วิธีการ ค้นหาอุปกรณ์ติดตามในรถยนต์

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ตรวจตราภายนอกของรถยนต์

ตรวจดูภายในรถ

ลงลึกไปอีกขั้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

อุปกรณ์ติดตามชวนให้คนส่วนใหญ่นึกถึงการสืบสวนคดีอาชญากรรม แต่แท้จริงแล้วแฟนที่กำลังเกิดความสงสัยหรือไม่ก็แฟนเก่าต่างหากที่มักเป็นผู้ร้ายตัวจริง พวกเขามักจะใช้อุปกรณ์ติดตามราคาถูกชนิดที่โผล่ให้เห็นอย่างโทนโท่ แต่ต่อให้เป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดจิ๋ว คุณก็ยังหาเจอได้ด้วยการตรวจหาอย่างละเอียด

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

ตรวจตราภายนอกของรถยนต์

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   คว้าไฟฉายกับคู่มือประจำรถ. อุปกรณ์ติดตามชนิดราคาถูกที่สุดจะเป็นแค่กล่องแม่เหล็กขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ใช่ว่าอุปกรณ์ทุกตัวจะใหญ่เทอะทะเห็นชัดกันแบบนี้ ในบางทีสัญญาณเดียวที่ผิดปกติก็เป้นแค่สายไฟที่จู่ๆ โผล่ขึ้นมาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ ถ้าคุณไม่ได้รู้จักรถตัวเองทะลุปรุโปร่งแล้วละก็ หาหนังสือคู่มือการใช้รถมาดูเพื่อไม่ต้องลงมือรื้อชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ
2. 
   2
   ตรวจช่วงล่าง. คุกเข่าส่องไฟฉายดูตามขอบด้านข้างใต้ท้องรถ อุปกรณ์ติดตามส่วนใหญ่จะเชื่อมกับดาวเทียมสัญญาณ GPS และจะไม่ทำงานถ้าอยู่ลึกตรงกลางท้องรถที่ซึ่งโลหะจะบล็อกสัญญาณเชื่อมต่อ เน้นไปที่ขอบที่ขนานไปกับท้องรถ ดูว่ามีกล่องที่น่าสงสัย วัตถุที่ถูกติดไว้ด้วยเทปกาว หรืออะไรที่มีเสาวิทยุโผล่ออกมา

   • ถ้าคุณเจออะไรที่มันดูผิดที่ผิดทาง ลองออกแรงดึงดูเบาๆ อุปกรณ์ติดตามส่วนมากจะเป็นแม่เหล็กและจะดึงออกได้ง่ายๆ
   • ตรวจดูถังน้ำมันเป็นที่แรก ผิวหน้าที่เป็นโลหะขนาดใหญ่ทำให้มันเป็นจุดที่ใช้ติดอุปกรณ์ที่เป็นแม่เหล็กได้ง่าย
3. 
   3
   ตรวจดูที่ล้อให้ละเอียด. ตรวจใต้ฝาครอบแต่ละล้อด้วย โดยเฉพาะถ้าเห็นมันหลวมหรืองอ จะเจออุปกรณ์ติดตามตรงจุดนี้ได้ชัดเจนเลยทีเดียว เพราะรถจะไม่มีกล่องประหลาดใดๆ อยู่ในบริเวณนี้

   • หากมีใครสักคนสามารถใช้รถร่วมกับคุณได้ คุณอาจถอดยางออกมาดูด้านหลังของมัน แต่ส่วนใหญ่ยากจะเป็นตรงจุดนั้น แต่หากจะหาตรงนั้นจริง ให้ระวังว่าเบรกบางรุ่นจะติดระบบเซ็นเซอร์ด้านหลังล้อที่ใช้สายไฟด้วย
4. 
   4
   ตรวจด้านในของกันชน. กันชนทั้งด้านหน้าด้านหลังเป็นตำแหน่งภายนอกรถทั่วไปแห่งสุดท้ายที่มักจะติดอุปกรณ์ติดตามราคาถูกกัน ตรวจดูด้านหลังของมันว่ามีใครแอบสอดอุปกรณ์เข้าไปหรือไม่

   • อุปกรณ์ติดตามที่อยู่ตรงกันชนด้านหน้าอาจโยงสายไฟเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของรถยนต์ ให้เทียบสายไฟกับในหนังสือคู่มือเสมอก่อนจะถอดสายไฟอะไรออกมา
5. 
   5
   ตรวจดูหลังคา. ตำแหน่งนี้จะเป็นไปได้ก็มีอยู่สองทางด้วยกัน อย่างแรกก็ในรถแบบ SUV หรือรถยกสูงแบบอื่นที่สามารถติดตั้งอุปกรณ์กันได้อย่างโจ๋งครึ่ม อย่างที่สองก็ตรงซันรูฟที่สามารถซ่อนอุปกรณ์ขนาดเล็กไว้ภายในช่องเลื่อนเก็บซันรูฟ
6. 
   6
   สุดท้ายก็เปิดฝากระโปรงดู. กระโปรงหน้าของรถนั้นมีเครื่องยนต์ที่ร้อนและถูกคนขับเปิดเช็คดูอยู่บ่อยๆ จึงเป็นตำแหน่งที่แย่มากสำหรับการติดอุปกรณ์ติดตาม แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยเสียทีเดียว เพราะถ้าแฟนที่กำลังอยู่ในอาการหึงหวงชนิดหน้ามืดตามัวหรือเพื่อนบ้านโรคจิตก็ไม่แน่ว่าอาจลองจุดนี้ได้ ลองเปิดเช็คดูก่อนจะเข้าไปตรวจหาต่อภายในตัวรถ

   • สายไฟที่เชื่อมต่อกับแบตเตอรี่รถยนต์แบบมาจากไหนไม่รู้อาจเป็นจุดนำไปสู่อุปกรณ์ติดตามได้ เปรียบเทียบสายไฟกับแผนผังในหนังสือคู่มือก่อนจะสรุปความเห็นใดๆ
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

ตรวจดูภายในรถ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ดูภายในเบาะ. รูดซิบเบาะพิงหลังและพนักพิงศีรษะถ้าเป็นไปได้ ดูว่ามีชิ้นส่วนที่อยู่ลอยๆ ไม่ติดกับอะไรหรือไม่
2. 
   2
   ตรวจดูใต้เบาะที่นั่งกับใต้พรม. ส่องไฟฉายไปตามพื้นรถให้ทั่ว โปรดสังเกตว่าที่นั่งรถบางยี่ห้ออาจมีการติดตั้งกลไกให้ความร้อนมาในตัว (โดยเฉพาะรถจากต่างประเทศ) เปรียบเทียบลักษณะของเบาะด้านหน้าทั้งสองตัวว่ามีตรงไหนที่แตกต่างไม่เหมือนกัน
3. 
   3
   เข้าถึงพื้นที่ด้านหลังแผงหน้าปัด. สำหรับรถส่วนใหญ่แล้วคุณสามารถใช้ไขควงถอดช่วงคอนโซลหน้ารวมทั้งฝาครอบใต้พวงมาลัย ดูว่ามีสายไฟที่ไม่ได้ยึดติดหรือพันรวมกับสายไฟเส้นอื่นๆ หรือไม่ แล้วพยายามตามรอยสายกลับไปหาต้นกำเนิดของมัน ใช้นิ้วไล้ไปตามร่องคอนโซลดูว่ามีสายอากาศที่ไม่ได้ติดกาวหรือเทปผนึกไว้
4. 
   4
   ตรวจดูด้านหลัง. จำไว้ว่าอุปกรณ์ติดตามส่วนใหญ่จะไม่สามารถรับสัญญาณผ่านโลหะได้ เน้นไปที่บริเวณที่อยู่ใต้กระจกหลังก่อนจะตรวจฝากระโปรงหลัง เอายางอะไหล่ออกแล้วตรวจดูที่หลุมเก็บยางด้วยเช่นกัน
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

ลงลึกไปอีกขั้น

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   จ้างมืออาชีพ. หากคุณยังไม่เจออุปกรณ์ติดตาม โอกาสเป็นไปได้มากว่ามันจะไม่มี แต่ถ้ายังไม่คลายความกังขา ก็จ้างใครมาตรวจรถให้ทั่วทั้งคันอีกหน ลองพวกมืออาชีพเหล่านี้:

   • ผู้ติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยที่ขายอุปกรณ์ติดตามด้วย GPS
   • ช่างยนต์ที่มีประสบการณ์ในการค้นหาอุปกรณ์ติดตาม
   • นักสืบเอกชน
2. 
   2
   ใช้เครื่องตรวจกวาดจับทั่วทั้งรถ. อุปกรณ์ที่ใช้ส่งสัญญาณตำแหน่งที่อยู่ของคุณสามารถตรวจจับได้ด้วยเครื่องมือตรวจจับแบบมือถือ (อุปกรณ์ติดตามบางตัวอาจเก็บข้อมูลไว้เพื่อกู้คืนในภายหลังและสามารถหลบซ่อนจากเซ็นเซอร์ของเรื่องมือตรวจจับ) ถ้าคุณยินดีจ่ายเงินแบบถึงไหนถึงกัน ก็มองหาบริษัทที่ขายเครื่องตรวจจับสัญญาณแบบ Technical Surveillance Counter Measures (TSCM) ได้เลย

   • อุปกรณ์ติดตามอาจส่งสัญญาณแบบเป็นช่วงและ/หรือเฉพาะเวลาที่รถแล่น ฉะนั้นให้ทดสอบขณะที่ให้เพื่อนขับรถไปตรงไหนไกลๆ (คลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่อยู่ใกล้ๆ สามารถรบกวนอุปกรณ์ได้)
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• จำไว้ว่าต้องล็อกรถตลอดเวลาและจอดในที่ปลอดภัย ไม่เพียงจะเสี่ยงถูกติดตั้งเครื่องติดตามน้อยลง ยังเป็นการลดอันตรายอีกด้วย
• อุปกรณ์ติดตามส่วนใหญ่จำเป็นต้องกู้คืนภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่ว่าจะด้วยต้องเปลี่ยนถ่านหรือไม่ก็เพื่อถ่ายโอนข้อมูล หากล้องวงจรปิดติดใกล้ที่จอดรถแล้วคุณอาจเจอตัวคนร้ายก็ได้ แต่อุปกรณ์ชั้นสูงราคาแพงหน่อยก็อาจใช้งานได้นานและส่งสัญญาณได้เรื่อยๆ ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นการรับประกันใดๆ
• สวมถุงมือเพื่อกันลายนิ้วมือ ถ้าคุณเจออุปกรณ์ติดตามก็อย่าไปสัมผัสมัน ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาจะได้สามารถหาลายนิ้วมือแฝงได้

โฆษณา

คำเตือน

• อย่าตัดหรือทำอะไรให้รถเสียหายเว้นแต่คุณทราบแน่ชัดว่ากำลังทำอะไรอยู่ อุปกรณ์ติดตามส่วนใหญ่จะหาเจอได้โดยไม่ต้องถอดแยกรถออกมาเป็นชิ้นส่วน

โฆษณา