วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ นักเขียนที่อาสาสมัครมาได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ถูกเข้าชม 224,560 ครั้ง
เสื้อตัวใหม่ของคุณต้องเปรอะเปื้อนคราบน้ำมันหลังจากที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์คราวก่อนหรือเปล่า? ใช่คุณหรือไม่ที่ลืมตลับลิปบาล์มไว้ในกระเป๋ากางเกงตอนนำเสื้อผ้าลงซัก? แล้วไหนจะเป็นตอนที่เหม่อลอยระหว่างทอดอาหารทะเลคราวก่อนนั่นอีก ไม่ว่าคุณกำลังพยายามขจัดคราบมันแบบไหน เคล็ดลับต่างๆเหล่านี้จะสามารถช่วยคุณได้อย่างแน่นอน
ขั้นตอน
- เกลี่ยผลิตภัณฑ์ล้างจานให้ทั่วบริเวณที่เปื้อนคราบมัน. ในขั้นตอนนี้ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีคุณสมบัติในการขจัดคราบมันอาจสามารถช่วยได้ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นเสียทีเดียว คุณสามารถใช้แชมพูแทนก็ได้ มันถูกออกแบบมาเพื่อขจัดไขมันบนผิวหนัง ฉะนั้นก็ควรใช้งานได้ อีกทางเลือกคือใช้สบู่ก้อน จะสบู่ล้างมือหรือสบู่ถูตัวก็ได้ (ให้แน่ใจว่ามันไม่เติมสารปรุงแต่งเพิ่มเติมใดๆ ที่อาจทำให้ขจัดคราบไม่ได้) หรือในกรณีคราบหนา ให้มองหาสบู่ที่เขียนไว้ว่า สบู่สำหรับซักรีด ให้นำสบู่มาจุ่มน้ำ (หรือแอมโมเนียถ้าจะขจัดคราบหนา) แล้วถูกับรอยจนเกิดเป็นฟอง คุณยังสามารถขูดสบู่เป็นฝอยแล้วนำฝอยสบู่เหล่านั้นทาลงบนรอยเปื้อนหลังจากแช่น้ำให้เปียกแล้ว
- หากใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีสี ต้องไม่ลืมที่จะนำไปผสมน้ำเพื่อเจือจางเสียก่อน เพราะหากใช้กับเนื้อผ้าโดยตรง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจกัดทำลายสีของเสื้อผ้าได้
- สำหรับคราบมันที่หลุดออกยาก แปรงสีฟันเก่าๆ สามารถช่วยคุณได้ เพราะมันสามารถต่อสู้กับคราบมันฝังลึกได้ดีกว่าการใช้มือถูเป็นไหนๆ
- ถูฟองจากสบู่หรือน้ำยาล้างจานและแชมพูลงบนคราบมัน. คุณจะเห็นมันค่อยๆ ซึมดูดซับ ผลิตภัณฑ์ล้างจานและสบู่ซักรีดมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถดูดซับคราบมันได้ เช่นเดียวกับแชมพู
- ล้างผลิตภัณฑ์ล้างจานออกโดยใช้น้ำสะอาดหรือน้ำส้มสายชูก็ได้. น้ำส้มสายชูเป็นสารทำความสะอาดธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ หากต้องการ คุณสามารถผสมน้ำสะอาดและน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกันอย่างละครึ่ง แล้วนำผ้าลงแช่
- เสื้อผ้าเหล่านี้ควรทำการแยกซัก. โดยยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าได้ตามปกติ ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากป้ายการดูแลรักษาเสื้อผ้าอย่างเคร่งครัด
- เมื่อทำการซักเรียบร้อยแล้ว นำไปผึ่งลมให้แห้ง เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ควรนำไปอบแห้งด้วยอุณหภูมิที่สูงเพราะอาจทำให้คราบมันที่หลงเหลืออยู่ฝังแน่นยิ่งขึ้นจนไม่สามารถขจัดออกได้อีก
- สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ได้ซ้ำๆ เพื่อขจัดคราบมันที่ฝังแน่นอยู่บนเนื้อผ้า.โฆษณา
- ใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบอย่างยี่ห้อเชาท์เพื่อต่อสู้กับความมันหรือคราบน้ำมัน. วิธีกำจัดคราบนั้นง่ายนิดเดียว เพียงฉีดพ่นผลิตภัณฑ์ขจัดคราบให้ทั่วบริเวณที่เปื้อนแล้วใช้แปรงสีฟันขัดออก
- ระหว่างนี้ ต้มน้ำหม้อใหญ่ๆ ให้เดือด และก่อนที่จะข้ามไปยังขั้นตอนต่อไป. อย่าลืมให้เวลาผลิตภัณฑ์ขจัดคราบได้ทำงานของมันอย่างเต็มประสิทธิภาพเสียก่อน
- ดับไฟแล้วยกหม้อน้ำร้อนลงจากเตา. จากนั้นจึงเริ่มเทน้ำลงสู่บริเวณที่มีคราบเปื้อน โดยจะต้องไม่ลืมข้อควรปฏิบัติที่สำคัญดังนี้:
- ควรนำเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบมันใส่ในอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า หรือบริเวณอื่นๆ ที่ปลอดภัย เพราะนอกจากการเทน้ำลงบนพื้นจะทำให้เลอะเทอะแล้ว น้ำที่ร้อนจัดอาจลวกเอาเท้าของคุณได้
- พยายามเทน้ำร้อนให้สูงห่างจากคราบเปื้อนหรือคราบมันให้มากที่สุด ที่ต้องปฏิบัติตามนี้ เพราะเหตุผลดีๆ 2 ข้อ
- น้ำที่ร้อนมากๆ จะช่วยให้คราบมันที่ฝังอยู่บนเนื้อผ้าแตกตัวได้ง่ายขึ้น
- การเทของเหลวจากที่สูงทำให้เกิดแรงปะทะ ซึ่งเมื่อเทน้ำร้อนจากที่สูงๆ แรงปะทะของน้ำเมื่อตกลงสู่บริเวณที่เปื้อนคราบมันก็จะมีมากขึ้นเช่นเดียวกัน
- ระวัง! เพราะอาจมีหยดหรือละอองน้ำร้อนๆกระเด็นมาโดนตัวคุณหากไม่ทันระวังตัวให้ดี
- ปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้กับรอยเปื้อนทั้งหมด. โดยต้องไม่ลืมกลับด้านเพื่อทำความสะอาดเนื้อผ้าทั้ง 2ฝั่งด้วย ขั้นตอนเหล่านี้สามารถทำได้ซ้ำๆ หลายครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- เสื้อผ้าเหล่านี้ควรซักแยกจากผ้าอื่นๆ. โดยยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าปกติได้ ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากป้ายการดูแลรักษาเสื้อผ้าอย่างเคร่งครัด
- เมื่อทำการซักผ้าเรียบร้อยแล้ว นำไปผึ่งลมให้แห้ง เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ควรนำไปอบแห้งด้วยอุณหภูมิที่สูงเพราะอาจทำให้คราบมันที่หลงเหลืออยู่ฝังแน่นยิ่งขึ้นจนไม่สามารถขจัดออกได้
โฆษณา
- ใช้กระดาษชำระซับคราบมันออกจากเสื้อผ้าให้ได้มากที่สุดเสียก่อน. พยายามเอาคราบมันออกไปจากเสื้อผ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะเลื่อนไปยังขั้นตอนถัดไป
- โรยแป้งเด็กให้ทั่วบริเวณที่มีคราบเปื้อน หรือเลือกใช้แป้งฝุ่นโรยตัวทั่วไปก็ได้. แต่ถ้าหากไม่มีจริงๆ ลองใช้ของใกล้ตัวอื่นๆที่มีคุณสมบัติซึมซับความมันได้ดีเช่นเดียวกัน
- แป้งข้าวโพด
- เกลือ
- ใช้ช้อนหรือกระดาษชำระค่อยๆ ปัดแป้งออกจนหมด. โดยต้องระวังไม่ให้ฝุ่นแป้งเลอะบริเวณอื่นๆ ของเสื้อผ้าด้วย
- ผสมผลิตภัณฑ์ล้างจานและน้ำเข้าด้วยกัน แล้วแตะขึ้นมาที่ปลายนิ้วเล็กน้อย. ก่อนจะนำมาถูในบริเวณที่เปื้อนคราบมันจนเริ่มเกิดฟอง จากนั้นใช้แปรงสีฟันเก่าๆ มาถูต่อ โดยให้ถูวนเป็นวงกลมจนทั่ว
- เพื่อขจัดความมันให้สิ้นคราบ ต้องไม่ลืมที่จะทำความสะอาดเนื้อผ้าทั้งจากด้านนอกและด้านใน (ทำความสะอาดทั้งด้านนอกและด้านในเสื้อเป็นต้น)
- เสื้อผ้าเหล่านี้ควรซักแยกกับผ้าอื่นๆ. โดยสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าได้ตามปกติ ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากป้ายการดูแลรักษาเสื้อผ้าอย่างเคร่งครัด
- เมื่อทำการซักเรียบร้อยแล้ว นำไปผึ่งลมให้แห้ง เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ควรนำไปอบแห้งด้วยอุณหภูมิที่สูงเพราะอาจทำให้คราบมันที่หลงเหลืออยู่ฝังแน่นจนเอาไม่สามารถขจัดออกได้อีก
โฆษณา
- แทนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ ลองฉีดพ่นเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบมันด้วยดับเบิลยูดี-40 (WD-40) หรือน้ำมันเติมไฟแช็ก. ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิดนี้มีคุณสมบัติในการขจัดคราบได้อย่างดีเยี่ยม[1]
- ก่อนที่จะฉีดพ้นเสื้อผ้าทั้งตัวด้วยดับเบิลยูดี-40หรือน้ำมันเติมไฟแช็ก อย่าลืมทดลองผลิตภัณฑ์กับบริเวณเล็กๆที่มองเห็นยากเสียก่อน คงไม่ดีแน่หากเสื้อผ้าของคุณไม่หลงเหลือสภาพเดิมหลังจากที่ใช้ผลิตภัณฑ์ไปแล้ว
- ทิ้งให้ดับเบิลยูดี-40หรือน้ำมันเติมไฟแช็กได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพประมาณ 20 นาที.
- ล้างดับเบิลยูดี-40หรือน้ำมันเติมไฟแช็กออกให้เกลี้ยง โดยแช่ผ้าในน้ำอุ่น.
- เสื้อผ้าเหล่านี้ควรทำการแยกซัก. โดยยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าได้ตามปกติ ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากป้ายการดูแลรักษาเสื้อผ้าอย่างเคร่งครัด
- เมื่อทำการซักเรียบร้อยแล้ว นำไปผึ่งลมให้แห้ง เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ควรนำไปอบแห้งด้วยอุณหภูมิที่สูงเพราะอาจทำให้คราบมันที่หลงเหลืออยู่ฝังแน่นยิ่งขึ้นจนไม่สามารถขจัดออกได้
- จบขั้นตอน.โฆษณา
อุปกรณ์
- ผลิตภัณฑ์ซักผ้าแบบน้ำ (แนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีสีใส)
- น้ำส้มสายชู
- แปรงสีฟันเก่า (มีหรือไม่ก็ได้)
ข้อมูลอ้างอิง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.