วิธีการ ย้ายออกเมื่ออายุ 16

การย้ายออกจากบ้านของครอบครัวก่อนที่คุณจะอายุ 18 ปีเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ คุณอาจอยากย้ายออกด้วยเหตุผลหลายประการโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบันในชีวิต ก่อนที่จะลงมือทำการใหญ่ก็ควรใช้เวลาเพื่อพิจารณาทางเลือกเพื่อให้คุณย้ายออกอย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

การปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ

ดาวน์โหลดบทความ

1
ค้นคว้าเกี่ยวกับการบรรลุนิติภาวะในประเทศของคุณ. หากคุณอยากย้ายออกจากบ้านและเป็นอิสระจากพ่อแม่และผู้ปกครองอย่างถูกกฎหมาย คุณอาจอยากค้นคว้าเกี่ยวกับการบรรลุนิติภาวะ แม้ว่าในประเทศส่วนใหญ่อายุที่บรรลุนิติภาวะหรือการปกครองตัวเองอย่างชอบธรรมคือ 18 ปีบริบูรณ์ แต่ในหลายประเทศที่เสนอข้อยกเว้นสำหรับการปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระโดยไม่มีกระบวนการทางกฎหมายที่เข้มงวด^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ในบางที่ การแต่งงานเมื่ออายุ 16 ปีจะทำให้คุณเป็นอิสระโดยอัตโนมัติ^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ในบางที่ การเกณฑ์ทหารก่อนอายุครบ 18 ปีอาจทำให้คุณได้รับการปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ ^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณจะต้องให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองยินยอมกับการตัดสินใจเป็นอิสระของคุณเพราะพวกเขาจะต้องลงนามในแบบฟอร์มยินยอมในภายหลัง ^{[4]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Public Counselไปที่แหล่งข้อมูล}
2
มีรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่อง. คุณจะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าคุณมีแหล่งรายได้เพื่อปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระและย้ายออกเมื่ออายุ 16 ปี^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} คุณต้องตระหนักว่าผู้เยาว์อยู่ภายใต้กฎหมายแรงงานเด็กที่เฉพาะเจาะจงซึ่งป้องกันไม่ให้ผู้เยาว์ทำงานเป็นเวลานาน^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
หาที่ที่ปลอดภัยเพื่ออยู่อาศัย. คุณควรมีแนวคิดว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหนเมื่อคุณเข้าสู่ขั้นตอนการปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันสำหรับวัยรุ่นที่ต้องการทำสัญญาที่อยู่อาศัยโดยขึ้นอยู่กับที่ที่คุณอาศัยอยู่ ^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ในบางที่ วัยรุ่นสามารถยกเลิกสัญญาใดๆ ที่ไม่สำคัญต่อสถานการณ์ในชีวิตประจำวันของพวกเขาได้^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
วางแผนการสำเร็จการศึกษาสาธารณะ. คุณอาจต้องเรียนหนังสือโดยขึ้นอยู่กับว่าคุณอาศัยอยู่ที่ไหน^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ที่อยู่อาศัยใหม่ของคุณต้องอยู่ใกล้โรงเรียนเพื่อไม่ให้คุณขาดเรียน
5
กรอกเอกสารที่จำเป็น. เมื่อคุณเข้าสู่ขั้นตอนการปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ คุณจะพบกับแบบฟอร์มมากมายที่คุณต้องลงนาม แบบฟอร์มส่วนใหญ่ต้องลงนามโดยพ่อแม่หรือผู้ปกครองชุด แม้ว่าแบบฟอร์มเหล่านี้อาจแตกต่างกันตามสถานที่ แต่คุณน่าจะสามารถหาเอกสารเหล่านี้ได้ทางออนไลน์^{[11]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Public Counselไปที่แหล่งข้อมูล}
- เอกสารบางฉบับอาจต้องลงนามโดยบุคคลที่ 3 ที่ถูกกฎหมาย (เช่น ทนายความ) โดยขึ้นอยู่กับที่ที่คุณอาศัยอยู่^{[12]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Public Counselไปที่แหล่งข้อมูล}
6
ยื่นขอการปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระจากศาล. เมื่อคุณได้ตรวจสอบแล้วว่าคุณตรงตามข้อกำหนดสำหรับการปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระอย่างถูกกฎหมายของประเทศก็ให้คุณยื่นคำร้องขอการปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระจากศาลท้องที่ คุณจะต้องพิสูจน์สถานะทางการเงินและที่อยู่อาศัยในขั้นตอนนี้^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณสามารถใช้ใบรับรองจากธนาคารเพื่อพิสูจน์สถานะทางการเงิน^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ขั้นตอนการดำเนินการปลดปล่อยเป็นอิสระของศาลอาจใช้เวลานานถึงครึ่งปี ^{[15]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Public Counselไปที่แหล่งข้อมูล}
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

การย้ายออกโดยไม่ได้ปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระอย่างถูกกฎหมาย

ดาวน์โหลดบทความ

1
ลองหาข้อตกลงกับพ่อแม่หรือผู้ปกครองก่อน. หากคุณต้องการย้ายออกแต่ไม่ต้องการปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระอย่างถูกกฎหมายก็ให้ลองหาข้อตกลงกับพ่อแม่หรือผู้ปกครองก่อน ครอบครัวของคุณอาจสนับสนุนความต้องการย้ายออกโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}คุณควรมีแนวคิดว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหนก่อนจะพูดถึงการย้ายออก^{[17]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ลองอาศัยอยู่หรือย้ายเข้าไปอยู่กับใครบางคน การอยู่โดดเดี่ยวตามลำพังอาจส่งผลเชิงลบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ^{[18]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้PubMed Centralไปที่แหล่งข้อมูล}
2
ขอย้ายไปอยู่กับสมาชิกในครอบครัวหากพ่อแม่ของคุณไม่ให้คุณอยู่คนเดียว. ถ้าพ่อแม่ของคุณไม่ให้คุณอยู่คนเดียวก็ให้ลองย้ายไปอยู่กับญาติ คุณต้องพูดคุยกับพ่อแม่หรือผู้ปกครองและคนที่คุณต้องการย้ายไปอยู่ด้วยเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง
- ในสถานที่ส่วนใหญ่ ผู้เยาว์ที่อาศัยอยู่กับสมาชิกในครอบครัวโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ^{[19]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ดูว่าคุณสามารถอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ไว้ใจได้หรือไม่ถ้าคุณไม่มีสมาชิกครอบครัว. หากพ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่สบายใจกับการที่คุณจะอยู่คนเดียวหรืออยู่กับสมาชิกในครอบครัวก็ให้ลองพูดกับเพื่อนที่คุณไว้ใจและดูว่าคุณสามารถไปอยู่กับเขาได้หรือไม่ คุณสามารถเสนอเงินค่าเช่าหรือทำงานบ้านเพื่อแลกกับการอาศัยอยู่ มันอาจเป็นเรื่องที่ดีที่ได้อยู่ไกลบ้านแม้ว่าเพื่อนของคุณจะให้คุณอยู่แค่ไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนก็ตาม
- หากคุณจะย้ายเข้าไปอยู่กับครอบครัวของเพื่อนก็ทำให้แน่ใจว่าทุกคนที่อยู่ในบ้านยินยอมกับการเปลี่ยนแปลง^{[20]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
หลีกเลี่ยงการหนีออกจากบ้าน. การหนีออกจากบ้านไม่ใช่ทางออกที่ดีแม้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะน่าโมโหก็ตาม คุณคงไม่อยากอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้เตรียมตัว วัยรุ่นที่หนีออกจากบ้านมักจะติดยาหรือทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ^{[21]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หากคุณคิดที่จะหนีออกจากบ้านก็ให้ลองปรึกษาสายด่วนหรือคนที่คุณไว้ใจได้เพื่อพูดถึงสถานการณ์ของคุณ^{[22]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

การอยู่อย่างเป็นอิสระ

ดาวน์โหลดบทความ

1
ดูกฎหมายการเช่าบ้านสำหรับผู้เยาว์ของที่ที่คุณอาศัยอยู่. หากคุณได้ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระ คุณจะต้องดูตัวเลือกการเช่าอพาร์ทเมนต์ที่อยู่ใกล้คุณที่สุด แม้ว่าสถานที่บางแห่งจะอนุญาตให้ผู้เยาว์เช่าอพาร์ทเมนต์ได้ แต่คุณต้องเข้าใจกฎและกฎหมายการเงินการเช่าของคุณ ^{[23]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ลองเซ็นสัญญาเช่าร่วมกับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง (หรือผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้) ในกรณีที่คุณประสบปัญหาทางการเงินในอนาคตโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของคุณ ^{[24]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
หาอพาร์ทเม้นท์เพื่อเช่าทางออนไลน์. เว็บไซต์ เช่น Housing Anywhere สามารถเชื่อมต่อคุณกับตัวเลือกการเช่าในหลายร้อยเมือง เมื่อคุณหาอพาร์ทเม้นท์ทางออนไลน์ก็ควรมีแนวคิดว่าจะย้ายเข้าเมื่อใดรวมถึงระยะเวลาที่คุณวางแผนจะเช่าอพาร์ตเมนต์ ^{[25]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หากคุณมีปัญหาในการหาอพาร์ทเมนต์ แต่ยังอยากอยู่อย่างอิสระก็ให้หาที่ในศูนย์พักพิงและสังคมสงเคราะห์ในบริเวณใกล้เคียง^{[26]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
หางานพาร์ทไทม์เพื่อช่วยเหลือตัวเอง. คุณอาจไม่สามารถทำงานเต็มเวลาได้จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะในประเทศของคุณด้วยข้อจำกัดด้านการใช้แรงงานเด็ก หางานพาร์ทไทม์ใกล้บ้านทางออนไลน์ ในหลายๆ เว็บไซต์คุณจะต้องระบุว่าคุณเป็นวัยรุ่น ^{[27]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณยังสามารถสร้างรายได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องทำงาน คุณสามารถหาเงินด้วยการรับจ้างจูงสุนัขเดินและกวาดสวน ^{[28]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
กำหนดงบประมาณเพื่อช่วยบริหารการเงินของคุณ. คุณอาจต้องจ่ายบิลต่างๆ ในแต่ละเดือน เช่น ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าเช่า และค่าอาหารโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความเป็นอยู่ใหม่ของคุณ ลองจัดทำงบประมาณที่ช่วยให้คุณจัดสรรเงินสำหรับความจำเป็นเพื่อให้คุณสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้
- ใช้ Microsoft Excel หรือ Google Sheets เพื่อทำเอกสารงบประมาณ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณแบ่งค่าเช่า ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในแต่ละเดือนได้ง่ายขึ้น ^{[29]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เมื่อคุณได้แบ่งเงินสำหรับสิ่งที่จำเป็นแล้ว คุณสามารถเริ่มเก็บเงินเพื่อของที่อยากได้อื่นๆ (เช่น ช้อปปิ้ง อาหารจานด่วน เป็นต้น)
5
สร้างกลุ่มสนับสนุนที่ดี. แม้ว่าการย้ายออกไปอาจเป็นสัญญาณที่ดีของความเป็นอิสระ แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้จักคนอื่นๆ หากคุณไม่มีเพื่อนหรือครอบครัวให้ติดต่อในเวลาที่เครียดก็ให้หาเพื่อนและเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม เช่น กีฬาหรือชมรม ^{[30]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้American Psychological Associationไปที่แหล่งข้อมูล}
- สถานที่สาธารณะหลายแห่ง (เช่น โบสถ์ ศูนย์ชุมชน) มีแหล่งข้อมูลที่จะช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับสังคมได้^{[31]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้American Psychological Associationไปที่แหล่งข้อมูล}
โฆษณา

คำเตือน

หากคุณรู้สึกว่าเป็นอันตรายจากสถานการณ์ความเป็นอยู่ในปัจจุบันก็ให้โทรไปที่ National Runaway Safeline ที่หมายเลข 1-800-RUNAWAY หรือติดต่อบริการฉุกเฉิน^{[32]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}

โฆษณา