ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ใครก็ตามที่มีเรื่องเล่าย่อมเขียนหนังสือได้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนเพื่อความเพลิดเพลินส่วนตัวหรือตีพิมพ์เพื่อให้ทุกคนได้อ่านก็ตาม แต่ส่วนที่ยากที่สุดมักเป็นการเริ่มเขียน เพราะฉะนั้นคุณจึงควรจัดสรรพื้นที่สำหรับการทำงานให้ดี กำหนดตารางการเขียนที่สม่ำเสมอ และกระตือรือร้นที่จะเขียนทุกวัน ให้ความสำคัญกับการขยาย “ไอเดียใหญ่ๆ” ที่ดำเนินเรื่องเล่า รวมถึงตัวละครที่ลืมไม่ลงอย่างน้อยหนึ่งตัวและปมขัดแย้งที่สมจริง เมื่อคุณเขียนและแก้ไขต้นฉบับแล้ว คุณก็อาจพิจารณาช่องทางการตีพิมพ์เพื่อให้ผลงานของคุณไปสู่มือผู้อ่าน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

มุ่งมั่นและทำให้สำเร็จ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เข้าใจว่าทำไมคุณถึงเขียนหนังสือ.
    ก่อนเริ่มเขียนหรือเอาแต่คิดถึงหนังสือของตัวเอง ตอบตัวเองตรงๆ ว่าทำไมคุณถึงเขียน คุณหวังจะรวยและมีชื่อเสียงหรือเปล่า การเขียนหนังสือจำเป็นต่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานหรือไม่ คุณฝันที่จะได้เห็นชื่อตัวเองบนปกหนังสือ หรือคุณแค่มีเรื่องเล่าเจ๋งๆ ที่อยากเล่าให้โลกใบนี้ฟัง[1]
    • การเขียนหนังสือเป็นทั้งอาชีพและงานอดิเรก หมายความว่ามันเป็นทั้งงานและความหลงใหล ค้นหาว่าทำไมคุณจึงต้องเขียน และเพราะอะไรคุณถึงอยากเขียน
    • ตั้งเป้าหมายไม่ว่าจะข้อเดียวหรือหลายข้อไว้เป็นแรงบันดาลใจ แต่จำไว้ว่าต้องตั้งเป้าหมายบนพื้นฐานความจริง คุณอาจจะไม่ได้เป็นเจ.เค. โรว์ลิงคนต่อไปตั้งแต่นิยามเล่มแรกหรอก
  2. How.com.vn ไท: Step 2 จัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะกับตัวเอง.
    พื้นที่ทำงานในอุดมคติที่เหมาะกับนักเขียนทุกคนนั้นไม่มีอยู่จริง เพราะบางคนก็ชอบเขียนหนังสือบนโต๊ะทำงานเงียบๆ ในห้องคนเดียว แต่บางคนก็ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุดท่ามกลางเสียงบรรยากาศในร้านกาแฟ แต่นักเขียนส่วนใหญ่มักจะทำงานได้ดีที่สุดในที่ที่แทบไม่มีสิ่งรบกวนและสามารถหยิบอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ต่างๆ ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้คุณก็ต้องดูด้วยว่าสถานที่ที่คุณเลือกนั้นเหมาะกับสื่อที่ใช้ในการเขียน ถ้าคุณชอบเขียนบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คุณก็ต้องมีโต๊ะทำงานและจุดเสียบปลั๊กอยู่ใกล้ๆ![2]
    • แม้ว่าการย้ายจากคาเฟ่ไปที่ม้านั่งในสวนสาธารณะ จากนั้นก็ย้ายไปเขียนต่อที่ห้องสมุดอาจเหมาะกับคุณ แต่คุณก็อาจจะกำหนดพื้นที่ที่คุณจะใช้เขียนหนังสือเป็นประจำและใช้สำหรับเขียนหนังสือเท่านั้นขึ้นมาด้วย
    • จัดพื้นที่สำหรับเขียนเพื่อให้คุณมีอุปกรณ์หรือข้อมูลอ้างอิงที่คุณต้องใช้ใกล้มือ วิธีนี้ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียสมาธิไปกับการหาปากกา ตลับหมึก หรืออรรถาภิธาน
    • เลือกเก้าอี้ที่แข็งแรงและนั่งสบาย เพราะคุณจะเสียสมาธิได้ง่ายถ้าปวดหลัง!
  3. How.com.vn ไท: Step 3 กำหนดเวลาเขียนหนังสือไว้ในกิจวัตรประจำวัน.
    เรามักจะพูดกันว่าคนเราจะเขียนงานได้ก็ต่อเมื่อเกิดแรงบันดาลใจ เพราะฉะนั้นคุณก็แค่เตรียมตัวให้พร้อมที่จะหยุดทุกอย่างและลงมือเขียนเมื่อมีประกายความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นในตัว แต่ถ้าใช้วิธีนี้ละก็รับรองว่าเขียนไม่เสร็จแน่ เพราะฉะนั้นลองกำหนดเวลาเขียนที่เจาะจงลงในตารางประจำวันจะดีกว่า[3]
    • นักเขียนทั่วไปควรแบ่งเวลาประมาณ 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมงสำหรับเขียนงานอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรเขียนทุกวัน
    • กำหนดช่วงเวลาที่คุณมักจะตื่นตัวและทำงานลื่นไหลมากที่สุด เช่น ตอน 10.30-11.45 น. ทุกวัน
    • การกำหนดช่วงเวลาสำหรับเขียนอาจทำให้คุณต้องตัดอย่างอื่นออกไปจากชีวิต คุณต้องคิดดูเอาเองว่ามันคุ้มค่าหรือเปล่า
  4. How.com.vn ไท: Step 4 กำหนดเป้าหมายการเขียนประจำวันและประจำสัปดาห์....
    กำหนดเป้าหมายการเขียนประจำวันและประจำสัปดาห์. แทนที่จะหวังให้ตัวเองจะเขียนได้ครั้งละ 10 หน้าในช่วงเวลาที่ความคิดสร้างสรรค์พลุ่งพล่านแต่ว่าจะมาตอนไหนไม่รู้ ลองตั้งเป้าหมายว่าจะเขียนให้ได้วันละ 1 หน้า กำหนดเป้าหมายจากความเร็วในการเขียนและกำหนดส่ง และพยายามอย่าปรับเปลี่ยนหลังจากตั้งเป้าหมายไปแล้ว[4]
    • เช่น ถ้าคุณกำหนดเวลาให้ตัวเองว่าจะต้องเขียนร่างนิยายฉบับแรกจำนวน 100,000 คำให้เสร็จภายใน 1 ปี คุณก็ต้องเขียนวันละ 300 คำ (ประมาณ 1 หน้าคอมพิวเตอร์)
    • หรือถ้าคุณต้องส่งร่างดุษฎีนิพนธ์ประมาณ 350 หน้าภายใน 1 ปี คุณก็ต้องเขียนวันละประมาณ 1 หน้าเช่นเดียวกัน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เขียนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการแก้ไข.
    ขั้นตอนนี้เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของการเขียนตามตารางที่กำหนด คือตอนนี้แค่เขียนลงไป แล้วค่อยไปดูอีกทีว่ามันดีไหมหรือว่าต้องแก้ไขอย่างไรในภายหลัง ในการเขียนหนังสือให้จบนั้น คุณต้องท่องไว้ “เขียนเร็ว แต่ค่อยๆ แก้”[5]
    • เวลาที่ใช้ในการแก้งานน่าจะพอๆ กับเวลาที่ใช้ในการเขียนครั้งแรกเป็นอย่างน้อย เพราะฉะนั้นค่อยกังวลเรื่องแก้งานทีหลัง ตอนนี้เอาเป็นว่าแค่เขียนอะไรลงไปสักอย่างให้มีแก้ อย่าเพิ่งกังวลว่าจะสะกดคำผิด!
    • ถ้าคุณอดแก้งานระหว่างเขียนไม่ได้จริงๆ ให้แบ่งเวลาในช่วงท้ายของการเขียนไว้สำหรับแก้งานเล็กน้อย เช่น ถ้าคุณกำหนดเวลาเขียนงานไว้ 90 นาที ช่วง 15 นาทีสุดท้ายคุณก็อาจจะแก้งานของวันนั้นนิดๆ หน่อยๆ
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ขอคำติชมตั้งแต่เนิ่นๆ และบ่อยๆ.
    อย่ารอจนกระทั่งเขียนร่างหนังสือจบทั้งเล่มแล้วค่อยเอาไปให้คนอื่นอ่าน ขอให้คนที่คุณไว้ใจช่วยตรวจทานแต่ละบทอย่างละเอียดและติชม “ภาพรวม” เป็นหลัก ซึ่งก็คือความคิดทั่วไป ความชัดเจน และคุณภาพของงานเขียน แต่ไม่ได้เป็นการแก้ไขสไตล์และไวยากรณ์อย่างละเอียด[6]
    • คุณอาจจะทำงานร่วมกับบรรณาธิการ มีคณะกรรมการที่คุณสามารถส่งร่างสักบทให้อ่าน หรือมีกลุ่มเพื่อนนักเขียนที่คุณสามารถผลัดกันติชมงานที่กำลังเขียนให้กันได้ ขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ของคุณเป็นอย่างไร หรือไม่อย่างนั้นคุณจะให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวอ่านก็ได้
    • คุณจะเจอคำติชมและการแก้ไขงานหลายรอบกว่าจะได้ตีพิมพ์หนังสือ อย่าเพิ่งท้อ ทั้งหมดนี้คือกระบวนการของการเขียนหนังสือให้ออกมาดีที่สุด!
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

สร้างสรรค์เรื่องราวที่ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เริ่มจากไอเดียใหญ่ๆ ที่ดึงดูดใจ.
    แน่นอนว่าขั้นตอนนี้พูดง่ายกว่าทำ แต่มันสำคัญต่อการเขียนหนังสือให้ดี ไม่ว่าคุณจะเขียนงานบันเทิงคดีหรือสารคดี คุณจะต้องมีแนวคิดที่สามารถตรึงความหลงใหลของคุณเอาไว้ได้ตลอดกระบวนการเขียนและการแก้ไขที่แสนยาวนาน และยังต้องดึงดูดใจผู้อ่านด้วย[7]
    • เริ่มจาก “ภาพใหญ่” ก่อน แล้วค่อยกังวลเรื่องการเพิ่มเติมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทีหลัง
    • ระดมความคิดเกี่ยวกับแก่นเรื่อง เรื่องราว หรือไอเดียที่คุณสนใจ จดลงไป คิดกลับไปกลับมาสักพัก และค้นหาว่าตัวเลือกไหนที่ใช่ที่สุด
    • เช่น “จะเป็นยังไงถ้าผู้ชายคนหนึ่งเดินทางไปยังเกาะที่มีแต่คนตัวจิ๋วและเขากลายเป็นยักษ์ จากนั้นก็เดินทางไปอีกเกาะที่มีแต่ยักษ์และเขากลายเป็นคนตัวจิ๋ว”
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ค้นข้อมูลเกี่ยวกับไอเดียใหญ่ๆ เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญ....
    ค้นข้อมูลเกี่ยวกับไอเดียใหญ่ๆ เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญ. ถ้าคุณเขียนหนังสือสารคดี แน่นอนว่าคุณจะต้องค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อที่จะเขียนอย่างลึกซึ้งเพื่อให้ผลงานออกมาดี หรือแม้แต่งานบันเทิงคดีเองก็ยังต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงประมาณนึง[8]
    • เช่น เรื่องราวผจญภัยวิทยาศาสตร์ที่มีฉากอยู่ในอวกาศจะน่าเชื่อถือก็ต่อเมื่อเทคโนโลยีที่ยกมาตรงกับความจริงอยู่บ้าง
    • หรือถ้าคุณเขียนหนังสือชีวิตแนวอาชญากรรม คุณอาจจะต้องค้นข้อมูลวิธีที่ตำรวจมักใช้ในการสืบสวนคดีอาชญากรรมประเภทที่คุณเขียน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แบ่งไอเดียใหญ่ๆ ออกเป็นงานย่อยๆ ที่จัดการง่ายขึ้น....
    แบ่งไอเดียใหญ่ๆ ออกเป็นงานย่อยๆ ที่จัดการง่ายขึ้น. ถ้าสิ่งสำคัญในแต่ละวันคือการเขียนเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองอเมริกาหรือเรื่องราวสุดแฟนตาซีใน “มิดเดิลเอิร์ธ” ความใหญ่โตมโหฬารของงานอาจทำให้คุณเขียนไม่ออก เพราะฉะนั้นให้แบ่งแนวคิดใหญ่ๆ ออกเป็นองค์ประกอบเล็กๆ ที่คุณรู้สึกว่าสามารถจัดการได้ง่ายกว่า[9]
    • เช่น แทนที่จะตื่นมาแล้วคิดว่า “ฉันต้องเขียนเรื่องสงครามกลางเมือง” คุณอาจจะบอกว่า “วันนี้ฉันจะเขียนเรื่องกลยุทธ์ทางทหารของนายพลแกรนต์”
    • “งานย่อยๆ ที่จัดการได้” เหล่านี้สุดท้ายอาจกลายเป็นบทนึงในหนังสือก็ได้ แต่ก็อาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ
    How.com.vn ไท: Lucy V. Hay

    Lucy V. Hay

    นักเขียน นักเขียนบทและนักปรับแก้บท
    ลูซี่ วี. เฮย์เป็นนักเขียน นักเขียนบทและนักเขียนบล็อกที่ช่วยเพื่อนนักเขียนโดยการจัดเวิร์กช็อป เปิดคอร์สสอนและบล็อก Bang2Write ลูซี่เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์แนวระทึกขวัญของอังกฤษสองเรื่องและยังเป็นผู้ดูแลปรับแก้บทภาพยนตร์มากมาย เธอเป็นผู้เขียนหนังสือ 'Writing & Selling Thriller Screenplays' ให้ซีรี่ส์หนังสือ Creative Essentials ของสำนักพิมพ์ Kamera Books และตามมาด้วยหนังสือภาคต่อเรื่อง 'Drama Screenplays' และ 'Diverse Characters' นวนิยายแนวอาชญากรรมเล่มแรกของเธอที่ชื่อ 'The Other Twin' กำลังจะถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์โดยทีมผู้สร้างที่เคยเข้าชิงรางวัลเอ็มมี่จากเรื่อง 'Agatha Raisin' ที่ออกอากาศทาง Free@Last TV
    How.com.vn ไท: Lucy V. Hay
    Lucy V. Hay
    นักเขียน นักเขียนบทและนักปรับแก้บท

    วิเคราะห์การแตกประเด็นพล็อตภาพยนตร์เพื่อให้เข้าใจโครงสร้างเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จโดยทั่วไป มีแหล่งข้อมูลดีๆ มากมาย เช่น Script Lab หรือ TV Tropes ที่คุณจะได้อ่านการแตกประเด็นพล็อตของภาพยนตร์ดังมากมาย อ่านเรื่องย่อและดูหนัง จากนั้นลองคิดดูว่าคุณจะลองเขียนเค้าโครงแบบเดียวกับภาพยนตร์ที่คุณชอบมากๆ ได้อย่างไร

  4. How.com.vn ไท: Step 4 สร้างตัวละครที่ลืมไม่ลงอย่างน้อยหนึ่งตัว....
    สร้างตัวละครที่ลืมไม่ลงอย่างน้อยหนึ่งตัว. ขั้นตอนนี้เป็นอีกกระบวนการหนึ่งในการเขียนที่ “พูดง่ายกว่าทำ” พยายามสร้างตัวละครอย่างน้อยหนึ่งตัวที่มีความซับซ้อนและมีมิติ ไม่ใช่ตัวละครที่เป็น “พระเอก” หรือ “ตัวร้าย” ที่เรียบแบน คุณต้องทำให้คนอ่านสามารถเชื่อมโยงกับตัวละครได้และอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา[10]
    • ลองนึกถึงตัวละครจากหนังสือที่คุณชอบมากๆ เขียนบุคลิกลักษณะของตัวละครเหล่านั้นลงไปและใช้ข้อมูลเหล่านี้สร้างตัวละครใหม่ของตัวเองขึ้นมา
    • ถ้าคุณเขียนบันเทิงคดี ให้เจาะลึกลงไปที่ความซับซ้อนและความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์ของบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงที่คุณกำลังเขียนถึง ทำให้คนเหล่านั้นมีชีวิตจิตใจในความรู้สึกของคนอ่าน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ขยายปมขัดแย้งและความตึงเครียดในเรื่องเล่า.
    เกริ่นถึงความท้าทายและอุปสรรคตั้งแต่หน้าแรกๆ และนำพาตัวละครสู่การต่อสู้ดิ้นรน ชัยชนะ และความพ่ายแพ้ ปมขัดแย้งและความตึงเครียดอาจมาจากภายนอก (เช่น ศัตรูจอมเจ้าเล่ห์) และภายใน (ปีศาจร้ายในตัวละครหลักที่เกิดจากโศกนาฏกรรมในอดีต) เอาให้คนอ่านวางไม่ลงเลย![11]
    • เช่น ความหมกมุ่นของกัปตันอาฮับที่มีต่อวาฬสีขาวที่เป็นปมขัดแย้งหลักในเรื่อง โมบิดิก นั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปมขัดแย้งภายนอกและภายในอื่นๆ อีกมากมาย
    • อย่าด้อยค่าปมขัดแย้งและความตึงเครียดในงานเขียนสารดคี เพราะมันช่วยให้คุณวางรากฐานงานเขียนบนความเป็นจริงได้
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ดูให้ดีว่าทุกอย่างที่ใส่ลงไปมีผลต่อการดำเนินเรื่อง....
    ดูให้ดีว่าทุกอย่างที่ใส่ลงไปมีผลต่อการดำเนินเรื่อง. การนึกถึงข้อนี้ไว้ระหว่างเขียนร่างฉบับแรกนั้นเป็นความคิดที่ดี แต่ขั้นตอนนี้สำคัญมากในระหว่างที่คุณตรวจแก้หนังสือ คุณต้องดูให้ดีว่าทุกบท ทุกหน้า ทุกประโยค และแม้แต่ทุกคำนั้นมีจุดมุ่งหมายคือเพื่อดำเนินเรื่องต่อไปข้างหน้า แต่ถ้าไม่ใช่ ให้หาวิธีแก้ไขหรือไม่ก็ปรับแก้งานเขียนให้ดีขึ้น[12]
    • เป้าหมายคือคุณต้องไม่ให้คนอ่านอยากวางหนังสือลงเด็ดขาด ดึงดูดความสนใจของพวกเขาไว้ให้เปิดหน้าต่อไปเรื่อยๆ!
    • แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถเขียนประโยคยาวๆ บทพรรณนา หรือแม้แต่สิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับโครงเรื่องหลักได้เลย เพียงแต่คุณต้องแน่ใจว่าองค์ประกอบเหล่านี้ส่งผลต่อเรื่องราวในภาพใหญ่
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ตีพิมพ์หนังสือ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ตรวจแก้...
    ตรวจแก้ หนังสือไปเรื่อยๆ แต่อย่าเอามาเป็นข้ออ้างที่จะไม่ส่งผลงาน. พูดอีกอย่างก็คือตั้งเป้าหมายที่จะเผยแพร่หนังสือให้คนได้อ่าน และอย่าใช้คำพูดว่า “มันยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่” เป็นข้ออ้างตลอดกาล การปรับปรุง ขัดเกลา และตรวจแก้นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเขียนหนังสือดีๆ สักเล่ม แต่พอถึงจุดนึงคุณก็ต้องกล้าพอที่จะตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ออกมา[13]
    • การพยายามทำให้หนังสือได้รับการตีพิมพ์นั้นอาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนตัวเองไม่สามารถควบคุมต้นฉบับได้มากเท่าไหร่แม้ว่าคุณจะใช้เวลาเขียนงานและปรับแก้มากมายก็ตาม บอกตัวเองเสมอว่าควรมีคนได้เห็นและอ่านหนังสือของคุณ!
    • ถ้าจำเป็นให้กำหนดวันส่งงานให้ตัวเอง “ฉันจะส่งงานนี้ให้สำนักพิมพ์ภายในวันที่ 15 มกราคม เป็นไงเป็นกัน!”
  2. How.com.vn ไท: Step 2 จ้างตัวแทนนักเขียนหากคุณต้องการตีพิมพ์ผลงานด้วยวิธีดั้งเดิม....
    จ้างตัวแทนนักเขียนหากคุณต้องการตีพิมพ์ผลงานด้วยวิธีดั้งเดิม. คุณจะส่งต้นฉบับไปที่สำนักพิมพ์เองเลยก็ได้ แต่การทำงานร่วมกับตัวแทนนักเขียนจะช่วยเพิ่มโอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จ พวกเขามีประสบการณ์และเครือข่ายในวงการมากมายที่จะทำให้คุณมีโอกาสเจอสำนักพิมพ์ที่เหมาะสมมากกว่า ถ้าคุณไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งที่สำนักพิมพ์เฟื่องฟู วิธีที่ดีที่สุดก็คือค้นหาตัวแทนนักเขียนทางออนไลน์[14]
    • ประเมินว่าที่ตัวแทนและค้นหาตัวแทนที่เหมาะกับต้นฉบับของคุณมากที่สุด ถ้าคุณรู้จักนักเขียนที่มีผลงานตีพิมพ์ ให้สอบถามเคล็ดลับและข้อมูลเกี่ยวกับตัวแทนนักเขียน
    • โดยทั่วไปคุณจะต้องส่งบทคัดย่อหรือต้นฉบับทั้งหมดให้ตัวแทนนักเขียนก่อน จากนั้นเขาก็จะตัดสินใจว่าจะรับคุณเป็นลูกค้าหรือเปล่า และคุณต้องเข้าใจแนวทางในการส่งผลงานก่อนเริ่มกระบวนการ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ค้นหาช่องทางการตีพิมพ์หนังสือด้วยตัวเองหากวิธีการดั้งเดิมไม่เหมาะนัก....
    ค้นหาช่องทางการตีพิมพ์หนังสือด้วยตัวเองหากวิธีการดั้งเดิมไม่เหมาะนัก. ถ้ากลุ่มเป้าหมายของหนังสือมีขนาดเล็กเพราะตัวประเด็นของหนังสือ คุณก็อาจจะหาสำนักพิมพ์ตีพิมพ์หนังสือของคุณได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นนักเขียนหน้าใหม่ แต่โชคดีที่คุณก็มีทางเลือกในการตีพิมพ์หนังสือด้วยตัวเอง
    • คุณสามารถตีพิมพ์หนังสือได้ด้วยตัวเอง ซึ่งอาจช่วยประหยัดเงินแต่ว่าเสียเวลามาก คุณจะต้องรับผิดชอบทุกอย่างเองตั้งแต่การขอลิขสิทธิ์ ออกแบบปก ไปจนถึงการพิมพ์หนังสือจริงเป็นเล่ม
    • คุณจะตีพิมพ์กับโรงพิมพ์เองก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วค่าใช้จ่ายสำหรับการตีพิมพ์หนังสือนั้นจะมากกว่าเงินที่คุณได้จากการขายหนังสือเสียอีก
    • การเผยแพร่หนังสือด้วยตัวเองผ่านอีบุ๊กอาจเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ เพราะมีต้นทุนในการเผยแพร่ต่ำและหนังสือของคุณก็ได้ออกสู่สายตาผู้อ่านมากมายทันที ประเมินสำนักพิมพ์อีบุ๊กให้รอบคอบก่อนเลือกสำนักพิมพ์ที่เหมาะกับคุณ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • วางสมุดกับปากกาไว้ข้างเตียงและเขียนบันทึกความฝัน ความฝันของคุณอาจกลายเป็นแรงบันดาลใจหรือเรื่องราวให้คุณนำไปเขียนก็ได้ ใครจะไปรู้!
  • ถ้าคุณจะใส่ข้อเท็จจริงลงในเรื่อง ต้องค้นคว้าข้อมูลก่อน
  • ขอเคล็ดลับจากนักเขียนคนอื่นๆ และจดลงไป
  • บางครั้งคุณก็อาจจะรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองเขียนลงไปมันปัญญาอ่านมากจนคุณอยากเลิกเขียน อย่าเลิก วางทิ้งไว้ก่อนสัก 2-3 วัน (หรือ 2-3 สัปดาห์) แล้วลองเขียนใหม่
  • บางครั้งสิ่งที่คุณควรทำก็คือแค่เริ่มเขียน และในที่สุดเรื่องราวก็จะผุดขึ้นมาในหัวเอง
  • จำไว้ว่าอย่าลอกใคร!
  • ค้นหาช่วงเวลาที่คุณสามารถทำงานได้มากที่สุด และกำหนดช่วงเวลานั้นให้เป็นเวลาเขียนงาน
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าขโมยความคิดคนอื่น (ลอกผลงานของนักเขียนคนอื่น) เพราะถึงคุณจะคัดลอกได้แนบเนียนสักแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็จะมีคนแกะรายละเอียดและปะติดปะต่อส่วนที่คัดลอกมาทั้งหมดได้อยู่ดี
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Grant Faulkner, MA
ร่วมเขียน โดย:
ผู้เขียน Pep Talks for Writers
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Grant Faulkner, MA. แกรนต์ ฟอล์คเนอร์เป็นผู้อำนวยการของ National Novel Writing Month (NaNoWriMo) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งนิตยสารวรรณกรรม 100 Word Story แกรนต์ตีพิมพ์หนังสือด้านการเขียนมาสองเล่มและมีผลงานลงใน New York Times กับ Writer’s Digest เขาร่วมจัดรายการพอดคาสต์รายสัปดาห์ Write-minded เกี่ยวกับการเขียนและการพิมพ์ โดยจบปริญญาตรีด้านการเขียนจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐซานฟรานซิสโก บทความนี้ถูกเข้าชม 22,502 ครั้ง
หมวดหมู่: การเขียน
มีการเข้าถึงหน้านี้ 22,502 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา