ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
มีการอ้างอิง 9 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 96,507 ครั้ง
ปกติเราก็ไม่ต้องโทรหรือส่ง SMS เข้ามือถือตัวเองอยู่แล้ว เพราะงั้นหลายคนเลยไม่ซีเรียสเรื่องรู้เบอร์โทรตัวเอง ยิ่งพวกจ่ายค่าบริการรายเดือนยิ่งไม่ต้องใช้เบอร์เวลาจะเติมเงิน แต่คนเรารู้ชื่อตัวเองก็ควรจะรู้เบอร์มือถือที่ใช้ไว้เหมือนกัน วันไหนลืมนามบัตรจะได้บอกเบอร์ติดต่อให้คนอื่นถูกไง ถ้าคุณไม่รู้หรือลืมไปแล้วว่ามือถือตัวเองเบอร์อะไร บทความวิกิฮาวนี้ก็มีวิธีการเช็คเบอร์มือถือตัวเองจากซิมมาฝากกัน
แต่ถ้าคุณรู้เบอร์มือถือตัวเองอยู่แล้ว แค่อยากจะหา serial number (ICCID) ของ SIM card ให้ลองหาอ่านเพิ่มเติมในเน็ตดู แต่ปกติ ICCID นั้นจะติดอยู่ที่ซิมเลย
ขั้นตอน
- 1เอาซิมกลับไปที่ศูนย์. ถ้าเจอ SIM card เก่าแต่ไม่มีมือถือที่จะใช้เช็คเบอร์ ให้เอากลับไปที่ร้าน/ศูนย์ของค่ายมือถือที่คุณซื้อ SIM card มา เจ้าหน้าที่เขาจะได้เช็คเบอร์ให้
โทรหา call center. ถ้าคุณมีมือถือ แต่ไม่อยาก activate เปิดใช้ SIM card ในเครื่องนั้น ให้โทรหา call center ของค่ายมือถือที่ใช้ ปกติที่ SIM card จะมี serial number ติดอยู่ ก็บอกเจ้าหน้าที่ไป เขาจะได้บอกเบอร์มือถือให้คุณ- 3SIM card ใหม่ๆ จะต่างออกไป. หลายค่ายไม่ได้พ่วงเบอร์ไว้กับซิม ต้อง activate เริ่มใช้งานก่อนถึงจะได้เบอร์ เพราะงั้นบางทีคุณซื้อซิมใหม่ก็อาจจะยังไม่ได้เบอร์มือถือ ต้องเอาไปใส่ในเครื่องแล้ว activate ก่อนโฆษณา
===เช็คจาก SIM Card ทุกระบ064461230ทรูมูป
เข้า Settings ของเครื่อง
เปิด "Settings". แตะแอพที่ไอคอนเป็นรูปฟันเฟือง (ปกติอยู่ในหน้า Home) เพื่อเปิดหน้า settings ของ iPhone
แตะ "Phone". เลือก “Phone” จากในตัวเลือกของเมนู Settings
มองหา "My Number". จะมีเบอร์ของ SIM card ที่ใส่อยู่ใน iPhone ของคุณโฆษณา
ดูใน Contacts List
เปิด contacts list. แตะไอคอนรูปโทรศัพท์สีเขียวใน app dock ของ iPhone ที่ล่างหน้าจอ หรือตรงไหนสักแห่งในหน้า Home เพื่อเปิด contacts list ของเครื่อง
ลากด้านบนของ contacts list ลงมา. เลื่อนขึ้นไปที่ด้านบนของ contacts list จากนั้นแตะเหนือ contact แรกแล้วลากลงมา จะเห็น contact info ของเครื่องคุณ รวมถึงเบอร์มือถือของ SIM card ที่ใช้อยู่ด้วย [1]โฆษณา
เชื่อมต่อ iTunes
- 1เปิด iTunes ในคอม. วิธีการนี้ใช้ได้ทั้งใน Mac และ Windows[2]
- คำเตือน: ถ้ายังไม่เคยเชื่อมต่อ iPhone กับคอมเครื่องนี้มาก่อน ต้องระวัง เพราะถ้าพลาดไป ไฟล์เพลงในมือถืออาจจะหายเกลี้ยง
- 2เสียบ iPhone กับคอม. ปกติ iPhone จะมีสาย USB ติดมาด้วยอยู่แล้ว ให้เสียบข้างหนึ่งกับพอร์ทที่เสียบสายชาร์จ iPhone ส่วนปลายอีกข้างเสียบพอร์ท USB ของคอม
- วิธีนี้ใช้กับการ sync ผ่าน Wi-Fi ได้ด้วย
- 3ล็อกอินเข้า iTunes Store ถ้าจำเป็น. บางคนจะเจอหน้าต่าง popup ว่า "Sign in to the iTunes Store" ถ้าเป็นแบบนี้ให้ใส่ Apple ID ของคุณ
- ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยถ้าไม่เจอหน้าต่าง popup ที่ว่า
- 4คลิก "Cancel" ถ้ามีตัวเลือก sync ข้อมูล. บางคนเจอหน้าต่าง popup ถามว่าจะลบข้อมูลแล้ว sync มือถือไหม ให้คลิก "Cancel" ได้เลย เพราะถ้าไป sync กับคอมอื่น อาจทำไฟล์เพลงในมือถือคุณหายวับไปเลย
- ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยถ้าไม่เจอหน้าต่าง popup ที่ว่า
- 5คลิกปุ่มเลือก iPhone ของคุณใน iTunes. ตำแหน่งของปุ่มนี้จะต่างกันออกไปตามเวอร์ชั่น iTunes ที่ใช้[3]
- iTunes 12: คลิกปุ่มเล็กๆ ที่มุมซ้ายบน เป็นรูปมือถือ
- iTunes 11: คลิกปุ่ม "iPhone" มุมขวาบน ถ้าไม่มีให้คลิก "Library" ด้านขวาบน เพื่อออกจาก store แต่ถ้าไม่เจออีก ให้เลือก "View" ในเมนูแรกที่ขยายลงมา แล้วเลือก "Hide Sidebar"
- iTunes 10 หรือเก่ากว่า: หา "Devices" ในแถบข้างทางซ้าย แล้วคลิกชื่อ iPhone ข้างใต้
- 6ดูเบอร์ตัวเอง. ปกติจะอยู่แถวๆ ด้านบนของหน้าต่าง iTunes ใกล้กับรูป iPhone
- ถ้าไม่เจอเบอร์มือถือ ให้คลิกปุ่ม "Summary" ปกติเป็นตัวเลือกในแถบข้างด้านซ้าย หรือ tab ที่ด้านบนของหน้าจอ
โฆษณา
เข้า Settings. แตะแอพที่ไอคอนเป็นรูปฟันเฟืองในหน้ารวมแอพ เพื่อเปิดเมนู Device Settings ของ Android
แตะ About Device หรือ About Phone. เลือก “About Device” หรือ "About Phone" จากในตัวเลือกของเมนู Settings อาจจะต้องเลื่อนลงไปก่อน ถึงจะเจอ- ใครใช้ LG G4 ต้องแตะ tab "General" ก่อน แล้วค่อยแตะ "About Phone"[4]
แตะ Status หรือ Phone Identity. จะต่างกันไปตามแต่ละเครื่อง เลือกแล้วจะเจอเบอร์มือถือของคุณ [5]
ดูเบอร์มือถือ. เลื่อนลงไปตามหน้า Status แล้วจะเจอช่อง “My phone number” ที่มีเบอร์มือถือของซิมนั้นโฆษณา
ไปที่ contact list. แตะช่อง “Phone” ในหน้า home ของ Windows phone เพื่อเปิด contact list
ดูตัวเลือกอื่นๆ. แตะไอคอน 3 จุดที่มุมขวาล่างของหน้าจอ เพื่อดูตัวเลือกเพิ่มเติม
ไปที่ Settings. เลือก “Settings” จากในตัวเลือก เพื่อเปิด contact list settings
ดูเบอร์มือถือ. เลื่อนไปตามหน้าจอ แล้วจะเห็นเบอร์ SIM card ในช่อง “My phone number”- 5เลือกหน้าตาเมนูแบบอื่น. Windows Phone บางเครื่อง หน้าตาเมนูจะต่างออกไป
- LG Optimus Quantum: Menu → Settings → Applications → Phone → แล้วหา "My Phone Number"[8]
โฆษณา
ดูแอพเพิ่มเติม. ปัดหน้าจอไปทางซ้ายเพื่อดูแอพอื่นๆ ของ Blackberry
เข้า Settings. แตะแอพที่มีไอคอนรูปฟันเฟืองในหน้ารวมแอพ เพื่อเปิด System Settings ของ Blackberry
ไปที่ Category ใน “About”. เลือก “About” ในหน้า System Settings แล้วแตะ “Category” เพื่อขยายเมนู
ดูเบอร์มือถือ. แตะ “SIM Card” จากในเมนูที่ขยายลงมา แล้วจะเห็นเบอร์มือถือของ SIM card ที่ใช้ในหน้าจอโฆษณา
- 1แตะ "Settings". ไอคอนรูปฟันเฟืองสีเทา
- 2แตะ "About". ปกติจะเป็นตัวเลือกแรกในเมนู
- 3หาเบอร์มือถือ. อาจจะเขียนว่า "Cellular Data Number"[9]
- iPad ปกติไม่ได้เอาไว้โทรอยู่แล้ว แต่มี SIM card ไว้ดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ
โฆษณา
เคล็ดลับ
- วิธีการต่างๆ ที่ว่ามา ใช้สำหรับมือถือ GSM หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ SIM card
- ถ้ามือถือคุณเป็น CDMA หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ต้องใช้ซิม ให้ติดต่อ call center ว่าจะหาเบอร์มือถือได้ยังไง
โฆษณา
คำเตือน
- หลายค่ายจะยกเลิก SIM card ของคุณอัตโนมัติถ้าไม่ได้ใช้งานตามเวลาที่กำหนด ถ้าคุณเปิดใช้ SIM card เก่าไม่ได้ แสดงว่าคงต้องเปลี่ยนซิมแล้ว
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://osxdaily.com/2013/04/20/how-to-find-an-iphones-phone-number/
- ↑ http://osxdaily.com/2013/04/20/how-to-find-an-iphones-phone-number/
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT203060
- ↑ http://support.bell.ca/mobility/smartphones_and_mobile_internet/lg-g4.how_to_find_the_phone_number_of_my_lg_g4
- ↑ http://support.bell.ca/
- ↑ http://support.bell.ca/mobility/smartphones_and_mobile_internet/sony-xperia-z5.how_to_find_the_phone_number_of_my_sony_xperia_z5
- ↑ http://support.bell.ca/mobility/smartphones_and_mobile_internet/nexus-6p.how_to_find_the_phone_number_of_my_huawei_nexus_6p
- ↑ http://support.bell.ca/mobility/smartphones_and_mobile_internet/lg_optimus_quantum.how_to_find_the_phone_number_of_my_lg_optimus_1
- ↑ http://support.bell.ca/mobility/smartphones_and_mobile_internet/apple_ipad.how_to_find_the_phone_number_of_my
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 96,507 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 96,507 ครั้ง
หมวดหมู่: โทรศัพท์และแกดเจ็ต
มีการเข้าถึงหน้านี้ 96,507 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
