ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Madison Boehm. เมดิสัน โบห์มเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจและผู้ร่วมก่อตั้ง Jaxson Maximus ซึ่งเป็นซาลอนสำหรับบุรุษและร้านตัดเย็บเสื้อผ้าบุรุษตามสั่ง ตั้งอยู่ที่ฟลอริดาใต้ เธอเชี่ยวชาญในการพัฒนาธุรกิจ การดำเนินงาน และการเงิน นอกจากนี้เธอยังมีประสบการณ์ในด้านซาลอน เสื้อผ้า และการค้าปลีก เมดิสันได้รับปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการเป็นผู้ประกอบการและการตลาด จากมหาวิทยาลัยฮิวสตัน
บทความนี้ถูกเข้าชม 70,515 ครั้ง
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการสร้างบาร์โค้ดสำหรับใช้กับผลิตภัณฑ์ พอลงทะเบียนกับ GS1 ได้ prefix ของบาร์โค้ดแล้ว ก็สร้างบาร์โค้ดแบบ UPC หรือ EAN ทีละบาร์โค้ดด้วย online generator หรือเว็บที่ให้บริการได้เลย ไม่ก็สร้างรายชื่อบาร์โค้ด CODE128 แบบพริ้นท์ได้ด้วย Microsoft Excel หรือ Microsoft Word ซะเลย
ขั้นตอน
บาร์โค้ดทำงานยังไง. บาร์โค้ดประกอบด้วยเลข 2 ชุด คือ global prefix ใช้ระบุบริษัท และ serial number ของผลิตภัณฑ์ ระบุข้อมูลของผลิตภัณฑ์เวลาสแกน- ถ้าผลิตภัณฑ์ของคุณไม่มี serial number แยก ก็ต้องสร้างรายการผลิตภัณฑ์ขึ้นมาในโปรแกรม point of sale ที่ถนัดก่อน ถึงจะสร้างบาร์โค้ดที่เกี่ยวข้องได้
ลงทะเบียนบริษัทกับ GS1. GS1 คือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่คอยดูแลควบคุมมาตรฐานโลกของบาร์โค้ด พอลงทะเบียนบริษัทกับ GS1 แล้ว ก็จะได้ "prefix" เป็นชุดตัวเลขมา ใช้อ้างอิงบริษัทของคุณที่ต้นบาร์โค้ด- เวลาจะลงทะเบียนกับ GS1 ให้เข้าไปที่หน้า GS1 U.S. อ่านคู่มือ แล้วคลิก Fill out GS1 Company Prefix Application จากนั้นทำไปตามขั้นตอน
ระบุประเภทของบาร์โค้ดที่ต้องการ. บริษัททั่วไปจะใช้แบบ UPC (อเมริกาเหนือ, อังกฤษ, นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย) หรือ EAN (บางส่วนของยุโรป, เอเชีย, แอฟริกา และละตินอเมริกา)[1]- แต่บาร์โค้ดประเภทอื่นก็มี (เช่น CODE39 และ CODE128)
- บาร์โค้ดแต่ละชนิดก็มีความยาวของหมายเลขผลิตภัณฑ์แตกต่างกันไป เช่น บาร์โค้ด EAN-8 จะใช้ชุดเลข 8 ตัว บอกบริษัทและผลิตภัณฑ์ ส่วนบาร์โค้ด EAN-13 จะใช้เลข 13 ตัว
ต้องมีรายการสินค้าในคลังด้วย. ก่อนจะสร้างบาร์โค้ดผลิตภัณฑ์ ต้องรู้หมายเลขของแต่ละผลิตภัณฑ์ในโปรแกรม point of sale ของบริษัทซะก่อน ถ้าต้องมานั่งค้นหาทีละผลิตภัณฑ์รับรองเรื่องใหญ่ เพราะงั้นควรเตรียมข้อมูลของแต่ละผลิตภัณฑ์ไว้เป็นไฟล์ให้เรียบร้อยโฆษณา
เข้าเว็บ TEC-IT. พิมพ์ https://barcode.tec-it.com/en ในเบราว์เซอร์ เว็บ TEC-IT จะมี barcode generator หรือโปรแกรมสร้างบาร์โค้ดฟรีให้ใช้ออนไลน์
เลือก EAN / UPC. ทางด้านซ้ายของหน้าเว็บ จะเห็นรายชื่อประเภทบาร์โค้ด ก็เลื่อนลงไปจนเจอหัวข้อ EAN / UPC แล้วคลิกเพื่อขยาย- ต้องเลื่อนเคอร์เซอร์มาเหนือรายชื่อประเภทบาร์โค้ดตอนที่เลื่อน
- ถ้าอยากสร้างบาร์โค้ดประเภทอื่น ให้คลิกเลือกบาร์โค้ดประเภทนั้นแทน
เลือกประเภทบาร์โค้ด. คลิกหนึ่งในตัวเลือกบาร์โค้ดล่างหัวข้อ EAN / UPC- เช่น ถ้าจะสร้างบาร์โค้ด EAN แบบ 13 หลัก ให้คลิก EAN-13
ลบข้อความตัวอย่างที่ "Data". ในช่องพิมพ์ขนาดใหญ่ ทางขวาของรายชื่อประเภทบาร์โค้ด ให้ลบข้อความที่มีอยู่ก่อน หลังเลือกประเภทบาร์โค้ด
พิมพ์ prefix ของบริษัท. พิมพ์ prefix ที่ได้จาก GS1 ในช่องพิมพ์ "Data"
พิมพ์ชื่อผลิตภัณฑ์. ในช่องเดียวกันกับ prefix ให้พิมพ์หมายเลขที่ใช้กับผลิตภัณฑ์- ห้ามเว้นวรรคระหว่าง prefix กับหมายเลขผลิตภัณฑ์
คลิก Refresh. ที่เป็นลิงค์ด้านล่าง มุมขวาล่างของช่องพิมพ์ "Data" เพื่ออัพเดทตัวอย่างบาร์โค้ดทางขวาของหน้า ตาม prefix และหมายเลขผลิตภัณฑ์ของคุณ- ถ้าเกิด error ในช่องตัวอย่างบาร์โค้ด ให้พิมพ์ข้อมูลบาร์โค้ดใหม่อีกที หรือเลือกบาร์โค้ดฟอร์แมตอื่น
คลิก Download. ทางขวาของหน้า เพื่อดาวน์โหลดบาร์โค้ดลงโฟลเดอร์ "Downloads" ตามค่า default ของคอม เสร็จแล้วก็เอาไปพริ้นท์แล้วแปะที่ผลิตภัณฑ์ได้เลยโฆษณา
ยอมรับข้อจำกัด. คุณสร้างบาร์โค้ดใน Microsoft Office ได้เฉพาะแบบ CODE128 สร้างบาร์โค้ดแบบ UPC หรือ EAN ไม่ได้ ซึ่งจะไม่มีปัญหาเลยถ้าคุณสแกนบาร์โค้ด CODE128 ได้ แต่ถ้าใช้เครื่องสแกน UPC หรือ EAN ให้อ่านวิธีการ "สร้างด้วยเว็บ" แทน
สร้างเอกสารใหม่ใน Microsoft Excel. เปิด Microsoft Excel แล้วคลิก Blank workbook- ถ้าใช้ Mac ก็เปิด Excel แล้วสร้างเอกสารใหม่ได้เลย
พิมพ์ข้อมูลบาร์โค้ด. ให้พิมพ์ข้อมูลต่อไปนี้ตามเซลล์ที่เกี่ยวข้อง[2]- A1 - พิมพ์ Type
- B1 - พิมพ์ Label
- C1 - พิมพ์ Barcode
- A2 - พิมพ์ CODE128
- B2 - พิมพ์ prefix และหมายเลขผลิตภัณฑ์
- C2 - พิมพ์ prefix และหมายเลขผลิตภัณฑ์อีกรอบ
เซฟไฟล์ลง desktop. โดย- Windows - คลิก File คลิก Save As ดับเบิลคลิก This PC คลิก Desktop ทางซ้ายของหน้าต่าง พิมพ์ barcode ในช่อง "File name" แล้วคลิก Save จากนั้นปิด Excel
- Mac - คลิก File คลิก Save As... พิมพ์ barcode ในช่อง "Save As" คลิกช่อง "Where" คลิก Desktop แล้วคลิก Save จากนั้นปิด Excel
สร้างเอกสารใหม่ใน Microsoft Word. เปิด Microsoft Word แล้วคลิก Blank document ที่ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง- ถ้าใช้ Mac ให้เปิด Microsoft Word แล้วสร้างเอกสารใหม่ได้เลย
คลิก tab Mailings. ที่ด้านบนของหน้าต่าง Word จะมี toolbar โผล่มาใกล้ๆ
คลิก Labels. ที่เป็นตัวเลือกทางด้านซ้ายสุดของ toolbar Mailings
เลือกประเภทของป้าย (label). คลิกช่องใต้หัวข้อ "Label" ทางด้านขวาล่างของช่อง แล้ว- คลิกช่อง "Label vendors" ที่ขยายลงมา
- เลื่อนไปคลิก Avery US Letter
- เลื่อนไปคลิก 5161 Address Labels ในส่วนของ "Product number"
- คลิก OK
คลิก New Document. ทางด้านล่างของหน้าต่าง Labels จะเห็นเอกสารใหม่พร้อมช่องต่างๆ แบบมีกรอบโผล่มา
คลิก tab Mailings. เพื่อเปิด toolbar Mailings ในเอกสารใหม่อีกรอบ
คลิก Select Recipients. ที่ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง แล้วเมนูจะขยายลงมา
คลิก Use an Existing List…. ที่เป็นตัวเลือกในเมนู Select Recipients ที่ขยายลงมา
เลือกเอกสาร Excel. คลิก Desktop ทางซ้ายของหน้าต่าง pop-up คลิกเอกสาร Excel ชื่อ Barcode คลิก Open แล้วคลิก OK ตอนที่ขึ้น
คลิก Insert Merge Field. ในหัวข้อ "Write & Insert Fields" ของ tab Mailings แล้วเมนูจะขยายลงมา
คลิก Type. ในเมนู Insert Merge Field ที่ขยายลงมา เพื่อใส่บรรทัดข้อความ { MERGEFIELD Type } ในเซลล์ซ้ายบนของเอกสาร- ถ้าคลิก Type จะเป็นการใส่บรรทัดข้อความ <<Type>> แทน ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลไป แก้ไขข้อความได้ง่ายนิดเดียว
เพิ่มช่องอีก 2 ประเภท. คลิก Insert Merge Field อีกรอบ คลิก Label แล้วทำซ้ำสำหรับตัวเลือกสุดท้ายในเมนูที่ขยายลงมา (Barcode) คุณจะเห็น- { MERGEFIELD Type }{ MERGEFIELD Label }{ MERGEFIELD Barcode }
- ถ้าเป็น <<Type>><<Label>><<Barcode>> แทน ให้เลือกข้อความ คลิกขวา แล้วคลิก Toggle Field Codes ในเมนูที่โผล่มา
พิมพ์ colon และเว้นวรรคระหว่างแท็ก "Type" กับ "Label". บรรทัดข้อความที่ได้จะกลายเป็น { MERGEFIELD Type }: { MERGEFIELD Label }
พิมพ์ { MERGEFIELD Barcode } ในบรรทัดใหม่. คลิกตรงที่ว่างหน้าวงเล็บซ้าย แล้วกด ↵ Enter
เปลี่ยน FIELD ของแท็ก "Barcode". ให้เลือก "FIELD" ใน { MERGEFIELD Barcode } แล้วเปลี่ยนเป็น BARCODE- เสร็จแล้วจะได้แท็กออกมาเป็น { MERGEBARCODE Barcode }
พิมพ์ชื่อบาร์โค้ด. คลิกที่ว่างทางซ้ายของวงเล็บปิดของแท็กบาร์โค้ด แล้วพิมพ์ CODE128- เสร็จแล้วจะได้แท็กออกมาเป็น { MERGEBARCODE Barcode CODE128}
สร้างบาร์โค้ด. คลิกปุ่ม Finish & Merge ใน toolbar คลิก Edit Individual Documents… อย่าลืมติ๊ก "All" แล้วคลิก OK
เซฟบาร์โค้ด. โดย- Windows - คลิก File คลิก Save As ดับเบิลคลิก This PC คลิกเลือกตำแหน่งเซฟไฟล์ทางซ้ายของหน้าต่าง พิมพ์ชื่อในช่อง "File name" แล้วคลิก Save
- Mac - คลิก File คลิก Save As... พิมพ์ชื่อในช่อง "Save As" คลิกช่อง "Where" แล้วคลิกเลือกตำแหน่งเซฟไฟล์ จากนั้นคลิก Save
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
ที่ปรึกษาทางธุรกิจของ Jaxson Maximus
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Madison Boehm. เมดิสัน โบห์มเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจและผู้ร่วมก่อตั้ง Jaxson Maximus ซึ่งเป็นซาลอนสำหรับบุรุษและร้านตัดเย็บเสื้อผ้าบุรุษตามสั่ง ตั้งอยู่ที่ฟลอริดาใต้ เธอเชี่ยวชาญในการพัฒนาธุรกิจ การดำเนินงาน และการเงิน นอกจากนี้เธอยังมีประสบการณ์ในด้านซาลอน เสื้อผ้า และการค้าปลีก เมดิสันได้รับปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการเป็นผู้ประกอบการและการตลาด จากมหาวิทยาลัยฮิวสตัน บทความนี้ถูกเข้าชม 70,515 ครั้ง
หมวดหมู่: ซอฟท์แวร์
มีการเข้าถึงหน้านี้ 70,515 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
