บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 18,212 ครั้ง
คุณคงเคยเจอใช่ไหม กดลบไฟล์แต่ดันเจอข้อความ error ว่า Cannot delete <filename>: Access is denied.'Make sure the disk is not full or write-protected and that the file is not currently in use.' บทความนี้จะแนะนำวิธีการต่างๆ ที่ใช้ลบไฟล์อย่างได้ผลชะงัด แต่ก่อนจะลงมือทำตามขั้นตอน คุณต้องเช็คให้ชัวร์ก่อนว่าไฟล์ที่คุณกำลังจะลบนั้นไม่ได้ถูกใช้งานอยู่ แต่ถ้าเช็คแล้วก็ยังลบไม่ได้ คงต้องลองหาโปรแกรม third-party หรือโปรแกรมของค่ายอื่นมา ไม่ก็ใส่คำสั่งสั้นๆ ง่ายๆ ในหน้าต่าง command prompt เพื่อบังคับลบไฟล์หรือโฟลเดอร์นั้นซะเลย
ขั้นตอน
- ปิดทุกโปรแกรมที่เปิดอยู่. สาเหตุยอดนิยมเวลาเจอ error นี้ ก็คือไฟล์ที่คุณกำลังจะลบเปิดค้างในโปรแกรมไหนอยู่ เช่น เวลาคุณจะลบเอกสารที่เปิดอยู่ใน Word หรือลบเพลงที่เปิดฟังอยู่ เป็นต้น [1]
- เปิด "Task Manager". กด Ctrl+Alt+Del แล้วเลือก "Task Manager" จากในเมนู คลิก tab "User Name" แล้วดูโปรแกรมใต้ username ของคุณ คุณหยุดการทำงานของโปรแกรมพวกนี้ส่วนใหญ่ได้โดยไม่ทำให้เครื่องค้างตามไปด้วย
- ปิดโปรแกรมที่คุณรู้จัก. โดยเลือกโปรแกรมแล้วคลิก "End Process"
- พอปิดโปรแกรมที่ทำให้ระบบไม่เสถียรแล้ว ก็ให้รีสตาร์ทเพื่อให้เครื่องกลับสู่สภาพเดิม
- รีสตาร์ทเครื่อง. รีสตาร์ทเครื่องแล้วจะทำให้โปรแกรมปิดไฟล์นั้นไป ให้ลองลบไฟล์ดูใหม่อีกครั้งหลังรีสตาร์ท ก่อนจะเปิดโปรแกรมอื่นๆ ถ้าไฟล์นั้นยังขึ้นข้อความ error ก็ให้เลื่อนลงไปดูวิธีการถัดไปโฆษณา
- หาโปรแกรม process unlock. ที่นิยมใช้กันก็เช่น Process Explorer, LockHunter แล้วก็ Unlocker หรือ Lock-UnMatic และ Mac OS File Unlocker ของ Mac โปรแกรมทั้งหมดที่ว่ามานั้นฟรีและใช้กับ Windows ได้สบายๆ แต่ถ้าคุณเลือกใช้ Unlocker ก็ต้องระวังเวลาเข้าเว็บเขา เพราะจะมีโฆษณาเต็มไปหมด เผลอกดโดนระวังมัลแวร์จะเข้าเครื่อง [2]
- ติดตั้งโปรแกรม. ทุกโปรแกรมที่ว่ามาติดตั้งค่อนข้างง่าย แค่ unzip ไฟล์ถ้าจำเป็น แล้วเปิดไฟล์ Setup หรือไฟล์ติดตั้ง ถ้าคุณเป็นผู้ใช้ทั่วไปก็ติดตั้งไปตามค่าตั้งต้นเลย ไม่ต้องปรับแต่งอะไร
- ระหว่างติดตั้ง บางโปรแกรมจะพยายามติดตั้งแถบเครื่องมือลงเบราว์เซอร์ด้วย ก็คอยติ๊กออกให้ดีถ้าคุณไม่อยากได้
- คลิกขวาไฟล์ที่คุณจะลบ. เลือกโปรแกรมที่เพิ่งติดตั้งจากในเมนู หน้าต่างใหม่จะเปิดขึ้นมา และมีรายชื่อทุกโปรแกรมที่ใช้ไฟล์นั้นอยู่
- ปิดการใช้งานโปรแกรมที่เปิดไฟล์อยู่. เลือกโปรแกรมที่คุณจะหยุดการทำงาน แล้วคลิกปุ่ม "Kill Process" พอทุกโปรแกรมที่ค้างอยู่ถูกปิดไปแล้ว คุณก็จะลบไฟล์ที่ต้องการได้แบบไร้ปัญหาโฆษณา
- หาไฟล์ในฮาร์ดไดรฟ์. ถ้าคุณไม่รู้ว่าไฟล์อยู่ตรงไหน ให้ลองใช้แถบค้นหาดู โดยคลิก "Start menu" แล้วใส่ชื่อไฟล์ลงในแถบค้นหา ถ้าคุณใช้ Windows 8 ให้พิมพ์ชื่อไฟล์ตอนอยู่ในหน้า Start
- คลิกขวาที่ไฟล์แล้วเลือก "Properties". เอาติ๊กออกจาก attribute หรือคุณลักษณะทั้งหมดของไฟล์หรือโฟลเดอร์นั้น
- จดตำแหน่งไฟล์ไว้. เพราะคุณต้องระบุอีกรอบตอนบังคับลบไฟล์ในหน้าต่าง Command Prompt
- เปิดหน้าต่าง Command Prompt. โดยคลิก Start แล้วพิมพ์ “cmd” ในแถบค้นหา ไม่ต้องมีเครื่องหมายคำพูดนะ
- ปิดทุกโปรแกรมที่เปิดอยู่. เปิดหน้าต่าง Command Prompt ทิ้งไว้ แต่ปิดโปรแกรมอื่นที่เปิดอยู่ให้หมด
- เปิด Windows Task Manager. โดยกด Ctrl+Alt+Del แล้วเลือก "Task Manager" จากในเมนู หรือไปที่เมนู Start แล้วกด "Run" จากนั้นพิมพ์ "TASKMGR.EXE"
- คลิก tab "Processes" ใน Windows Task Manager. หา process ที่ชื่อ “explorer.exe” เลือกเลยแล้วคลิก "End Process" จากนั้นย่อหน้าต่าง Task Manager ห้ามปิดเด็ดขาด
- กลับไปที่หน้าต่าง Command Prompt. คุณบังคับลบไฟล์หรือโฟลเดอร์ได้โดยใส่คำสั่งในหน้าต่าง Command Prompt แค่คำสั่งที่ใช้จะแตกต่างกัน
- หา path: C:\Documents and Settings\Your User Name>. จากใน Command Prompt
- ใช้คำสั่ง. ในหน้าต่าง Command Prompt ให้พิมพ์ cd My Documents หลัง Your User Name
- ลบไฟล์. หลัง "My documents" ให้พิมพ์คำสั่ง Delete แล้วตามด้วยชื่อไฟล์ที่จะลบ เช่น "del unwanted file.exe"
- ใช้คำสั่ง DEL ลบไฟล์ที่มีปัญหาในหน้าต่าง Command Prompt. สุดท้ายคำสั่งที่ได้ควรจะหน้าตาแบบนี้ C:\Documents and Settings\Your User Name\My Documents>del unwantedfile.exe [3]
- ลบโฟลเดอร์. ถ้าคุณจะลบโฟลเดอร์ ไม่ใช่ไฟล์ ก็ให้ใช้คำสั่ง "RMDIR /S /Q" แทนคำสั่ง "del" ก็จะได้ออกมาเป็น C:\Documents and Settings\Your User Name>rmdir /s /q "C:\Documents and Settings\Your User Name\My Documents\unwanted folder" [4]
- กด ALT+TAB. เพื่อกลับมาที่ Task Manager แล้วคลิก File เลือก New Task จากนั้นพิมพ์ "EXPLORER.EXE" เพื่อรีสตาร์ทเข้าหน้า Windows ตามปกติ
- ปิด Task Manager. ตอนนี้คุณก็น่าจะลบไฟล์ได้แล้ว แต่ถ้าอยากเช็คให้แน่ใจก็ลองค้นหาไฟล์นั้นดู โดยไปที่ Start แล้วพิมพ์ชื่อไฟล์ลงในแถบค้นหาโฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าอยากรู้เรื่อง DOS Commands หรือการใส่คำสั่งใน DOS เพิ่มเติม ให้พิมพ์ HELP ในหน้าต่าง Command Prompt หรือหาอ่านเพิ่มเติมในเน็ตดู
- ถ้าอยากกลับไปที่หน้าก่อนของ Command Prompt ให้ใช้คำสั่ง
CD..
คำเตือน
- วิธีนี้จะใช้ไม่ได้ผล ถ้าไฟล์นั้นเปิดอยู่ในโปรแกรมอื่น เช่น ไฟล์ mp3 ที่เปิดฟังอยู่ แต่คุณดันจะไปลบ ยังไงให้ปิด media player ที่เปิดไฟล์นั้นก่อน แล้วค่อยลบไฟล์ดูอีกครั้ง
- ห้ามไปหยุดการทำงานของ process ไหนนอกจาก "EXPLORER.EXE" ไม่งั้นจะเกิดเรื่องใหญ่ เช่น ข้อมูลหาย ระบบไม่เสถียร หรือถึงขั้นระบบปฏิบัติการค้างหรือเจ๊งไปเลย
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://superuser.com/questions/13291/how-do-i-delete-a-locked-file
- ↑ http://www.guidingtech.com/10175/tools-to-delete-locked-files-in-windows/
- ↑ https://mshiyas.wordpress.com/how-to-delete-a-file-or-folder-showing-error-access-is-denied/
- ↑ https://mshiyas.wordpress.com/how-to-delete-a-file-or-folder-showing-error-access-is-denied/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.