บทความนี้ร่วมเขียนโดย Nat Ismaeil หนึ่งในผู้ร่วมเขียนบทความของเรา ผู้ร่วมเขียนบทความของเราจะทำงานร่วมกับบรรณาธิการอย่างใกล้ชิด เพื่อความมั่นใจว่าบทความนั้นถูกต้องและมีเนื้อหาครอบคลุมมากที่สุด
บทความนี้ถูกเข้าชม 7,247 ครั้ง
ถ้าใครชอบอาหารอิตาเลียน อย่างพิซซ่า สปาเก็ตตี้ ที่เน้นซอสมะเขือเทศเป็นหลัก แล้วอยู่ๆ กระเด็นเลอะเสื้อหรือผ้าปูโต๊ะขึ้นมา ก็อาจจะทำเอาเครียด เพราะปกติซอสมะเขือเทศ ซอสมารีนารา และอื่นๆ ที่ผสมน้ำมันและมะเขือเทศ เวลาเป็นคราบแล้วขจัดออกได้ยาก แต่บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการขจัดคราบซอสมะเขือเทศให้คุณเอง ทั้งคราบใหม่และคราบแห้งกรังติดเสื้อผ้าหรือผ้าปูโต๊ะ[1]
ขั้นตอน
- ขูดซอสออกจากผ้าให้หมด. ให้กำจัดซอสออกจากผิวหน้าของผ้าให้เร็วที่สุด โดยไม่ทำให้คราบฝังลึกกว่าเดิม จะใช้ทิชชู่ซับมัน หรือผ้าขี้ริ้วก็ได้ แต่ต้องเช็ดซอสออกจากผ้าโดยด่วน[3]
- เช็ดคราบด้วยฟองน้ำชุบน้ำเย็น.[4] ให้ใช้ฟองน้ำเช็ดจากตรงกลางคราบออกไป
- ลงน้ำเลมอนหรือน้ำมะนาวที่คราบ. จะลงน้ำมะนาวด้วยฟองน้ำ หรือบีบมะนาวฝานก็ได้ แล้วขัดคราบออก
- ถ้าเป็นผ้าขาว ก็ลงน้ำส้มสายชูกลั่นขาว หรือ hydrogen peroxide ที่คราบโดยตรง แทนน้ำมะนาวได้เลย[5]
- ใช้น้ำยาขจัดคราบ. หาสเปรย์ เจล หรือแท่งที่ใช้ทาขจัดคราบ แล้วลงที่คราบโดยตรง จากนั้นทิ้งไว้ให้ออกฤทธิ์ประมาณ 15 นาที
- ล้างคราบออก แล้วเช็คว่ายังเหลือคราบไหม. ให้เปิดน้ำเย็นไหลผ่านคราบจากผ้าอีกด้าน แล้วยกขึ้นส่องไฟดูว่ายังเหลือคราบตกค้างไหม
- ถ้ายังเหลือคราบให้แช่ผ้า. แช่ผ้าในน้ำยาสูตรต่อไปนี้ 30 นาทีด้วยกัน
- น้ำอุ่น 1 ควอร์ต (1 ลิตรกว่าๆ หรือ 1/4 แกลลอน)
- น้ำยาล้างจาน 1/2 ช้อนชา
- น้ำส้มสายชูกลั่นขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วตากแดดให้แห้ง. ให้ตากโดยที่ผ้าโดนแดดตรงๆ และหันด้านที่เคยมีคราบออกด้านนอก แสงแดดจะช่วยให้คราบที่เหลือเล็กน้อยสลายไปเอง
- ซักผ้า. ซักผ้าตามวิธีการที่เหมาะกับผ้าชนิดนั้นตามปกติโฆษณา
- ขูดซอสออกจากผ้าให้หมด. ให้กำจัดซอสออกจากผิวหน้าของผ้าให้เร็วที่สุด โดยไม่ทำให้คราบฝังลึกกว่าเดิม จะใช้ทิชชู่ซับมัน หรือผ้าขี้ริ้วกำจัดซอสส่วนเกินก็ได้[6]
- เปิดน้ำเย็นไล่คราบ. พลิกผ้าไปด้านหลังของคราบ แล้วเปิดน้ำใส่ เพื่อให้ขจัดคราบออกจากเสื้อผ้า อย่าราดน้ำใส่บนคราบ เพราะจะกลายเป็นกดให้คราบยิ่งฝังลึก[5]
- ถูน้ำยาล้างจานที่คราบ. ซอสมะเขือเทศมีน้ำมันผสม เลยต้องใช้น้ำยาล้างจานจะยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่เวลาขจัดคราบ ให้ลงน้ำยาทั่วคราบ แล้วถูเป็นวงกลมจากตรงกลางคราบออกด้านนอก[7]
- ถ้าผ้านั้นต้องซักแห้งอย่างเดียว ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้ ให้เอาไปร้านซักแห้งใกล้บ้าน ปรึกษาเขาว่าคราบลักษณะนี้ เขาจะจัดการให้คุณเอง
- ลงน้ำยาล้างจานที่มุมเล็กๆ ของผ้าจุดไม่เป็นที่สังเกต เพื่อทดสอบก่อนว่าน้ำยาจะทำเส้นใยเสียหายไหม ถ้าเป็นแบบนั้นก็ให้ใช้น้ำยาซักผ้าปกติแทนน้ำยาล้างจาน
- ล้างน้ำให้สะอาด ปราศจากน้ำยาตกค้าง. ให้ราดน้ำจากด้านหลังของคราบ เพื่อดันคราบออกจากเส้นใยผ้า
- ซับ (ห้ามถูหรือขยี้) คราบด้วยฟองน้ำอย่างเบามือ. ใช้ฟองน้ำหรืออะไรที่ซึมซับดี เช่น ทิชชู่ซับมัน มาซับคราบออกด้วยน้ำเย็นเพื่อขจัดคราบจากผิวหน้าของผ้า ถ้าเป็นผ้าขาว ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวสูตรอ่อนๆ น้ำส้มสายชูกลั่นขาว หรือ hydrogen peroxide แล้วซับด้วยฟองน้ำเพื่อให้คราบจางหายไป[8]
- ซักตามปกติ แล้วเช็คว่ายังเหลือคราบไหม. เอาผ้าส่องไฟ ว่ายังเหลือคราบไหม ถ้ายังมีคราบตกค้าง ให้ใช้สเปรย์ เจล หรือแท่งขจัดคราบ ตอนเสื้อยังเปียกๆ ให้ลงน้ำยาแล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีขึ้นไป สุดท้ายซักตามปกติ[9]
- ตากแดดจนแห้ง. เอาผ้าไปตากแดด โดยหันด้านที่เคยมีคราบขึ้น แล้วทิ้งไว้จนแห้งสนิท รังสี UV จะสลายคราบที่เหลือเอง[10]โฆษณา
- ราดน้ำใส่คราบ. วิธีนี้ใช้ขจัดคราบมะเขือเทศแห้งกรังตามเสื้อผ้าหรือผ้าอื่นๆ ไม่ต้องให้เปียกไปทั้งผืนก็ได้ แค่เฉพาะส่วนที่เป็นคราบเท่านั้น
- ลงน้ำยาล้างจานที่คราบ (ไม่ผสมน้ำยาฟอกขาว). ให้ลองทดสอบลงน้ำยาล้างจานที่มุมเล็กๆ ของผ้าดูก่อน ว่าทำผ้าสีตกหรือเส้นใยเสียไหม ถ้าผ่านแล้วค่อยถูวนเบาๆ บริเวณคราบที่เปียก
- ใช้ก้อนน้ำแข็งถูน้ำยาล้างจาน. ใช้ก้อนน้ำแข็งถูน้ำยาล้างจานที่คราบวนไป จนคราบหลุดออกมา
- ซับคราบด้วยฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชู. ถ้ายังเหลือคราบ ให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชู มาซับดูดคราบออกไป กรดของน้ำส้มสายชูจะช่วยสลายคราบที่เหลือได้
- ซักแล้วตากแดดให้แห้ง. ซักผ้าตามวิธีการที่เหมาะกับผ้าชนิดนั้นตามปกติ แล้วตากให้โดนแดดตรงๆ โดยหันคราบขึ้น รังสี UV ในแดดจะสลายคราบที่เหลือเองโฆษณา
เคล็ดลับ
- คุณใช้ผ้าขนหนูสีขาวกับคราบใหม่ได้เลยได้เลย หลังเปิดน้ำไล่คราบแล้ว โดยพับผ้าด้านที่สะอาด แล้วซับคราบ คอยเช็คไปเรื่อยๆ ว่าซับคราบออกแค่ไหนแล้ว ทุกครั้งที่ซับครั้งใหม่ ให้พับด้านสะอาด จนไม่เหลือคราบแล้ว
- ถ้าเป็นไปได้ให้รีบขจัดคราบทันที ยิ่งปล่อยไว้นาน ถึงจะยังทำความสะอาดได้ แต่จะยากกว่าลงมือทันทีเยอะเลย
- เช็คดีๆ ว่าผ้าชนิดนั้นต้องทำความสะอาดยังไง ถ้าต้องซักแห้งอย่างเดียว เอาไปร้านซักรีดจะดีกว่า โดยแจ้งให้เขาทราบว่ามีคราบตรงไหน
คำเตือน
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://video.about.com/laundry/Remove-Tomato-Sauce-Stains.htm
- ↑ http://home.howstuffworks.com/how-to-remove-tomato-juice-and-tomato-sauce-stains.htm
- ↑ https://www.kidspot.com.au/lifestyle/home/home-solutions/how-to-remove-tomato-sauce-stains/news-story/f10d0d0675f0f4cf0e977429d5c980a6
- ↑ http://www.enkivillage.com/how-to-get-tomato-stains-out-of-clothing.html
- ↑ 5.0 5.1 5.2 http://www.doityourself.com/stry/tomatosauce
- ↑ https://www.kidspot.com.au/lifestyle/home/home-solutions/how-to-remove-tomato-sauce-stains/news-story/f10d0d0675f0f4cf0e977429d5c980a6
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-remove-tomato-stains/
- ↑ http://www.cleaninginstitute.org/clean_living/spaghetti_dinner_stains.aspx
- ↑ http://www.cleaninginstitute.org/clean_living/spaghetti_dinner_stains.aspx
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.