วิธีการ เรียนรู้วงจรการเป็นสัดของแมว

แมวตัวเมียที่ยังไม่ผ่านการทำหมันจะโตเต็มที่ประมาณอายุ 5 เดือนครึ่งถึง 12 เดือน ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและความยาวของวัน ^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.} โดยแมวบ้านต่างจากแมวป่าที่ต้องต่อสู้หาอาหารในฤดูหนาว ตรงที่ทานได้เต็มที่และได้รับแสงสว่างจากหลอดไฟ ดังนั้นแมวป่าจะเข้าสู่ฤดูผสมพันธ์ุ และคลอดเพียงช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงประมาณกันยายน แต่แมวบ้านสามารถเป็นสัดได้ตลอด อาจจะทุกๆ 3-4 สัปดาห์ อาการเป็นสัดนี้สามารถสังเกตได้ถ้าคุณเจ้าของไม่รู้ว่าแมวเป็นอะไร ลองสังเกตตามวิธีข้างล่างนี้เลยค่า ว่าน้องเหมียวของคุณเป็นสัดอยู่หรือเปล่า

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 2:

รู้จักสัญลักษณ์ผ่านท่าทาง

ดาวน์โหลดบทความ

1
ฟังเสียงร้อง. การเป็นสัดเรียกอีกอย่างได้ว่า “การร้องหาคู่” เพราะแมวตัวเมียจะร้องดังมาก และชอบเดินไปรอบบ้านร้องเสียงหง่าวๆหรือเสียงดังๆ^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.} น้องแมวอาจส่งเสียงเหมือนกำลังเจ็บปวด ร้องไห้ และอาจจะเสียงดังจนคุณเจ้าของนอนข่มตาไม่ลงตอนกลางคืน
- แต่ถ้าเจ้าเหมียวของคุณชอบร้องอยู่แล้ว การร้องเสียงดังอาจไม่ได้แปลว่าเธอกำลังอยู่ในระยะเป็นสัด
- น้องเหมียวจะ “ร้องหาคู่” ดังและนานกว่าปกติ และเกิดขึ้นร่วมๆกับอาการดังด้านล่างนี้
2
สังเกตอาการอยู่ไม่สุข. อาการอยู่ไม่สุขและเดินไปเดินมาเป็นอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นในระยะเป็นสัดของแมวเพศเมีย ^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
- อาการนี้มักเกิดพร้อมๆกับการร้องเสียงดัง
3
อ้อนหนักกว่าเดิม. แมวเพศเมียในช่วงเป็นสัดจะขี้อ้อนมากกว่าปกติ ถ้าเจ้าเหมียวของคุณเป็นจอมหยิ่ง เธอจะกลายเป็นจอมอ้อนในช่วงนี้ ^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
- เมื่อเป็นสัด เจ้าเหมียวมักจะถูข้อเท้าเจ้าของไปมา จนคุณอาจจะสะดุดล้มได้ตอนเดิน
- นิสัยที่สังเกตได้อีกอย่างคือเธอจะถูคางและแก้ม (ซึ่งมีต่อมรับกลิ่นอยู่) กับเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะตามขอบเช่น ขอบประตู
- กลิ่นตัวของน้องแมวเองจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยด้วย และเธอก็จะชอบไปฝากกลิ่นไว้ตามที่ต่างๆเพื่อป่าวประกาศว่า ฉันอยากมีคู่แล้วนะ^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
4
ดูหางดีๆ. เมื่อแมวพร้อมผสมพันธ์ุจะส่งสัญญาณได้ผ่านการขยับหาง หมายความว่าเมื่อคุณลูบหลังของเธอ โดยเฉพาะบนกระดูกเชิงกรานใกล้รอยต่อกับหาง แมวเพศเมียจะกระดกก้นขึ้นและขยับหางไปด้านหนึ่ง^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
- การตอบสนองนี้เป็นวิธีที่ทำให้แมวเพศผู้สามารถเข้าถึงช่องคลอดของเธอได้ง่ายขึ้นเวลาผสมพันธ์ุ
พฤติกรรมนี้คือการที่เจ้าเหมียวแอ่นหลังขนานพื้น ยกก้นขึ้นและคลานไปมาตามพื้น^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
6
ดูการพลิกตัว. ในช่วงการเป็นสัด แมวเพศเมียบางตัวจะนอนกลิ้งบนพื้นพร้อมกับส่งเสียงโหยหวน^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
- เป็นไปได้ว่า ถ้าคุณไม่รู้ว่าพฤติกรรมนี้เป็นเรื่องปกติ อาจมองว่าเธอกำลังร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งมักเป็นสาเหตุให้คุณแตกตื่นโทรหาสัตวแพทย์ ทั้งที่พฤติกรรมนี้ไม่ได้บ่งบอกว่าน้องแมวกำลังเจ็บป่วย
7
เธอเลียบ่อยขึ้น. บริเวณปากช่องคลอดของแมวจะบวมขึ้นในระยะเป็นสัด ทำให้เจ้าเหมียวไม่สบายตัว เธอจึงอาจใช้เวลาเลียทำความสะอาดตรงนี้มากเป็นพิเศษ^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
- อาการบวมนี้อาจสังเกตได้ยากถ้าไม่ตั้งใจดูดีๆ อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายภายนอกให้เห็น^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
8
แมวจะไม่อยู่บ้าน. แม้แต่เจ้าเหมียวที่ติดบ้านก็จะชอบออกผจญภัยในระยะเป็นสัด ถ้าแมวตัวผู้ไม่มาหา เธออาจจะออกไปตามหาเองเป็นวันๆ ^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
- ถ้าแมวยังไม่ทำหมันและคุณก็ไม่อยากให้เธอท้อง เก็บเธอไว้ในบ้านและอย่าให้แมวตัวผู้เข้ามาในช่วงการเป็นสัด
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 2:

ทำความเข้าใจกับวงจรการผสมพันธ์ของเจ้าเหมียว

ดาวน์โหลดบทความ

1
เข้าใจวงจรการเป็นสัด. แมวเพศเมียเป็นสัดบ่อยๆ ซึ่งก็คือเธอสามารถเป็นสัดได้หลายๆ ครั้งต่อปี ^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
- วงจรของแมวต่างจากสุนัขที่มีช่วงพัก ทำให้อยู่ในช่วงเป็นสัดสองครั้งต่อปีเท่านั้น^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
- ในระยะเป็นสัดนี้ ช่องคลอดของน้องแมวจะบวม เนื่องจากมีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้นเตรียมรับการตั้งท้อง แต่อาการบวมนี้ไม่สามารถสังเกตผ่านอาการภายนอกได้ ^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
2
เข้าใจบทบาทของฤดูกาล. ฤดูผสมพันธ์ุของแมวป่าคือช่วงเดือนมีนาคมถึงประมาณมิถุนายน นั่นคือลูกแมวจะเกิดห่างจากช่วงฤดูหนาวอันโหดร้ายที่มีโอกาสรอดชีวิตน้อย^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
- แต่แสงจากหลอดไฟสามารถหลอกให้แมวเชื่อว่ายังไม่ถึงฤดูหนาวได้ ดังนั้นถ้าเจ้าเหมียวของคุณอยู่แต่ในบ้าน การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลจะมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อวงจรการผสมพันธ์ุของเธอ ^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
- ดังนั้นพวกเธอจะเป็นสัดได้ตลอดทั้งปี
ช่วงฤดูผสมพันธ์ุของแมวเฉลี่ยอยู่ที่ 21 วัน ใน 3 สัปดาห์นี้ พวกเธออาจเป็นสัดมากถึง 7 วัน ^{[17]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}
โฆษณา

เคล็ดลับ

ถ้ายังไม่อยากเลี้ยงลูกแมว เก็บเจ้าเหมียวของคุณไว้ในบ้านอย่าให้เจอตัวผู้ในระยะเป็นสัด
โดยปกติแมวจะเป็นสัดประมาณ 4-7 วัน
แมวจะคลอดลูกครั้งละหลายตัว ก่อให้เกิดปัญหาแมวจรจัดและถูกกำจัดจำนวนมาก ดังนั้นถ้าคุณไม่ใช่นักผสมพันธ์ุสัตว์ ควรพาแมวของคุณไปทำหมัน
การทำหมันแมวสามารถทำได้ที่คลินิกสัตว์ทั่วไป โดยปกติแล้วราคาอาจประมาณ 1000 บาท แล้วแต่สถานที่ทำหมัน
หากแมวทานน้อยหรืออาเจียนอาหารออกมา รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

โฆษณา

คำเตือน

แม้จะอยู่ในระยะเป็นสัด แต่แมวจะไม่มีการขับของเหลวออกทางช่องคลอด ดังนั้นถ้าคุณเห็นเลือดหรือน้ำสีเหลืองปนเขียวออกมาจากช่องคลอดของแมว พาไปพบสัตวแพทย์ทันที^{[18]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงReproduction in the Dog & Cat. Christiansen. Publisher: Bailliere Tindall.}

โฆษณา