บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 9,212 ครั้ง
มีหลายสาเหตุที่ทำให้คุณต้องเข้า Safe Mode ของ Windows เช่น จะลบ spyware บางตัว หรือหาสาเหตุและแก้ไข error ต่างๆ ของเครื่อง ตอนอยู่ใน Safe Mode เครื่องจะเปิดเฉพาะบางไฟล์และบางโปรแกรมที่จำเป็นต่อระบบปฏิบัติการเท่านั้น คุณจะได้ลบไวรัส เปลี่ยนไดรฟ์เวอร์ที่เสีย รวมถึงแก้ไข error ต่างๆ ที่ทำไม่ได้เวลาโหลดเข้า Windows ตามปกติ ลองทำตามขั้นตอนข้างล่างดู เพื่อเข้าสู่ Safe Mode ใน Windows รุ่นของคุณ
ขั้นตอน
- ตั้งให้คอม boot เข้า Safe Mode. วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะกรณีที่คอมยังเปิดเข้า Windows ได้ตามปกติเท่านั้น แต่ถ้าคอมคุณเปิดเข้า Windows ไม่ได้ ให้เลื่อนไปอ่านขั้นตอนต่อไป [1]
- เปิดหน้าต่าง Run โดยกดคีย์ Windows + R
- พิมพ์ “msconfig” แล้วกด Enter
- คลิก tab Boot แล้วติ๊กช่อง “Safe boot” จากนั้นเลือก “Minimal” เพื่อ boot เข้า Safe Mode พอคลิก Apply เสร็จแล้วคอมจะ boot เข้า Safe Mode หลังรีสตาร์ท
- หลังจากนี้คอมของคุณจะ boot เข้า Safe Mode ตลอด ถ้าอยากให้เครื่องกลับมา boot เข้า Windows ตามปกติ ก็ให้ทำซ้ำตามขั้นตอนที่บอก แล้วติ๊กช่อง “Safe boot”
- คลิกปุ่ม Power ที่หน้าจอ Sign-In. ให้ใช้วิธีนี้ถ้าคุณไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ Windows ได้ตามปกติ โดยกด Shift ค้างไว้แล้วคลิก Restart จากในเมนู Power เพื่อเปิด Startup Settings หลังคอมรีสตาร์ทเสร็จ [2]
- เลือก Safe Mode. พอเข้ามาในเมนู Startup Settings แล้ว ให้เลื่อนลงไปเลือก Safe Mode with Networking จากในรายการ ถ้าคุณคิดว่าการเชื่อมต่อนี่แหละที่ทำให้เกิด error ก็ให้เลือกเข้า Safe Mode โดยไม่ต่อเน็ตโฆษณา
- รีสตาร์ทเครื่อง. โดยกด F8 ทันทีที่โลโก้คอมโผล่ขึ้นมา เพื่อเปิดเมนู Windows Advanced Options [3]
- แต่ถ้าคุณกด F8 เร็วเกินไป บางเครื่องจะขึ้นเตือนว่า "keyboard error" ให้แก้โดยรีสตาร์ทคอมใหม่แล้วลองอีกครั้ง
- ถ้าคุณเห็นโลโก้ Windows แสดงว่าคุณกด F8 ช้าไป ก็เหมือนกัน คือต้องรีสตาร์ทคอมใหม่แล้วลองอีกครั้ง
- เลือกตัวเลือก Safe Mode. คุณเลือกได้ว่าจะเข้า Safe Mode ปกติ หรือ Safe Mode แบบต่อเน็ต และ Safe Mode ที่มีหน้าต่าง Command Prompt
- Regular Safe Mode หรือแบบปกติ จะเปิด Windows ด้วยไดรฟ์เวอร์ที่จำกัดและไม่ได้ต่อเน็ต เป็นวิธีที่แนะนำเวลาจะกำจัดไวรัสหรือมัลแวร์อื่นๆ
- Safe Mode with Networking หรือแบบต่อเน็ต จะเปิด windows ใน Safe Mode พร้อมต่อเน็ตตามที่ตั้งค่าไว้ สะดวกมากเวลาต้องหาวิธีแก้ error หรือดาวน์โหลดไดรฟ์เวอร์จากในเน็ต
- Safe Mode with Command Prompt หรือแบบมีหน้าต่างคำสั่ง เป็นการเข้า Safe Mode โดยมีหน้าต่าง command prompt แบบ DOS ไม่ใช่ Windows ตามปกติ เหมาะสำหรับการใส่คำสั่งอย่าง chkdsk
- กด Enter. คอมจะเปิดเข้า Safe mode พอรีสตาร์ทครั้งต่อไปคอมจะกลับมา boot เข้า Windows ตามปกติ
- ตั้งให้คอม boot เข้า Safe Mode. วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะกรณีที่คอมยังเปิดเข้า Windows ได้ตามปกติเท่านั้น แต่ถ้าคอมคุณเปิดเข้า Windows ไม่ได้ ให้เลื่อนไปอ่านขั้นตอนต่อไป
- เปิดหน้าต่าง Run โดยกดคีย์ Windows + R
- พิมพ์ “msconfig” แล้วกด Enter
- คลิก tab Boot แล้วติ๊กช่อง “Safe boot” จากนั้นเลือก “Minimal” เพื่อ boot เข้า Safe Mode พอคลิก Apply เสร็จแล้วคอมจะ boot เข้า Safe Mode หลังรีสตาร์ท
- หลังจากนี้คอมของคุณจะ boot เข้า Safe Mode ตลอด ถ้าอยากให้เครื่องกลับมา boot เข้า Windows ตามปกติ ก็ให้ทำซ้ำตามขั้นตอนที่บอก แล้วติ๊กช่อง “Safe boot”
โฆษณา
- รีสตาร์ทเครื่อง. วิธีนี้สำหรับคนที่มีหลายระบบปฏิบัติการในเครื่องเดียว พอเห็นเมนู Boot loader (รายชื่อระบบปฏิบัติการที่มี) ก็ให้ใช้กดลูกศรที่คีย์บอร์ดเลือก Windows รุ่นที่ต้องการ [4]
- ถ้าคุณมี Windows หลายเวอร์ชั่นในเครื่องเดียว และอยากเข้า Safe Mode ของรุ่นที่เก่ากว่า ให้เลือก “Earlier Version of Windows”
- กด Enter แล้วกด F8 ตามทันที. จะเห็นเมนู Windows Advanced Options โผล่ขึ้นมา
- ถ้าเห็นโลโก้ Windows แสดงว่าต้องรีสตาร์ทแล้วลองใหม่อีกรอบ
- เลือกตัวเลือก Safe Mode. มีตัวเลือก Safe Mode ให้เลือกหลายแบบ พอเลือกแบบที่ต้องการได้แล้วให้กด Enterโฆษณา
เคล็ดลับ
- คอมส่วนใหญ่เวลาระบบปฏิบัติการไม่ยอมโหลด วิธีรีสตาร์ทก็คือให้กด Ctrl+Alt+Del
- ถ้าคอมคุณใช้คำสั่ง MSCONFIG ไม่ได้ ให้ลองเปิดหน้าต่าง "run" ในฐานะแอดมินเจ้าของเครื่องดู
คำเตือน
- ถ้าอ่านมาจนถึงนี่แล้วไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่ ก็ยกเครื่องไปให้ช่างเขาดูเถอะ
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.