วิธีการ ขจัดคราบหมึกจากเครื่องหนัง

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

จัดการกับคราบหมึกด้วยวิธีที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผล

จัดการกับคราบหมึกด้วยตัวเองด้วยวิธีที่อาจยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าได้ผล

ป้องกันคราบหมึกไม่ให้เปื้อนหนัง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

หากคุณดันทำหมึกหกใส่เก้าอี้โซฟาหนังสีขาว ไม่ต้องตกใจไป! ให้รีบจัดการคราบก่อนมันจะกระจายไปทั่ว คราบหมึกบนหนังอาจดูเป็นสิ่งที่จัดการได้ยาก แต่ก็ไม่มีคราบหมึกไหนที่คุณจะจัดการไม่ได้หากหัดใช้วิธีขจัดคราบง่ายๆ ด้วยตัวเอง หรือให้มืออาชีพช่วย

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

จัดการกับคราบหมึกด้วยวิธีที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผล

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   รู้ว่าเครื่องหนังของคุณเป็นหนังสภาพดั้งเดิมหรือหนังสำเร็จรูป. หนังสภาพดั้งเดิมมีคุณสมบัติดูดซับดีมากและเป็นหนังไม่ได้ผ่านกระบวนการใดๆ ทั้งสิ้น จึงเป็นหนังที่ทำความสะอาดยากหากไม่พึ่งพามืออาชีพ ลองหยดน้ำลงบนผิวของเครื่องหนังนั้น หากน้ำซึมสู่หนัง แสดงว่านั่นคือหนังที่ยังไม่ผ่านกระบวนการใดๆ และคุณควรต้องพึ่งมืออาชีพในการขจัดคราบ แต่หากคุณเห็นหยดน้ำปรากฏบนหนัง แสดงว่านั่นคือหนังสำเร็จรูป และคุณสามารถเริ่มจัดการกับคราบนั้นด้วยตัวเองได้เลย

   • นำเครื่องหนังที่เป็นหนังสภาพดั้งเดิม (เช่น หนังกลับ) ไปซักแห้งเพื่อขจัดรอยหมึก หนังประเภทนี้มีความสามารถในการดูดซับสูงมาก และการจัดการรอยคราบนั้นจะทำได้ยากมาก ถึงแม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญก็ตาม การพยายามขจัดรอยคราบด้วยตัวเองกับหนังที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการใดๆ มักจะต้องใช้เวลา และสร้างความยุ่งยากให้คุณมากกว่าปกติจนไม่คุ้มค่าที่จะจัดการคราบด้วยตัวเอง
2. 
   2
   ดูว่าคราบนั้นฝังลึกมากแค่ไหน. หากคราบหมึกนั้นเป็นคราบที่เพิ่งเลอะมาและเปื้อนแค่พื้นผิวของเครื่องหนัง ให้ลงมือทำความสะอาดเลยโดยทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ แต่หากเป็นคราบที่เลอะมาสักพักแล้วหรือเป็นคราบฝังลึก มีแนวโน้มว่าคุณต้องให้มืออาชีพทำการย้อมหนังนั้นเพื่อขจัดคราบให้หมดไป
3. 
   3
   หากจำเป็นก็ให้อ่านข้อแนะนำในการดูแลหนัง. ผู้ผลิตอาจจะแนะนำผลิตภัณฑ์ปรับสภาพหนังหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบางชนิดเพื่อขจัดคราบหมึก และอาจจะแนะนำ ไม่ให้ คุณทำอะไรบางอย่าง​ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่บทความนี้แนะนำให้ทำก็ได้ มันอาจเป็นวิธีที่ไม่ได้ช่วยทำให้เครื่องหนังของคุณสะอาด และอาจทำร้ายหนังอย่างรุนแรงอีกด้วย
4. 
   4
   ทำความสะอาดเฉพาะจุดก่อนที่จะใช้วิธีใดๆ ต่อไปนี้. ให้หาจุดเล็กๆ บนเครื่องหนังบริเวณที่ไม่เป็นจุดสังเกต ใช้น้ำยาใดๆ ก็ได้ที่อยากลอง เช็ดหนังด้วยน้ำยาปริมาณเล็กน้อยลงบนหนังและตรวจดูว่ามีรอยเสียหายหรือสีหนังเปลี่ยนหรือไม่

   • สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ณ ตอนนี้ไม่ใช่การเช็กดูว่าน้ำยานั้น ทำความสะอาด หนังได้หรือไม่ แต่คุณกำลังดูว่าน้ำยานั้นไม่ ทำร้าย หนังต่างหาก หากว่าน้ำยานั้นใช้ไม่ได้ผลกับเครื่องหนังของคุณ คุณก็คงไม่อยากจะทำร้ายหนังซ้ำ และทำให้อะไรๆ มันแย่ลงไปอีกด้วยการนำผลิตภัณฑ์มาใช้หรอกนะ นั่นคือเหตุว่าทำไมการจัดการกับคราบเฉพาะจุดเป็นสิ่งที่แนะนำให้ทำ
5. 
   5
   พยายามเช็ดหนังอย่างนุ่มนวลด้วยผ้าชุบน้ำด้วยสบู่. น้ำยาทำความสะอาดที่มีสบู่เป็นส่วนประกอบ เช่น ยี่ห้อไอวอรี่ (Ivory) มีความอ่อนโยนต่อหนังมากกว่าชนิดที่มีตัวทำละลายเป็นส่วนประกอบ ทำให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในการกำจัดคราบออกจากหนัง

   • เราจะแยกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีตัวทำละลายเป็นส่วนผสมออกจากชนิดที่ไม่ใช่ได้อย่างไรกันล่ะ? โดยทั่วไป บรรจุภัณฑ์ควรจะระบุชัดเจนว่า "ตัวทำละลาย" หรือ "มีตัวทำละลายเป็นส่วนผสม" ถ้าเป็นอย่างที่ว่าก็ให้อ่านฉลากให้ดีด้วย
6. 
   6
   จัดการกับเครื่องหนังของคุณด้วยที่กำจัดคราบหมึกแบบแท่งที่ผลิตมาเพื่อใช้กับหนังโดยเฉพาะ. โดยมากแล้ว เวลาที่คุณนำเครื่องหนังของคุณให้ผู้เชี่ยวชาญทำความสะอาด นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาใช้เพื่อขจัดคราบต่างๆ แม้อาจจะราคาสูง แต่ก็เล็กน้อยเมื่อเทียบกับราคาที่คุณอาจต้องจ่ายเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหนังแท้
7. 
   7
   ลองใช้สบู่ฟอกหนัง. สบู่ฟอกหนังจะช่วยทำความสะอาดและปกป้องหนังไปในตัว ซึ่งมักจะเป็นหนังที่ใช้ทำอานรองนั่ง — จึงเป็นที่มาของชื่อสบู่ชนิดนี้ สบู่ฟอกหนังมักมีส่วนผสมของสบู่ที่อ่อนมากๆ และสารที่ทำให้หนังนุ่มและชุ่มชื้น เช่น กลีเซอริน และลาโนลิน ซึ่งช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่หนังหลังจากการทำความสะอาด

   • หากคุณอยากจะดูแลรักษาหนังให้ดีขึ้นและยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น ให้ใช้สบู่ฟอกหนังปริมาณไม่มากกับเครื่องหนังเป็นประจำ กุญแจสำคัญในการถนอมหนังให้อยู่ในสภาพดี คือ การดูแลรักษาเพื่อป้องกันปัญหา มิใช่การ จัดการปัญหา ตอนที่ปัญหาเกิดแล้ว
8. 
   8
   ลองใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและปรับสภาพหนัง. แทบไม่ต่างอะไรกับสบู่ฟอกหนัง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยทั้งทำให้หนังสะอาดและทำให้หนังชุ่มชื้น ซึ่งทำให้หนังไม่แตก แม้ว่ากับหนังบางชนิด คราบหมึกอาจจะติดแน่นมาก คุณก็ควรลองใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและผลิตภัณฑ์ปรับภาพหนังอยู่ดี ลองดูว่ามันจะช่วยขจัดคราบได้หรือไม่

   • สิ่งที่คุณใช้เพื่อลงน้ำยาต่างๆ กับเครื่องหนังเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ คุณอาจต้องใช้สิ่งที่จะไม่ทำให้เกิดรอยถลอกหรือรอยขัดถูแทนที่จะใช้แผ่นสำหรับขัด คุณจะแผ่นสำหรับขัดนี้ได้ตอนลงผลิตภัณฑ์ปรับสภาพหนัง แต่มันไม่เหมาะกับการจัดการคราบฝังลึก
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

จัดการกับคราบหมึกด้วยตัวเองด้วยวิธีที่อาจยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าได้ผล

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ใช้สเปรย์ผม. ใช่ คุณได้ยินไม่ผิดหรอก: สเปรย์ผม มันอาจไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ดูดีที่สุด (หรือบางคนอาจคิดว่าเป็นวิธีที่เก๋ไก๋ก็ได้ ขึ้นอยู่กับมุมมองของคุณนั่นแหละ) แต่นักขจัดคราบหมึกบางคนยืนยันเองเลยว่าใช้ได้ นี่คือขั้นตอนที่คุณอาจลองใช้เพื่อกำจัดคราบ:

   • นำสำลีก้านหรือสำลีแผ่นมาทำให้ชุ่มด้วยสเปรย์ผม
   • หยิบสำลีก้านและจัดการบริเวณที่เลอะอย่างรวดเร็ว
   • จากนั้นให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและปรับสภาพหนังกับบริเวณที่เลอะหมึก และเนื่องจากสเปรย์ผมจะทำให้หนังแห้ง หนังอาจจะแตกได้ การดูแลรักษาหนังหลังจากขจัดคราบหมึกด้วยวิธีนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
   • ทำซ้ำๆ จนรอยหมึกหายไป
2. 
   2
   ลองใช้ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (สำหรับเช็ดแผล). สำหรับบางคน ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ ที่ประกอบด้วยแอลกอฮอล์ 70% ก็ใช้ขจัดคราบได้ผล แม้อาจจะไม่ใช่วิธีที่ได้รับความนิยมมากนัก จุ่มสำลีก้านหรือสำลีแผ่นด้วยแอลกอฮอล์เช็ดแผลเล็กน้อยก่อนที่จะใช้เช็ดเครื่องหนังที่เปื้อน และเนื่องจากแอลกอฮอล์ก็ทำให้หนังสูญเสียน้ำเช่นกัน คุณจึงควรต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและปรับสภาพหนังหลังจากจัดการคราบด้วยแอลกอฮอล์ควบคู่กันไปด้วย และให้ทำซ้ำหากจำเป็น
3. 
   3
   จัดการกับคราบด้วยยางลบมหัศจรรย์. จุ่มปลายยางลบกับน้ำให้ชุ่มชื้น และถูลงบนรอยเปื้อน ยางลบมหัศจรรย์มีส่วนผสมของโฟมเมลามีน ซึ่งช่วยขจัดคราบที่จัดการยากได้ จบขั้นตอนโดยการใช้ผ้าขนหนูสะอาดเช็ดบริเวณที่เป็นคราบด้วยผลิตภัณฑ์ปรับสภาพหนัง
4. 
   4
   ใช้น้ำยาล้างเล็บ — ชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของอะซิโทน. บางคนสามารถจัดการกับคราบหมึกได้สำเร็จโดยใช้น้ำยาล้างเล็บที่ไม่มีส่วนผสมของอะซิโทน ใช้สำลีก้านป้ายน้ำยาล้างเล็บเล็กน้อยจัดการกับคราบหมึกนั้น และจบขั้นตอนด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและปรับสภาพหนังเพื่อให้หนังไม่สูญเสียความชุ่มชื้นโดยใช่เหตุ
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

ป้องกันคราบหมึกไม่ให้เปื้อนหนัง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   รักษาเครื่องหนังเป็นประจำด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องเครื่องหนัง เช่น ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพหนัง. ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพหนังจะช่วยให้หนังวัวของคุณชุ่มชื้น ไม่แตกง่าย ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพหนังบางชนิดสามารถสร้างสารเคลือบหนังซึ่งปกป้องหนังจากรอยเปื้อน — ทั้งน้ำหมึกและคราบอื่นๆ — ไม่ให้ซึมลึกลงหนังมากจนเกินไป
2. 
   2
   ดูแลรักษาเครื่องหนังของคุณให้ดี. มีหลายสิ่งท่ีคุณทำได้เพื่อดูแลรักษาเครื่องหนังของคุณให้ดีกว่าเคยนอกเหนือจากการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาความชุ่มชื้นกับหนังเป็นประจำ ทั้งหลายทั้งปวงแล้ว เครื่องหนังที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีก็คือเครื่องหนังที่สะอาดนั่นเอง และเครื่องหนังที่สะอาดก็คือสิ่งที่คุณไม่น่าจะทำหมึกหกใส่นั่นเอง
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ให้ทดสอบน้ำยาทำความสะอาดกับเครื่องหนังบริเวณที่ไม่เป็นจุดสังเกต ก่อนนำมาใช้กับบริเวณที่มีรอยเปื้อน
• ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหนังเกือบทุกชนิดจะไม่สามารถขนัดคราบหมึกได้ เว้นเสียแต่ว่าคุณเคยใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเครื่องหนังกับเครื่องหนังนั้นๆ เป็นประจำ

โฆษณา

คำเตือน

• ในการขจัดรอยเปื้อนหมึก อย่าขัดถูเครื่องหนัง เพราะนั่นจะทำให้สิ่งที่เคลือบพื้นผิวหลุดออกด้วย
• อย่าพยายามขจัดรอยหมึกจากหนังที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการใดๆ เพราะมันมีแนวโน้มสูงเหลือเกิน ที่ความพยายามของคุณจะทิ้งคราบมันติดอยู่บนหนัง
• อย่าใช้สเปรย์ผม น้ำยาล้างเล็บ กระดาษทิชชู่เปียก นม ยาสีฟัน "ยางลบมหัศจรรย์" หรือน้ำยาขัดเงาเฟอนิเจอร์ที่มีซิลิโคนเป็นส่วนผสม ทำความสะอาดหนัง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนจะยิ่งสร้างปัญหาหนักกว่าเดิมเพราะสิ่งที่เคลือบพื้นผิวของเครื่องหนังจะหลุดออกไปด้วย

โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

• ผลิตภัณฑ์ลบคราบหมึกแบบแท่งหรือเจล
• สก๊อตการ์ด (Scotchgard®) - ชนิดสำหรับปกป้องหนัง
• สบู่อ่อนและน้ำยา หรือแชมพูเครื่องหนัง
• ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ผู้ผลิตแนะนำ