ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ถ้าซ่อน taskbar ของ Windows ไว้ตอนยังไม่ใช้ จะช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าจอ ให้เห็นพื้นหลังของ desktop ได้มากขึ้น คุณซ่อน taskbar ได้โดยเข้าไปในเมนู Settings ถ้าใช้ Windows 10 แต่ถ้าเป็นเวอร์ชั่นก่อนหน้า ให้เข้าหน้าต่าง Properties ของ taskbar ถ้าทำแล้ว taskbar ไม่หายหรือหลบไป เราก็มีมาแนะนำอีก 2 - 3 วิธี

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

Windows 10

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Step 1 คลิกขวาที่ taskbar แล้วเลือก "Settings".
    ต้องคลิกขวาตรงที่ว่าง ไม่ใช่ที่ไอคอนไหน ถ้าใช้ touchscreen แล้วจะคลิกขวา ให้แตะ taskbar ค้างไว้สักพัก พอปล่อยนิ้ว เมนูคลิกขวาก็จะโผล่มา
    • หรือเปิดเมนู Start เลือก "Settings" แตะหรือคลิก "Personalization" แล้วเลือก "Taskbar" ในเมนูทางซ้าย
    • ถ้าคลิกขวาแล้วเจอ "Properties" แทน "Settings" แสดงว่าคุณใช้ Windows 10 แล้วไม่ได้อัพเดท ให้ซ่อน taskbar ด้วยวิธีการถัดไปแทน
  2. Step 2 เลื่อนสวิตช์ "Automatically hide the taskbar in desktop mode" ไปที่ on.
    taskbar จะถูกซ่อนโดยอัตโนมัติ และจะมีผลแบบนี้ทุกครั้งที่ใช้ desktop mode ในคอม ถ้าคอมไม่ได้เป็นแท็บเล็ตด้วย ก็ปรับแค่ setting นี้
  3. Step 3 เลื่อนสวิตช์ "Automatically hide the taskbar in tablet mode" ไปที่ on.
    เพื่อซ่อน taskbar เมื่อใช้อุปกรณ์ใน tablet mode คุณเปลี่ยนไปใช้ tablet mode ได้โดยแตะปุ่ม Notifications ที่มุมขวาล่างของหน้า desktop แล้วแตะปุ่ม "tablet mode"
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เปิด taskbar โดยขยับเคอร์เซอร์ไปที่ท้ายหน้าจอ.
    ถ้าเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ท้ายหน้าจอ taskbar ก็จะโผล่ขึ้นมา พอเลื่อนเคอร์เซอร์ออกไป taskbar ก็จะหดกลับไปอีกครั้ง
    • ถ้าใช้แท็บเล็ตแล้วจะเปิด taskbar ก็แค่ปัดหน้าจอขึ้นมาจากด้านล่าง
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เปลี่ยนตำแหน่ง taskbar.
    คุณใช้เมนู "Taskbar location on screen" เปลี่ยนตำแหน่ง taskbar ได้ บางคนอาจจะรู้สึกว่า taskbar อยู่ข้างๆ แล้วใช้สะดวกกว่า บางคนก็ชอบให้อยู่ด้านบนของหน้าจอ พอเลือกแล้วจะมีผลใช้งานทันที
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

Windows 8, 7 และ Vista

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Step 1 คลิกขวาที่ taskbar แล้วเลือก "Properties".
    ถ้าใช้ Windows 8 ให้เลือก "Desktop" ในเมนู Start หรือกด Win+D เพื่อเปิดมุมมอง desktop
  2. Step 2 ติ๊กช่อง "Auto-hide the taskbar".
    ใน tab "Taskbar"
  3. Step 3 คลิก "Apply".
    แล้ว taskbar จะหายไป คุณก็คลิก "OK" เพื่อปิดเมนู หรือปรับแต่ง settings เพิ่มเติมได้เลย
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เปิด taskbar โดยขยับเคอร์เซอร์.
    ถ้าเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ท้ายหน้าจอ taskbar ก็จะโผล่ขึ้นมา พอเลื่อนเคอร์เซอร์ออกไป taskbar ก็จะหดกลับไปอีกครั้ง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

แก้ปัญหาที่พบบ่อย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เช็คโปรแกรมที่ทำให้ taskbar ยังค้างอยู่.
    ถ้ามีโปรแกรมไหนกะพริบอยู่ใน taskbar ก็จะซ่อน taskbar ไม่ได้ ให้คลิกโปรแกรมนั้นเพื่อสลับไปที่หน้าของโปรแกรม จะได้ไม่กะพริบเตือนอีก
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เช็คไอคอนใน system tray.
    system tray จะอยู่มุมขวาล่างของหน้าจอ ข้างนาฬิกา ซึ่งก็เหมือนกับโปรแกรมใน taskbar คือไอคอนใน system tray อาจเป็นสาเหตุทำคุณซ่อน taskbar ไม่ได้ เพราะไอคอนกะพริบเตือนอยู่ ให้คลิกไอคอนว่ามีอะไรเกิดขึ้นในโปรแกรม[1]
    • บางไอคอนของโปรแกรมก็ถูกซ่อนไว้ ให้คลิกลูกศรทางซ้ายของแถวไอคอน ว่ามีไอคอนไหนถูกซ่อนไว้บ้าง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ปิดแจ้งเตือนของบางโปรแกรม.
    ถ้าต้องคอยปิดแจ้งเตือนที่ขึ้นบ่อยๆ หรือแจ้งเตือนไม่ยอมหายไป จนซ่อน taskbar ไม่ได้ ให้ปิดแจ้งเตือนทั้งหมด[2]
    • Windows 10 - คลิกเมนู Start แล้วเลือก "Settings" เลือก "System" แล้วเลือก "Notifications & actions" จากนั้นเลื่อนสวิตช์ notifications ของบางโปรแกรมไปที่ off หรือจะปิดทั้งหมดที่ด้านบนของรายชื่อก็ได้
    • Windows 8, 7 และ Vista - คลิกลูกศร Expand ข้างไอคอนใน system tray แล้วคลิก "Customize" หาโปรแกรมที่จะปิดแจ้งเตือน แล้วเลือก "Hide icon and notifications"
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ลองตั้ง settings ซ้ำ.
    บางทีถ้าปิดฟีเจอร์ auto-hide ไว้แล้วเปิดใหม่ จะทำให้ซ่อน taskbar ได้ โดยเปิดหน้าต่าง Settings (Windows 10) หรือ Properties ขึ้นมาอีกรอบ แล้วปิดฟีเจอร์ auto-hide ถ้าใช้ Windows 8 หรือเก่ากว่า ต้องคลิก "Apply" พอปิดแล้วให้เปิดขึ้นมาใหม่ แล้วใช้ settings นั้น
  5. How.com.vn ไท: Step 5 รีเซ็ต Windows Explorer.
    เป็น user interface ของ Windows ถ้ารีเซ็ตแล้วน่าจะช่วยแก้ปัญหา taskbar ได้[3]
    • กด Ctrl+ Shift ค้างไว้แล้วคลิกขวาที่ taskbar
    • เลือก "Exit Explorer" ในเมนู เท่านี้ taskbar และไอคอนกับโฟลเดอร์ทั้งหมดจะหายไป
    • กด Ctrl+ Shift+Esc เพื่อเปิด Task Manager
    • คลิก "File" → "Run new task"
    • พิมพ์ "explorer" แล้วกด Enter เพื่อรีเฟรช explorer
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

แก้ปัญหาที่พบบ่อยของ Windows 10

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 กด .
    Win+R แล้วพิมพ์ "powershell" เพื่อเปิด PowerShell. ถ้าใช้ Windows 10 แล้ว taskbar ยังอยู่ ให้ลองใช้ PowerShell utility
  2. Step 2 คลิกขวาที่ไอคอน PowerShell ใน taskbar แล้วเลือก "Run as administrator".
    ยืนยันขั้นตอน เพื่อเปิดหน้าต่าง "Administrator" PowerShell ขึ้นมา
  3. How.com.vn ไท: Step 3 copy แล้ว paste คำสั่งต่อไปนี้.
    ให้ paste ลงในหน้าต่าง "Administrator"
    • Get-AppXPackage -AllUsers | Foreach {Add-AppxPackage -DisableDevelopmentMode -Register "$($_.InstallLocation)\AppXManifest.xml"}
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้คำสั่ง.
    อาจจะมี error บ้างตอนใช้คำสั่ง แต่ไม่เป็นไร
  5. How.com.vn ไท: Step 5 คลิกหรือแตะเมนู Start หลังใช้คำสั่งเสร็จสิ้น.
    จะเห็นว่า taskbar ถูกซ่อนลงไป[4]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าใช้ Windows เวอร์ชั่นใหม่ๆ จะซ่อน taskbar แบบถาวรไม่ได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 28,506 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 28,506 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา