เลือกแอปสำหรับแปลงไฟล์รูปเป็น SVG

Vector graphics นั้นถ้าใครเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ต้องรู้จักดี ถ้าเป็นไฟล์รูปแบบ raster จะขยายแล้วภาพแตกหรือผิดสัดส่วนไป ในขณะที่ vector graphics นั้นเนี้ยบกริบในทุกขนาด เหมาะสำหรับเวลาออกแบบโลโก้ ตัดต่อวิดีโอและแอนิเมชั่น ออกแบบกราฟิกของแอป และออกแบบเสื้อยืดเป็นต้น ไฟล์ vector ที่นิยมกันมากที่สุดคือ SVG ซึ่งย่อมาจาก Scalable Vector Graphic มีหลายแอปเลยที่ใช้แปลงไฟล์รูปเป็น SVG ได้ ส่วนจะเลือกแอปไหน ก็แล้วแต่จุดประสงค์ที่จะนำไปใช้งาน ความเชี่ยวชาญของคุณ รวมถึงความแรงของคอม และงบประมาณที่มีด้วย บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำแอปที่นิยมใช้แปลงไฟล์รูปเป็น SVG ให้คุณเอง

Question 1 ของ 6:

Raster กับ Vector Graphics ต่างกันยังไง?

ดาวน์โหลดบทความ

ข้อดีของ raster graphics คือเป็นหนึ่งในไฟล์รูปที่นิยมกันมากที่สุด ไฟล์รูปที่นิยมกันก็มี JPEG, PNG, GIF เป็นต้น เป็นไฟล์รูปที่แชร์กันทั่วไปในเน็ต
เป็นจุดข้อมูลที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นเส้นสายลวดลาย ข้อมูลใน vectors จะเป็นตัวกำหนดความโค้งของเส้น ความหนาของเส้น สีของเส้น ไปจนถึงสีของรูปทรงด้วย ถ้าเป็น Vector graphics จะแก้ไขและปรับแต่งในโปรแกรมออกแบบได้ง่ายกว่า
โฆษณา

Question 2 ของ 6:

แปลงไฟล์รูปเป็น SVG ได้ทุกฟอร์แมตใช่ไหม?

ดาวน์โหลดบทความ

ใช่ แต่ก็ไม่เหมาะกับทุกฟอร์แมตเสมอไป. Vector graphics เหมาะกับรูปเรียบๆ มีสีเด่นๆ ไม่กี่สี ถ้าเป็นรูปที่มีรายละเอียดเยอะๆ หรือสมจริงหน่อย ถึงจะแปลงเป็น vector ได้ ก็ใช้เวลานานมากกว่าจะเสร็จ แถมขนาดไฟล์ยังใหญ่จนใช้งานไม่สะดวก
- Vector graphics เหมาะกับพวกโลโก้ ไอคอน งานออกแบบตัวอักษร (typography) รูปการ์ตูน และออกแบบเสื้อยืด เป็นต้น
- Raster graphics เหมาะกับพวกรูปถ่าย และรูปที่รายละเอียดเยอะๆ

Question 3 ของ 6:

จะแปลงไฟล์รูปเป็น SVG ได้ยังไง?

ดาวน์โหลดบทความ

คุณแปลงไฟล์รูปเป็น SVG ได้ทั้งด้วยตัวเองและใช้โปรแกรม. แอปต่างๆ อย่าง Adobe Illustrator จะ trace รูปแล้วแปลงเป็น vector image โดยอัตโนมัติ หรือจะใช้ tools ต่างๆ ในโปรแกรมออกแบบกราฟิก trace รูปเองด้วย creation tools ก็ได้
- ถ้าใช้โปรแกรม: บางแอปใช้แปลง raster เป็น vector ได้อัตโนมัติ แต่อาจจะออกมาไม่ดีอย่างที่คาด เส้นสายและรายละเอียดอาจจะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ต้องเก็บงานทีหลัง เพราะมักสร้าง vector points เยอะเกินจำเป็น บางทีสีก็เพี้ยนด้วย โดยเฉพาะถ้ารูปต้นฉบับไม่ค่อยชัด (low-resolution)
- ถ้าทำเอง: ถ้าจะแปลงรูปเป็น vector เอง ต้องแปะรูป raster ใน artboard แล้ว trace ด้วย creation tools ในโปรแกรมออกแบบกราฟิก วิธีนี้อาจจะเสียเวลาหน่อย แต่ก็กำหนดเองได้ว่าอยากให้รูปออกมายังไง ก็กะรูปทรงและเส้นโค้งตามที่เห็นได้เลย จะเลือกสีที่ชอบ หรือใช้ effects ต่างๆ อย่าง gradients และ feathering ก็ได้ด้วย
โฆษณา

Question 4 ของ 6:

มีเว็บแปลงไฟล์ SVG แบบมืออาชีพแนะนำไหม?

ดาวน์โหลดบทความ

ในบรรดาโปรแกรมหรือแอปต่างๆ ของ Adobe Creative Cloud แอป Illustrator เป็นแอปที่นักออกแบบกราฟิกมือโปรนิยมใช้กันมากที่สุด เพราะมี art tools หลากหลาย สำหรับสร้าง vector art ด้วยตัวเอง แถมมีฟีเจอร์ Live Trace ไว้แปลง raster เป็น vector อัตโนมัติด้วย แต่ข้อเสียเห็นๆ ของ Adobe Illustrator คือมีค่าใช้บริการรายเดือนนั่นเอง
CorelDRAW เป็นโปรแกรมที่มีมานานพอๆ กับ Adobe Illustrator มี tools มากมายให้เลือกใช้ trace รูปด้วยตัวเอง และมีฟีเจอร์ image trace ใช้ trace รูปอัตโนมัติด้วย CorelDRAW ก็เหมือน Illustrator คือมีค่าบริการรายเดือน แถมข้อเสียคือ CorelDRAW มีให้ใช้กันเฉพาะใน Mac เท่านั้น^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

Question 5 ของ 6:

จะใช้แอปฟรีอะไรแปลงไฟล์รูปเป็น SVG ดี?

ดาวน์โหลดบทความ

Inkscape เป็นแอป vector graphics ฟรีแบบ open-source ใช้ได้ทั้งใน Windows, macOS และ Linux มีฟีเจอร์เด่นอย่าง Trace Bitmap ใช้แปลงรูปเป็น vector graphics อัตโนมัติ ปกติ Inkscape จะเซฟไฟล์เป็น SVG เลย ไม่ต้อง export รูปเป็น SVG ก่อน

Question 6 ของ 6:

จะใช้เว็บไหนแปลงไฟล์รูปเป็น SVG ดี?

ดาวน์โหลดบทความ

1
FreeConvert เป็นเว็บแปลงรูปฟรีที่แนะนำ. เว็บ FreeConvert.com ใช้แปลงรูปเป็น SVG ได้ฟรี ปกติเว็บแปลงรูปส่วนใหญ่จะแปลงรูปเป็นไฟล์ SVG ได้เฉพาะแบบขาวดำเท่านั้น แต่เว็บ FreeConvert.com ใช้แปลงรูปสีเป็นไฟล์ SVG สีได้ โดยที่สีอาจจะมีเพี้ยนๆ ไปบ้างเล็กน้อย
- ลองใช้ FreeConvert ได้ฟรีที่ https://www.freeconvert.com/svg-converter/
VectorMagic แปลงรูปออกมาได้ดีกว่าเว็บอื่นๆ ใช้แปลงรูปสีเป็นไฟล์ SVG สีได้ แต่แน่นอนว่าดีขนาดนี้ VectorMagic เลยไม่ฟรี ต้องเสียค่าบริการรายเดือน ถึงจะใช้เว็บแปลงรูปได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง หรือจะซื้อแอปไว้ใช้ในคอมแบบจ่ายทีเดียวเลยก็ได้
โฆษณา