ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Colleen Demling-Riley, CPDT-KA, CBCC-KA, CDBC. คอลลีน เดมลิง-ไรลีย์ (CPDT-KA, CBCC-KA, CDBC) เป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมสุนัขและผู้ก่อตั้ง Pawtopia Dog Training เธอเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์และปรับแผนการควบคุมดูแลสุนัขให้ตรงกับความต้องการของเจ้าของสุนัข โดยมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี เธอได้รับใบรับรอง Certified Pet Dog Trainer-Knowledge Assessed, Certified Behavior Consultant Canine-Knowledge Assessed, Certified Dog Behavior Consultant และ American Kennel Club Canine Good Citizen Evaluator คอลลีนเป็นสมาชิกของสมาคมผู้เชี่ยวชาญด้านสุนัขนานาชาติและได้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทสำคัญในสื่อระดับชาติซึ่งได้แก่ New York Times, Woman’s Day, Readers Digest, Cosmopolitan และ Yahoo.com
มีการอ้างอิง 8 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 10,003 ครั้ง
เกือบครึ่งหนึ่งของคนที่มีสัตว์เลี้ยงจะเลี้ยงสุนัข คุณอาจจะเป็นหนึ่งในนั้น ฉะนั้นคุณจะทำอย่างไรถ้าคุณต้องการเลี้ยงกระต่ายเพิ่ม? หากคุณต้องการให้บ้านสงบ คุณก็ต้องเรียนรู้วิธีการทำให้สัตว์ทั้งสองชนิดคุ้นเคยกัน ตั้งแต่การเลือกสายพันธุ์ การฝึกให้ทำตามคำสั่งและให้มันค่อยเป็นค่อยไป คุณต้องใส่ใจสิ่งเหล่านี้เพื่อให้สัตว์ทั้งสองชนิดอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข จำไว้ว่ากระต่ายเป็นสัตว์ประเภทเหยื่อ และไม่ใช่คู่หูของสุนัขตามธรรมชาติ กระต่ายอาจจะรู้สึกกลัวและเกรงสุนัข ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นคุณอาจจะต้องแยกสัตว์สองชนิดออกจากกันตลอดไปหากวิธีไม่ได้ผล
ขั้นตอน
ค้นคว้าหาพันธุ์สุนัขที่สามารถเข้ากับกระต่ายได้. หากคุณจะเลี้ยงสุนัขเพิ่ม คุณก็ต้องเลือกสายพันธุ์ที่สามารถเข้ากับกระต่ายได้ คุณอาจจะต้องหลีกเลี่ยงพันธุ์รีทรีฟเวอร์ ลาบราดอร์และเทอร์เรียซึ่งมีนิสัยชอบล่าสัตว์ เช่น หนูและกระต่าย สายพันธุ์เหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านสัญชาตญาณการล่า[1]- สายพันธุ์ของสุนัขอาจจะไม่สามารถบ่งบอกนิสัยของสุนัขได้ทั้งหมด คุณควรจับตาดูนิสัยของสุนัขก่อนที่จะนำมาเล่นกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น
- ผู้เพาะพันธุ์สุนัขอาจจะไม่เห็นด้วยกับสายพันธุ์ที่เหมาะกับการเลี้ยงร่วมกับกระต่าย คุณต้องตระหนักถึงความคิดเห็นที่แตกต่างเมื่อนำสุนัขมาเลี้ยงในบ้าน
เลือกสายพันธุ์กระต่ายที่สามารถเข้ากับสุนัขได้. กระต่ายมีหลายสายพันธุ์และพวกมันมีนิสัยที่แตกต่างกันเช่นเดียวกับสุนัข คุณอาจจะอยากเลือกกระต่ายที่มีนิสัยเข้ากับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ได้ สายพันธุ์ที่เหมาะกับการเลี้ยงร่วมกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ได้แก่[2]:- ซัสเซกส์
- ดัทช์
- หิมาลายัน
- ฮาวาน่า
- แคลิฟอร์เนียน
ปรึกษากับสัตวแพทย์. คุณต้องปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนที่จะนำสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้าบ้าน คุณต้องทำให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่แล้วนั้นมีสุขภาพแข็งแรงและเข้ากับสัตว์อื่นได้ สัตว์ที่เครียดและเจ็บปวดอาจจะมีนิสัยดุร้าย สัตวแพทย์สามารถตรวจร่างกายสัตว์เลี้ยงและเตรียมตัวคุณด้วยคำแนะนำพิเศษสำหรับการนำสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้าบ้านโฆษณา
ฝึกให้เชื่อฟังคำสั่ง. สุนัขของคุณควรถูกฝึกให้ดีและเชื่อฟังคำสั่งเสียง สุนัขควรจะสามารถฟังและโต้ตอบคำสั่งของคุณได้ คุณต้องเป็นคนควบคุมการพบกันของสัตว์เลี้ยงตัวเก่าและตัวใหม่ สุนัขควรรู้คำสั่งง่ายๆ เช่น นั่ง นิ่งและนอน คุณสามารถสอนเพื่อนรักให้ฟังคำสั่งเหล่านี้ได้ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น- เข้าเรียนการฝึกให้เชื่อฟังคำสั่ง สัตวแพทย์ส่วนใหญ่สามารถแนะนำโรงเรียนฝึกสุนัขให้กับคุณได้ ร้านขายของสัตว์เลี้ยงบางแห่งมีบริการสอนการเข้าสังคมของสุนัขและการเชื่อฟังคำสั่ง นอกจากคุณและสุนัขจะได้เรียนรู้คำสั่งที่เป็นประโยชน์แล้ว คุณยังสามารถใช้โอกาสนี้สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง สุนัขของคุณจะเชื่อฟังและใส่ใจคุณหากมันรู้สึกอุ่นใจกับการมีคุณเป็นเจ้าของและคนออกคำสั่ง[3]
- ฝึกการออกคำสั่งกับสุนัข หากคุณและสุนัขต้องการรื้อฟื้นความจำของคำสั่งง่ายๆ เช่น นั่ง คุณก็ควรฝึกสุนัขในสถานที่ที่ผ่อนคลายเช่นที่บ้าน[4] การฝึกคำสั่งเหล่านี้จะทำให้สุนัขคุ้นเคยกับจังหวะของคุณและมันจะเชื่อฟังคุณ คุณต้องทำให้คำสั่งเหล่านี้สบายๆ กับทั้งคุณและสุนัข
หาสถานที่ที่เป็นกลาง. คุณต้องไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงตัวใดตัวหนึ่งรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่ในการพบกัน คุณต้องหาสถานที่ที่คุณสามารถควบคุมสัตว์เลี้ยงทั้งสองได้ สถานที่ที่เหมาะสมของการพบกันของสัตว์เลี้ยงคือห้องนั่งเล่นหรือห้องครอบครัว คุณต้องหลีกเลี่ยงสถานที่ที่สัตว์เลี้ยงตัวใดตัวหนึ่งกินหรือนอนเพราะมันอาจจะรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่นั้นได้[5]- คุณต้องไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงตัวใดตัวหนึ่งรู้สึกกดดัน สถานที่ที่เป็นกลางสามารถช่วยให้สัตว์เลี้ยงไม่เครียดเพิ่มขึ้น การพบเจอเพื่อนใหม่เป็นสิ่งที่เครียดพอแล้ว คุณต้องทำให้สุนัขไม่รู้สึกอึดอัดจากสายจูงหรือปลอกคอที่แน่นจนเกินไป
- สถานที่ที่เป็นกลางจะช่วยให้คุณผ่อนคลายเช่นกัน คุณต้องรู้สึกสบายในพื้นที่แห่งนี้และสามารถสังเกตปฏิกิริยาของสัตว์เลี้ยงได้ เลือกสถานที่ที่ผ่อนคลายสำหรับทุกๆ ฝ่าย
เก็บกระต่ายไว้ในที่ที่ปลอดภัย เช่น กรงสำหรับเดินทาง. สำหรับการเจอกันครั้งแรกคุณอาจจะต้องเก็บกระต่ายไว้ในที่ที่ปลอดภัยซึ่งเป็นที่ที่กระต่ายไม่สามารถวิ่งหนีได้ วิธีนี้จะช่วยให้กระต่ายปลอดภัยหากมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกด้วย
ล่ามสุนัข. สำหรับการเจอกันครั้งแรกคุณต้องทำให้มั่นใจว่าคุณสามารถควบคุมสุนัขได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้สุนัขนั่งหรือนอน วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถจับตามองสุนัขซึ่งเป็นการควบคุมมัน
ขอความช่วยเหลือ. ขอความช่วยเหลือจากสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนในการจับกระต่ายหรือสุนัขเอาไว้ คุณต้องควบคุมสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ให้ได้มากที่สุดและการได้รับความช่วยเหลือและช่วยจับตามองจะทำให้คุณได้เปรียบ[6]โฆษณา
ค่อยๆ แนะนำสัตว์เลี้ยงทั้งสองให้แก่กัน. อย่าหุนหันพลันแล่นหรือจับสัตว์เลี้ยงสองตัวมาเจอกันเร็วเกินไป คุณควรนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในห้องทีละตัวเพื่อให้พวกมันได้คุ้นเคยกับกลิ่นของกันและกัน[7]- ให้เวลาพวกมันได้ทำความรู้จัก คุณต้องไม่เพิ่มความกดดันให้กับสัตว์เลี้ยงและทำให้มันกลัว
- คิดบวกกับการทักทายกันอย่างช้าๆ ของสัตว์เลี้ยง ให้กำลังใจสัตว์เลี้ยงด้วยคำพูดที่เป็นบวก เช่น "เก่งมากเจ้าหนู" หรือ "เบาๆ" สัตว์เลี้ยงของคุณควรได้ยินและตอบโต้น้ำเสียงที่ออกคำสั่งและนุ่มนวลของคุณ
นำพวกมันเข้ามาใกล้กัน. ขั้นตอนต่อไปคือการนำพวกมันเข้ามาใกล้กันมากขึ้น คุณต้องให้กระต่ายเป็นฝ่ายเข้าหาสุนัข วิธีนี้จะช่วยไม่ให้กระต่ายวิ่งหนีตามสัญชาตญาณซึ่งอาจจะจุดประกายสัญชาตญาณการล่าของสุนัขได้[8]- สังเกตภาษากายระหว่างการทักทายกัน หากกระต่ายเตะ หายใจแรงหรือพยายามหนี คุณก็ควรนำสุนัขออกจากห้องแล้วปล่อยให้กระต่ายใจเย็นลง อีกทั้งคุณควรตระหนักว่ากระต่ายที่เครียดอาจจะนั่งพับขาและพยายามแกล้งตาย หากกระต่ายไม่วิ่งหนีก็ไม่ได้แปลว่ามันกำลังยอมรับความเป็นอยู่ของสุนัขมันอาจจะแค่กลัวมากจนไม่กล้าวิ่งหนี
- หากสุนัขดูตื่นเต้นเกินไปก็ให้ใช้เวลาทำให้สุนัขใจเย็นลงโดยการสั่งให้มันนั่งและอยู่นิ่งๆ 2-3 นาทีในขณะที่มันสงบจิตสงบใจ
จับตาดูพวกมัน. ไม่ว่าอย่างไรก็ตามคุณห้ามปล่อยให้สัตว์เลี้ยงสองตัวอยู่ในห้องด้วยกันลำพังในการเจอกันครั้งแรกๆ ไม่ว่าพวกมันจะดูเข้ากันอย่างไรไม่คุณก็ไม่ควรเสี่ยง- ทำให้มั่นใจว่าสัตว์แต่ละตัวอยู่ในอารมณ์ที่อยากทักทายเพื่อนใหม่ สัตว์ก็เหมือนคนที่สามารถมีวันแย่ๆ ได้ คุณคงไม่อยากให้การเจอกันครั้งแรกๆ เกิดขึ้นหากสัตว์ตัวใดตัวหนึ่งป่วยหรือเครียด
ใช้เวลาในการเจอกันอย่างสั้นๆ. การเจอกันที่นานอาจทำให้สัตว์ตื่นเต้นมากเกินไปซึ่งอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บที่ไม่ตั้งใจให้กับสัตว์เลี้ยงตัวได้ตัวหนึ่ง สังเกตระดับความตื่นเต้นของสัตว์ทั้งสอง เมื่อมีตัวใดตัวหนึ่งเริ่มแสดงอาการเครียดคุณก็ต้องหยุดโฆษณา
ฝึกฝนการใช้กิจวัตร. สัตว์เลี้ยงของคุณอาจจะเข้ากันไม่ได้ในทันทีและนั่นไม่เป็นไร ฝึกฝนการทักทายกันจนกว่าจะกลายเป็นกิจวัตร ในที่สุดสัตว์เลี้ยงจะชินกับการเจอหน้าและได้กลิ่นของกันและกัน
ใส่ใจสัตว์เลี้ยงเสมอๆ. เช่นเดียวกับเด็กๆ ที่คุณต้องใส่ใจสัตว์เลี้ยงเสมอๆ บางสิ่งอาจเกิดขึ้นเพื่อจุดประกายสัญชาตญาณความดุร้ายของสุนัข เสียงดังอาจทำให้กระต่ายตกใจ คุณต้องจับตามองสัตว์เลี้ยงเพื่อให้มั่นใจว่าพวกมันปลอดภัย[9]
แยกบริเวณให้อาหาร. สัตว์มักจะหวงอาณาเขตเมื่อถึงเวลาให้อาหารหรือบริเวณที่ให้อาหาร คุณต้องให้อาหารสัตว์เลี้ยงคนละห้องกัน หากตัวใดตัวหนึ่งแสดงอาการดุร้ายในขณะกินอาหาร ให้คุณลองให้อาหารพวกมันในเวลาที่ต่างกัน[10]- พื้นที่อื่นๆ ที่สัตว์มักจะหวงอาณาเขตคือที่ที่พวกมันหลับนอนหรือพักผ่อน คุณต้องจับตามองเมื่อกระต่ายและสุนัขเจอกันใกล้พื้นที่เหล่านี้
- สัตว์อาจจะหวงอาณาเขตกับคุณด้วย พวกมันอาจจะหวงเจ้าของ คุณต้องเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงทั้งสองเท่าเทียมกัน
ใจเย็นๆ. การทำความรู้จักเพื่อนใหม่เป็นสิ่งที่ท้าทาย คุณต้องให้เวลาสัตว์เลี้ยงเพื่อทำตัวชินกับคุณ บ้านและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.rascallyrabbitrescue.org/Documents/rdogs.pdf
- ↑ http://www.justrabbits.com/rabbits-as-pets.html#gs.Lu0d8X8
- ↑ http://www.nadoi.org/
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/teaching-your-dog-sit
- ↑ http://www.rabbit.org/journal/1/dogs.html
- ↑ http://www.smallanimalchannel.com/rabbits/rabbit-interaction/rabbits-and-pets.aspx
- ↑ http://www.rabbitnetwork.org/articles/dogs.shtml
- ↑ http://www.rascallyrabbitrescue.org/Documents/rdogs.pdf
- ↑ http://www.rabbit.org/journal/1/dogs.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
ผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมสุนัข
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Colleen Demling-Riley, CPDT-KA, CBCC-KA, CDBC. คอลลีน เดมลิง-ไรลีย์ (CPDT-KA, CBCC-KA, CDBC) เป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมสุนัขและผู้ก่อตั้ง Pawtopia Dog Training เธอเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์และปรับแผนการควบคุมดูแลสุนัขให้ตรงกับความต้องการของเจ้าของสุนัข โดยมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี เธอได้รับใบรับรอง Certified Pet Dog Trainer-Knowledge Assessed, Certified Behavior Consultant Canine-Knowledge Assessed, Certified Dog Behavior Consultant และ American Kennel Club Canine Good Citizen Evaluator คอลลีนเป็นสมาชิกของสมาคมผู้เชี่ยวชาญด้านสุนัขนานาชาติและได้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทสำคัญในสื่อระดับชาติซึ่งได้แก่ New York Times, Woman’s Day, Readers Digest, Cosmopolitan และ Yahoo.com บทความนี้ถูกเข้าชม 10,003 ครั้ง
หมวดหมู่: สัตว์เลี้ยง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,003 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
