วิธีการ ดูแลต้นมังกรคาบแก้ว

พืชแห่งช่วงเทศกาลที่สวยงาม (ชื่อทางพฤกษศาสตร์คือ Schlumbergera หรือ Zygocactus) ต้นมังกรคาบแก้วผลิดอกบานอย่างไม่น่าแปลกใจในวันคริสต์มาสและบางครั้งในช่วงอีสเตอร์ด้วยถ้าได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม คุณจะได้เห็นยอดใบเริ่มเติบโตหนึ่งเดือนก่อนวันคริสต์มาส ยอดใบจะเข้มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งดอกตูม ดอกตูมจะเบ่งบานเป็นดอกไม้ที่สวยงามราวกับมีเวทมนตร์ในช่วงคริสต์มาสซึ่งจะช่วยเพิ่มสีสันและความอบอุ่นให้กับเทศกาลวันหยุด

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 4:

การเลือกที่ปลูก ดิน และการจัดเตรียม

ดาวน์โหลดบทความ

1
ต้นมังกรคาบแก้วต้องการแสงสว่างแบบที่ไม่ส่องถึงโดยตรง. วางต้นไม้ในที่ที่มีแสงสว่าง เช่น ใกล้หน้าต่างแต่ให้ห่างจากแสงอาทิตย์โดยตรง ความร้อนและแสงที่มากเกินไปอาจจะทำให้ต้นไม้หยุดการเจริญเติบโตและใบไหม้ได้ มันยังควรอยู่ห่างจากเครื่องเป่าลม ช่องระบายความร้อน เตาผิง หรือแหล่งอากาศร้อนอื่นๆ
- ย้ายต้นไม้ในร่มไปอยู่กลางแจ้งในช่วงฤดูร้อนในที่ที่มีร่มเงา คุณควรรักษาอุณหภูมิภายในบ้านให้อยู่ระหว่าง 18-20 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม อากาศเย็นในช่วงกลางคืนสามารถกระตุ้นให้ดอกเบ่งบาน เราจะพูดถึงการทำให้ดอกเบ่งบานในช่วงท้าย
- ถ้าคุณตั้งมันอยู่ตรงหน้าต่างด้านทิศเหนือหรือทิศตะวันออก คุณก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับแสง แต่ถ้ามันอยู่ทางทิศใต้หรือทิศตะวันตก คุณก็ควรพรางแสงด้วยม่านพรางแสงหรืออุปกรณ์พรางแสงอื่นๆ
2
หาแหล่งความชื้นให้ต้นไม้ถ้าคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้ง. วางถาดใส่น้ำข้างต้นไม้เพื่อให้น้ำระเหยและให้ความชื้น หรือคุณสามารถทำถาดความชื้นโดยการวางกระถางต้นไม้ในจานกันน้ำที่เติมด้วยกรวดครึ่งหนึ่งและน้ำครึ่งหนึ่ง
- อย่าให้กระถางต้นไม้สัมผัสน้ำเมื่อคุณวางไว้บนกรวด ไม่เช่นนั้นกระถางต้นไม้จะดูดซึมน้ำและทำให้รากเน่าได้ง่ายขึ้น
- ความชื้น 50-60% เหมาะสมที่สุด ถ้าสภาพแวดล้อมของคุณใกล้เคียงความชื้นนี้ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร
3
ใช้ภาชนะที่ระบายน้ำและระบายดินได้ดี. สำหรับภาชนะ กระถางต้นไม้สำหรับเพาะชำพืชราคาถูกสามารถใช้ได้และกระถางสำหรับกล้วยไม้ (ตะกร้าพลาสติก) ก็ใช้ได้เช่นกัน จับคู่กระถางนี้กับกระถางที่จะอุ้มน้ำและสามารถใส่ตะกร้าลงไปได้ จากนั้นจึงวางก้อนหินขนาดกลาง 2-3 ก้อนที่ก้นกระถางเพื่อให้ภาชนะตะกร้าอยู่เหนือก้นกระถางประมาณ 1 นิ้ว
- ใช้ดินปลูก 3 ส่วนผสมกับทรายหนึ่งส่วนสำหรับวัสดุปลูก หรือใช้ดินปลูกหนึ่งส่วน พีทมอสหรือปุ๋ยหมักสองส่วน และทรายหรือเพอร์ไลต์หนึ่งส่วน^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ไม่ว่าคุณจะใช้แบบไหนก็ให้เทน้ำที่อุณหภูมิห้องประมาณสองนิ้วลงในภาชนะด้านนอกแล้วใส่ตะกร้าไว้ด้านใน หลังจากผ่านไปประมาณสิบสองชั่วโมงก็ให้เทน้ำที่เหลือออก ทำซ้ำบ่อยๆ เท่าที่พืชต้องการน้ำ มันจะแตกต่างกันไปตามสภาพบ้านของคุณ ตรวจดูความต้องการน้ำด้วยเครื่องวัดความชื้นและปรับให้เหมาะสม
4
ใส่ปุ๋ยเพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืช. พืชที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วควรได้รับปุ๋ยสำหรับพืชที่ปลูกในบ้าน วิธีนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับพืชที่มีอายุ 2-3 สัปดาห์ ทำตามคำแนะนำในฉลากว่าควรใส่ปุ๋ยปริมาณเท่าใดและบ่อยเพียงใด
- การใส่ปุ๋ยเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พืชอยู่ในสภาพดี ข้อต่อของมันเปราะบางและสามารถหักได้ถ้าพืชมีสุขภาพไม่ดี คุณควรใส่ปุ๋ย 2-4 ครั้งต่อปีโดยให้แบบ 20-20-20 แต่หยุดใส่ปุ๋ยประมาณหนึ่งเดือนก่อนที่จะมีดอกตูม (โดยทั่วไปหมายถึงหยุดใส่ปุ๋ยภายในสิ้นเดือนตุลาคม)
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 4:

การรดน้ำต้นมังกรคาบแก้ว

ดาวน์โหลดบทความ

1
รดน้ำต้นมังกรคาบแก้วด้วยความระมัดระวัง. การดูแลพืชชนิดนี้อาจเป็นเรื่องยุ่งยากเล็กน้อยเพราะคุณต้องดูแล ไม่ให้น้ำเยอะหรือน้อยจนเกินไป:
- ต้นมังกรคาบแก้วเป็นพืชเขตร้อน ไม่ใช่กระบองเพชรในทะเลทราย พืชพันธุ์นี้ไม่สามารถทนต่อดินที่แห้งสนิทได้ซึ่งแตกต่างจากกระบองเพชรในทะเลทรายส่วนใหญ่ ถ้าดินแห้งเกินไป ดอกจะร่วงหล่นและพืชจะเหี่ยว ใช้นิ้วสัมผัสดิน ถ้ามันรู้สึกแห้งก็ถึงเวลารดน้ำแล้ว
- การรดน้ำมากเกินไปจะทำให้เกิดจุดเน่าสีขาวบนใบและใบจะร่วงหล่น ดินควรมีความชุ่มชื้นทั่วๆ กันเพื่อการเจริญเติบโตที่ดีที่สุด หลักการง่ายๆ คือ น้ำน้อยดีกว่าน้ำมาก
- เมื่อรดน้ำก็ให้รดอย่างทั่วถึง ก่อนที่จะพยายามรดน้ำต้นไม้อีกครั้งก็ให้แน่ใจว่าหน้าดินหนึ่งนิ้วแห้งอย่างทั่วถึงก่อน พรมน้ำใบไม้เช่นเดียวกับการรดน้ำใส่ดิน
2
เปลี่ยนตารางการรดน้ำตามฤดูกาล. รดน้ำต้นมังกรคาบแก้วตามสภาพแวดล้อมและตามช่วงเวลาของปี วิธีที่ดีคือรดน้ำต้นมังกรคาบแก้วดังนี้:
- อากาศแห้งหรือกลางแจ้ง: รดน้ำทุกสองถึงสามวันเมื่ออากาศอบอุ่นและมีแดด
- ชื้น เย็น หรือในร่ม: รดน้ำทุกสัปดาห์
- ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวก็ควรรดน้ำต้นไม้ให้น้อยลงเพื่อให้ดอกเบ่งบาน
3
หยุดรดน้ำประมาณเดือนตุลาคม. เมื่อถึงเดือนตุลาคม หน้าที่การรดน้ำของคุณจะสิ้นสุดลง คุณสามารถรดน้ำต่ออย่างระมัดระวังในเดือนพฤศจิกายน ถ้าคุณอาศัยในที่แห้งก็ควรวางกระถางไว้บนถาดกรวดชื้น ทั้งหมดนี้คือเพื่อให้ดอกเบ่งบานในช่วงคริสต์มาส
- คุณควรหยุดรดน้ำอีกครั้งหลังจากที่ดอกบาน ในช่วงนี้ให้งดรดน้ำประมาณ 6 สัปดาห์เพื่อให้พืชได้พัก พืชที่งอกใหม่จะยังคงปรากฏและนั่นคือเวลาที่ควรรดน้ำอีกครั้ง
4
ระวังดอกตูมร่วง. สิ่งที่น่าโมโหที่สุดที่อาจเกิดขึ้นกับต้นมังกรคาบแก้วคือหลังจากที่ตาดอกออกแล้วมันร่วงจากต้น ดอกตูมที่ร่วงอาจเกิดจากหลายสาเหตุ โดยปกติเป็นเพราะรดน้ำมากเกินไป แต่ก็อาจเป็นเพราะขาดความชื้นหรือได้รับแสงไม่เพียงพอ
- ถ้าสิ่งนี้เริ่มเกิดขึ้นก็ให้รดน้ำต้นไม้ให้น้อยลงและใส่ปุ๋ยในกระถาง ย้ายพืชไปไว้ในบริเวณที่ห่างจากหม้อน้ำร้อนหรือช่องระบายอากาศและวางในที่ใหม่ที่สามารถรับแสงแดดได้มากขึ้น
โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 4:

การทำให้ดอกเบ่งบานได้ทันเวลา

ดาวน์โหลดบทความ

1
กระตุ้นให้ดอกบานในช่วงเทศกาลวันหยุดด้วยการลดอุณหภูมิ. สิ่งสำคัญในการทำให้ต้นมังกรคาบแก้วออกดอกในช่วงเทศกาลวันหยุดคือการได้รับแสงที่เหมาะสม อุณหภูมิที่เหมาะสม และการรดน้ำที่จำกัด ถ้าคุณจัดการสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง คุณสามารถกำหนดเวลาให้ดอกบานได้ตามที่คุณต้องการ
- ต้นมังกรคาบแก้วออกดอกเมื่อช่วงกลางวันยาวเท่ากับช่วงกลางคืนและเมื่ออุณหภูมิลดลงถึง 10-15 องศาเซลเซียสเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพราะพืชชนิดนี้มีความร้อนสูง ถ้าอุณหภูมิลดลงต่ำกว่านั้น พืชจะไม่ออกดอก
- วางต้นมังกรคาบแก้วไว้ในห้องที่เย็นที่มีอุณหภูมิประมาณ 10-12 องศาเซลเซียสหรือมากหรือน้อยกว่านั้นไม่กี่องศาตั้งแต่เดือนกันยายนและตุลาคมเป็นต้นไป อย่าให้พืชสัมผัสกับอุณหภูมิเยือกแข็ง พืชน่าจะออกดอกในช่วงวันหยุดถ้าอากาศเริ่มเย็นภายในต้นเดือนพฤศจิกายน
2
วางพืชไว้ในห้องที่มืดในตอนกลางคืน. ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นมังกรคาบแก้วควรอยู่ในจุดที่ได้รับแสงสว่างที่ไม่ใช่โดยตรงในช่วงกลางวัน แต่อยู่ในจุดที่มืดสนิทในช่วงกลางคืน มันต้องใช้ช่วงเวลามืดที่ยาวนานและติดต่อกันประมาณ 12 ชั่วโมงขึ้นไป^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- วางต้นมังกรคาบแก้วในจุดที่มืดสนิทตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไปเพื่อให้ดอกเบ่งบานสะพรั่งในช่วงวันหยุด วางต้นไม้ไว้ในที่มืดประมาณ 12 ชั่วโมงขึ้นไปในแต่ละคืนเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์หรือจนกว่าคุณจะเห็นดอกตูม ตู้เสื้อผ้าหรือห้องน้ำที่ไม่ได้ใช้คือสถานที่ที่เหมาะในการวางต้นมังกรคาบแก้ว
- ระมัดระวังเป็นพิเศษกับการรดน้ำในช่วงนี้ ลดการรดน้ำลงเล็กน้อย อย่าแช่ดินหลังจากช่วงที่แห้ง ทำให้ด้านบนชื้นเพียงไม่กี่นิ้วเพราะดอกตูม ดอกไม้ และแม้แต่ใบไม้สามารถร่วงได้ถ้ารากชุ่มน้ำอย่างกะทันหัน
3
เมื่อคุณเห็นดอกตูมก็ให้เพิ่มแสงสว่างและความชื้น. "ยุคมืด"สิ้นสุดลงเมื่อต้นมังกรคาบแก้วเริ่มออกดอก ณ จุดนี้ คุณควรเพิ่มความชื้น แสงสว่าง (อย่ามากเกินไป) และอุณหภูมิ หรือทำต่อเหมือนช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
- ถ้าดอกตูมติดเร็วเกินไป คุณสามารถลดอุณหภูมิลงเพื่อทำให้ดอกตูมแห้งได้ เมื่อคุณพร้อมก็ให้เพิ่มอุณหภูมิและดอกตูมจะออกต่อ
โฆษณา

ส่วน 4

ส่วน 4 ของ 4:

การดูแลต้นมังกรคาบแก้วหลังดอกบาน

ดาวน์โหลดบทความ

1
ตัดแต่งต้นมังกรคาบแก้วประมาณหนึ่งเดือนหลังจากดอกบาน. สิ่งนี้จะกระตุ้นให้พืชแตกกิ่งก้านสาขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่"พัก"ไประยะหนึ่ง หลังจากดอกบานแล้วต้นจะดูไม่สวยเท่าไหร่ บางคนรอจนถึงประมาณเดือนมีนาคมเมื่อต้นไม้แตกกิ่งก้านสาขาใหม่จึงเริ่มตัดแต่ง
- ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าให้หยุดรดน้ำเป็นเวลา 30 วันหลังดอกบาน เมื่อต้นไม้แตกกิ่งก้านสาขาใหม่จึงเริ่มรดน้ำอีกครั้งได้
2
ขยายพันธุ์ต้นมังกรคาบแก้วโดยตัดส่วนที่เป็นรูปตัว Y ของลำต้นให้สั้น. แต่ละส่วนต้องประกอบด้วยสองหรือสามส่วนติดกัน ปล่อยให้แต่ละส่วนแห้ง 2-3 ชั่วโมงก่อนที่จะกดลงในกระถางขนาด 3 นิ้วที่มีดินปลูกเช่นเดียวกับต้นแม่ ปลูกส่วนแรกลงครึ่งหนึ่งและรดน้ำเท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้เน่า
- ดูแลกิ่งชำเหมือนต้นที่โตเต็มที่ ในเวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ กิ่งชำจะหยั่งรากและแตกกิ่งก้านสาขาใหม่ กิ่งชำเติบโตอย่างรวดเร็วและใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ คุณสามารถใส่ปุ๋ยได้หลังจากกิ่งชำแตกกิ่งก้านสาขาใหม่ใหม่แล้ว
3
ย้ายลงกระถางใหม่ทุก 2-3 ปี. ต้นมังกรคาบแก้วจะเติบโตดี 2-3 ปีเว้นแต่ว่ารากเป็นโรคหรือเสียหาย หากระถางใหม่เมื่อรากเต็มหรือเมื่อดินหมดสารอาหาร คนส่วนใหญ่ทำเช่นนี้ในฤดูใบไม้ผลิ
- เมื่อปลูกใหม่หรือย้ายลงกระถางใหม่ก็ให้ใช้ดินที่สดใหม่ มันคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเพราะมันจะปลูกอยู่ในดินนั้นเป็นเวลานาน ต้นมังกรคาบแก้วเป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกับคุณ ฉะนั้นมันจึงสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
- ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการย้ายลงกระถางใหม่คือระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนทุก 2-3 ปี อย่าใส่กระถางที่ใหญ่เกินไป ต้นมังกรคาบแก้วจะเติบโตได้ดีที่สุดเมื่อมีกระถางขนาดพอเหมาะ
โฆษณา

เคล็ดลับ

อย่าลืมหมุนต้นเป็นระยะๆ ในขณะที่กระตุ้นการเติบโตใหม่ มิฉะนั้นมันจะมีดอกบานสะพรั่งด้านเดียวและอีกด้านหนึ่งมีน้อยนิด
ต้นมังกรคาบแก้วเป็นพืชที่สวยงามที่ออกดอกได้ปีแล้วปีเล่า คุณจะอยากเก็บมันไว้แม้ว่าจะผ่านพ้นช่วงวันหยุดไปแล้วก็ตาม คุณสามารถส่งต่อมันไปหลายชั่วอายุคน
ต้นมังกรคาบแก้วจะโตแค่เส้นรอบวงของกระถางเท่านั้น ถ้าอยากให้ใหญ่ขึ้นก็ต้องปลูกในกระถางที่กว้างขึ้น
คำแนะนำในการให้ดอกบานมีพื้นฐานมาจากการมีเทศกาลวันหยุดคริสต์มาสที่หนาวเย็น ถ้าคุณอาศัยอยู่ในซีกโลกใต้ คุณอาจมีปัญหาในการหาพืชชนิดนี้ในช่วงคริสต์มาสและมันจะต้องมีสภาพที่ควบคุมได้มากขึ้นเพื่อให้ออกดอกในช่วงวันหยุด คุณอาจจะโชคดีที่เห็นดอกบานในช่วงเดือนที่หนาวที่สุดของปี

โฆษณา

คำเตือน

สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งอเมริกา (ASPCA) กล่าวว่าต้นมังกรคาบแก้วไม่เป็นพิษต่อสุนัขและแมว
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ แสงสว่าง และการรดน้ำอย่างกะทันหันจะทำให้ต้นมังกรคาบแก้วเสียหาย ลมและอุณหภูมิที่รุนแรงอาจทำให้ดอกตูมหล่นจากต้นก่อนที่จะมีโอกาสบาน แนะนำให้ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง
ไม่ควรวางต้นมังกรคาบแก้วไว้ใกล้ประตูที่เปิดและปิดสู่ด้านนอก ควรเก็บไว้ให้ห่างจากท่อทำความร้อน เตาผิง หรือบริเวณที่สกปรก

โฆษณา