ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ในงานวิจัยที่เปลี่ยนโฉมหน้าของวิทยาศาสตร์ชิ้นหนึ่งของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ที่ออกตีพิมพ์ในปี 1905 นั้น เป็นการแนะนำให้โลกได้รู้จักสมการ E=mc2 ที่ซึ่ง E คือพลังงาน, m คือมวล, และ c คือความเร็วแสงในสุญญากาศ [1] นับแต่นั้น E=mc2 ได้กลายเป็นหนึ่งในสมการที่โด่งดังมากที่สุดของโลก แม้กระทั่งคนที่ไม่มีภูมิความรู้ทางฟิสิกส์อย่างน้อยก็ต้องเคยได้ยินสมการนี้และรับรู้ถึงอิทธิพลที่มันส่งผลต่อโลกที่เราอยู่ในทุกวันนี้ได้ อย่างไรก็ดี คนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้ว่ามันหมายถึงอะไร ถ้าพูดง่ายๆ สมการนี้ก็ใช้แทนความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับสสาร: โดยพื้นฐานแล้ว พลังงานกับสสารนั้นถือเป็นรูปแบบที่แตกต่างของสิ่งๆ เดียวกัน [2] สมการที่ดูเรียบง่ายนี้ได้ฉีกวิธีที่เราคิดถึงพลังงานและได้เปิดทางให้เราได้พบความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนับไม่ถ้วน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

ทำความเข้าใจสมการ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เข้าใจความหมายของตัวแปรแต่ละตัวในสมการ.
    ขั้นตอนแรกของการทำความเข้าใจสมการใดๆ อยู่ที่การรู้ว่าตัวแปรแต่ละตัวหมายถึงอะไร ในกรณีนี้ E คือพลังงานของวัตถุตอนหยุดนิ่ง, m คือมวลของวัตถุนั้น และ c คือความเร็วของแสงในสุญญากาศ
    • ความเร็วของแสงหรือ c นั้นเป็นค่าคงที่ในทุกกรอบอ้างอิง และประมาณได้เท่ากับ 3.00x108 เมตรต่อวินาที ในบริบทของทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์นั้น c2 มีหน้าที่เป็นเสมือนแฟกเตอร์ของการใช้แปลงหน่วยมากกว่าจะเป็นค่าคงที่ ดังนั้น มันจึงถูกยกค่ากำลังสองอันเป็นผลมาจากการวิเคราะห์เชิงมิติ พลังงานจะถูกวัดค่าเป็นจูล (joule) หรือ kg m2 s-2, ดังนั้นการเพิ่ม c2 เข้าไปจึงแสดงว่าความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับสสารนั้นมีความสอดคล้องในเชิงมิติอยู่
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เข้าใจว่าพลังงานนั้นหมายถึงอะไร.
    พลังงานนั้นมีหลายรูปแบบเช่น พลังงานความร้อน ไฟฟ้า เคมี นิวเคลียร์ และอื่นๆ อีกมากมาย [3] พลังงานนั้นจะมีการถ่ายโอนระหว่างระบบโดยให้กำลังกับระบบหนึ่งในขณะที่จะดึงกำลังออกมาจากอีกระบบ
    • พลังงานไม่สามารถสร้างหรือทำลายทิ้งได้ มันเพียงแต่จะเปลี่ยนรูปแบบ เช่น ถ่านหินมีพลังงานศักย์มากที่จะเปลี่ยนไปเป็นพลังงานความร้อนเมื่อมันถูกเผาไหม้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เข้าใจว่ามวลหมายถึงอะไร.
    มวลมักถูกนิยามว่าเป็นจำนวนของสสารในวัตถุ [4]
    • ยังมีนิยามอื่นๆ ของมวลอีกสองสามแบบ มี "มวลนิ่ง (invariant mass)" และ "มวลสัมพัทธภาพ (relativistic mass)" มวลนิ่งคือมวลที่จะไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าคุณจะอยู่ในกรอบอ้างอิงใด มวลสัมพัทธภาพนั้นตรงกันข้าม มันจะผันแปรไปตามความเร็วของวัตถุนั้น ในสมการ E = mc2, m หมายถึงมวลนิ่ง ตรงนี้มีความสำคัญ เพราะนั่นหมายความว่ามวลของคุณจะ ไม่ ขยายเมื่อคุณใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น ซึ่งต่างจากความเชื่อโดยทั่วไป
    • เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าใจว่ามวลกับน้ำหนักนั้นแตกต่างกัน น้ำหนักคือแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุ ในขณะที่มวลคือปริมาณของสสารในวัตถุนั้น มวลจะเปลี่ยนได้ก็ต่อเมื่อวัตถุนั้นมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ในขณะที่น้ำหนักสามารถเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับแรงโน้มถ่วงของสภาพแวดล้อมที่วัตถุนั้นอาศัยอยู่ มวลจะวัดเป็นกิโลกรัม (kg) ในขณะที่น้ำหนักจะวัดเป็นนิวตัน (N)
    • ก็เหมือนกับพลังงาน มวลไม่สามารถสร้างหรือทำลายทิ้งได้ แต่มันสามารถเปลี่ยนรูปแบบ เช่น ก้อนน้ำแข็งสามารถละลายเป็นน้ำ แต่ยังคงมีมวลเท่ากันทั้งสองสถานะ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ตระหนักว่ามวลและพลังงานนั้นมีความเท่ากัน.
    [5] สมการระบุไว้ว่ามวลกับพลังงานนั้นคืออย่างเดียวกัน และบอกคุณว่ามีพลังงานจำนวนแค่ไหนถูกกักเก็บอยู่ภายในปริมาณของมวลเท่าใด หลักๆ ก็คือสมการอธิบายว่ามวลปริมาณเล็กน้อยสามารถกักเก็บพลังงานจำนวนมหาศาลได้ [6]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ประยุกต์สมการในโลกแห่งความเป็นจริง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เข้าใจว่าพลังงานที่นำมาใช้ได้นี้มาจากไหน.
    พลังงานที่เรานำมาใช้ส่วนใหญ่จะมาจากการเผาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ การเผาสารเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากเวเลนซ์อิเล็กตรอน (อิเล็กตรอนที่อยู่ในวงโคจรชั้นนอกสุดของอะตอมที่ยังไม่มีการสร้างพันธะเคมี) และพันธะที่พวกมันทำกับธาตุอื่นๆ เมื่อมีการเติมความร้อนเข้าไป พันธะเหล่านี้จะแตกสลายปลดปล่อยพลังงานออกมาทำให้เราได้ใช้ในชุมชน
    • การได้พลังงานมาในรูปแบบนี้ถือว่าไม่มีประสิทธิภาพนักและส่งผลใหญ่หลวงต่อสภาพแวดล้อม
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ประยุกต์สมการของไอน์สไตน์เพื่อทำให้การแปลงพลังงานทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น....
    ประยุกต์สมการของไอน์สไตน์เพื่อทำให้การแปลงพลังงานทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น. E=mc2 บอกเราว่ามันยังมีพลังงานมากมายเก็บกักไว้ภายในนิวเคลียสของอะตอมมากกว่าในเวเลนซ์อิเล็กตรอนของมันเสียอีก [7] พลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากการแตกอะตอมนั้นสูงกว่าที่แตกออกจากพันธะอิเล็กตรอนมาก
    • พลังงานนิวเคลียร์ก็อาศัยหลักการข้อนี้นี่เอง ปฏิกิริยานิวเคลียร์ทำให้เกิดการฟิชชัน (การแตกตัวของอะตอม) และปลดปล่อยพลังงานจำนวนมหาศาลออกมา
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ค้นพบเทคโนโลยีที่เป็นจริงได้ด้วยสมการ E=mc2.
    E=mc2 ได้ก่อให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ และน่าตื่นเต้นมากมายตามมา บางอย่างนั้นเราแทบนึกไม่ออกเลยว่าจะใช้ชีวิตโดยปราศจากมันได้อย่างไร:[8]
    • PET scan ที่ใช้รังสีในการมองทะลุเข้าไปภายในของร่างกาย
    • สมการนี้ทำให้เกิดการพัฒนาในระบบสื่อสารโทรคมนาคมผ่านทางดาวเทียม
    • การหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี (Radiocarbon dating) ใช้การลดลงของกัมมันตรังสีโดยอาศัยสมการนี้เพื่อค้นหาอายุความเก่าแก่ของวัตถุโบราณ
    • พลังงานนิวเคลียร์ที่ให้แหล่งพลังงานที่สะอาดกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าแก่สังคม
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Grace Imson, MA
ร่วมเขียน โดย:
ครูคณิตศาสตร์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Grace Imson, MA. เกรซ อิมสันเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปี ปัจจุบันเธอสอนคณิตศาสตร์ที่ City College of San Francisco และเคยอยู่แผนกคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ เธอสอนมาทั้งระดับประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย เธอได้รับปริญญาโทด้านครุศาสตร์ที่เน้นด้านการบริหารจัดการจากมหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ บทความนี้ถูกเข้าชม 122,116 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 122,116 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา