บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 40,896 ครั้ง
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเปลี่ยนชื่อ Twitter ของคุณ หรือก็คือชื่อที่อยู่หลังเครื่องหมาย "@" นั่นเอง วิธีการนี้ไม่เหมือนกับการเปลี่ยนชื่อที่แสดงใน Twitter เพราะเป็นการเปลี่ยน username หรือชื่อผู้ใช้
ขั้นตอน
- เข้า Twitter. เป็นแอพสีฟ้ามีไอคอนรูปนกสีขาว ถ้าคุณล็อกอิน Twitter ไว้แล้ว พอกดแอพก็จะเป็นการเปิดหน้า Home ขึ้นมา
- แต่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ Twitter ให้แตะ Log in แล้วใส่ username ปัจจุบัน (หรืออีเมล) และรหัสผ่าน จากนั้นแตะ Log in
- แตะ Me. จะเป็นไอคอนรูปคนที่มุมขวาล่างของหน้าจอ
- แตะ ⚙️. จะอยู่แถวด้านบนของหน้าจอ ทางขวาของรูปโปรไฟล์
- แตะ Settings and privacy. ที่ด้านบนของเมนูที่ pop-up
- แตะ Account. แถวด้านบนของหน้าจอ
- แตะ Username. จะเป็นตัวเลือกแรกในหน้านี้
- แตะช่อง "New". ที่ด้านล่างชื่อ Twitter ปัจจุบันของคุณ
- พิมพ์ username ใหม่ลงไป. ระหว่างพิมพ์ Twitter จะเช็คไปพลางๆ ว่า username ของคุณมีใครใช้ไปหรือยัง
- ถ้ามีคนใช้แล้ว ก็ต้องพิมพ์ชื่อใหม่ต่อไป
- แตะ Done. ที่มุมขวาบนของหน้าจอ ถ้า username ใหม่ของคุณมีเครื่องหมายถูกสีเขียวข้างๆ ก็แตะ Done เพื่อเซฟชื่อใหม่ได้เลย
- แตะ Done อีกครั้ง. เพื่อออกจากเมนู settings แล้วกลับไปที่หน้า Twitter ของคุณ ซึ่งคุณจะเห็น username ใหม่ที่ใต้ชื่อที่แสดงของคุณโฆษณา
- เข้า Twitter. เป็นแอพสีฟ้ามีไอคอนรูปนกสีขาว ถ้าคุณล็อกอิน Twitter ไว้แล้ว พอกดแอพก็จะเป็นการเปิดหน้า Home ขึ้นมา
- แต่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ Twitter ให้แตะ Log in แล้วใส่ username ปัจจุบัน (หรืออีเมล) และรหัสผ่าน จากนั้นแตะ Log in
- แตะที่รูปโปรไฟล์. จะอยู่มุมซ้ายบนของหน้าจอ แต่ถ้าคุณไม่เคยใส่รูปโปรไฟล์ ก็จะเป็นรูปไข่บนพื้นหลังสีแทน
- แตะ Settings and privacy. ที่ด้านล่างของเมนูที่เด้งขึ้นมา
- แตะ Account. แถวด้านบนของหน้า
- แตะ Username. ที่ด้านบนของหน้า
- แตะ username ปัจจุบันแล้วลบ. ตัวเลือกนี้จะอยู่ด้านบนของหน้า "Username"
- พิมพ์ username ใหม่ลงไป. เสร็จแล้วจะเห็นเครื่องหมายถูกสีเขียวข้าง username แปลว่าใช้ได้ ไม่ซ้ำกับใคร
- แต่ถ้ามีคนใช้แล้ว username ที่คุณเลือกจะกลายเป็นสีแดง
- แตะ Done. ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ เท่านี้คุณก็เปลี่ยน username เรียบร้อย และจะไปขึ้นทุกที่ที่มี username ของคุณใน Twitterโฆษณา
- เข้าเว็บ Twitter. ถ้าคุณล็อกอิน Twitter ไว้แล้ว ก็จะเป็นการเปิดหน้า Home ขึ้นมา
- แต่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ ให้คลิก Log in ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง แล้วใส่ username (หรืออีเมล) กับรหัสผ่าน จากนั้นคลิก Log in
- คลิกที่รูปโปรไฟล์. ทางด้านขวาบนของหน้าต่าง Twitter อยู่ข้างซ้ายของปุ่ม Tweet พอดิบพอดี
- คลิก Settings and privacy. ที่ด้านล่างของเมนูที่ขยายลงมา
- พิมพ์ username ใหม่ลงไปในช่อง "Username". ที่ด้านบนของหน้า "Accounts" ระหว่างพิมพ์ Twitter จะเช็คไปพลางๆ ว่า username ของคุณมีใครใช้ไปหรือยัง
- ถ้าคุณใช้ username นั้นได้ ไม่ซ้ำกับใคร ที่ด้านบนของช่อง "Username" ก็จะขึ้นว่า "Available!"
- กด ↵ Enter. เพื่อเปิดหน้าต่าง pop-up สำหรับใส่รหัสผ่าน
- พิมพ์รหัสผ่าน Twitter ของคุณ. ในหน้าต่าง pop-up นั้น
- คลิก Save changes. หรือก็คือปุ่มสีฟ้าล่างหน้าต่าง pop-up เพื่อเริ่มใช้งาน username ใหม่โฆษณา
เคล็ดลับ
- username ของคุณต้องยาวไม่เกิน 15 ตัวอักษร
คำเตือน
- ถ้า username ใน Twitter ของคุณละเมิดเงื่อนไขและข้อตกลงการใช้งานของ Twitter ระวังจะถูกบล็อกขึ้นมา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.