วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ นักเขียนที่อาสาสมัครมาได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ถูกเข้าชม 87,245 ครั้ง
ถ้าคุณมีหนังสือพิมพ์เก่าเต็มบ้านไปหมด มีจดหมายแฟนเก่าที่อยากกำจัดแบบอาร์ตๆ หรืออยากหารายได้พิเศษเล็กๆ น้อยๆ ก็มาลองทำ "กระดาษ" ตามขั้นตอนในบทความวิกิฮาวนี้กันดีกว่า ที่ต้องใช้คือกระดาษเก่าเตรียมรีไซเคิล น้ำ ถาดอลูมิเนียม มุ้งลวด แล้วก็เครื่องปั่น
ขั้นตอน
- รวบรวมอุปกรณ์. จะทำกระดาษได้ เราต้องผสมเยื่อกระดาษ (pulp) กับน้ำเข้าด้วยกัน จากนั้นเทใส่มุ้งลวด ข้างล่างคือวิธีทำกระดาษที่คุณเลือกใช้ได้
- ใช้กรอบแม่พิมพ์ไม้: ขึงมุ้งลวดกลางกรอบไม้ที่ใช้เป็นแม่พิมพ์ทำกระดาษ (จะใช้กรอบรูปเก่าก็ได้ หรือทำแม่พิมพ์ใหม่เลย) แล้วแม็กซ์หรือตอกตะปูยึดไว้ตรงขอบ ถ้าไม่มีมุ้งลวด จะใช้ตะแกรงอะไรก็ได้ที่ตาถี่ๆ ช่องละประมาณ 1 มม. โดยขึงให้ตึงที่สุด และมุ้งลวดต้องใหญ่ประมาณขนาดของแผ่นกระดาษที่คุณต้องการ นอกจากนี้ก็ต้องมีอ่างสี่เหลี่ยม ถังน้ำ หรือถาดที่ใหญ่กว่าแม่พิมพ์
- ใช้ถาดอลูมิเนียม: เลือกถาดอลูมิเนียมก้นลึกแบบใช้แล้วทิ้ง หรือชามก้นลึกสำหรับอบอาหารก็ได้ จากนั้นตัดมุ้งลวดให้มีขนาดพอดีกับก้นถาด แต่ใหญ่กว่านิดหน่อย
- หากระดาษที่จะเอามารีไซเคิล. กระดาษหนังสือพิมพ์นี่แหละที่หาง่ายสุด แต่จริงๆ จะใช้กระดาษเอกสารเก่าๆ สมุดฉีกเก่าๆ ที่ใช้แล้ว หรือสมุดหน้าเหลืองก็ได้ สรุปแล้วคือกระดาษอะไรก็ได้ที่ไม่เคลือบไขให้มันวาว กระดาษใหม่จะออกมา "เทา" แค่ไหน ขึ้นอยู่กับสีของกระดาษรีไซเคิลโดยรวม และความเข้มของหมึกพิมพ์ ที่สำคัญคือห้ามใช้กระดาษมันวาว
- จะเอาใบไม้ใบหญ้ามาทำกระดาษก็ได้ ก็เหมือนที่คนโบราณเขาทำกันมาตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ 20 ไงล่ะ! โดยหั่นแล้วสับใบไม้ใบหญ้าจนละเอียด แช่ในโซดาไฟจน "ย่อยสลาย" กรองเอาแต่เนื้อ แล้วปั่นจนเป็นเยื่อกระดาษ สุดท้ายเทใส่แท่นพิมพ์ พอแห้งแล้วก็จะได้กระดาษที่ "ไม่ตัดไม้ทำลายป่า" สมใจ
โฆษณา
- เลือกแต่กระดาษจริงๆ. ก่อนจะเอากระดาษเก่ามารีไซเคิล ต้องเช็คให้ดีว่าไม่มีพลาสติก แม็กซ์ หรืออื่นๆ ติดอยู่ โดยเฉพาะถ้าจะเอาเอกสารเก่าหรือใบปลิวมาทำกระดาษ บางทีอาจมีแม็กซ์หรือพลาสติกใสจากซองติดอยู่ พยายามตรวจเช็คให้ละเอียดที่สุด
- ฉีกกระดาษเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย. เอาเท่าที่ทำได้ จะได้ไม่เสียเวลามาก แผ่นหนึ่งฉีกสัก 2 - 3 ครั้งก็พอแล้ว
- เอากระดาษแช่น้ำ. เอาเศษกระดาษใส่ภาชนะ (เช่น ถ้วยหรือชาม) แล้วเทน้ำใส่ให้มิด ทิ้งไว้ 30 - 45 นาที
- ถ้าอยากได้กระดาษสีหนาๆ ที่ใช้ทำงานประดิษฐ์ ก็ต้องใช้กระดาษเก่าที่ไม่มีหมึกเข้มๆ ทำ "เยื่อกระดาษ" ออกมาเยอะๆ แล้วหยดสีผสมอาหารลงไป กระดาษจะสีเข้มทึบที่ด้านหนึ่งและสีสดใสที่อีกด้าน อันนี้ก็แล้วแต่ว่าจะเอาไปทำอะไร แต่ส่วนใหญ่คนจะเขียนที่ด้านสีอ่อน
- ถ้าอยากให้กระดาษสีขาวขึ้น ให้ผสมน้ำส้มสายชูกลั่นขาว 1/2 ถ้วยตวงในเยื่อกระดาษ
- ทำเยื่อกระดาษ. พอกระดาษรีไซเคิลเปียกจนนุ่ม ก็เอาไปทำเป็นเยื่อกระดาษ (pulp) ได้เลย หรือก็คือส่วนผสมเขละๆ ข้นๆ ที่จะกลายมาเป็นแผ่นกระดาษเมื่อแห้งสนิท คุณทำเยื่อกระดาษได้ 2 วิธีคือ
- ใช้เครื่องปั่น - ฉีกกระดาษให้เป็นเศษเล็กเศษน้อย แล้วเอาใส่เครื่องปั่นจนได้ครึ่งโถ ต่อมาเทน้ำอุ่นลงไป ตอนแรกให้ปั่นด้วย "รอบต่ำๆ" ก่อน แล้วค่อยเพิ่มความเร็วจนได้เยื่อที่ละเอียดเป็นเนื้อเดียว ให้ปั่นประมาณ 30 - 40 วินาที จนไม่เหลือเศษกระดาษแยกออกมา
- ตำด้วยครกและสาก - ถ้ามีครกกับสากติดบ้าน (จะใช้ไม้นวดแป้งกับชามแข็งแรงหน่อยก็ได้) ก็เอามาตำเยื่อกระดาษซะเลย ตำไปทีละน้อย จนได้เยื่อกระดาษข้นประมาณข้าวโอ๊ตแฉะๆ
โฆษณา
- เติมน้ำให้ได้ครึ่งอ่าง. อ่างที่ว่าต้องเป็นทรงสี่เหลี่ยม กว้างและยาวกว่าแม่พิมพ์เล็กน้อย
- ถ้าใช้แม่พิมพ์ทำกระดาษ ให้เติมน้ำในอ่าง ใส่เยื่อกระดาษลงไป แล้วค่อย จุ่มแม่พิมพ์
- ถ้าใช้ถาดอลูมิเนียม ให้วางมุ้งลวดที่ก้นถาด ก่อน แล้วค่อยเติมน้ำ จากนั้นผสมเยื่อกระดาษ
- ใส่เยื่อกระดาษในอ่างแล้วคน. ถ้าใส่เยื่อกระดาษในน้ำมากเท่าไหร่ กระดาษที่ได้ก็ยิ่งหนา ถึงขั้นต่อไปจะต้องให้เยื่อกระดาษเยอะจนคลุมมุ้งลวด แต่ก็อย่าใส่เยอะจนกลายเป็นกากตะกอนเต็มอ่าง ของแบบนี้ต้องลองปรับเปลี่ยนดูเอง เพราะถ้าสัดส่วนของน้ำน้อยกว่าเยื่อกระดาษเยอะ อาจจะได้แผ่นกระดาษลังแทนกระดาษธรรมดา
- เอากระดาษที่จับตัวเป็นก้อนออก. ถ้าเจอก้อนกระดาษต้องเอาออกให้เหลือแต่เยื่อเนียนละเอียด กระดาษขั้นสุดท้ายจะได้เนียนเรียบ
- เพิ่มความทนทานให้กระดาษ (ไม่จำเป็น). ถ้าจะเขียนใส่กระดาษนี้ ให้ผสมน้ำยารีดผ้า 2 ช้อนชาในเยื่อกระดาษแล้วคนผสม จะช่วยป้องกันไม่ให้หมึกฟุ้งละลายไปในเส้นใยกระดาษ
- ถ้าไม่ใส่น้ำยารีดผ้า กระดาษจะชุ่มหมึกง่ายมาก ละลายเละเทะไปหมด ถ้าไม่ทันป้องกัน ให้แก้ไขทีหลังโดยเอากระดาษแห้งไปจุ่มในน้ำผสมเจลาตินนิดหน่อย แล้วตากให้แห้ง
- จุ่มแม่พิมพ์ในส่วนผสม (เฉพาะคนที่จะทำกระดาษโดยใช้แม่พิมพ์). จุ่มแม่พิมพ์กรอบไม้ลงในอ่างที่มีเยื่อกระดาษ โดยคว่ำมุ้งลวดลง ถือขนาดไว้ระหว่างจมลงไป จากนั้นร่อนจนเยื่อกระดาษมาติดตามมุ้งลวดเป็นแผ่นเรียบๆ
- ยกแม่พิมพ์ขึ้นจากอ่าง. ค่อยๆ ยกแม่พิมพ์ขึ้นมาจนพ้นน้ำ จากนั้นตากไว้ที่เหนืออ่าง ให้น้ำหยดออกมาจากเยื่อกระดาษจนหมด จะเริ่มเห็นกระดาษทำเองของคุณเป็นรูปเป็นร่าง ถ้ากระดาษหนาไป ให้กำจัดเยื่อกระดาษบางส่วนด้านบน แต่ถ้ากระดาษบางไป ให้เพิ่มเยื่อกระดาษ แล้วคนส่วนผสมอีกรอบ
- กำจัดน้ำส่วนเกินในกระดาษ. พอยกแม่พิมพ์ขึ้นจากอ่าง ต้องกำจัดน้ำส่วนเกินจากเยื่อกระดาษให้หมด ส่วนจะทำยังไง ก็แล้วแต่วิธีทำกระดาษที่คุณเลือกในขั้นตอนที่ 1
- ถ้าใช้แม่พิมพ์: พอน้ำหยดจนหมดแล้ว (หรือเกือบหมด) ให้ค่อยๆ ปูผ้าขนหนู (ผ้าสักหลาดหรือผ้าสักหลาดอ่อน (flannel)) หรือแผ่นฟอร์ไมกา (เอาด้านเรียบคว่ำลง) ในแม่พิมพ์ ที่ด้านบนของ "กระดาษ" แล้วค่อยๆ กดลงไปเพื่อรีดน้ำที่เหลือในกระดาษออกมา ใช้ฟองน้ำช่วยซับน้ำที่อีกด้านของมุ้งลวดให้ได้มากที่สุดด้วย แล้วบีบน้ำออกจากฟองน้ำเป็นระยะ
- ถ้าใช้ถาด: ปูผ้าขนหนูบนพื้นราบ แล้วเอาแม่พิมพ์ (ที่มีกระดาษ) วางบนครึ่งหนึ่งของผ้า จากนั้นพับผ้าครึ่งที่เหลือมาปิดทับบนกระดาษ ต่อมาเปิดเตารีดที่ไฟต่ำ แล้วรัดทับผ้าเบาๆ จะเห็นไอระเหยออกมาจากกระดาษนิดหน่อย
โฆษณา
- ลอกกระดาษออกจากแม่พิมพ์. พอกระดาษแห้งขึ้นอีกนิด ก็ลอกออกมาจากแม่พิมพ์ได้เลย ระหว่างนั้นก็กดรีดฟองอากาศหรือขอบกระดาษที่ไม่เรียบได้เลย
- ค่อยๆ เอาผ้าหรือแผ่นฟอร์ไมกาออกจากแม่พิมพ์ กระดาษชื้นๆ จะยังติดอยู่กับผ้า ถ้ากระดาษติดกับแม่พิมพ์ แสดงว่าดึงเร็วเกินไปหรือรีดน้ำออกไม่พอ
- ให้ปูแผ่นฟอร์ไมกาหรือผ้าผืนใหม่ทับบนกระดาษที่เกือบจะแห้ง แล้วกดเบาๆ จะทำให้กระดาษบางลง เรียบเนียนขึ้น แล้วทิ้งไว้จนแห้งสนิท
- ลอกกระดาษออกจากแม่พิมพ์ช้าๆ. ถ้ากระดาษไม่ยอมลอกออกมา ให้ใช้ผ้าปูแล้วรีดซ้ำด้วยเตารีด
- ตากกระดาษจนแห้ง. ปูกระดาษบนพื้นราบแล้วตากไว้จนแห้งสนิท หรือถ้าอยากให้แห้งเร็วๆ ก็ใช้ไดร์เป่าซะเลย แต่ใช้ความร้อนต่ำๆ พอ
- ลอกกระดาษออกจากผ้าหรือแผ่นฟอร์ไมกา (เฉพาะกระดาษที่ทำด้วยแม่พิมพ์) รอจนกระดาษแห้งสนิท แล้วค่อยๆ ลอกออกอย่างเบามือ
- รีดด้วยเตารีด (ไม่จำเป็น): พอกระดาษพอชื้น จนลอกออกจากผ้าหรือฟอร์ไมกาได้โดยไม่เสียหาย ก็ให้ใช้เตารีดที่ปรับความร้อนสูง รีดกระดาษเร็วๆ เท่านี้กระดาษจะเงาสวย
- ทำกระดาษแผ่นใหม่ ตามขั้นตอนที่ผ่านๆ มา. เติมเยื่อกระดาษและน้ำ จากนั้นผสมกันในอ่างตามต้องการโฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าอยากให้กระดาษอาร์ตๆ หน่อย ก็ลองผสมวัสดุธรรมชาติลงไปด้วย เช่น กลีบดอกไม้ ใบไม้ หรือใบหญ้าที่สับละเอียดแล้ว บอกเลยว่ากระดาษจะมีลูกเล่นสวยงามแปลกตา เห็นแล้วอยากใช้อยากทำเพิ่ม ที่สำคัญคือลายกระดาษจะไม่ซ้ำกันด้วย
- ถ้าทำให้กระดาษแห้งโดยใช้ผ้า กระดาษอาจจะติดสีและลายของพื้นผิวไปจากผ้าได้ เพราะงั้นก็ต้องเลือกดีๆ ถ้าใช้แผ่นฟอร์ไมกาเรียบเนียนจะดีที่สุด เพราะกระดาษจะเรียบตามไปด้วย ใช้เขียนสะดวก
- ถ้าอยากกำจัดน้ำส่วนเกินจากกระดาษให้ได้เยอะๆ ก็ปูผ้าด้านบนแล้วใช้ฟองน้ำกดไล่น้ำ แต่อย่ากดแรงเกินไปล่ะ!
- หรือใช้กระดาษไขซับแทนผ้าและฟอร์ไมกาก็ได้
- ถ้าลอกกระดาษจากแม่พิมพ์ไม่ค่อยได้ ให้ลองคว่ำแม่พิมพ์ช้าๆ แล้วพยายามลอกกระดาษออกจากผ้าหรือฟอร์ไมกา
- จะเอาฝุ่นผ้า (จากเครื่องอบผ้า) ผสมไปในเยื่อกระดาษด้วยก็ได้ แต่อย่าใช้เป็นส่วนผสมหลักล่ะ เพราะไม่มีความเป็นเยื่อพอจะจับตัวเป็นกระดาษที่ทนทาน
- ถ้าผสมกลิตเตอร์ลงไป ก็จะได้กระดาษวิบวับอย่าบอกใคร
สิ่งของที่ใช้
- กระดาษที่ไม่ได้เคลือบไข (กระดาษที่ไม่เงาหรือมันวาว)
- กรอบแม่พิมพ์ไม้ หรือถาดอลูมิเนียม
- มุ้งลวด
- ภาชนะ
- เครื่องปั่น หรือครกกับสาก
- อ่างสี่เหลี่ยม (ถ้าใช้กรอบแม่พิมพ์ไม้)
- น้ำ
- น้ำยารีดผ้า 2 ช้อนชา (ไม่จำเป็น)
- ฟองน้ำ (ถ้าใช้กรอบแม่พิมพ์ไม้)
- ผ้าขนหนู (ถ้าใช้ถาดอลูมิเนียม)
- เตารีด (ถ้าใช้กรอบแม่พิมพ์ไม้ แต่ไม่จำเป็น)
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.