ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Stan Kats. สแตน แคทส์ เป็นนักเทคโนโลยีมืออาชีพ และเป็น COO และหัวหน้านักเทคโนโลยีของ STG IT Consulting Group ในเวสต์ฮอลลีวูด แคลิฟอร์เนีย สแตนมีการแก้ปัญหาทางเทคโนโลยีแบบครบวงจรให้แก่ธุรกิจต่างๆ ผ่านบริการด้านไอทีที่มีการจัดการ และสำหรับบุคคลผ่านธุรกิจบริการผู้บริโภคชื่อ Stan's Tech Garage สแตนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย เขาเริ่มต้นอาชีพโดยทำงานที่ Fortune 500 IT world สแตนก่อตั้งบริษัทเพื่อเสนอความชำนาญระดับองค์กรให้แก่ธุรกิจขนาดเล็กและบุคคลต่างๆ
บทความนี้ถูกเข้าชม 4,540 ครั้ง
เวลาต้องใช้งานหลายแอปพร้อมกันในคอม ก็ทำเอาหลงลืมได้ง่ายๆ ว่าเปิดหน้าต่างไหนค้างอยู่บ้าง โชคดีที่ทั้ง Windows 11, Windows 10 และ macOS มีคีย์ลัด (keyboard shortcuts) และ utilities อำนวยความสะดวกให้คุณทำหลายงานพร้อมกันได้สบาย บทความวิกิฮาวนี้จะมาแนะนำวิธีการแสดงหน้าต่างและแอปทั้งหมดที่เปิดไว้ ทั้งใน PC และ Mac ให้คุณเอง
ขั้นตอน
ใช้ Task View แสดงหน้าต่างทั้งหมดในหน้าเดียว. ไอคอน Task View จะอยู่ใน taskbar ตามค่า default โดยเป็นรูปหน้าต่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า 3 อัน มีแถบเลื่อนทางขวา เลือกแล้วหน้าต่างทั้งหมดที่เปิดอยู่ จะขึ้นในหน้าจอเดียว เป็นวิธีดูหน้าต่างทั้งหมดที่เปิดอยู่ได้แบบตรงไปตรงมา ชัดเจนที่สุด
- ถ้าไม่เจอปุ่ม Task View ใน taskbar ให้คลิกขวาที่ taskbar แล้วเลือก Show Task View Button หรือเปิด Task View โดยกด Windows key + Tab
- ถ้าเคยสร้าง virtual desktop ไว้ แล้วใช้กับแอปอื่น ให้คลิกแต่ละ virtual desktop ในแถบด้านบนของ Task View เพื่อดูหน้าต่างที่เปิดอยู่ใน desktop นั้น
เลือก cascade, stack หรือ show windows side by side. อีกวิธีดูหน้าต่างทั้งหมดที่เปิดอยู่ในหน้าเดียว คือเรียงด้วยตัวเลือกต่างๆ ใน taskbar ให้คลิกขวา taskbar แล้วเลือกตัวเลือกต่อไปนี้ เพื่อแสดงหน้าต่างทั้งหมดที่เปิดอยู่- เลือก Cascade windows เพื่อเรียงหน้าต่างที่เปิดอยู่ซ้อนกัน โดยจะเห็นชื่อแต่ละหน้าต่าง
- เลือก Show windows stacked เพื่อเรียงหน้าต่างซ้อนกันในแนวตั้ง จะแถวเดียวหรือหลายแถวก็แล้วแต่ โดยจำนวนแถวนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนหน้าต่างที่เปิดไว้
- เลือก Show windows side by side ก็เหมือนฟีเจอร์ stacked แต่จะเรียงในแนวนอนแทนแนวตั้ง
ลองกด Alt+Tab ↹ เพื่อดูและสลับไปมาระหว่างแอป. ปล่อยปุ่ม Tab โดยที่กด Alt ค้างไว้ เพื่อแสดงหน้าต่างทั้งหมดที่เปิดอยู่ เป็นสุดยอดคีย์ลัดสำหรับใช้สลับไปมาระหว่างแอปที่เปิดไว้ โดยใช้คีย์บอร์ดแทนเมาส์ ซึ่งก็เป็นวิธีเช็คหน้าต่างที่เปิดไว้แบบสะดวกดีด้วย- ถ้าจะสลับไปหน้าต่างอื่น ให้ใช้ปุ่ม Tab (โดยที่กด Alt ค้างไว้) แล้วจะเลื่อนไปตามแต่ละแอปที่เปิดอยู่ พอเจอแอปที่ต้องการ ก็ปล่อยทั้ง 2 ปุ่มได้เลย
เช็คทุกแอปที่เปิดไว้และทุก processes ที่ทำงานอยู่ ใน Task Manager. Task Manager จะแสดงทุกแอปและ background processes ที่ทำงานอยู่ในคอม คุฯเปิด Task Manager ได้ทันที แค่กด Control + Shift + Esc พร้อมกัน หรือคลิกขวา taskbar แล้วเลือก Task Manager- พอเปิด Task Manager แล้ว จะเห็นรายชื่อสั้นๆ ของแอปที่เปิดไว้ ให้คลิก More details ถ้าจะดูข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงรายการ processes ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง
- แอปในหัวข้อ "Apps" ของ tab Processes คือแอปที่หน้าต่างเปิดอยู่หรือย่อไว้
โฆษณา
ให้ใช้ Task View แสดงหน้าต่างทั้งหมดในหน้าเดียว. ไอคอน Task View จะเป็นสี่เหลี่ยม 2 อันซ้อนเหลื่อมกัน อันนึงสีขาว อีกอันสีเทา ปกติอยู่ใน taskbar ด้านล่างของหน้าจอ เลือกแล้วจะแสดงหน้าต่างทั้งหมดในหน้าจอเดียว เป็นวิธีเช็คหน้าต่างทั้งหมดที่เปิดไว้แบบสะดวกที่สุด หรือจะเปิด Task View โดยกด Windows key + Tab ก็ได้- ถ้าไม่เจอไอคอน Task View ใน taskbar ให้คลิกขวาที่ Taskbar เลือก Taskbar settings แล้วคลิกสวิตช์ข้าง "Task View" เพื่อเปิด
- ถ้าใช้ virtual desktop เปิดแอปชุดอื่นๆ ด้วย จะเห็นแต่ละ desktop ที่ด้านล่างของ Task View ให้คลิก desktop ที่จะดูหน้าต่างที่เปิดไว้ใน desktop นั้น[1]
เลื่อนเคอร์เซอร์ไปจ่อไอคอนใน taskbar จะมีบอก. เวลาเปิดแอปใน Windows 11 ไอคอนจะขึ้นใน taskbar แอปที่มีหน้าต่างเปิดอยู่ ใน taskbar ขีดเส้นใต้สีขาว ถ้าเอาเคอร์เซอร์ไปจ่อไอคอนที่ขีดเส้นใต้สีขาว จะเห็น thumbnail ของหน้าต่างที่เปิดอยู่ ก็คลิกหนึ่งใน thumbnail ได้ เพื่อเปิดหน้าต่างนั้น- ให้จ่อเคอร์เซอร์ที่ไอคอนใน Task View ถ้าจะดู desktop ทั้งหมดที่เปิดไว้ แล้วคลิกเลือก desktop ที่อยากสลับไปใช้
ลองกด Alt+Tab ↹ เพื่อดูและสลับไปมาระหว่างแอป. ปล่อยปุ่ม Tab แต่กด Alt ค้างไว้ ถ้าจะดูหน้าต่างทั้งหมดที่เปิดอยู่ เป็นสุดยอดคีย์ลัดสำหรับใช้สลับไปมาระหว่างแอปที่เปิดไว้ โดยใช้คีย์บอร์ดแทนเมาส์ ซึ่งก็เป็นวิธีเช็คหน้าต่างที่เปิดไว้แบบสะดวกดีด้วย- ถ้าจะสลับไปหน้าต่างอื่น ให้กด Tab (โดยกด Alt ค้างไว้) แล้วสลับไปมาระหว่างแอปที่เปิดไว้ พอเจอแอปที่จะดู ก็ปล่อยทั้ง 2 ปุ่มได้เลย
เช็คทุกแอปที่เปิดไว้และทุก processes ที่ทำงานอยู่ ใน Task Manager. Task Manager จะแสดงทุกแอปและ background processes ที่ทำงานอยู่ในคอม คุณเปิด Task Manager ได้ทันทีแค่กด Control + Shift + Esc พร้อมกัน หรือคลิกขวาที่ taskbar แล้วเลือก Task Manager- พอเปิด Task Manager แล้ว จะเห็นรายชื่อสั้นๆ ของแอปที่เปิดไว้ ให้คลิก More details ถ้าจะดูข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงรายการ processes ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง
- แอปในหัวข้อ "Apps" ของ tab Processes คือแอปที่หน้าต่างเปิดอยู่หรือย่อไว้
โฆษณา
ใช้ Mission Control แสดงหน้าต่างทั้งหมดที่เปิดอยู่ ในหน้าเดียว. เป็นวิธีเช็คแอปที่เปิดไว้ใน Mac ได้สะดวกที่สุด[2] ถ้าเคยสร้าง Space ไว้เปิดแอปอื่น จะเห็นแต่ละ Space ด้านบนของ Mission Control ให้คลิก Space ที่จะดูหน้าต่างที่เปิดไว้ใน Space นั้น คุณเปิด Mission Control ได้ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้- ถ้าใช้คีย์บอร์ดของ Apple ให้กดปุ่ม Mission Control (F3) ในปุ่มแถวบนสุด โดยไอคอนจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ข้างในมีสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆ 3 อัน
- ถ้าใช้ MacBook ให้ใช้ 3 นิ้ว ปัดขึ้นไปใน trackpad
- ถ้าใช้ MacBook ที่มี Touch Bar ให้แตะไอคอนสี่เหลี่ยมผืนผ้า 3 อัน
- ถ้าใช้ Magic Mouse ให้ใช้ 2 นิ้วแตะเร็วๆ 2 ครั้ง
- กด Control + Up Arrow ที่คีย์บอร์ดพร้อมกัน
- ดับเบิลคลิกแอป Mission Control ในโฟลเดอร์ Applications
ลองกด ⌘ Command+Tab ↹ เพื่อดูและสลับไปมาระหว่างแอป. เป็นคีย์ลัดที่ใช้แสดงแอปทั้งหมดที่เปิดไว้ได้อย่างรวดเร็ว พอกดคีย์ลัดนี้แล้ว ให้ปล่อย Tab โดยกด Command ค้างไว้ เพื่อดูแอปที่เปิดไว้ต่อไป[3]- ถ้าจะสลับไปยังหน้าต่างอื่นที่เปิดไว้ ตอนกด Command ค้าง ให้กดปุ่มลูกศรซ้ายหรือขวา เพื่อเลือกแอปที่จะใช้ แล้วปล่อย Command เพื่อเรียกแอปขึ้นมา
เปิดเมนู Force Quit เพื่อดูแล้วปิดแอปที่เปิดไว้. Force Quit มีไว้เพื่อปิดแอปอย่างรวดเร็ว แต่จะใช้เช็คหน้าต่างที่เปิดไว้ใน Mac ก็ได้ กระทั่งหน้าต่างที่ย่อไว้[4] คุณเปิดเมนูนี้ได้โดยกด Command + Option + Esc พร้อมกัน- คุณปิดแอปในหน้าต่างนี้ได้ โดยเลือกแล้วคลิก Force Quit
เช็คแอปที่เปิดไว้ และ processes ที่ทำงานอยู่ ด้วย Activity Monitor. นอกจากแสดงแอปที่เปิดอยู่แล้ว Activity Monitor ยังบอกความจำ พลังงาน และกำลังไฟ CPU ที่แต่ละแอปใช้ด้วย[5] คุณเปิด Activity Monitor ได้โดยไปที่โฟลเดอร์ Applications ใน Finder ดับเบิลคลิกโฟลเดอร์ Utilities แล้วดับเบิลคลิก Activity Monitor- นอกจากนี้ Activity Monitor ยังแสดงข้อมูลของ processes ที่ทำงานอยู่ในเบื้องหลังด้วย ไม่ใช่แค่แอปที่เปิดหน้าต่างไว้ใน desktop
- คลิกผ่านแต่ละ tab ด้านบนของ Activity Monitor ไป ก็จะมีบอกด้วยว่าแต่ละแอปและ process นั้น ใช้ทรัพยากรเท่าไหร่
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าอยากลดจำนวนหน้าต่างที่เปิดไว้ในแต่ละแอปของ Mac ตอนอยู่ในหน้าต่างไหนก็ได้ของแอป ให้คลิกเมนู Window แล้วเลือก Merge All Windows ถ้าจะย้าย tab ที่รวมไว้ กลับหน้าต่างตัวเอง ให้เลือก tab คลิกเมนู Window แล้วเลือก Move Tab to New Window
- ถ้าใช้แอปของ Mac แล้วเปิดไว้หลายหน้าต่าง อยากจะปิดทีเดียวทั้งหมด ให้กด Command + Option + W
- คุณจัดการคีย์ลัด Alt + Tab ใน Windows 11 ได้ที่ Settings > Systems > Multitasking > Alt Tab
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://support.microsoft.com/en-us/windows/multiple-desktops-in-windows-11-36f52e38-5b4a-557b-2ff9-e1a60c976434
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204100
- ↑ https://support.apple.com/guide/mac-help/work-with-app-windows-mchlp2469/12.0/mac/12.0
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201276
- ↑ https://support.apple.com/guide/activity-monitor/welcome/mac
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเทคโนโลยีมืออาชีพ
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Stan Kats. สแตน แคทส์ เป็นนักเทคโนโลยีมืออาชีพ และเป็น COO และหัวหน้านักเทคโนโลยีของ STG IT Consulting Group ในเวสต์ฮอลลีวูด แคลิฟอร์เนีย สแตนมีการแก้ปัญหาทางเทคโนโลยีแบบครบวงจรให้แก่ธุรกิจต่างๆ ผ่านบริการด้านไอทีที่มีการจัดการ และสำหรับบุคคลผ่านธุรกิจบริการผู้บริโภคชื่อ Stan's Tech Garage สแตนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย เขาเริ่มต้นอาชีพโดยทำงานที่ Fortune 500 IT world สแตนก่อตั้งบริษัทเพื่อเสนอความชำนาญระดับองค์กรให้แก่ธุรกิจขนาดเล็กและบุคคลต่างๆ บทความนี้ถูกเข้าชม 4,540 ครั้ง
หมวดหมู่: การปรับแต่ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,540 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
