วิธีการ ตรวจว่าสุนัขเป็นโรคลำไส้อักเสบหรือไม่

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

โรคล้ำไส้อักเสบในสุนัข (หรือที่เรียกกันว่า “พาร์โว”) เป็นโรคในระบบทางเดินอาหารที่ติดต่อได้ง่ายมาก และมีอัตราการตายสูง ไวรัสนี้มักตรวจพบในลูกสุนัข เจ้าของสุนัขหรือนักเพาะพันธุ์สุนัขที่มีประสบการณ์มากมักจะตกใจเมื่อคิดว่าสุนัขของตัวเองเป็นโรคพาร์โว เพราะพวกเขาดีรู้ว่าอาการของสุนัขจะทรุดลงได้เร็วแค่ไหน และโรคนี้ร้ายแรงแค่ไหน หากสุนัขของคุณเป็นโรคพาร์โว การพามันไปพบสัตวแพทย์อย่างรวดเร็วจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้ แต่อาการของโรคพาร์โวนั้นก็คล้ายกับโรคในสุนัขอื่นๆ เช่น การติดเชื้อไวรัสโคโรนา ลำไส้อักเสบจนตกเลือดเพราะเชื้อแบคทีเรีย (bacterial hemorrhagic enteritis) โรคบิด หรือโรคพยาธิปากขอ และอาจสร้างความสับสนได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

ทำความรู้จักอาการของโรคลำไส้อักเสบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 คำนึงถึงอายุของสุนัขของคุณ.
    ส่วนใหญ่แล้วสุนัขที่เป็นโรคพาร์โวมักเป็นลูกสุนัขที่มีอายุระหว่าง 6-20 สัปดาห์ และการติดเชื้อทั้งหมด 85% มักเกิดขึ้นในสุนัขที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี ลูกสุนัขมักติดโรคมากที่สุดเพราะพวกมันมีเซลล์ที่กำลังแบ่งตัวอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนมากในกระเพาะอาหารและลำไส้ และเซลล์เหล่านี้คือเป้าหมายหลักของเชื้อไวรัสพาร์โว หากสุนัขของคุณแก่กว่านี้ ก็ไม่น่าเป็นโรคพาร์โว (แต่ก็ไม่ได้เป็นไปไม่ได้นะ)
    • หากสุนัขที่เป็นแม่ของลูกสุนัขของคุณไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพาร์โว เชื้อไวรัสอาจแสดงตัวก่อนหน้านั้นอีก ภายในช่วงสัปดาห์แรกๆ ของชีวิตเลยก็เป็นได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 คำนึงถึงพันธุ์ของสุนัขของคุณ.
    โรคพาร์โวมักเกิดขึ้นกับสุนัขบางพันธุ์มากกว่าพันธุ์อื่น เช่น ร็อตไวเลอร์ อเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย โดเบอร์แมน และเยอรมันเชเพิร์ด ถ้าสุนัขของคุณอยู่ในกลุ่มนี้ ให้คอยสังเกตอาการโรคลำไส้อักเสบเป็นพิเศษ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สังเกตพฤติกรรมสุนัข.
    โดยปกติแล้ว สัญญาณแรกของโรคพาร์โวคืออาการเฉื่อยชา ลูกสุนัขของคุณอาจมีแรงน้อยลง จนสุดท้ายเข้าไปนอนในมุมและอยู่เฉยๆ ความเฉื่อยชานี้มักตามมาด้วยอาการอ่อนแรงและเบื่ออาหาร
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สังเกตว่าสุนัขมีไข้หรือไม่.
    สุนัขที่เป็นโรคลำไส้อักเสบมักมีไข้สูงประมาณ 40-41 ºC
  5. How.com.vn ไท: Step 5 คอยสังเกตถ้าสุนัขอาเจียน.
    โรคพาร์โวจะทำลายกระเพาะอาหารซึ่งเต็มไปด้วยเซลล์ที่กำลังแบ่งตัว อันเป็นเป้าหมายของไวรัส เยื่อบุกระเพาะอาหารจะระคายเคืองและเป็นแผล ทำให้สุนัขอาเจียน
  6. How.com.vn ไท: Step 6 คอยสังเกตอุจจาระของสุนัข.
    ถ้าสุนัขของคุณท้องเสีย (อุจจาระเป็นน้ำ) มีอุจจาระที่มีเมือกหรือเลือดปน หรืออุจจาระกลิ่นเหม็นผิดปกติ โรคพาร์โวอาจเป็นสาเหตุก็ได้ อาการเหล่านี้อาจทำให้สุนัขขาดน้ำได้ด้วย
  7. How.com.vn ไท: Step 7 คอยสังเกตว่าสุนัขมีอาการโลหิตจางหรือไม่.
    ไวรัสพาร์โวทำให้เลือดไหลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ ถ้าจะตรวจว่าสุนัขของคุณโลหิตจางหรือไม่ ให้กดเหงือกของมัน เหงือกของสุนัขที่สุขภาพดีจะกลายเป็นสีเดิมอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่ก็ภายใน 2 วินาที ถ้าหากใช้เวลานานกว่านั้น สุนัขของคุณอาจเป็นโรคโลหิตจาง ภาวะโลหิตจางยังอาจทำให้เหงือกสีอ่อนเป็นพิเศษด้วยก็ได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

วินิจฉัยโรคลำไส้อักเสบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รีบพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์ทันที.
    ยิ่งไปพบสัตวแพทย์ได้เร็วเท่าไหร่ สุนัขก็ยิ่งมีโอกาสรอดมากขึ้นเท่านั้น โชคร้ายที่เจ้าของสุนัขหลายรายไม่รู้จักอาการของโรคหรือรอนานเกินไปกว่าจะไปพบสัตวแพทย์ ฉะนั้นเมื่อพวกเขาจะพาสุนัขไปตรวจจริงๆ สุนัขก็เป็นโรคในขั้นสุดท้ายแล้ว และมักตายเพราะขาดน้ำ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ขอให้สัตวแพทย์ทำการทดสอบ ELISA-Antigen.
    ในการวินิจฉัยโรคพาร์โว สัตวแพทย์ควรทำการทดสอบ Enzyme Linked ImmunoSorbent Assay (ELISA) ซึ่งเป็นการตรวจอุจจาระของสุนัขเพื่อหาเชื้อไวรัสพาร์โว สามารถทำการทดสอบนี้ได้ที่คลินิกสัตวแพทย์
    • การทดสอบ ELISA สามารถแสดงผลได้เร็ว แต่อาจไม่ถูกต้องเต็มที่ คำนึงด้วยว่าบางครั้งผลการทดสอบอาจเป็นลบทั้งที่สุนัขเป็นโรคจริงๆ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทำการทดสอบอย่างอื่น.
    ถ้าทำการทดสอบ ELISA อย่างเดียวอาจไม่สามารถวินิจฉัยโรคพาร์โวได้ สัตวแพทย์อาจทำการทดสอบการจับกลุ่มของเม็ดเลือดแดง (hemagglutination test) ตรวจนับเม็ดเลือด และ/หรือเก็บตัวอย่างอุจจาระโดยตรง ผลการทดสอบเหล่านี้ เมื่อรวมกับผลการทดสอบ ELISA แล้ว จะบอกได้ว่าสุนัขของคุณติดเชื้อไวรัสพาร์โวหรือไม่
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ในการรักษา.
    ปัจจุบันไม่มีวิธีรักษาการติดเชื้อไวรัสพาร์โว อย่างไรก็ตาม สัตวแพทย์สามารถแนะนำการบำบัดเพิ่มเติมและวิธีการดูแลสุนัขที่จะเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของมันได้ ยกตัวอย่างเช่น:
    • ให้สุนัขนอนโรงพยาบาล
    • ยาระงับการอาเจียน
    • ให้ของเหลวทางเส้นเลือด
    • ใช้โพรไบโอติกส์
    • บำบัดด้วยวิตามิน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การฉีดวัคซีนเป็นวิธีเดียวที่จะป้องกันไม่ให้ลูกสุนัขเป็นโรคลำไส้อักเสบ สามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกได้ตั้งแต่สุนัขอายุ 5-6 สัปดาห์ และต้องฉีดซ้ำทุก 2-3 สัปดาห์จนครบอย่างน้อย 3 เข็ม
  • ไวรัสพาร์โวเป็นไวรัสที่แข็งแรงมาก มันสามารถต้านยาฆ่าเชื้อได้มากมาย และสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นเวลานาน อาจนานหลายเดือนด้วยซ้ำ ฉะนั้นคุณจะต้องรักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อในบริเวณที่สุนัขของคุณอยู่ให้ดี คอยมองหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฉลากระบุว่าสามารถฆ่าเชื้อพาร์โวได้ หรือผสมน้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนต่อน้ำ 30 ส่วนเพื่อใช้ทำความสะอาดของใช้ที่ใช้กับน้ำยาฟอกขาวได้
  • โรคลำไส้อักเสบเป็นโรคติดเชื้อไวรัสและไม่สามารถรักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าพยายามรักษาโรคลำไส้อักเสบด้วยตัวเอง แม้เมื่อสุนัขจะได้รับการดูแลอย่างดีโดยสัตวแพทย์ ไวรัสยังสามารถทำให้สุนัขตายได้ ฉะนั้นการรักษาโรคด้วยตัวเองจะเป็นการเสี่ยงเกินไป
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Palo Alto Humane Society
ร่วมเขียน โดย:
องค์กรการกุศลเพื่อสวัสดิการของสัตว์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Palo Alto Humane Society. The Palo Alto Humane Society เป็นองค์กรการกุศลแบบไม่แสวงผลกำไรที่ใช้อาสาสมัครในพาโลอัลโต แคลิฟอร์เนีย PAHS ได้ทำงานเพื่อดูแลสัตว์ให้ไม่ต้องอยู่ในศูนย์กักกันมานานกว่า 100 ปีโดยการให้ความรู้และคำแนะนำ ภารกิจของพวกเขาคือการยกระดับความรู้สึกของผู้คนในสังคมต่อการทรมานสัตว์ และยกระดับของสัตว์ในสังคมให้สูงขึ้น บทความนี้ถูกเข้าชม 47,985 ครั้ง
หมวดหมู่: สุนัข
มีการเข้าถึงหน้านี้ 47,985 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา