บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Linh Le. ลินห์ เลอเป็นผู้เชี่ยวชาญการซ่อมแซมอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีใบรับรองและเจ้าของ SC Mobile Repairs ที่ซานเคลเมนที รัฐแคลิฟอร์เนีย เขาเชี่ยวชาญในการซ่อมแซมฮาร์ดแวร์ของสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และสมาร์ทวอทช์ โดยมีประสบการณ์มากกว่า 12 ปี ลินห์ได้รับใบรับรองด้านการซ่อมแซมอุปกรณ์เคลื่อนที่ iTech และใบรับรองด้าน iOS เขาจบระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยฟรานซิสกันสติวเบนวิลล์
มีการอ้างอิง 10 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 52,612 ครั้ง
สมัยนี้ใครๆ ก็ใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีหน้าจอแบบทัชสกรีน หน้าจอของหลายคนเลยเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน บางทีก็แค่คราบเครื่องสำอาง แต่บางทีก็ถึงขั้นใช้งานทัชสกรีนลำบาก อันนี้แล้วแต่สาเหตุและระดับความเยิน ถ้าเยินหนักๆ ก็อาจถึงขั้นต้องเปลี่ยนหน้าจอ แต่ถ้าไม่มากไปจนถึงขีดข่วนพอประมาณ ก็ยังพอแก้ไขได้เอง วิธีขจัดรอยขีดข่วนในหน้าจอก็เช่น ขัดออกด้วยยาสีฟัน (ถ้าหน้าจอเป็นพลาสติก) หรือผงขัดกระจก (ถ้าหน้าจอเป็นกระจก) ถ้าโชคดีขจัดรอยขีดข่วนทัน ขั้นต่อไปก็คือป้องกันไม่ให้เกิดรอยแบบเดิมซ้ำสอง
ขั้นตอน
- เตรียมยาสีฟัน. จริงๆ ทุกบ้านก็ต้องมียาสีฟันอยู่แล้ว ยาสีฟันถูกออกแบบมาไว้ใช้ขัดถูทำความสะอาด เลยขจัดรอยขีดข่วนบนพลาสติกได้เหมือนเวลาแปรงฟัน ในเมื่อคุณมียาสีฟันติดบ้านอยู่แล้ว เลยเป็นตัวเลือกแรกที่น่าลองใช้ จุดสำคัญคือต้องใช้ยาสีฟันที่เป็นยาสีฟันจริงๆ ไม่ใช่เจลใส[1] และควรมีสารขัดถู (abrasive) ถึงจะได้ผลดี ถ้าไม่แน่ใจให้ลองอ่านส่วนผสมที่ข้างหลอดหรือกล่องดู
- เบกกิ้งโซดาผสมน้ำก็มีสรรพคุณขัดถูเหมือนยาสีฟัน ถ้าไม่อยากใช้ยาสีฟัน ก็เอาเบกกิ้งโซดาไปกวนให้ข้นเป็น paste แล้วใช้ขัดถูรอยขีดข่วนแทนยาสีฟันได้เลย
- ป้ายยาสีฟันที่สำลีหรืออื่นๆ.[2] อย่างที่บอกว่าวิธีนี้เน้นของใช้ในบ้าน เพราะงั้นสิ่งที่จะเอาแต้มยาสีฟันไปขัดถูหน้าจอ จะเป็นผ้า ทิชชู่ สำลี คอตตอนบัด หรือแปรงสีฟันก็ได้ตามสะดวก แต่ให้ใช้ยาสีฟันแค่ประมาณถั่ว 1 เมล็ด ถ้าใช้เยอะไประวังเลอะเทอะไปหมด
- เอาไปขัดถูหน้าจอ. พอป้ายยาสีฟันแล้ว ก็เอาผ้าหรืออะไรมาขัดวนที่หน้าจอเบาๆ จนรอยขีดข่วนจาง เพราะยาสีฟันมีสารขัดถูในตัวอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องกดหรือขัดแรงแต่อย่างใด ให้ขัดไปเรื่อยๆ จนเริ่มเห็นผล ถึงรอยจะลึกหรือเยอะ แต่อย่างน้อยก็ช่วยทำให้จางลงเยอะเลย[3]
- อย่างที่บอกว่าถ้ารอยลึกหรือเยอะเป็นพิเศษ ใช้ยาสีฟันก็ช่วยได้แค่เบื้องต้น คือทำให้หน้าจอเรียบเนียนเหมือนเดิมไม่ได้ แค่รอยจางลงเท่านั้น
- ทำความสะอาดมือถือ. พอลดรอยขีดข่วนได้มากที่สุดแล้ว ก็ถึงเวลาเช็ดทำความสะอาดยาสีฟัน โดยใช้ผ้านุ่มๆ ชุบน้ำบิดหมาด แล้วเช็ดยาสีฟันออกจากหน้าจอ[4] จากนั้นใช้ผ้าเช็ดแว่นหรือผ้าเช็ดหน้าจอมากำจัดคราบน้ำมันและสิ่งสกปรกต่างๆ เท่านี้หน้าจอก็จะสะอาดเหมือนใหม่ ดูดีกว่าตอนที่ยังมีรอยขีดข่วนชัดเจนโฆษณา
- ซื้อผงขัด cerium oxide. ถ้าหน้าจอมือถือเป็นกระจก (ไม่ใช่พลาสติก) ก็ต้องใช้อะไรที่แรงกว่ายาสีฟันหรือเบกกิ้งโซดา ถึงจะขัดรอยออก ในกรณีนี้ก็คือผงขัด cerium oxide นั่นเอง[5] ผงขัดแบบนี้มีขายทั้งแบบผงและแบบผสมมาให้แล้ว ถ้าเลือกแบบหลังจะสะดวกกว่า แต่จะคุ้มกว่าถ้าซื้อแบบผง
- ถ้าจะใช้ขัดหน้าจอมือถือ ใช้ผง cerium oxide แค่ 100 กรัมก็พอซะยิ่งกว่าพอ[6] แต่ถ้าใครชอบทำมือถือเป็นรอยบ่อยๆ ก็คงต้องซื้อเตรียมไว้มากกว่านั้น
- ผสมผงขัดกับน้ำ.[7] ถ้าซื้อ cerium oxide แบบผงมา ก็ต้องผสมเอง ซึ่งก็ง่ายมาก แถมประหยัดกว่าซื้อแบบผสมเสร็จ ให้เทผงประมาณ cerium oxide เล็กน้อย (ประมาณ 50 - 100 กรัม) ใส่ถ้วยเล็กๆ แล้วค่อยๆ เทน้ำลงไปผสมจนข้นเหมือนครีมสด คอยคนผสมและปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนได้ความข้นตามต้องการ
- ไม่ต้องถึงกับตวงส่วนผสมให้ได้สัดส่วนเป๊ะๆ ขอแค่ใส่น้ำมากพอจะใช้สำลีหรืออะไรมาชุบไปเช็ดหน้าจอได้
- แต่ถ้าซื้อแบบผสมมาแล้ว ก็ไม่ต้องมานั่งทำตามขั้นตอน
- แปะเทปรอบเครื่องให้เหลือแต่หน้าจอ.[8] แค่คิดก็สยองแล้วว่าถ้าส่วนผสม cerium oxide ที่ใช้ขัด ซึมเข้ารูต่างๆ ของมือถือจะเป็นยังไง รวมถึงลำโพง รูเสียบหูฟัง และช่องเสียบชาร์จ นอกจากนี้ยังทำเลนส์กล้องเสียหายได้ด้วย เพราะงั้นถึงต้องเอาเทปกาวปิดให้ทั่วเครื่อง โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่ควรโดนส่วนผสมสำหรับขัด เว้นไว้แต่หน้าจอ ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้
- บางคนอาจจะขี้เกียจติดเทปซะรอบเครื่องเพราะดูเสียเวลา แต่บอกเลยว่าเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ เพราะถ้าพลาด ส่วนผสมไหลหรือซึมเข้าไปในเครื่อง ก็จบเห่
- ทาส่วนผสมสำหรับขัดตรงที่เป็นรอย. เอาผ้าเช็ดแว่นหรือเช็ดหน้าจอชุบส่วนผสม cerium oxide แล้วเอาไปขัดถูบริเวณที่เป็นรอยโดยขัดวนแรงๆ[9] หยุดเช็คเป็นระยะว่ารอยจางขึ้นไหม ทุก 30 วินาทีควรเช็ดส่วนผสมออกด้วยผ้าอีกด้าน จากนั้นชุบส่วนผสมใหม่ แล้วขัดซ้ำจะเห็นผลที่สุด
- เวลาใช้ส่วนผสมสำหรับขัด ต้องขัดแรงกว่าตอนเช็ดหน้าจอธรรมดา แต่ก็อย่าถึงกับสร้างรอยเพิ่ม อันนั้นจะขัดกับจุดประสงค์
- ทำความสะอาดหน้าจอ. พอลงยาขัดและเช็ดออกแล้ว ก็ควรทำความสะอาดหน้าจอซ้ำ คือเช็ดด้วยผ้าเช็ดแว่นหรือผ้าเช็ดหน้าจอ จะได้ไม่เหลือส่วนผสมตกค้าง ให้แกะเทปกาวออกแล้วค่อยทำความสะอาด เช็ดไม่เกิน 1 - 2 นาทีก็พอแล้ว รับรองมือถือจะสะอาด (เกือบ) เหมือนใหม่
- ควรเช็ดหน้าจอเป็นประจำ เช็ดวันละ 2 ครั้งก็ดี ไม่ต้องมากมาย แค่ไม่กี่วินาที รับรองหน้าจอจะสะอาดพร้อมใช้
โฆษณา
- ใช้แผ่นติดป้องกันรอยขีดข่วน. มือถือสมัยนี้หน้าจอมีโอกาสเกิดรอยขีดข่วนสูง เพราะเราทัชๆ จิ้มๆ ปาดๆ กันอยู่ตลอด หลายคนซื้อมือถือใหม่เลยรีบติดแผ่นฟิล์มกันรอยที่หน้าจอ บอกเลยว่าจ่ายเพิ่มอีกหน่อยแต่คุ้มค่า อย่างน้อยฟิล์มกันรอยก็ถูกกว่าค่าเปลี่ยนหน้าจอเยอะเลย ยิ่งถ้าเป็นฟิล์มกันรอยแพงๆ ยิ่งไม่มีทางเกิดรอยขีดข่วน แต่ถ้าแบบที่ขายทั่วๆ ไป อย่างน้อยก็ลดโอกาสเกิดรอยขีดข่วนฝังลึก
- ถ้ามีฟิล์มกันรอยแบบพลาสติกกับแบบกระจกนิรภัย (tempered glass) ขอให้ยอมจ่ายแพงอีกหน่อยซื้ออย่างหลัง เพราะกระจกนิรภัยหรือ tempered glass นั้นทนทานกว่า เห็นหน้าจอชัดกว่า แถมใช้งานสะดวก[10]
- เช็ดหน้าจอบ่อยๆ. ถ้ามีฝุ่นผงหรือสิ่งสกปรกติดที่หน้าจอ พอใช้งาน ปาดหน้าจอไปมาก็แน่นอนว่าจะทำให้เกิดเป็นรอยขีดข่วน ให้ใช้ผ้าไหมหรือผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดทำความสะอาดหน้าจอ 1 - 2 ครั้งต่อวัน จะได้สะอาดพร้อมใช้[11] ใครใช้มือถือหน้าจอทัชสกรีนต้องหมั่นเช็ดหน้าจอ เพราะลากหรือปาดหน้าจอที ก็ถูน้ำมันกับรอยนิ้วมือที่สะสมไปมาจนหน้าจอเบลอไปหมด
- ถ้าไม่มีผ้าเช็ดจอโดยเฉพาะจริงๆ อนุโลมให้ใช้แขนเสื้อ ผ้าเช็ดจาน ผ้าเช็ดหน้า หรืออะไรก็แล้วแต่แทนไปก่อน แต่ที่ดีที่สุดคือผ้าไหมหรือไมโครไฟเบอร์ที่นุ่มลื่น จะได้ไม่ทำร้ายหน้าจอ
- เก็บมือถือให้ดีๆ. ส่วนใหญ่ที่มือถือกระแทกหรือเป็นรอย มักเป็นตอนที่คุณกำลังเดินทางหรืออยู่นอกบ้าน เพราะงั้นต้องคอยระวังโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยง ถ้าจะพกมือถือในกระเป๋า ต้องเอาใส่ช่องแยก อย่ารวมกับกุญแจหรือเหรียญ ทางที่ดีให้เอามือถือใส่ในช่องที่รูดซิปได้ จะได้ไม่เผลอทำตก
- อย่ายัดมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง นอกจากเสี่ยงจอแตกเพราะนั่งทับแล้ว ยังมีรายงานว่าอาจเกิดปัญหาสุขภาพด้านประสาทได้ เพราะกดทับที่ด้านหลังของคุณ[12]
โฆษณา
เคล็ดลับ
- เผลอทำหน้าจอเยินไม่รู้ตัวถือเป็นปัญหาใหญ่ของคนใช้สมาร์ทโฟน เลยทำให้พลอยมีร้านรับซ่อมมือถือเยอะตามไปด้วย ถ้าหน้าจอคุณมีรอยขีดข่วนจนแก้ไขเองไม่ได้ หรือไม่มีเวลาทำตามขั้นตอนทั้งหลายแหล่ ก็ลองไปร้านรับซ่อมมือถือแถวบ้าน หรือสอบถามในเน็ตดูก่อน แต่ต้องเลือกร้านที่เชี่ยวชาญและไม่เกินงบของคุณ แต่ถ้างบเป็นเรื่องใหญ่ คงต้องลองซ่อมเองก่อน
- ปกติคุณเองก็น่าจะบอกได้ว่าหน้าจอมือถือที่ใช้เป็นพลาสติกหรือกระจก เพราะสัมผัสจะแตกต่างกันแน่นอน เพราะงั้นให้ลองเอามือถือรุ่นที่คุณใช้ไปค้นเพิ่มเติมในเน็ตดู (หรือจะอ่านคู่มือก็ได้) ว่าควรทำความสะอาดหรือขจัดรอยขีดข่วนยังไง[13]
- เดี๋ยวนี้มือถือรุ่นใหม่ๆ ชอบโฆษณาว่าเป็น "self-healing" (รักษาตัวเองได้) เพราะพลาสติกที่ใช้ทำเครื่องจะซ่อมแซมรอยขีดข่วนตื้นๆ ให้หายได้เอง ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนใช้มือถือสมบุกสมบัน แต่อยากให้มือถือสวยเหมือนใหม่ ก็ลองหามือถือรุ่น self-healing พวกนี้มาใช้ดู[14]
คำเตือน
- ถ้าเลือกใช้ผงขัดแบบหยาบ อาจลบรอยขีดข่วนลึกๆ ได้ก็จริง แต่ระวังจะขัดเอาเคลือบผิวบางส่วนของหน้าจอมือถือออกไปด้วย สารเคลือบหน้าจอ (เช่น oleophobic coating) จะช่วยลดแรงเสียดทาน แถมทำให้ปัดหน้าจอลื่นขึ้น สรุปคือมีทั้งข้อดีข้อเสีย ก็ต้องเปรียบเทียบแล้วตัดสินใจดูก่อนเลือกใช้
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.electronicproducts.com/Optoelectronics/Displays/5_ways_to_remove_scratches_from_your_phone_including_eggs_baby_powder_and_toothpaste.aspx
- ↑ http://www.electronicproducts.com/Optoelectronics/Displays/5_ways_to_remove_scratches_from_your_phone_including_eggs_baby_powder_and_toothpaste.aspx
- ↑ http://wordscanspeak.com/guides/8-ways-remove-scratches-phone/
- ↑ http://wordscanspeak.com/guides/8-ways-remove-scratches-phone/
- ↑ http://www.expertreviews.co.uk/mobile-phones/8025/how-to-remove-scratches-from-iphone-screen
- ↑ http://aussiesapphire.com.au/index.php?main_page=document_general_info&products_id=1421
- ↑ http://aussiesapphire.com.au/index.php?main_page=document_general_info&products_id=1421
- ↑ http://www.expertreviews.co.uk/mobile-phones/8025/how-to-remove-scratches-from-iphone-screen
- ↑ http://www.expertreviews.co.uk/mobile-phones/8025/how-to-remove-scratches-from-iphone-screen
- ↑ http://gadgetstouse.com/gadget-tech/why-tempered-glass-is-better/25427
- ↑ https://www.cleanipedia.com/gb/materials-surfaces/how-to-keep-your-smartphone-clean
- ↑ http://consumerist.com/2015/04/14/putting-your-phone-in-your-back-pocket-may-also-be-bad-for-your-butt-back/
- ↑ http://www.androidauthority.com/build-materials-metal-vs-glass-vs-plastic-617553/
- ↑ http://www.cnn.com/2015/06/25/tech/self-healing-plastic/
- วีดีโอประกอบโดย Techmagnet
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.