แต่งรูปที่เป็นไฟล์ JPG (ทั้งในมือถือและคอมพิวเตอร์)

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการแก้ไขหรือแต่งรูปไฟล์ JPG ด้วยแอปในมือถือ หรือโปรแกรมในคอมให้คุณเอง แอปแต่งรูปที่แนะนำให้มีติดมือถือไว้ ก็คือแอป Snapseed ของ Google (ใช้ได้ทั้งใน Android และ iPhone) แต่ถ้าไม่อยากดาวน์โหลดแอปใหม่ก็ใช้แอป photo ตั้งต้นของ Android ได้เลย ชื่อ Google Photos ส่วนใครใช้ iPhone กับ iPad ก็ใช้แอป Photo แต่งรูปแบบง่ายๆ ได้ ถ้าจะแต่งรูปในคอม ง่ายหน่อยคือใช้โปรแกรมแต่งรูปอย่าง GIMP ถ้าใครซื้อหรือจ่ายค่าสมาชิก Adobe Photoshop ก็ยิ่งดี ทั้ง GIMP และ Photoshop จริงๆ แล้วฟังก์ชั่นคล้ายๆ กัน ถึงบทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใช้งาน GIMP ฟรีเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ทำตามขั้นตอนใน Photoshop ได้เหมือนกัน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 4:

ใช้ Google Photos ของ Android

ดาวน์โหลดบทความ

ไอคอนของแอปจะเป็นกังหันสีๆ ปกติอยู่ในหน้า home สักหน้า ใน app drawer หรือต้องพิมพ์ชื่อแอปค้นหาเอง
2
แตะ Edit. ที่เป็นปุ่มด้านล่างของหน้าจอ ไอคอนเป็นตัวปรับแต่ง
- ถ้ามีเลข "1" สีๆ ที่มุม thumbnail แสดงว่าต้องสมัครใช้ Google One ก่อน ถึงจะใช้ได้
3
แตะผ่านฟิลเตอร์แนะนำไปเรื่อยๆ. อันที่ใช้กับรูปอยู่ จะเน้นด้วยสีฟ้า
- ตามค่าตั้งต้น แตะ Edit แล้วจะเห็นฟิลเตอร์แนะนำหรือ Suggested filters ทันที ถ้าไม่มี ลองแตะ Suggested ทางด้านล่างของหน้าจอดู
4
แตะ Crop. ข้าง Suggestions แถวๆ ด้านล่างของหน้าจอ แล้วจะมีให้ crop เอียง หรือหมุนรูป
- ปรับ setting เสร็จแล้วให้แตะ Done
5
แตะ Tools. tools ที่มีจะต่างกันไปตามมือถือที่ใช้ แต่ก็น่าจะมีตัวเลือก Portrait light, Blur, Sky และ Color focus แต่ละอย่างที่ว่ามาใช้แต่งรูปให้ดูสวยมีสไตล์ขึ้นได้ แต่ถ้าไม่มี ก็ต้องปรับ settings อื่นให้รูปออกมาตามต้องการ
- Portrait light จะปรับความสว่างและตำแหน่งแสงในรูปคน
- Blur จะปรับความเบลอของพื้นหลัง
- Sky ให้คุณเลือกท้องฟ้าสีต่างๆ ได้ แล้วปรับสี/contrast ของท้องฟ้านั้น
- Color focus ให้คุณปรับสีพื้นหลังเป็นขาวดำได้ โดยเก็บสีที่วัตถุด้านหน้าของรูปไว้ ให้ดูสวยเด่น
- ปรับ setting ตามต้องการแล้ว ก็แตะ Done ได้เลย
6
แตะ Adjust. อันนี้แล้วแต่มือถือที่ใช้ บางทีก็ตัวเลือกปรับแต่งก็มี Depth, Brightness, Contrast, White point, Black point, Highlights, Shadows, Saturation, Warmth, Tint, Skin tone, Blue tone, Pop, Sharpen, Denoise, Vignette ไปจนถึง HDR
- ไอคอนที่มีข้อความจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า แปลว่าเปลี่ยนค่าตั้งต้นด้วย adjustment tool แล้วเรียบร้อย
- Depth ใช้เปลี่ยนความลึกของรูป และเบลอส่วนอื่นนอกโฟกัส
- Brightness, Contrast, White point, Black point, Highlights และ Shadows ทั้งหมดนี้ใช้ปรับค่าแสง ว่าอยากให้รูปนั้นดูอลังการแค่ไหน
- Saturation, Warmth และ Tint เป็น settings สำหรับปรับสีว่าอยากให้เด่นขึ้นมากแค่ไหนในรูป
- Skin tone ใช้ปรับ saturation ของโทนสีผิว
- Blue tone ใช้ปรับ saturation ของโทนสีฟ้า เช่น น้ำ หรือท้องฟ้า
- Pop, Sharpen และ Denoise ใช้เพิ่มหรือลดเส้นกรอบของวัตถุในรูป เพื่อให้ชัดหรือเบลอขึ้น
- Vignette ใช้ลดความสว่างรอบกรอบของทั้งรูป เหมือนรูปเก่าที่ขอบจางๆ
- HDR ใช้เน้นความสว่างและ contrast ของทั้งรูป ให้ดูไม่โดด
- แต่งรูปเสร็จแล้ว แตะ Done ได้เลย
แตะฟิลเตอร์แล้วจะเห็นรูปที่แต่งด้วย settings ด้านบน จากนั้นแตะอีกรอบเพื่อเพิ่มหรือลดการใช้ฟิลเตอร์นั้น สุดท้ายแตะ Done เพื่อเซฟค่าใหม่แล้วไปต่อ
8
แตะ Markup. เพื่อวาดรูป เน้นส่วนที่ต้องการ หรือใส่ข้อความในรูป
- ปรับ setting เสร็จแล้วแตะ Done
แตะเพื่อเซฟค่าใหม่ ถ้าอยากใช้ editing tools เพิ่มเติม ให้แตะ More แล้วจะเห็นแอปอื่นๆ ที่ดาวน์โหลดมาใช้แต่งรูปเพิ่มเติมได้^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 4:

ใช้ Photos ใน iPhone หรือ iPad

ดาวน์โหลดบทความ

ไอคอนแอปจะเป็นดอกไม้สีๆ ปกติอยู่ในหน้า home สักหน้า
เพื่อเปิดขึ้นมาในมุมมองแบบเต็มหน้าจอ
มุมขวาบนของหน้าจอ
4
แตะ
. จะมีไอคอนไม้กายสิทธิ์ล่างตัวอย่างรูป
- พอแตะไอคอนนี้แล้ว iPhone หรือ iPad จะแต่งรูปให้สวยขึ้นโดยอัตโนมัติ
5
ปัดผ่านไอคอนต่างๆ ล่างตัวอย่างรูปไปเรื่อยๆ แล้วแต่งรูปตามต้องการ. โดยจะเป็นการเปลี่ยน settings พวก exposure, brilliance และ highlights ของรูป^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- พอแตะไอคอนแล้ว ให้ลากแถบไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อเพิ่มหรือลด effect นั้นๆ
- Brightness ใช้เปลี่ยน light settings หรือปรับแสง ทำให้รูปดูอลังการมากน้อยตามต้องการ
- Highlights ใช้ปรับว่าจะเห็นรายละเอียดของรูปชัดแค่ไหนในจุดที่แสงมืดและสว่างในรูป
ที่เป็นไอคอนวงกลม 3 วง ตรงกลางด้านล่างของหน้าจอ แล้วจะเห็นฟิลเตอร์ต่างๆ ที่ใช้แต่งรูปได้
ที่เป็นไอคอน crop แถวมุมขวาล่างของหน้าจอ ใช้ crop, หมุน และกลับด้านรูป
เพื่อเซฟค่าใหม่ ถ้าไม่โอเคกับรูปที่แต่งไป ก็แตะ Revert เพื่อยกเลิกทั้งหมดได้^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 4:

ใช้ Snapseed ในมือถือ

ดาวน์โหลดบทความ

มีหลายแอปแต่งรูปฟรีให้ดาวน์โหลดกันใน Google Play Store และ App Store เช่น Snapseed, PicsArt, VSCO และ Adobe Photoshop Express (แต่มีฟีเจอร์ฟรีจำกัด)
2
เปิดแอปแต่งรูป. พอดาวน์โหลดและติดตั้งแอปแต่งรูปจากใน App Store หรือ Google Play Store แล้ว ให้แตะแอปนั้นในหน้า Home หรือเมนู apps เพื่อเปิดขึ้นมา
- บางแอปต้องอนุญาตให้เข้าถึงพื้นที่เก็บข้อมูลในมือถือหรือแท็บเล็ตก่อน ถึงจะไปต่อได้
ปกติแอปพวกนี้ส่วนใหญ่จะมี + ให้แตะชัดเจน เพื่อเข้าถึง camera roll พอเปิด camera roll แล้ว ให้แตะไฟล์ JPG เพื่อเปิดในแอปแต่งรูป
4
แต่งรูปไฟล์ JPG ตามต้องการ. แต่ละแอปจะมีหน้าตาและฟังก์ชั่นแตกต่างกันไป ก็ลองแตะนั่นนี่ในแอปดู สำรวจว่าแต่ละเมนูทำอะไรได้บ้าง ถ้าเป็น editing tools พื้นฐานส่วนใหญ่จะใช้ฟรี แต่ฟีเจอร์ที่มีไอคอนล็อคไว้ หรือมีสัญลักษณ์ดอลล่าร์ แปลว่าต้องซื้อก่อนถึงจะปลดล็อคให้ใช้
- crop รูปเหมาะสำหรับเน้นจุดไหนในรูปเป็นพิเศษ โดยตัดพื้นหลังส่วนเกินออก ปกติไอคอนของ crop tool จะเป็นสี่เหลี่ยม 2 มุม เวลาจะ crop รูป ให้เลือก crop tool แล้วลากมุมของรูปเข้ามา ส่วนที่สว่างของรูปจะล้อมวัตถุในรูปนั้น ให้แตะไอคอนเพื่อยืนยันการ crop
  - ถ้าใช้แอป Snapseed พวก crop tool กับฟีเจอร์แต่งรูปต่างๆ จะอยู่ใน tab Tools
- บางแอปให้คุณปรับ saturation หรือความเข้มของสีในรูปได้ เพิ่ม saturation ของรูปแล้วจะช่วยให้สีในรูปเด่น รูปยิ่งดูสะดุดตา แต่ถ้า saturation มากไป จะทำให้รูปดูกระด้าง ไม่สมจริง ดูเหมือนการ์ตูนไป ก็ลองปรับ saturation เพื่อเน้นบางจุดของรูปดู โดยเลื่อนแถบต่างๆ ที่มีเพื่อเพิ่มหรือลดระดับ saturation
- ในการถ่ายรูป ค่า exposure หมายถึงปริมาณแสงที่ตกกระทบรูป ถ้ารูปนั้นมืดไป ก็ลองเพิ่ม exposure ดู แต่ถ้าอยากให้รูปมืดขึ้น ก็ลองลด exposure โดยลากแถบที่มีเพื่อเพิ่มหรือลดระดับ exposure
5
ลองใช้ฟิลเตอร์และเลนส์ต่างๆ (ไม่ต้องมานั่งปรับแต่งเอง). แอปแต่งรูปส่วนใหญ่จะมีฟิลเตอร์และเลนส์สำเร็จให้เลือกใช้แต่งรูปได้เลย ไม่ต้องมาปรับเอง ก็ลองหา tab หรือไอคอนด้านล่างหรือด้านบนของตัวอย่างรูปดูว่าจะแต่งรูปด้วยแอปยังไงได้บ้าง ฟิลเตอร์ของแอปแต่งรูปส่วนใหญ่จะเป็น thumbnail ให้ดูด้านล่างของหน้าจอ ก็แตะ thumbnail แล้วจะมีตัวอย่างให้ดูว่าแต่งรูปออกมาเป็นยังไง และมีแถบเลื่อนหรือไอคอนแถบเลื่อน ใช้เพิ่มลดความเข้มของฟิลเตอร์นั้นด้วย
- ถ้าใช้ Snapseed จะอยู่ใน tab Looks
แตะติ๊กถูกหรือปุ่ม Done เพื่อเซฟรูป ใน Snapseed จะแตะ Export แล้วแชร์รูปไฟล์ JPG ที่แต่งแล้วให้คนอื่นดูก็ได้
โฆษณา

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 4:

ใช้โปรแกรมแต่งรูปในคอม (เช่น GIMP)

ดาวน์โหลดบทความ

1
หาโปรแกรมแต่งรูป. คุณแต่งรูปง่ายๆ ด้วยโปรแกรม MS Paint หรือ Photos (เฉพาะ Windows) และ Photos (เฉพาะ Mac) ได้ แต่ถ้าจะแต่งรูปขั้นสูง ต้องมีโปรแกรมออกแบบตกแต่งรูปโดยเฉพาะ มืออาชีพเขาแนะนำ Adobe Photoshop กัน ถ้าแค่แต่งรูปพื้นฐาน ก็ไม่ต้องเสียค่าสมาชิก Adobe
- GIMP เป็นโปรแกรมแต่งรูปฟรีแบบ open-source ที่มีหลาย tools เหมือน Photoshop แถมดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรี
ถ้าโปรแกรมนั้นไม่มีปุ่ม Import หรือ Open ชัดๆ ก็ให้ไปที่ File > Open แล้วจะเจอ file manager สำหรับ browse หาแล้วเปิดไฟล์ JPG ได้
3
แต่งรูปตามสะดวก. แต่ละโปรแกรมจะมีหน้าตาเมนูต่างกันไป ก็ต้องลองคลิกเมนูต่างๆ ดู เพื่อให้คุ้นเคยกับโปรแกรม
- crop รูปก็ช่วยเน้นวัตถุที่ต้องการในรูปได้ โดยตัดพื้นหลังส่วนเกินออกไป ปกติไอคอนของ crop tool จะเป็นสี่เหลี่ยม 2 มุม เวลาจะ crop รูป ให้เลือก crop tool แล้วลากมุมของรูปเข้ามา ส่วนที่สว่างของรูปจะล้อมวัตถุในรูปนั้น ให้คลิกไอคอนเพื่อยืนยันการ crop
- ถ้าจะปรับขนาดรูปแทนการ crop ฟีเจอร์ resize ก็จะอยู่ในเมนู Edit ใช้ปรับขนาดของทั้งรูปได้
- เพิ่ม saturation ของรูปแล้วจะช่วยให้สีในรูปเด่น รูปยิ่งดูสะดุดตา แต่ถ้า saturation มากไป จะทำให้รูปดูกระด้าง ไม่สมจริง ดูเหมือนการ์ตูนไป ก็ลองปรับ saturation เพื่อเน้นบางจุดของรูปดู โดยเลื่อนแถบต่างๆ ที่มีเพื่อเพิ่มหรือลดระดับ saturation
- ในการถ่ายรูป ค่า exposure หมายถึงปริมาณแสงที่ตกกระทบรูป ถ้ารูปนั้นมืดไป ก็ลองเพิ่ม exposure ดู แต่ถ้าอยากให้รูปมืดขึ้น ก็ลองลด exposure โดยลากแถบที่มีเพื่อเพิ่มหรือลดระดับ exposure
จะกดคีย์ลัด Ctrl/Cmd + S หรือคลิก File > Save/Save As ก็ได้
โฆษณา