วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 19 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ผ่านการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เพื่อให้มั่นใจในความถูกต้องของข้อเท็จจริงที่อ้างอิง และยืนยันความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มา
บทความนี้ถูกเข้าชม 4,119 ครั้ง
กระจกอะครีลิก (Acrylic glass) หรือ polymethyl methacrylate เป็นพลาสติกใสแข็งที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า เพล็กซิกลาส (Plexiglass) เพล็กซิกลาสนั้นจะใช้แทนที่กระจกเพราะมันแข็งแกร่งกว่าและไม่แตกง่ายเหมือนกระจก คุณสามารถซื้อเพล็กซิกลาสเป็นแผ่นยาวและตัดออกด้วยอุปกรณ์งานไม้ทั่วไป วิธีการ 2 วิธีด้านล่างนี้จะอธิบายว่าคุณสามารถตัดเพล็กซิกลาสแผ่นใหญ่ให้เล็กลงได้อย่างไร
ขั้นตอน
- ใช้วิธีนี้เพื่อตัดเพล็กซิกลาสชิ้นเล็ก. (แผ่นที่คุณสามารถถือได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องมีใครช่วย)
- ทิ้งกระดาษที่ปิดแผ่นเพล็กซิกลาสเอาไว้อย่างนั้น. เพล็กซิกลาสยากจะแตก แต่ก็เป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย ดังนั้น แผ่นเพล็กซิกลาสมักจะขายโดยมีกระดาษปิดป้องกันรอยขีดข่วนที่อาจเกิดระหว่างตอนขนส่ง
- ปล่อยกระดาษบนพลาสติกเอาไว้เหมือนเดิมให้มากที่สุดจนกว่าคุณจะตัดเสร็จเรียบร้อย (เวลาที่คุณพร้อมจะเอากระดาษปิดออก แค่ยกปลายมุมข้างหนึ่งของแผ่นกระดาษขึ้นแล้วลอกมันออกมาจากตัวแผ่น)
- วางแผ่น (ที่ยังคงปิดกระดาษป้องกัน) บนพื้นที่ราบเรียบสม่ำเสมอ. ถ้าคุณไม่มีม้านั่งทำงาน คุณสามารถตั้งม้ายาวช่างไม้ 2 หรือ 3 ตัว ใช้ม้ายาวให้พอที่จะรับน้ำหนักของแผ่นเพล็กซิกลาสได้
- ใช้ไม้หลาวัดขนาดแผ่นที่คุณจะตัด. อย่าใช้เทปวัดทั้งแบบสายโลหะหรือสายผ้า ไม้หลาเหมาะกับวัสดุแบบนี้มากกว่า
- ระบุตำแหน่งบนกระดาษ. ใช้ปากกามาร์กเกอร์สีดำหรือดินสอดำทำตำหนิขนาดของแผ่นที่คุณจะตัด
- ขีดรอยตำหนิ. ใช้เครื่องตัดกระจกหรือด้านทื่อของมีดคัตเตอร์ คุณต้องขีดเส้นตำแหน่งที่จะ “ตัด” เพราะสุดท้ายคุณจะหักชิ้นนั้นออก ไม่ใช่ตัดมันออก
- ทาบไม้หลาบนเส้นที่คุณทำตำหนิเอาไว้
- ขีดแต่ละเส้นอย่างน้อย 5 หน หรือมากได้ถึง0 หน ยิ่งขีดเป็นรอยลึกแค่ไหน ชิ้นกระจกก็ยิ่งหักออกมาได้ง่าย มีหลายวิธีที่จะขีดกระจกเพล็กซิกลาส:
- ใช้คัตเตอร์ตัดกระจก
- ใช้คัตเตอร์ตัดกล่อง (มีดอเนกประสงค์) โดยหักปลายด้านที่คมของใบมีดออก หรือใช้ด้านหลังของใบมีดในการขีด
- ขีดทั้งหน้าและหลังเพื่อให้หักเพล็กซิกลาสได้ง่ายขึ้น (โดยเทคนิคแล้ว คุณไม่ได้ตัดเพล็กซิกลาส แค่ขีดให้เป็นร่องลึกแล้วหักออก)
- วางเส้นที่ขีดเอาไว้ตรงขอบของม้านั่งหรือโต๊ะทำงาน. ถ้าคุณขีดแค่ 1 ด้าน ให้วางด้านที่ขีดไว้ขึ้นเพื่อคุณจะเห็นเส้นที่ได้ทำตำหนิแล้วขีดเอาไว้
- กดหนักๆ บนเส้นที่ขีดไว้. ใช้แรงกดมากพอที่จะหักมันออก นี่จะง่ายขึ้นถ้าคุณวางไม้ยาวทาบกับแผ่นเพล็กซิกลาสแล้วกดลงไปที่ไม้ แรงกดจะสม่ำเสมอมากขึ้น
- ถูขอบที่ขรุขระให้เรียบ. คุณน่าจะได้แผ่นเพล็กซิกลาสที่มีขอบขรุขระ
- หนีบแผ่นเพล็กซิกลาสกับโต๊ะหรือม้านั่งทำงาน
- ใช้เลื่อยไฟฟ้าเกลี่ยขอบให้เรียบ. วิธีนี้จะใช้ได้ผลดีถ้าแผ่นเพล็กซิกลาสของคุณหนาอย่างน้อย 1/8 นิ้ว (4.57 มม.) วางเพล็กซิกลาสในตำแหน่งที่มีส่วนที่ยื่นออกมามากพอที่ใบมีดของเลื่อยจะเหลาออกได้
- ใช้สว่านที่มีหัวเจียสำหรับแผ่นเพล็กซิกลาสที่หนากว่านั้น ติดหัวเจียด้วยหัวขัดหยาบก่อนจะเริ่มเจีย
โฆษณา
- หนีบแผ่นเพล็กซิกลาสกับโต๊ะหรือม้านั่ง. (อย่าเอากระดาษปิดเพล็กซิกลาสออก)
- วัดและทำตำหนิแผ่นที่คุณจะตัดออก.
- ให้แผ่นเพล็กซิกลาสทาบอยู่กับม้านั่งแน่นๆ ซึ่งจะต้องขนานกับใบเลื่อย
- ใช้ใบเลื่อยเหล็กแบบความเร็วสูง. ซื้อใบเลื่อยที่ถูกออกแบบมาเพื่อตัดเพล็กซิกลาส ถ้าคุณต้องตัดมันมากกว่าคราวละหนึ่งแผ่น หรือต้องตัดเพล็กซิกลาสแผ่นหนา ให้ใช้ใบเลื่อยวงเดือนคาร์ไบด์
- ใช้น้ำยาหล่อเย็นเวลาตัดชิ้นหนา. ถึงแม้น้ำยาหล่อเย็นจะไม่จำเป็นสำหรับการเลื่อยเพล็กซิกลาสส่วนใหญ่ การใช้มันจะทำให้ได้ขอบที่เรียบขึ้น
- ผสมน้ำยาซักฟอกไม่กี่หยดกับน้ำในขวดที่มีหัวฉีดแบบไอละเอียด
- เล็งฉีดไอตรงคมเลื่อย คุณไม่จำเป็นต้องฉีดตรงคมเลื่อยเยอะเกินไป และไม่จำเป็นเลยถ้าตัดแค่แผ่นเล็ก
- เปิดเครื่องเลื่อยไฟฟ้าในความเร็วที่ถูกต้อง. ความเร็วที่เหมาะแก่การตัดเพล็กซิกลาสคือราว 3,450 รอบต่อนาที อัตราการเลื่อยวัสดุ (เพล็กซิกลาส) ควรอยู่ที่ราว 4 นิ้ว (10 ซม.) ต่อวินาที รักษาให้ความเร็วอยู่ในระดับต่ำและสม่ำเสมอเพื่อที่คุณจะไม่ทำแผ่นเพล็กซิกลาสแตกหรือทำให้เครื่องติดขัด
- เจียขอบที่หยาบ. ใช้เลื่อยไฟฟ้า กระดาษทรายเปียก หรือสว่านที่มีหัวเจียเพื่อขัดขอบให้เรียบขึ้นโฆษณา
เคล็ดลับ
- หลังจากหักหรือตัดออกแล้วให้เป่าเศษฝุ่นออกจากแผ่นเพล็กซิกลาสด้วยพัดลมหรือที่เป่าผม อย่าพยายามทำความสะอาดแผ่นจนกว่าคุณเป่าอนุภาคฝุ่นหรือเศษขนาดเล็กออกหมดก่อน ถ้าคุณเช็ดพลาสติกแข็งโดยยังไม่เป่าเศษฝุ่นออก พื้นผิวจะเป็นรอยหมด
- รักษาม้านั่งทำงานหรือโต๊ะให้สะอาดปราศจากฝุ่นละอองหรือเศษขี้เลื่อย ถ้าคุณต้องตัดแผ่นเพล็กซิกลาสเก่าที่ไม่มีกระดาษป้องกันผิว คุณควรเอาผ้าสักหลาดมาคลุมบริเวณนั้นก่อนเพื่อจะไม่ทำให้มันเป็นรอยระหว่างตัด
คำเตือน
- เพล็กซิกลาสจะนิ่มเมื่ออยู่ในอุณหภูมิสูง (มันไม่ละลายเว้นแต่ว่าอุณหภูมิจะสูงถึง 160 องศาเซลเซียส) แต่เน้นความปลอดภัยไว้ก่อนโดยไม่ให้เพล็กซิกลาสอยู่ใกล้ไฟหรือผิวร้อนๆ
- แผ่นเพล็กซิกลาสอาจมีน้ำหนักมากขึ้นอยู่กับขนาด ให้เก็บไว้ในที่มีการพยุงค้ำอย่างดีโดยไม่ให้มันห้อยลง ไม่ว่าจะวางตั้งหรือวางนอน
- เวลาตัดเพล็กซิกลาส จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องป้อนแผ่นกระจกเข้าเครื่องอย่างสม่ำเสมอ ถ้าคุณช้าลงหรือหยุดระหว่างตัดแผ่นกระจก คุณจะทำให้ขอบไหม้
- การตัดเพล็กซิกลาสจะทำให้ไอจากอะครีลิกฟุ้งกระจาย ไอเหล่านี้สามารถทำให้เกิดระคายเคืองต่อระบบหายใจได้ ให้แน่ใจว่าพื้นที่ทำงานของคุณมีการระบายอากาศที่ดีและคุณใช้อุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจที่ถูกต้อง[1]
สิ่งที่ต้องใช้
- ไม้หลา
- จาระบีดินสอ
- เลื่อยวงกลม (เป็นตัวเลือก)
- พื้นที่ทำงานเรียบสม่ำเสมอ
- เลื่อยหรือสว่านเพื่อขัดขอบ
- อุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจส่วนบุคคล
- แว่นตานิรภัย
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.