดลงไปที่คราบ อย่าขัดถู เพราะคราบจะกระจายเป็นวงกว้างได้
- พลิกผ้าไปเรื่อยๆ จะได้ใช้แต่ด้านสะอาดเวลาซับ ป้องกันหมึกซึมกลับลงไปในผ้า^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ล้างน้ำยาออกให้สะอาด โดยใช้น้ำอุ่นนิดหน่อยหรือน้ำอุณหภูมิห้อง อาจจะต้องล้างหลายรอบหน่อย เสร็จแล้วตากหรือผึ่งให้แห้ง
โฆษณา

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 6:

ขจัดคราบที่พรมด้วยน้ำยาทำความสะอาดสูตรแอลกอฮอล์

ดาวน์โหลดบทความ

ลงน้ำยาสูตรแอลกอฮอล์ เช่น สเปรย์ฉีดผมถูกๆ หรือแอลกอฮอล์ล้างแผลที่พรมแค่เล็กน้อย ตรงบริเวณที่ไม่เป็นที่สังเกต จากนั้นเช็ดให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง
ลงน้ำยาทำความสะอาดสูตรแอลกอฮอล์ หรือสเปรย์ฉีดผมให้ทั่วคราบ^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้าใช้สเปรย์ฉีดผม เลือกที่ถูกๆ แหละดี เพราะจะผสมแอลกอฮอล์ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าสเปรย์แพงๆ เวลาลงน้ำยา จะใช้คอตตอนบัดก็ได้ โดยเฉพาะถ้าเลอะหมึกเป็นเส้นเพราะปากกาขีดโดนเสื้อผ้า
3
ซับด้วยผ้าขนหนูหรือเศษผ้าสีขาว. เอาเป็นว่าผ้าอะไรก็ได้ที่ไม่ใช้หรือจะทิ้งแล้ว เพราะหมึกจะติดไปแน่นอน ให้ซับเบาๆ โดยกดลงไปที่คราบ อย่าขัดถู เพราะคราบจะกระจายเป็นวงกว้างได้
- พลิกผ้าไปเรื่อยๆ จะได้ใช้แต่ด้านสะอาดเวลาซับ ป้องกันหมึกซึมกลับลงไปในพรม^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
ล้างน้ำให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง. ล้างน้ำยาออกให้สะอาด โดยใช้น้ำอุ่นนิดหน่อยหรือน้ำอุณหภูมิห้อง ให้ใช้ผ้าขนหนูเก่าสะอาดๆ แช่ในชามใส่น้ำแล้วบิดหมาด จากนั้นใช้ซับบริเวณที่กำจัดคราบแล้วจนไม่เหลือน้ำยาติดพรม
- อาจจะต้องชุบน้ำมาซับหลายรอบหน่อย ถึงจะไม่เหลือสเปรย์ฉีดผมติดพรม
ผึ่งพรมไว้ข้ามคืนจนแห้งสนิท เลือกห้องที่ร้อนหน่อย ประมาณว่าแดดส่องจัดแต่ไม่โดนตรงๆ ก็จะช่วยให้พรมแห้งเร็วขึ้น เสร็จแล้วดูดฝุ่นเพื่อกำจัดเศษน้ำยาแห้งหรือฝุ่นที่อาจตกค้าง
โฆษณา

วิธีการ 5

วิธีการ 5 ของ 6:

ขจัดคราบที่พรมด้วยน้ำยาขจัดคราบโดยเฉพาะ

ดาวน์โหลดบทความ

1
ซื้อน้ำยาขจัดคราบโดยเฉพาะ. เช่น OxiClean กับ Mr. Clean Magic Eraser พวกนี้หาซื้อได้ตามซูเปอร์ไม่ก็ในเน็ต เป็นน้ำยาสำหรับขจัดคราบฝังลึกอย่างหมึกปากกา ดินโคลน และคราบสกปรกอื่นๆ โดยเฉพาะ
- อ่านคำเตือนและคำแนะนำการใช้งานที่ฉลากแล้วทำตามอย่างเคร่งครัด
พยายามซับคราบหมึกฉ่ำๆ ออกให้ได้มากที่สุด โดยใช้ผ้าขนหนูหรือเศษผ้าเก่า ให้กดซับลงไปตรงๆ หมึกจะได้ติดขึ้นมา พลิกผ้าไปเรื่อยๆ จะได้ใช้แต่ด้านสะอาดเวลาซับ ป้องกันหมึกซึมกลับลงไปในพรม
3
ทดสอบน้ำยา. ลงน้ำยาทำความสะอาดที่พรมแค่เล็กน้อย ตรงบริเวณที่ไม่เป็นที่สังเกต จากนั้นล้างน้ำให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง
- ถ้าพรมคุณสีไม่ตกง่ายๆ ก็ใช้น้ำยาทำความสะอาดได้อย่างสบายใจ แต่ถ้าพรมสีตกง่ายก็ระวังด่าง
4
ลงน้ำยาให้ทั่วคราบ. โดยทำตามคำแนะนำการใช้งานที่ฉลาก จากนั้นทิ้งไว้ 1 - 5 นาที จนน้ำยาซึมลงไปตามคราบ เข้าไปละลายหมึกปากกา
- ถ้าใช้ OxiClean ให้ผสมผงทำความสะอาดกับน้ำจนเหนียวข้นเป็น paste โดยผสมให้ได้สัดส่วนที่ถูกต้อง ตามที่แนะนำข้างฉลาก
5
ซับด้วยผ้าขนหนูหรือเศษผ้าสีขาว. เอาเป็นว่าผ้าอะไรก็ได้ที่ไม่ใช้หรือจะทิ้งแล้ว เพราะหมึกจะติดไปแน่นอน ให้ซับเบาๆ โดยกดลงไปที่คราบ อย่าขัดถู เพราะคราบจะกระจายเป็นวงกว้างได้
- พลิกผ้าไปเรื่อยๆ จะได้ใช้แต่ด้านสะอาดเวลาซับ ป้องกันหมึกซึมกลับลงไปในพรม^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
6
ล้างน้ำให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง. ล้างน้ำยาออกให้สะอาด โดยใช้น้ำอุ่นนิดหน่อยหรือน้ำอุณหภูมิห้อง ให้ใช้ผ้าขนหนูเก่าสะอาดๆ แช่ในชามใส่น้ำแล้วบิดหมาด จากนั้นใช้ซับบริเวณที่กำจัดคราบแล้วจนไม่เหลือน้ำยาติดพรม
- อาจจะต้องชุบน้ำมาซับหลายรอบหน่อย ถึงจะไม่เหลือคราบน้ำยาทำความสะอาดติดพรม
ผึ่งพรมไว้ข้ามคืนจนแห้งสนิท เลือกห้องที่ร้อนหน่อย ประมาณว่าแดดส่องจัดแต่ไม่โดนตรงๆ ก็จะช่วยให้พรมแห้งเร็วขึ้น เสร็จแล้วดูดฝุ่นเพื่อกำจัดเศษน้ำยาแห้งหรือฝุ่นที่อาจตกค้าง
โฆษณา

วิธีการ 6

วิธีการ 6 ของ 6:

ขจัดคราบที่เฟอร์นิเจอร์ไม้ด้วยน้ำยาทำความสะอาดสูตรแอลกอฮอล์

ดาวน์โหลดบทความ

ลงน้ำยาทำความสะอาดที่ไม้แค่เล็กน้อย ตรงบริเวณที่ไม่เป็นที่สังเกต จากนั้นล้างน้ำให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง
2
ลงน้ำยาสูตรแอลกอฮอล์ให้ทั่วคราบ. ลงแอลกอฮอล์ล้างแผล เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หรือสเปรย์ฉีดผมให้ทั่วคราบ จะใช้คอตตอนบัดก็ได้ โดยเฉพาะถ้าเลอะรอยปากกาขีดเป็นเส้น
- ห้ามใช้น้ำยาล้างเล็บขจัดคราบที่ไม้ เพราะสีย้อมไม้หรือเคลือบเงาจะลอกติดไปด้วย
ใช้ผ้าถูวนเบาๆ เพื่อขจัดคราบ โดยพลิกผ้าไปเรื่อยๆ จะได้ใช้แต่ด้านสะอาดเวลาซับ ป้องกันหมึกซึมกลับลงไปในเนื้อไม้
ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดเจลล้างมือหรือน้ำยาอื่นๆ จากไม้ จะได้ขจัดทั้งคราบหมึกและน้ำยาไปพร้อมๆ กัน ให้เช็ดช้าๆ อย่างเบามือ หมั่นพลิกผ้าเรื่อยๆ จะได้ไม่เหลือคราบหมึกหรือหมึกไม่เลอะไปโดนส่วนอื่นของเฟอร์นิเจอร์
ให้ใช้น้ำมันธรรมชาติหรือน้ำมันเคลือบเงาเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะก็ได้ เช่น Pledge เนื้อไม้ของเฟอร์นิเจอร์จะได้กลับมาเงางาม แนะนำให้ใช้น้ำมันวิตามินอี หรือน้ำมันมะกอก^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} โดยเทใส่ผ้าไม่ต้องมาก แล้วขัดถูที่เนื้อไม้ สุดท้ายปล่อยให้แห้งสนิท
โฆษณา

คำเตือน

อย่าใช้น้ำยาหรือของเหลวที่ติดไฟง่าย เช่น น้ำมันไฟแช็ค น้ำมันเบนซิน หรืออื่นๆ มาขจัดคราบหมึกที่ติดตามผ้า พรม หรือเฟอร์นิเจอร์^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}

โฆษณา