วิธีการ ฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งพื้นฐาน

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

มีคำสั่งสำคัญห้าอย่างที่สุนัขทุกตัวควรรู้: นั่ง คอย หมอบ มา และชิด คำสั่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณสื่อสารสิ่งที่ต้องการกับสุนัข โดยเฉพาะการแสดงลำดับการสื่อสารอย่างชัดเจนกับสัตว์เลี้ยง ถ้าคุณฝึกให้สุนัขรู้จักคำสั่งพื้นฐานเหล่านี้ ถือว่าคุณได้เตรียมรากฐานสำหรับให้สุนัขได้ฝึกคำสั่งที่ยากกว่านี้ในอนาคต เช่นเดียวกับการช่วยผูกกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนขนยาวของคุณให้แน่นแฟ้นขึ้น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

สอนให้สุนัขนั่ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เริ่มการฝึกโดยสอนสุนัขให้รู้จักนั่งตามคำสั่ง....
    เริ่มการฝึกโดยสอนสุนัขให้รู้จักนั่งตามคำสั่ง. การนั่งเป็นรูปแบบของสุนัขที่สื่อถึงความสุภาพ มันเป็นท่าทางโดยธรรมชาติ แสดงว่าสุนัขตัวนั้นไม่ก้าวร้าวและมันเต็มใจที่จะเฝ้ารอ[1]
    • เมื่อคุณย้ำคำสั่ง 'นั่ง' สุนัขจะเรียนรู้ว่าเวลาที่มันต้องการอะไรสักอย่าง หรือถ้าคุณกำลังยุ่ง การนั่งรอเป็นสิ่งถูกต้องที่จะทำ
    • เป้าหมายคือให้สุนัขได้เรียนรู้ว่ายามที่คุณออกคำสั่ง 'นั่ง' มันเป็นเวลาที่ต้องให้ความสนใจหรือสงบลง
    • ยืนเบื้องหน้าสุนัขของคุณ. คุณจะต้องแสดงความสงบแต่มีพลังแน่วแน่ เรียกความสนใจของสุนัขโดยจ้องตามัน เวลาที่คุณพูดขึ้นว่า "[ชื่อสุนัข], นั่ง," ให้ถืออาหารเป็นของล่ออยู่เหนือจมูกของมัน[2]
    • เพื่อที่จะมองเห็นของล่อ สุนัขจำต้องผงกหัวขึ้น ซึ่งจะทำให้ก้นของมันลงไปที่พื้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 กล่าวชมเมื่อสุนัขนั่งลง.
    ทันทีที่มันนั่งลง พูดขึ้นว่า "นั่นแหละ!" แล้วให้ของล่อเป็นรางวัล เป้าหมายคือให้สุนัขเชื่อมโยงการกระทำ คำพูด หรือคำกับรางวัลและคำชม
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เปลี่ยนรางวัลเป็นสัญญาณมือ.
    เมื่อสุนัขได้เรียนรู้คำสั่งด้วยเสียงแล้ว ให้หยุดการช่วยเหลือแล้วเริ่มใช้สัญญาณมือประกอบ เริ่มง่ายๆ โดยการวางฝ่ามือไว้ข้างหน้าหัวสุนัข ตอนที่สั่งว่า "นั่ง" ให้ดึงนิ้วมือขึ้นมากำเป็นกำปั้นหลวมๆ หรือยกขึ้นในท่าตัว J และจบลงโดยฝ่ามือหงายขึ้น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทำซ้ำจนกระทั่งสุนัขตอบสนองต่อคำสั่งทุกครั้ง....
    ทำซ้ำจนกระทั่งสุนัขตอบสนองต่อคำสั่งทุกครั้ง. มันอาจจะใช้เวลาบ้าง โดยเฉพาะถ้าคุณฝึกสุนัขโตหรือสุนัขที่หัวทึบ อย่างไรก็ตาม อย่าท้อถอย! มันสำคัญมากต่อความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับสุนัขที่มันต้องทำตามการนำของคุณ นี่จะช่วยให้คุณอยู่ร่วมกันได้ และในที่สุดจะเป็นการทำให้สุนัขมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น[3]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

สอนสุนัขให้คอย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Step 1 สอนสุนัขให้ "คอย".
    มีคำสั่งบางคำสั่งที่สามารถช่วยชีวิตสุนัขและคำสั่ง “คอย” ก็เป็นหนึ่งในนั้น การทำให้สุนัขไม่เข้าไปยุ่งกับสถานการณ์ที่เป็นอันตราย เพื่อที่จะไม่ปล่อยให้มันเจอปัญหา สามารถทำได้โดยง่ายขึ้นเมื่อคุณฝึกให้สุนัขรู้จักคอยนิ่งๆ[4]
    • ลูกสุนัขมีความเข้าใจตามสัญชาตญาณว่าจะต้องคอยอยู่นิ่งๆ เวลาที่ถูกข่มขู่และแม่สุนัขจะใช้คำสั่งให้ “คอย” เหมือนกัน ด้วยสัญชาตญาณผนวกกับการเริ่มฝึกแต่เล็กจะช่วยให้คุณฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งคอยนิ่งๆ ได้ง่ายขึ้น[5]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เริ่มฝึกสุนัขในท่า “นั่ง”.
    เวลาสุนัขนั่ง ให้ยืนโดยที่มันอยู่ทางข้างซ้ายของคุณมองไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนี้ท่านี้จะถูกอ้างถึงในฐานะท่า ‘ตั้งต้น’
  3. Step 3 จับปลอกคอสุนัขเอาไว้แล้วพูดว่า "[ชื่อสุนัข] คอย!"....
    จับปลอกคอสุนัขเอาไว้แล้วพูดว่า "[ชื่อสุนัข] คอย!". คุณควรทำเช่นนี้ในขณะที่วางฝ่ามืออยู่เบื้องหน้าสุนัขโดยไม่สัมผัสมัน ปลายนิ้วควรชี้ขึ้นและฝ่ามือควรจะประจัญหน้ากับสุนัข รอสองวินาที ถ้าสุนัขไม่ขยับไปไหน ให้บอกออกมาว่า "ใช่!" แล้วให้รางวัลแก่มัน
    • ถ้ามันลุกขึ้น ให้บอกว่า "อุ๊บ!" แล้วเริ่มต้นใหม่ เริ่มด้วย "นั่ง" แล้วค่อยออกคำสั่งอีกครั้งให้ "คอย"
    • ทำซ้ำจนกระทั่งสุนัขของคุณคอยอยู่กับที่อย่างน้อยสิบวินาทีแล้วจึงค่อยชมเชยมัน นี่หมายความว่าคุณอาจจำต้องเริ่มกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่ต้นหลายต่อหลายครั้ง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ค่อยๆ เพิ่มจำนวนเวลาที่คุณให้สุนัขคอย.
    พอสุนัขเริ่มเรียนรู้คำสั่งนี้ได้ดี คุณก็เริ่มเพิ่มระยะเวลาในขณะที่ค่อยๆ ถอยห่างออกมาตอนที่มันคอย หากสุนัขลุกขึ้นมา ให้ย้อนกลับไปตอนท่านั่งและทำกระบวนการช่วงนี้ซ้ำ จนกระทั่งคุณสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้อิสระระหว่างที่สุนัขคอยอยู่นิ่งๆ[6]
    • คุณควรมีคำสั่งเฉพาะให้สุนัขออกจากคำสั่งคอยอย่างเช่น "โอเค!" หรือ "มานี่" วิธีนี้สุนัขจะรู้ว่าเมื่อไหร่มันถึงขยับตัวได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

สอนสุนัขให้หมอบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สอนสุนัขให้หมอบ.
    "หมอบ" มักจะใช้รวมกับ "คอย" และตั้งใจให้เป็นคำสั่งที่แรงขึ้น หมอบจะเป็นการหยุดการกระทำทุกอย่างก่อนหน้าที่กำลังทำก่อนออกคำสั่งนี้ ดังนั้นมันจึงมีประโยชน์ในการควบคุมพฤติกรรม
  2. How.com.vn ไท: Step 2 อีกครั้งให้สุนัขเริ่มที่ท่า 'นั่ง'.
    เมื่อคุณพูดว่า "[ชื่อสุนัข], หมอบ!," ให้ยื่นมือซ้ายไปเหนือหัวสุนัข โดยคว่ำฝ่ามือไปที่พื้น ส่วนมือขวาถือรางวัลและลดมือลงไปที่พื้นช้าๆ โดยให้อยู่ใกล้ๆ กับตัวสุนัข
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ให้แรงเสริมแก่สุนัขเมื่อมันสามารถทำตามคำสั่งได้สำเร็จ....
    ให้แรงเสริมแก่สุนัขเมื่อมันสามารถทำตามคำสั่งได้สำเร็จ. พอทั้งบั้นท้ายกับศอกของสุนัขแนบลงแตะพื้น ให้พูดว่า "ใช่!" และให้รางวัล มันจะทำให้ในใจของสุนัขเกิดความเชื่อมโยงระหว่างการกระทำกับรางวัล[7]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทำกระบวนการทั้งหมดซ้ำหลายๆ ครั้ง.
    การทำซ้ำเป็นกุญแจสำหรับการเรียนรู้และทำตามคำสั่งของสุนัข เป้าหมายคือให้สุนัขได้ทำตามคำสั่งคุณไม่ว่ามันจะกำลังทำอะไรอยู่ในตอนที่คุณออกคำสั่ง ด้วยวิธีนี้ทำให้หากสุนัขกำลังเล่นซุกซนอะไร คุณสามารถหยุดพฤติกรรมนี้ได้อย่างรวดเร็วและได้ผล[8]
    • ก็เหมือนกับคำสั่งอื่นๆ ถ้าสุนัขไม่ทำตามคำสั่งหรือทำอย่างอื่น ให้เริ่มตั้งแต่ต้นใหม่ จับสุนัขมาอยู่ในท่านั่งอีกครั้งและเริ่มจากแรก
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

สอนสุนัขให้มา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สอนสุนัขให้มาเวลาคุณเรียกมัน.
    คำสั่ง "มา" รู้จักกันในอีกชื่อว่า "กลับ" ก็เหมือนคำสั่งพื้นฐานอื่นๆ ให้เริ่มโดยสุนัขอยู่ในท่า "นั่ง"[9]
  2. Step 2 ดึงสุนัขเข้าหาตัวคุณเบาๆ ในระหว่างที่พูดว่า "[ชื่อสุนัข],...
    ดึงสุนัขเข้าหาตัวคุณเบาๆ ในระหว่างที่พูดว่า "[ชื่อสุนัข], มา!". คุณควรทำเช่นนี้ด้วยน้ำเสียงกระตุ้นมากกว่าที่ใช้ในคำสั่งอื่น เพราะคุณต้องการให้สุนัขอยากเข้ามาหาคุณ ออกท่าทางประกอบคำสั่งเพื่อแสดงให้สุนัขเห็นว่าคุณต้องการอะไร
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้รางวัลล่อสุนัขเข้ามา.
    พอคุณได้แสดงให้สุนัขรู้ว่าต้องเข้ามาอย่างไรและคุณจะออกคำสั่งแบบใด ให้วางอาหารสุนัขไว้ตรงเท้าแล้วชี้ให้สุนัขเห็น หลังจากนั้นไม่นาน แค่กิริยาการชี้ไปที่พื้นข้างหน้าคุณก็เพียงพอแล้ว หลังจากนั้น จะใช้เพียงคำสั่งหรือท่าชี้นิ้วอย่างใดอย่างหนึ่งก็ทำให้สุนัขทำตามแล้ว
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ส่งเสริมการกระทำด้วยคำชม.
    เวลาสุนัขเข้ามาหาคุณ ให้ชมมันโดยใช้ประโยคว่า "มาได้ดีมาก!" ตบหัวมันเบาๆ แสดงให้สุนัขรู้ว่าคุณพึงพอใจกับสิ่งที่มันเพิ่งทำลงไป[10]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ฝึกคำสั่งนี้ในเวลาและสถานที่แตกต่างกัน.
    เวลาเล่นกับสุนัข ใช้โอกาสนี้เรียกมันข้ามห้องโดยใช้ชื่อมันแล้วบอกว่า "มา!" พร้อมกล่าวชมเมื่อมันวิ่งมาถึง นี่จะทำให้สุนัขคุ้นเคยกับคำสั่ง
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

สอนสุนัขให้ชิด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Step 1 สอนสุนัขให้ "ชิด".
    คำสั่งนี้เป็นหนึ่งในคำสั่งที่ซับซ้อนสำหรับจะสอน[11] อย่างไรก็ตาม สุนัขส่วนใหญ่สามารถเรียนรู้ได้ถ้าคุณฝึกอย่างต่อเนื่อง การสอนสุนัขคู่ใจให้ชิดจะช่วยปัญหาเรื่องหลังกับไหล่ของคุณ ช่วยเรื่องต้นคอของสุนัข และให้ทั้งคู่เกิดความภาคภูมิใจ (ถึงแม้สุนัขจะไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องความภาคภูมิใจนี้สักเท่าไหร่)
    • โดยธรรมชาติแล้วสุนัขของคุณอาจอยากจะวิ่งเหยาะๆ และอยากจะซอกแซกไปทางโน้นทีทางนี้ที คุณจะต้องแสดงให้มันเห็นว่าบางเวลาก็อนุญาตให้ไปสำรวจโน่นนี่ได้และบางเวลาก็ห้ามทำเช่นนั้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 จับสุนัขมาเริ่มที่ท่านั่ง.
    ใช้สายจูงปกติ ให้สุนัขอยู่ในท่า "นั่ง" ข้างขาซ้ายของคุณ โดยหันหน้าไปทางเดียวกับคุณ นี่คือท่าที่รู้จันกันในชื่อ ท่า "ตั้งต้น"[12]
    • ให้ใช้ด้านซ้ายเสมอเพื่อป้องกันสุนัขสับสน
  3. Step 3 บอกสุนัขให้ "ชิด".
    พูดว่า"[ชื่อสุนัข], ชิด!" ระหว่างที่ก้าวไปข้างหน้าด้วยเท้าซ้าย การเริ่มต้นด้วยเท้าซ้ายจะกลายเป็นสัญญาณว่าได้เวลาเดินหน้า สุนัขอาจขัดขืนหรือรีบเดินแซงหน้าไป ในกรณีทั้งคู่นี้ให้กระตุกสายจูงรั้งไว้เบาๆ และทวนคำสั่ง "ชิด" ใหม่
  4. How.com.vn ไท: Step 4 แนะนำสุนัขให้อยู่ข้างๆ คุณ.
    ถ้ามันอยู่ห่างออกไปทางด้านข้าง ให้ตบไปที่ขาของคุณแล้วบอกว่า "ไปพร้อมฉัน!" หรือ "มานี่!" หรือคำสั้นๆ อื่นๆ ให้พูดคำๆ เดิมสำหรับการสื่อความหมายเฉพาะอย่างเสมอ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 แก้พฤติกรรมที่ผิด.
    ถ้าสุนัขเดินแซงไปข้างหน้า พูดว่า "ไม่, [ชื่อสุนัข], ชิด" ด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ ถ้าหากจำเป็นก็ให้กระตุกสายจูงได้ เวลาที่คุณหยุด ให้หยุดด้วยเท้าซ้ายเสมอ และพูดว่า "[ชื่อสุนัข], นั่ง" ถ้าสุนัขเดินนำหน้าอีกแล้ว ให้ดึงเบาๆ หรือสั่งให้มันหยุดข้างเท้าซ้ายคุณโดยใช้คำสั่ง "นั่ง"[13]
    • ถ้าทุกอย่างดูควบคุมไว้ไม่ไหว ให้หยุดแล้วสั่งสุนัขให้อยู่ในท่านั่งข้างคุณอีกครั้งหนึ่ง กล่าวชมเชยแล้วเริ่มต้นใหม่ คุณควรปรับสุนัขให้เข้ากับตำแหน่งของคุณเสมอ ไม่ใช่ปรับตำแหน่งตัวคุณเองให้ไปอยู่ข้างสุนัข (ถ้าคุณปรับไปตามมัน จะกลายเป็นสุนัขได้ฝึกมนุษย์ให้มาเชื่อฟังมันแทน)
    • คุณควรให้สุนัขคุ้นเคยกับการไม่รู้สึกรั้งตึงจากสายจูงเว้นเสียแต่ว่าคุณกำลังแก้ไขพฤติกรรมของมัน มิฉะนั้นสุนัขจะเคยชินกับการถูกสายจูงรั้งไว้ในที่สุด ให้แก้ไขพฤติกรรมโดยใช้เสียงและท่าทาง ให้ใช้สายจูงช่วยเฉพาะตอนที่มันไม่ฟัง
  6. How.com.vn ไท: Step 6 กล่าวชมเชยเวลาที่สุนัขชิด.
    คุณอาจเอ่ยชมสุนัขเวลาที่มันมาชิดได้ดี แต่ลดระดับความยินดีลงเพื่อไม่ทำให้มันเสียสมาธิ พอมันเริ่มเชื่อฟังเสียงคำสั่งอย่างต่อเนื่องแล้ว ให้เงียบและจะใช้เสียงออกคำสั่งเฉพาะตอนแก้ไขให้ถูกเท่านั้น
    • ระยะเวลาที่ใช้เรียนรู้นั้นขึ้นอยู่กับสุนัขแต่ละตัว ฉะนั้นอย่าเร่งให้รุดหน้าไวๆ
  7. How.com.vn ไท: Step 7 สอนสุนัขให้นั่งเวลาที่คุณหยุดเดิน.
    เมื่อคุณพร้อมจะหยุดเดิน คุณควรหยุดด้วยเท้าซ้ายและพูดว่า "[ชื่อสุนัข], นั่ง" หลังจากทำซ้ำไม่กี่ครั้งคุณก็น่าจะไม่ต้องใช้คำสั่งนั่งแล้ว สุนัขจะเรียนรู้ว่าการหยุดด้วยเท้าซ้ายคือสัญญาณให้มันหยุดนั่ง
  8. How.com.vn ไท: Step 8 ฝึกคำสั่งผ่านทางท่าทางอย่างเดียว.
    เมื่อสุนัขเชื่อฟังคำสั่ง "ชิด" ได้ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง ให้เริ่มการออกเดินด้วยเท้าซ้ายแบบไม่ทันตั้งตัวและหยุดโดยไม่ต้องออกเสียงสั่งหรือใช้ภาษามือ นอกจากนี้ เมื่อสุนัขอยู่ในท่า "เริ่มต้น" บางครั้งก็ให้ออกเดินด้วยเท้าขวา สุนัขอาจจะอยากตามคุณออกมา ฉะนั้นให้ใช้คำสั่ง "คอย" และเดินอ้อมหลังสุนัขกลับมายังท่า "ตั้งต้น"
    • อีกทางเลือกให้ก้าวเดินด้วยเท้าซ้ายและใช้คำสั่งชิด จากนั้นหยุดเดินด้วยเท้าขวาและใช้คำสั่งคอย หลังจากนั้นไม่นานคุณจะพัฒนาไปถึงขั้นสามารถสลับก้าวเท้าเดินได้ตามสะดวกและย้ำพฤติกรรมของการ "ชิด" หรือ "คอย" ได้ เมื่อคุณกับสุนัขเรียนรู้ได้คล่องแคล่วแล้ว คุณจะสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ราบรื่นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • สุนัขชอบรางวัลและมักมีแรงกระตุ้นได้ดี เช่น ทันทีที่สุนัขนั่งเองเป็นครั้งแรก ให้รางวัลหรือถูบริเวณท้อง เมื่อสุนัขเชื่อมโยงการนั่งกับรางวัลได้ มันก็จะทำตามได้ง่าย
  • ให้ฝึกสุนัขในตอนแรกๆ ในบ้านหรือใช้สายจูงถ้าอยู่นอกบ้านและอยู่ในที่เงียบๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนสุนัข หลังจากมันเรียนรู้คำสั่งได้ดีแล้ว จึงค่อยเริ่มฝึกในสถานที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้สุนัขยังคงรับฟังคำสั่งแม้จะมีสิ่งดึงดูดใจ
  • เป็นการดีถ้าจะฝึกตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข แต่สุนัขโตแล้วก็ฝึกได้เช่นกัน แต่อาจต้องใช้เวลานานหน่อยในการสลายพฤติกรรมไม่ดีก่อน
  • ให้แน่ใจเสมอว่าการฝึกนั้นไม่ยากเย็นจนเกินไปและสุนัขยังสนุกได้! มิเช่นนั้น สุนัขอาจไม่อยากมีส่วนร่วมกับการฝึกเลย[14]
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าแสดงอาการโมโหหรือหงุดหงิดในระหว่างการฝึก มันจะไปทำสุนัขสับสนและรู้สึกกลัว ทำให้การฝึกกลายเป็นประสบการณ์ด้านลบไปสำหรับคุณทั้งสองฝ่าย ถ้าเริ่มโมโห ให้ข้ามไปหรือย้อนกลับไปออกคำสั่งที่สุนัขทำตามได้ดี และให้จบการฝึกในเชิงบวก
  • อย่าปล่อยให้สุนัขเอาเปรียบคุณ ให้ทำกับสุนัขอย่างนุ่มนวลแต่หนักแน่น
  • อย่าเลื่อนหรือหยุดการฝึก สุนัขนั้นจะฝึกง่ายที่สุดตอนยังเป็นลูกสุนัขมากกว่าตอนโตเต็มวัยแล้ว
  • พยายามอย่าให้มีคนหลายคนอยู่ด้วยในระหว่างที่ฝึก ถ้าสุนัขได้ยินเสียงหลายๆ เสียงพร้อมกัน มันจะสับสน
  • อย่าปล่อยสุนัขหลุดจากสายจูงจนกว่ามันจะทำตามคำสั่งได้ถูกต้อง 100% สุนัขแค่ไม่เชื่อฟังคำสั่งหนเดียวและหลุดจากการควบคุมของคุณ คุณถึงจะเข้าใจว่าคุณไม่สามารถบังคับในสิ่งที่คุณไล่จับไม่ได้ คุณจำต้องมีอำนาจบังคับอย่างหนักแน่นก่อนจะสามารถเริ่มปล่อยสุนัขออกเดินโดยไม่ต้องพึ่งสายจูง
  • อย่าตำหนิหรือบังคับสุนัขเวลาที่มันเข้ามาหาคุณตามคำสั่ง ไม่ว่าจะอย่างไรเสมอ! ถึงแม้ว่าสุนัขจะไม่เชื่อฟังคำสั่งก่อนหน้าที่มันจะมา ข้อเท็จจริงก็คือการที่มันเชื่อฟังคำสั่งสุดท้ายของคุณจะเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงกับการทำตามที่บังคับไว้ ไม่งั้นมันจะเป็นการให้สัญญาณที่สับสน!
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Jessica Powell
ร่วมเขียน โดย:
ครูฝึกสุนัขมืออาชีพที่มีใบรับรอง
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Jessica Powell. เจสสิก้า เป็นครูฝึกสุนัขมืออาชีพที่มีใบรับรอง และเป็นเจ้าของ Proud Paws Dog Training ธุรกิจขนาดเล็กที่ให้บริการฝึกสุนัขแบบส่วนตัวและบริการฝึกสุนัขที่บ้านให้กับเจ้าของสุนัขทั่วซานเฟอร์นันโดวัลลีย์ในลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย ด้วยประสบการณ์เกือบ 10 ปี เธอมีความรู้และประสบการณ์อย่างกว้างขวางในด้านพฤติกรรมสุนัข เทคนิคการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ สวัสดิภาพสัตว์ การฝึกมารยาท การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการบำรุง เจสสิก้าสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาการจัดการสัตว์และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านที่พักพิงที่มีประสบการณ์อีกด้วย บทความนี้ถูกเข้าชม 109,528 ครั้ง
หมวดหมู่: สุนัข
มีการเข้าถึงหน้านี้ 109,528 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา