บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 18,456 ครั้ง
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเปิดและใช้งาน Remote Desktop ในคอมพิวเตอร์ Windows 7 ให้คุณเอง Remote Desktop เป็นฟีเจอร์ที่ติดมากับ Windows 7 แต่แรก ใช้ควบคุมคอมอีกเครื่องจากระยะไกลได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ถ้าจะใช้ Remote Desktop ก็ต้องเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ในคอมปลายทางซะก่อน แล้วหา IP address ของคอมปลายทาง หลังจากนี้ก็เชื่อมต่อและใช้งานคอมปลายทางจากในคอมพิวเตอร์ของคุณได้เลย
ขั้นตอน
- เช็คก่อนว่าคุณมีสิทธิ์ใช้ Remote Desktop ในคอมเครื่องนี้ได้ไหม. ก่อนจะเปิดใช้งาน Remote Desktop ได้ ต้องเช็คก่อนว่าคุณใช้บัญชีที่มีสิทธิ์แอดมิน (administrator privileges) และต้องมีรหัสผ่านแอดมินด้วย
- คลิก Control Panel. ทางขวาของเมนู Start เพื่อเปิดหน้าต่าง Control Panel
- ตั้งค่า "View by" เป็น "Large icons". คลิกช่อง "View by:" ด้านขวาบนของหน้าต่าง Control Panel ให้ขยายลงมา แล้วคลิก Large icons จากในเมนู
- ถ้ามีคำว่า "Large icons" ขึ้นอยู่ข้างหัวข้อ "View by:" อยู่แล้ว ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
- คลิก System. ที่เป็นหัวข้อทางด้านล่างของหน้าต่าง
- อาจจะต้องเลื่อนลงไปถึงจะเจอตัวเลือกนี้
- คลิก Remote settings. ที่เป็นลิงค์มุมซ้ายบนของหน้าต่าง เพื่อเปิดหน้าต่างใหม่
- ติ๊กช่อง "Allow Remote Assistance connections to this computer". ทางด้านบนของหน้าต่างใหม่
- ถ้าไม่เจอตัวเลือกนี้ ต้องเช็คก่อนว่าเปิดถูก tab แล้ว โดยคลิก Remote ทางด้านบนของหน้าต่าง
- ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย ถ้าช่องนี้ติ๊กไว้แล้ว
- ติ๊กช่อง "Allow connections from computers running any version of Remote Desktop". กลางหน้าต่าง pop-up เพื่ออนุญาตให้คอมเครื่องอื่นที่ใช้ Remote Desktop (เช่น คอม Windows 10) สามารถเชื่อมต่อกับคอมเครื่องนี้ได้ในอนาคต
- ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย ถ้าช่องนี้ติ๊กไว้แล้ว
- เพิ่มผู้ใช้ ถ้าจำเป็น. ถ้าอยากให้ผู้ใช้อื่นในคอมปลายทางใช้ Remote Desktop ได้ด้วย ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- คลิก Select Users…
- คลิก Add
- คลิก Advanced…
- คลิก Find Now
- เลื่อนลงไปตามกรอบท้ายหน้าต่าง แล้วดับเบิลคลิกชื่อผู้ใช้ที่จะเพิ่ม
- คลิก OK ในทั้ง 2 หน้าต่างที่เปิดอยู่ด้านบน
- คลิก OK. ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อเซฟ settings และเปิดใช้ Remote Desktop ในคอมปลายทางโฆษณา
- คลิก Control Panel Home. ที่เป็นลิงค์มุมซ้ายบนของหน้าต่าง เพื่อกลับไปที่หน้าต่างหลักของ Control Panel
- ถ้าปิด Control Panel ไปแล้ว ให้เปิดขึ้นมาใหม่ก่อน
- คลิก Windows Firewall. ในรายชื่อตัวเลือกของ Control Panel
- คลิก Allow an app or feature through Windows Firewall. ที่เป็นลิงค์มุมซ้ายบนของหน้า
- คลิก Change settings. ทางด้านบนของหน้า เหนือรายชื่อโปรแกรมตรงกลางพอดี
- เลื่อนลงไปติ๊กช่อง "Remote Desktop". ที่อยู่ในส่วนของตัว "R" ในรายชื่อโปรแกรม เพื่ออนุญาตให้ใช้ Remote Desktop ผ่าน Windows Firewall ได้[1]
- คลิก OK. ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อเซฟค่าใหม่โฆษณา
- พิจารณาตั้ง static IP address. ไม่จำเป็น แต่ถ้าทำได้ก็ดี static IP address คือ IP address ที่จะไม่เปลี่ยนแปลงหลังตัดการเชื่อมต่อเราเตอร์ หรือเวลาคอมต่อเน็ตใหม่อีกรอบ IP address ที่คุณเห็นจะใช้ได้ตลอดไป ถ้าไม่ทำขั้นตอนนี้ ก็ต้องมานั่งหา IP address ของคอมปลายทางใหม่ทุกครั้งที่จะเชื่อมต่อ วิธีตั้ง static IP address ก็คือต้องเข้า settings ของเราเตอร์ซะก่อน[2]
- หา IP address ของเราเตอร์
- ใส่ IP address ของเราเตอร์ในเบราว์เซอร์ แล้วล็อกอินด้วย username กับรหัสผ่านของเราเตอร์ถ้าต้องใช้
- หารายชื่อคอมพิวเตอร์ทั้งหมดที่เชื่อมต่ออยู่ แล้วเลือกคอมของคุณ
- ตั้ง IP address เป็น static โดยคลิกไอคอนรูปแม่กุญแจหรืออื่นๆ ที่ใกล้เคียง
- รอจนเราเตอร์รีบูทเสร็จ
- เปิดเบราว์เซอร์. ในคอมปลายทาง ให้คลิกหรือดับเบิลคลิกไอคอนของแอพเบราว์เซอร์ (เช่น Chrome)
- เปิด WhatIsMyIP. เข้าเว็บ https://www.whatismyip.com/ ในเบราว์เซอร์ของคอมปลายทาง
- หา public IP address. ข้างหัวข้อ "Your Public IPv4 is" ทางด้านบนของหน้า จะเห็น public IP address ของคอมปลายทาง
- ลงชื่อออกจากคอมปลายทาง. คลิก Start คลิกไอคอน ที่มุมขวาล่างของเมนู Start แล้วคลิก Log off ตอนนี้จะเชื่อมต่อคอมปลายทางกับคอม Windows 7 เครื่องอื่นก็ตามสบายโฆษณา
- คลิกแถบค้นหา. ทางด้านล่างของหน้าต่าง Start
- ค้นหา Remote Desktop. โดยพิมพ์ remote desktop จะเห็นผลการค้นหาโผล่มาเป็นรายการ ในหน้าต่าง Start
- คลิก Remote Desktop Connection. ที่เป็นผลการค้นหาแรกในเมนู Start เพื่อเปิดหน้าต่าง Remote Desktop
- บางทีตรงนี้อาจจะต้องคลิก Remote Desktop แทน
- พิมพ์ IP address ของคอมปลายทาง. คลิกช่อง "Computer" กลางหน้าต่าง Remote Desktop แล้วพิมพ์ public IP address ของคอมปลายทางลงไป
- คลิก Connect. ทางด้านล่างของหน้าต่าง
- พิมพ์ username กับรหัสผ่านของคอมปลายทาง. พอถูกถาม ให้พิมพ์ username กับรหัสผ่านแอดมินของบัญชีที่เปิดใช้ Remote Desktop ไว้
- ถ้าเพิ่มผู้ใช้อื่นให้ใช้ Remote Desktop ได้ด้วย ก็ให้ใส่ username กับรหัสผ่านของผู้ใช้นั้นแทน ถ้าจะเข้าใช้บัญชีเขา
- คลิก OK. ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อเชื่อมต่อคอมกับคอมปลายทาง อาจจะต้องรอหลายนาทีหน่อย กว่าจะเชื่อมต่อเสร็จ แล้วจะเห็นหน้า desktop ของคอมปลายทางโผล่มาใน Remote Desktop เท่านี้ก็ใช้งานคอมจากระยะไกลได้ตามใจชอบเลยโฆษณา
เคล็ดลับ
- ส่วนใหญ่ Remote Desktop จะเอาไว้ใช้ด้านเทคนิคของฝ่าย IT แต่จริงๆ แล้วจะเอาไว้ใช้เปิดและ/หรือส่งไฟล์ให้ตัวเองระหว่างคอมออฟฟิศกับบ้านก็ได้
- ถ้าใช้ Remote Desktop ไม่ได้ ให้ลองติดตั้งและใช้งาน TeamViewer แทน
คำเตือน
- ถ้ายังไม่ใช้ จะปิดการทำงานของ Remote Desktop ไว้ก่อนก็ได้
- ถ้าไม่ได้ตั้ง static IP address ของคอมปลายทางไว้ ก็ต้องมานั่งหา public IP address ของคอมใหม่ทุกครั้งที่จะเชื่อมต่อระยะไกล เพราะงั้นใครที่เข้าใช้งานคอมเครื่องนั้นได้ ต้องหา IP address ให้เจอ
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.