วิธีการ สแกนแล้วลบ Keylogger

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

เตรียมคอมก่อนสแกน

สแกนหา Keylogger

ลบ Keylogger

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

keylogger ก็คือโปรแกรมหรือมัลแวร์ชนิดหนึ่งที่ติดตั้งลงคอมแล้วจะ log หรือบันทึกทุกอย่างที่คุณพิมพ์ บางคนก็ใช้ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ แต่ส่วนใหญ่พวกอาชญากรออนไลน์จะใช้เก็บรหัสผ่านและข้อมูลส่วนตัวของคุณ คอมใครที่มี keylogger ก็มักจะอืดจนทำอะไรแทบไม่ได้ด้วย บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการสแกนหาแล้วลบ keylogger ในคอมให้คุณเอง

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

เตรียมคอมก่อนสแกน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   อัพเดทระบบปฏิบัติการและโปรแกรมต่างๆ. ถ้าโปรแกรมตกรุ่น จะเสี่ยงมีช่องโหว่ให้มัลแวร์หรือไวรัสต่างๆ เข้ามาแฝงตัวในคอมได้ง่ายๆ

   • ถ้าเป็นคอมส่วนกลาง ต้องเตือนให้ทุกคนที่ใช้คอม ระวังอย่าไปคลิกสุ่มสี่สุ่มห้าตอนท่องเน็ต โดยเฉพาะพวก pop-up และอย่าเผลอดาวน์โหลดโปรแกรมหรือไฟล์ฟรีที่ไม่รู้ที่มา
2. 
   2
   ปรับ security settings ของเบราว์เซอร์. ขั้นตอนการปรับแต่งเบราว์เซอร์ จะต่างกันไปตามเบราว์เซอร์ที่ใช้ ให้เปิดเมนู Settings ในเบราว์เซอร์ แล้วค้นหา Privacy และ/หรือ Security settings จากนั้นปิดการใช้งาน plug-in ที่ไม่จำเป็น ตามด้วยบล็อกเว็บอันตราย แล้วล้างประวัติการท่องเว็บของเบราว์เซอร์ สุดท้ายลบคุกกี้ที่คอยติดตามข้อมูลส่วนตัว
3. 
   3
   ติดตั้งโปรแกรม antivirus ที่น่าเชื่อถือในคอม. ติดตั้งทั้งโปรแกรม anti-malware และ antivirus เลย โปรแกรมที่ฟรีแต่ดีก็เช่น Malwarebytes (กำจัดมัลแวร์) และ Avast หรือ Panda (กำจัดไวรัส) ที่สำคัญคือต้องหมั่นอัพเดทโปรแกรมอยู่เสมอ
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

สแกนหา Keylogger

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เปิด Task Manager. ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อเปิด Task Manager

   • คลิกขวาที่ taskbar ทางด้านล่างของหน้า
   • คลิก Task Manager ในเมนู pop-up
2. 
   2
   คลิก More Details. มุมซ้ายล่างของ Task Manager เพื่อดูรายชื่อ processes ทั้งหมดที่ทำงานอยู่ในคอม รวมถึงโปรแกรมต่างๆ ที่เปิดไว้ และ processes ที่ทำงานอยู่ในเบื้องหลัง
3. 
   3
   หา processes น่าสงสัย. ปกติ processes น่าสงสัยจะทำงานอยู่ในเบื้องหลัง ให้หาโปรแกรมที่ไม่คุ้นเคย

   • ถ้าไม่แน่ใจว่า process นั้นคืออะไร ให้คลิกขวาที่ชื่อ แล้วคลิก Search online เพื่อค้นโปรแกรมหรือ process นั้นใน Google
   • ถ้าเจอ process ที่จะปิดการทำงานแล้ว ให้คลิก process นั้นแล้วคลิก End task มุมขวาล่าง
4. 
   4
   คลิก tab Startup. ด้านบนของ Task Manager แล้วจะเห็นรายชื่อโปรแกรมที่จะเปิดขึ้นมาพร้อมคอม
5. 
   5
   หาโปรแกรมน่าสงสัย. มองหาตามรายชื่อโปรแกรม startup จนเจอโปรแกรมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

   • ถ้าไม่แน่ใจว่าโปรแกรมนั้นคืออะไร ให้คลิกขวาที่โปรแกรม แล้วคลิก Search Online เพื่อค้นหาโปรแกรมนั้นใน Google
   • ถ้าเจอโปรแกรมที่จะปิดการทำงานแล้ว ให้คลิกโปรแกรม แล้วคลิก Disable มุมขวาล่าง
6. 
   6
   สแกนไวรัสและมัลแวร์. keylogger ส่วนใหญ่ จะค้นหาด้วย msconfig และ Task Manager ไม่เจอ บางทีก็แฝงตัวเป็นโปรแกรมปกติที่ปลอดภัยซะงั้น ให้ใช้โปรแกรม anti-malware ดังๆ ที่น่าเชื่อถือ มาสแกนหาไวรัสและมัลแวร์ในคอม
7. 
   7
   เช็คคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ. ถ้าใช้คอม desktop ก็อาจจะมี hardware keylogger ได้ ให้เช็คว่าเสียบสายคีย์บอร์ดตรงไหนของเคสคอม ถ้ามีอุปกรณ์บางอย่างกั้นระหว่างสายคีย์บอร์ดกับเคสคอม เป็นไปได้ว่านั่นคือ hardware keylogger

   • ต้องเช็คให้ดีๆ เพราะบางทีก็เป็นอุปกรณ์หรือหม้อแปลงทั่วไป แต่ถ้าเจออุปกรณ์แปลกๆ ที่ไม่เคยเสียบไว้กับคอม ให้รีบเช็คว่ามาจากไหน ใครทำ
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

ลบ Keylogger

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สแกนเจอ keylogger ไหม. ถ้าสแกนเจอ keylogger เป็น entry หนึ่งในรายชื่อโปรแกรมใน Control Panel บางทีก็เป็นโปรแกรม keylogger แบบใช้งานตามปกติ จะมีไฟล์ถอนการติดตั้งมาด้วย ให้ถอนการติดตั้งแล้วใช้โปรแกรม anti-malware ลบทุกชิ้นส่วนไฟล์ไม่ให้เหลือ
2. 
   2
   ลองถอนการติดตั้งดู. บางโปรแกรม keylogger เช่น Revealer Keylogger ของ Logixoft จะมีไฟล์ที่ใช้ทั้งติดตั้งและถอนการติดตั้ง keylogger ให้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง แล้วใช้ถอนการติดตั้ง keylogger หรือถอนการติดตั้งโปรแกรมในเมนู Settings แทน แล้วลบทุกไฟล์ของ keylogger ด้วยโปรแกรม anti-malware ที่น่าเชื่อถือ

   • ถ้าถอนการติดตั้งโปรแกรมไม่ได้ ให้ลองรีสตาร์ทคอมเข้า Safe Mode แล้วถอนการติดตั้งใน Safe Mode ดู
3. 
   3
   เปิด Windows Defender Offline. พออัพเดท antivirus เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว ให้เปิด rootkit detector อย่าง Windows Defender Offline จะเปิดโปรแกรมได้ต้องเข้าไปใน settings ลึกๆ หรือสร้าง offline media
4. 
   4
   หาคำแนะนำเกี่ยวกับการกำจัด keylogger บางตัวโดยค้นด้วยชื่อ. เอาชื่อโปรแกรม keylogger ที่จะลบไปค้นใน Google บางโปรแกรม keylogger อย่าง Refog จะพัฒนาตัวเองให้ถอนการติดตั้งไม่ได้อยู่เรื่อยๆ ลองเข้าไปตามเว็บบอร์ดอย่าง Bleeping Computer ดู น่าจะมีคนมาแชร์วิธีลบโปรแกรมแบบปลอดภัยกับคอม

   • Hijack This ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ลบโปรแกรมลบยากที่ฝังตัวลึกใน Windows Registry ได้ แต่แนะนำว่าต้องใช้ Hijack This อย่างระมัดระวัง เพราะบางทีก็เผลอไปลบไฟล์ที่จำเป็นต่อการทำงานของ Windows ยังไงลองเอา registry ที่ไม่แน่ใจ ไปค้นใน Google ให้ชัวร์ก่อน
5. 
   5
   อาจจะต้องลงระบบปฏิบัติการใหม่. หลาย keylogger ก็ฝังลึกใน Windows ซะจนยากจะลบ แบบนี้จะปลอดภัยและง่ายที่สุด ถ้า backup ไฟล์ต่างๆ เก็บไว้ แล้วลง Windows ใหม่เลย

   • ถ้าลง Windows ใหม่ก็แน่นอนว่าจะลบทุกข้อมูลไปจากคอม เพราะงั้นต้อง backup ไฟล์ต่างๆ ที่จะเก็บไว้ก่อนลงระบบใหม่ คุณ backup ไฟล์ได้โดยใช้ external hard drive หรือเว็บ cloud อย่าง Google Drive, Dropbox และ One Drive
   • แนะนำให้ลงระบบปฏิบัติการใหม่ ถ้าสแกนเจอ keylogger ในคอมเครื่องที่ต้องโอนเงินออนไลน์ หรือเก็บความลับทางการค้าไว้ เพราะถ้าลบ keylogger ไม่หมดจด จะอันตรายมาก
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ถ้าเคยโอนเงินออนไลน์ในคอมเครื่องที่ว่า รหัสผ่านอาจจะค้างอยู่และโดนขโมยได้ ให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านในคอมเครื่องอื่นที่ปลอดภัยทันที และอาจจะติดต่อธนาคารด้วย ให้ช่วยเช็คว่ามีธุรกรรมไหนที่ผิดปกติหรือเปล่า
• โปรแกรม antivirus ที่ฟรีแต่ดีก็เช่น Avast และ Comodo

โฆษณา

คำเตือน

• บางโปรแกรม keylogger ขนาดใช้โปรแกรม anti-spyware กับ firewall สแกนก็ไม่เจอ

โฆษณา