วิธีการ เป็นวัยรุ่นที่มีความรับผิดชอบ

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

จัดการเรื่องเรียนและการทำงาน

ใส่ใจสุขภาพและสุขอนามัย

สร้างทัศนคติที่ดี

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การเป็นวัยรุ่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะวัยรุ่นต้องเจอกับความเครียดมหาศาลทั้งที่โรงเรียน ที่บ้าน และกับเพื่อนๆ แถมความคาดหวังที่อยากจะเป็นคนสมบูรณ์แบบก็อาจส่งผลต่อจิตใจของวัยรุ่นด้วยเช่นกัน แต่โชคยังดีที่วัยรุ่นที่อยากมีความรับผิดชอบสามารถขอความช่วยเหลือจากที่ต่างๆ ได้มากมาย การเป็นวัยรุ่นที่มีความรับผิดชอบเป็นเรื่องของการค้นหาตัวตนและทำตามกฎง่ายๆ แค่ไม่กี่ข้อ แถมคุณเองยังได้ประโยชน์ด้วย เพราะคุณจะได้อิสรภาพและการพึ่งพาตนเองที่มากกว่า และได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตที่มีคุณค่าที่จะเป็นประโยชน์กับชีวิตในวัยผู้ใหญ่ด้วย

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

จัดการเรื่องเรียนและการทำงาน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   รับผิดชอบงานที่โรงเรียน. ไม่ว่าคุณจะฉลาดแค่ไหน การเรียนให้เก่งคือการทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ การเรียนต้องแลกกับความอุตสาหะ (หรือแม้แต่ความเบื่อหน่าย) มากมาย แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่คุณจะได้ตอบแทนก็คืองาน การศึกษา และมุมมอง

   • ทำการบ้านให้เสร็จแม้ว่าคุณไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม ครูหลายคนให้คะแนนงานที่ทำเสร็จแม้ว่าคำตอบจะไม่สมบูรณ์แบบ
   • พยายามหาวิชาที่คุณสนใจและจมอยู่กับมัน โรงเรียนสามารถเป็นเส้นทางการศึกษาที่น่าตื่นตาตื่นใจได้จริงๆ
   • ปรึกษาครู ครูของคุณเอาประโยชน์ของคุณเป็นที่ตั้ง พวกเขาอยากให้คุณได้เรียนรู้ สนุก และประสบความสำเร็จ
2. 
   2
   ทำงาน. คุณอาจจะไม่อยากทอดเบอร์เกอร์หรือทำงานในร้านขายของ แต่ตัวงานไม่สำคัญเท่ากับทัศนคติที่คุณนำติดตัวไปด้วย ถ้าคุณฉลาด น่ารัก และตั้งใจทำงาน นายจ้างจะต้องมองเห็นอย่างแน่นอน และเงินที่คุณได้เพิ่มมาก็มีประโยชน์กับคุณด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การทำงานพาร์ตไทม์ระหว่างเรียนยังสอนคุณเรื่องความรับผิดชอบและการจัดการเวลาได้ดีอีกด้วย แต่คุณก็ต้องจัดการชีวิตที่โรงเรียนและการทำงานให้สมดุล เกรดจะได้ไม่ตก

   • เขียนเรซูเม่ที่แสดงถึงความสำเร็จของคุณ และนำไปด้วยเวลาที่คุณไปสมัครงาน เรซูเม่คือรายการข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้นายจ้างอยากจ้างคุณ
   • แต่งตัวให้ดูดีเวลาไปสัมภาษณ์งาน เพราะคุณมีโอกาสสร้างความประทับใจแรกได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
   • ยิ้มและเป็นตัวของตัวเอง คนส่วนใหญ่จะชอบคุณในแบบที่คุณเป็น ส่วนคนที่ไม่ชอบก็อย่าเสียเวลาไปทำให้เขาชอบเลย
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

ใส่ใจสุขภาพและสุขอนามัย

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ไปพบแพทย์และทันตแพทย์เป็นประจำ. ตอนที่คุณเป็นวัยรุ่น คุณควรเริ่มฝึกนิสัยที่ดี และการดูแลสุขภาพก็เป็นหนึ่งในนั้น ไปพบแพทย์และทันตแพทย์เป็นประจำ คุณจะได้ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพ เคล็ดลับที่จะทำให้คุณห่างไกลหมอได้แก่:

   • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อย่ารับประทานอาหารขยะและอาหารจานด่วนมากเกินไป พยายามทดลองรับประทานผักและผลไม้ต่างๆ เยอะๆ
   • ออกกำลังกายบ่อยๆ พยายามเคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีทุกวัน วิธีนี้จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นแถมยังดูดีขึ้นด้วย
2. 2
   หลีกเลี่ยงยาเสพติดและแอลกอฮอล์. พอถึงจุดหนึ่งในช่วงวัยรุ่น คุณอาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีคนยื่นยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์มาให้ ซึ่งก็มีหลายเหตุผลที่ทำให้วัยรุ่นเลือกที่จะลองสารเสพติด ไม่ว่าจะเป็นแรงกดดันจากเพื่อน/อยากเป็นที่ยอมรับ พยายามที่จะหลีกหนีปัญหา หรือแค่ความอยากรู้อยากเห็นล้วนๆ เท่านั้น แต่คุณต้องจำไว้อย่างนึงว่า การเสพยาเสพติดและดื่มแอลกอฮอล์อาจส่งผลร้ายแรงต่างๆ มากมายในชีวิต ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

   • การเสพยาเสพติดหรือดื่มแอลกอฮอล์ทั้งที่อายุไม่ถึงเกณฑ์อาจทำให้คุณประสบกับปัญหาด้านกฎหมายอย่างร้ายแรง
   • การดื่มแอลกอฮอล์/เสพยาอาจทำให้คุณถูกยึดใบขับขี่ ถูกกักบริเวณ ต้องไปทำงานบริการสังคม หรือคุณอาจจะถูกจับกุม ผลที่ตามมาทั้งหมดนี้จะทำให้คุณได้อิสรภาพน้อยลง
   • การดื่มแอลกอฮอล์หรือการเสพยาเสพติดอาจทำให้คุณพูดหรือทำในสิ่งที่ปกติแล้วคุณจะไม่พูด/ทำ ซึ่งอาจทำให้เสียความรู้สึกและความสัมพันธ์ร้าวฉานได้
   • ยาเสพติดและแอลกอฮอล์ยังอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพถาวร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจิตใจและร่างกายที่เยาว์วัยและต้องพัฒนาต่อไป นอกจากนี้ยังอาจนำไปสู่ภาวะพึ่งพาหรือติดยาเสพติด/แอลกอฮอล์ด้วย
   • พยายามอย่าสังสรรค์กับคนที่ดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพยาเสพติด และเลี่ยงปาร์ตี้ที่คุณรู้ว่าจะมีการเสพยาหรือดื่มแอลกอฮอล์กันด้วย
3. 
   3
   รักษาสุขอนามัยที่ดี. ร่างกายของวัยรุ่นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ร่างกายของคุณเจอกับการเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมนมากพอสมควร เพราะฉะนั้นอย่าลืมอาบน้ำและดูแลสุขอนามัยขั้นพื้นฐานอื่นๆ อย่ากลัวที่จะไปพบแพทย์หรือถามพ่อแม่ในเรื่องที่คุณไม่สบายใจหรือไม่แน่ใจ

   • แปรงฟัน ล้างหน้า และพยายามอย่าซกมก
   • ทดลองสไตล์ต่างๆ แต่ต้องให้ดูเรียบร้อย คำว่าเรียบร้อยในที่นี้หมายถึงการดูแลตัวเองให้พอไปวัดไปวาได้ในสายตาคนอื่น
4. 
   4
   สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด. ข้อนี้มาคู่กับการรักษาสุขอนามัยที่ดี การสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดเป็นการบอกคนอื่นว่า คุณมั่นใจที่จะเป็นตัวเองมากแค่ไหน

   • ถามพ่อแม่ว่าต้องซักรีดเสื้อผ้าบ่อยแค่ไหน คุณอาจจะต้องเริ่มซักรีดเสื้อผ้าของตัวเอง
   • คุณอาจจะลงทุนซื้อสูทหรือเดรสสักตัวสำหรับใส่ไปสัมภาษณ์งาน ไปงานสังสรรค์ในครอบครัว และเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ
   • สิ่งสำคัญที่สุดคือใส่เสื้อผ้าที่แสดงความเป็นคุณ การเป็นคนมีความรับผิดชอบไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องแต่งตัวแบบใดแบบหนึ่ง แต่การเป็นคนมีความรับผิดชอบคือการรู้ว่าอะไรถูกกาลเทศะและปรับสไตล์ส่วนตัวให้เข้ากับกรอบนั้น
5. 
   5
   เป็นระเบียบเรียบร้อย. จัดเก็บห้องให้เป็นระเบียบ พ่อแม่ไม่ควรต้องมาตามเช็ดทำความสะอาดให้คุณราวกับเป็นคนใช้ การทำความสะอาดหลังจากทำห้องรกเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าคุณมีวุฒิภาวะ อีกทั้งยังเคารพเวลาและความรู้สึกของพ่อแม่ด้วย

   • แขวนเสื้อผ้าหรือใส่ไว้ในลิ้นชัก เสื้อผ้าของคุณเมื่อใส่แล้วดูเรียบร้อยมากขึ้นถ้าคุณยอมลุกไปแขวนไว้หรือพับเก็บ
   • เก็บที่นอนให้เรียบร้อยหลังจากตื่นนอน ตอนกลางคืนคุณจะอยากกระโดดลงบนที่นอนที่เก็บเรียบร้อยแล้วมากกว่า
   • ถ้าคุณทำรก เก็บกวาดให้เรียบร้อย เสนอตัวล้างจานให้หลังมื้อค่ำ ช่วยทำความสะอาดสวนหลังบ้านถ้าคุณจัดงานวันเกิด
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

สร้างทัศนคติที่ดี

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ซื่อสัตย์กับพ่อแม่. พ่อแม่ทุกคนล้วนอยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด เชื่อไหมว่าครั้งหนึ่งนานมาแล้วพ่อแม่เองก็เคยเป็นเด็กเหมือนกัน เพราะฉะนั้นพวกเขาย่อมรู้ดีว่าคุณกำลังเผชิญกับอะไร การซื่อสัตย์กับพ่อแม่จะทำให้เขาได้ความเห็นว่าอะไรที่ได้ผลและไม่ได้ผล ซึ่งจะช่วยให้คุณสื่อสารกันได้ดีขึ้นด้วย

   • บอกพ่อแม่ว่าจะไปไหนและไปกับใคร พ่อแม่ห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของคุณ
   • บอกพ่อแม่เมื่อคุณรู้สึกดีและเมื่อคุณรู้สึกแย่ พวกเขาอยากฉลองให้กับความสุขของคุณ และมีหน้าที่ต้องช่วยเหลือเมื่อคุณเศร้า
   • ขอคำแนะนำจากพ่อแม่ พ่อแม่ของคุณอาจจะมีแผนการพร้อมใช้ยามจำเป็น เล่าเรื่องตลก หรือเสนอวิธีแก้ปัญหาให้
2. 
   2
   พยายามสร้างความสัมพันธ์กับพ่อแม่. พ่อแม่จะซึ้งใจมากหากคุณปลีกเวลาในแต่ละวันเล่าให้พวกเขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของคุณบ้าง คุณไม่จำเป็นต้องบอกรายละเอียดยิบย่อยทุกอย่างในชีวิตให้พวกเขาฟัง แค่ให้พวกเขาได้รู้ว่าอะไรที่สำคัญสำหรับคุณบ้าง

   • เล่าเรื่องตลกที่เกิดขึ้นตอนมื้อเที่ยงหรือการสอบให้พ่อแม่ฟัง
   • ถามพ่อแม่เรื่องงาน เพื่อนๆ และเป้าหมายของพวกเขา การฟังสำคัญไม่แพ้การพูด
3. 
   3
   ปฏิบัติกับผู้อื่นแบบเดียวกับที่คุณอยากให้พวกเขาปฏิบัติกับคุณ. ความเห็นอกเห็นใจคือการสมมุติว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์เดียวกับคนอื่น ความเห็นอกเห็นใจเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับความเห็นแก่ตัว การฝึกความเห็นอกเห็นใจจะช่วยให้คุณมีพัฒนาการทางอารมณ์และช่วยสร้างมิตรภาพด้วย

   • แสดงการให้เกียรติต่อผู้อื่นแม้ว่าพวกเขาจะไม่ให้เกียรติคุณก็ตาม แล้วคนเหล่านั้นจะเรียนรู้ที่จะให้เกียรติคุณเอง
   • อย่าระเบิดอารมณ์ใส่คนอื่น ควบคุมความโกรธของคุณให้ดีแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากก็ตาม
   • ช่วยเหลือคนอื่นเมื่อทำได้ การช่วยเหลือไม่ได้หมายถึงการให้สิ่งของ แต่อาจจะเป็นการช่วยเหลือด้วยการกระทำ รับฟัง หรือให้คำแนะนำ
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• คบเพื่อนโดยไม่แบ่งแยก ยกเว้นว่าพวกเขาจะทำสิ่งผิดกฎหมายหรือผิดจริยธรรม เช่น ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือขโมยของในที่ทำงาน ถ้าเป็นแบบนั้น คุณอาจจะต้องอยู่ให้ห่างจากพวกเขา
• ในบางสถานการณ์ เช่น การแซวเล่นกับเพื่อน คุณสามารถพูดจาเหน็บแนมได้ คุณสามารถพูดตลกได้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม
• อารมณ์ของคุณ จะไม่ สมบูรณ์แบบ การรู้สึกโกรธ เศร้า อึดอัด หรือรำคาญไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนไม่ดี แต่หมายความคุณเป็นมนุษย์ต่างหาก
• การอยู่ท่ามกลางสิ่งดีๆ และแบบอย่างที่ดีเป็นวิธีที่จะทำให้คุณมีความสุขและมีความรับผิดชอบมากขึ้น
• อย่าให้แรงกดดันจากเพื่อนมีผลกับคุณด้วยการบอกพวกเขาว่า คุณไม่สนใจยาเสพติด แอลกอฮอล์ หรือการขโมยของ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร อย่าให้แรงกดดันจากเพื่อนมาอยู่เหนือคุณได้
• บางช่วงเวลาก็ต้องจริงจัง บางช่วงเวลาก็เรื่อยเปื่อยได้ จำไว้ว่าต้องจริงจังในสถานการณ์ที่จริงจัง ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะเสียใจภายหลัง
• อย่าปิดบังความรู้สึกจากพ่อแม่และ/หรือเพื่อนที่คุณไว้ใจ เพราะพวกเขาอยากสนับสนุนคุณเสมอ และอยากช่วยเหลือคุณในสถานการณ์ยากลำบากที่คุณไม่สามารถรับมือกับมันได้เพียงลำพัง
• ก่อนจะทำอะไร ให้ถามตัวเองก่อนว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดีไหม และเป็นการตัดสินใจอย่างรับผิดชอบหรือเปล่า

โฆษณา