วิธีการ เป็นนักออกแบบกราฟฟิก

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

เรียนรู้พื้นฐาน

พัฒนาเอกลักษณ์ของคุณ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การออกแบบกราฟฟิกคือขบวนการแห่งความสร้างสรรค์ที่เข้าถึงทุกอย่างที่เราทำในปัจจุบัน จากเว็บไซต์ไปจนถึงหน้าตาของโปรแกรมและไปจนถึงบรรจุภัณฑ์สินค้า นักออกแบบกราฟฟิกฝีมือดีๆ นั้นมีให้เห็นอยู่ทุกที่ มันอาจจะเป็นเหมือนรางวัล อาชีพที่ท้าทาย และนี่คือแนวทางที่จะช่วยคุณเดินตามสายทางนี้ได้

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

เรียนรู้พื้นฐาน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เลือกสายการออกแบบกราฟฟิก. ก่อนที่คุณจะเรียกตัวเองว่านักออกแบบกราฟฟิก คุณจะต้องตัดสินใจเลือกสายก่อน ยกตัวอย่างเช่น คุณสนใจในโฆษณา พัฒนาเว็บไซต์ มัลติมีเดีย(เช่น สื่อทีวี) สื่อสิ่งพิมพ์ หรือภาพเคลื่อนไหว สิ่งเหล่านี้คือรูปแบบที่หลากหลายของงานออกแบบกราฟฟิก พุ่งเป้าไปสายที่เหมาะกับคุณ

   • ในขณะที่การออกแบบกราฟฟิกอยู่บนพื้นฐานแบบเดียวกับไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์หรือออนไลน์ มันยังมีจุดหลักที่ต่างอย่างเห็นได้ชัด ช่องว่างของสี และตัวแปรอื่นๆ ที่เป็นข้อมูลตัวกลางที่คุณต้องให้ความสนใจ ถึงแม้ว่าคุณสามารถทำได้ทั้ง 2 อย่าง แต่มันดีกว่าที่จะเน้นจุดสนใจไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งสำหรับการเริ่มต้น
2. 
   2
   ครอบครองเครื่องมือ. โปรแกรมพื้นฐานของสายงานออกแบบกราฟฟิกนี้คือ Adobe Photoshop และ Adobe Illustrator (ถ้าคุณวางแผนจะซื้อทั้งหมด ชุดเต็มของ Adobe Creative Suite ประกอบไปด้วย Acrobat Dreamweaver Illustrator Premiere Photoshop InDesign และ After Effects) ในขณะที่โปรแกรมทั้ง 2 นั้นออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งานสำหรับผู้เริ่มต้น แถมยังมีลูกเล่นมากมายที่ต้องใช้ความพยายามมากพอเพื่อที่จะฝึกให้ชำนาญ

   • โปรแกรมเหล่านี้ไม่ใช่ถูกๆ เวลาเริ่มให้เลือกเล่นกับโปรแกรมฟรีอย่าง Grimp Scribus Inkscape และ Pixlr โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีทำให้คุ้นชินจนกว่าคุณจะเสียเงินก้อนซื้อโปรแกรมจริง
3. 
   3
   ซื้อหนังสือเรียน. มุ่งไปที่หนังสือสอนการออกแบบพื้นฐาน จากนั้นให้เรียนราวกับว่าคุณกำลังเรียนในคอร์สมหาวิทยาลัยแทนการเรียนเพื่อคะแนนเฉยๆ อย่างไรก็ตามรางวัลของคุณคือได้เป็นอาชีพที่คุณรัก
4. 
   4
   ลงเรียนคอร์สออกแบบกราฟฟิก. มันไม่ใช่แค่การเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้โปรแกรมอย่าง Photoshop และ IIlustrator เท่านั้น แต่รวมไปถึงการเรียนรู้รอยต่อและประโยชน์ของเครื่องมือเหล่านี้บวกกับการพัฒนางานออกแบบตามความต้องการของท้องตลาดอีกด้วย
5. 
   5
   เข้าร่วมกลุ่มนักออกแบบ. ฝึกฝนที่บ้านเป็นเรื่องที่ดี เป็นวิธีที่ปลอดภัยสำหรับการเรียนรู้ แต่จริงๆ แล้ว คุณต้องออกไปเจอกลุ่มเพื่อที่คุณจะสามารถได้รับผลการตอบรับกลับ แรกๆ มันอาจจะเจ็บปวด จงลดความโอ้อวดและใส่ใจกับคำแนะนำที่ได้อย่างจริงจัง ผลลัพธ์ที่ได้จะกลับมาอย่างมหาศาล ยิ่งไปกว่านั้นมันสำคัญที่คุณได้เห็นว่าคนอื่นๆ ทำอะไรบ้าง มันทำให้คุณเจอเอกลักษณ์และรูปแบบใหม่ๆ มากกว่าแค่ 1 หรือ 2 อย่าง

   • เหมือนธุรกิจอื่นๆ เครือข่ายเป็นสิ่งสำคัญในงานออกแบบกราฟฟิก โดยเฉพาะถ้าคุณตั้งใจจะรับงานอิสระ สร้างเพื่อน ติดต่อกันอยู่เสมอ จงพร้อมที่จะเรียนรู้และคุณอาจจะได้งานจากพวกเขา
6. 
   6
   ศึกษาให้มากขึ้น. ถ้าสนใจในการออกแบบกราฟฟิก ลองเลือกสายเรียนในระดับมหาลัยวิทยาลัยดูเพื่อที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจและสร้างเครือข่ายกับคนอื่นๆ กับสายงานเดียวกันได้ นั่นคือสิ่งที่ดีเสมอ เหนือสิ่งอื่นใด หลายๆ คนจะไม่จ้างนักออกกราฟฟิกโดยปราศจากความเชื่อมั่นว่าพวกเขาเหล่านั้นผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีแล้ว ลองพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้

   • ถ้าคุณอยากได้ใบปริญญาสำหรับสร้างความเชื่อถือแต่ไม่มีเวลาหรือกำลังเงินที่มากพอ ให้เรียนแบบอนุปริญญา โปรแกรมนี้ใช้เวลา 2 ปีจากวิทยาลัยชุมชนหรือโรงเรียนฝึกอาชีพ หลักๆ เน้นที่การใช้งานคอมพิวเตอร์มากกว่าหลักการศิลปะ แต่มันเป็นจุดที่ดีสำหรับการเริ่มต้น
   • ถ้าคุณอยากได้ใบปริญญากับความน่าเชื่อถือ ให้เรียนปริญญาตรี โปรแกรมใช้เวลา 4 ปีสามารถเรียนได้จากมหาวิทยาลัย นอกเหนือจากการเรียนรู้สิ่งสำคัญของการใช้คอมพิวเตอร์แล้ว คุณยังจะได้ฝึกฝนในศิลปะและการออกแบบอีกด้วย
     • ไม่มั่นใจ 100 เปอร์เซ็นว่าอาชีพออกแบบกราฟฟิกคือสิ่งที่คุณต้องการ เลือกเรียนสายศิลปศาสตร์ในระดับปริญญาตรีที่ไม่ใช่สายวิจิตรศิลป์ ถึงแม้ว่า 2 สายนี้จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสายงานประเภทนี้ หลักสูตรปริญญาตรีสาขาศิลปศาสตร์จะไม่เจาะจงเท่าหลักสูตรปริญญาสาขาวิจิตรศิลป์ ที่รวบรวมความรู้ทั่วไปและง่ายสำหรับการเปลี่ยนสายถ้าคุณอยากจะเลือกสาขาอื่นที่ต่างออกไป
   • ถ้าคุณมีปริญญาตรีสาขาวิชาศิลปศาสตร์หรือสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์แล้ว ให้ลงเรียนการเตรียมความพร้อมกับสายงานออกแบบกราฟฟิก คอร์สเรียนเหล่านี้สามารถออกใบประกาศ หนังสือรับรองหรือใบปริญญาใบที่สอง
   • ถ้าคุณต้องการเป็นนักออกแบบกราฟฟิกอย่างแน่นอน ให้ต่อปริญญาที่สูงขึ้น ถ้าคุณยังไม่ได้เรียนก่อนอื่นคุณจะต้องได้ใบปริญญาตรีก่อน เลือกสาขาธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นสาขาตัวรองลงมาถ้าคุณสนใจในงานอิสระ
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

พัฒนาเอกลักษณ์ของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทำในสิ่งที่คุณรัก. ถ้าคุณสนใจในงานออกแบบแนวหรูหราและสีสันสดใส สนใจแค่ส่วนนั้น ถ้าคุณรักในการออกแบบแนวนั้น ให้มุ่งเน้นและพัฒนารูปแบบของแนวออกแบบอย่างนั้น ถ้าคุณชอบแนวสะอาดเรียบๆ การจับความสมดุลอย่างดีของเส้นพร้อมกับสีโทนเรียบและกราฟฟิกที่ทรงพลัง ทำมันในแบบของคุณ
2. 
   2
   อ่านหนังสือการออกแบบกราฟฟิก. มันสามารถช่วยได้มากและยังช่วยเร่งรัดขั้นตอนในการเรียนรู้ของคุณอีกด้วย
3. 
   3
   เรียนรู้จากมืออาชีพ. มองหาและเรียนรู้งานออกแบบต่างๆ ตามหนังสือพิมพ์ นิตยสาร อินเตอร์เน็ต และที่ไหนก็แล้วแต่ที่คุณเห็นงานออกแบบกราฟฟิก (คำใบ้คือมันอยู่ทุกๆ ที่ที่คุณมองไป)

   • อย่าจำกัดตัวเองกับสิ่งที่คุณคิดเกี่ยวกับ “งานออกแบบกราฟฟิก” แบบเดิมๆ แต่ให้มองกว้างๆ ไปในส่วนอื่นๆ ด้วยเช่น นักออกแบบผลิตภัณฑ์ศิลปอุตสาหกรรมอย่าง โจอี้ โรท หรือ มาโคตะ มาคิตะ และฮิโรชิ สึซากิ หรือสถาปนิกเช่น ซานเตียโก กาลาตราบา หรือ แฟรงก์ เกห์รี สร้างแรงบันดาลใจให้กับความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง
   • อย่าเพียงแต่มองสถานที่สวยงาม ลองดูร้านขายไวน์ ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบฉลากเป็นตัวหลักสำคัญในวงการนี้ รวมถึงตรวจดูเว็บไซต์ธุรกิจเสื้อผ้า ร้านหนังสือ ป้ายดนตรี แม้กระทั่งบรรจุภัณฑ์สินค้า
4. 
   4
   หาข้อมูลของตัวอักษร. คนที่อยู่ในส่วนออกแบบตัวอักษรเป็นกลุ่มที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาต้องเกี่ยวข้องกับการพิมพ์หนังสือ สัญลักษณ์ตามท้องถนน และคำบรรยายตอนจบท้ายของภาพยนตร์ พวกเขามีความคิดเห็นที่จริงจังมากต่อการใช้อักษรที่มีขา พวกเขาสร้างตัวอักษรแบบการ์ตูน นักออกแบบกราฟฟิกที่ดีต้องเข้าใจกับความสำคัญของชุดอักษรต่างๆ การเอนตัวหนังสือ การเหลือช่องว่างระหว่างตัวหนังสือและทุกๆ อย่างที่เกี่ยวกับการสร้างชุดอักษรให้เป็นประโยชน์
5. 
   5
   สร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร. คุณอยากให้คนอื่นๆ จดจำงานของคุณได้ การที่คนอื่นๆ รู้มากเท่าไหร่ คุณก็จะได้งานเร็วขึ้นมากเท่านั้น
6. 
   6
   รวบรวมงานออกแบบที่น่าสนใจ. ไม่ว่าจะเป็นลายเสื้อ ป้ายฉลากอาหาร โปสการ์ดหรือโปสเตอร์ เก็บทุกๆ อย่างที่น่าสนใจและสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวคุณ เรียนรู้มัน จดจำไว้ว่าอะไรที่คุณชอบและไม่ชอบ อย่าเก็บไว้เฉยๆ ดังนั้นคุณถึงจะสามารถใช้มันเป็นแหล่งอ้างอิงได้เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกติดขัดกับงานที่คุณทำอยู่
7. 
   7
   อย่าโยนงานใดงานหนึ่งของคุณทิ้ง. ไม่ว่าคุณจะไม่ชอบมัน จงกลืนน้ำลายที่ติดอยู่ที่คอและเก็บมันไว้ เวลาที่คุณรู้สึกเข้มแข็งมากพอ ให้มองดูงานเก่าๆ กับมุมมองใหม่ๆ อะไรได้ผล อะไรไม่ได้ผล คุณพัฒนาฝีมือได้มากเท่าไหร่แล้ว คุณอาจจะได้แรงบันดาลใจจากงานเก่าๆ นำกลับมาทำใหม่และเปลี่ยนเป็นมันผลงานชิ้นเอกก็เป็นได้
8. 
   8
   ลองนำงานของคนอื่นๆ มาออกแบบใหม่. เห็นงานที่ไม่เอาไหนจากบางที่ ถ่ายรูปเก็บไว้และลองออกแบบใหม่สนุกๆ ดู หากเห็นงานเจ๋งๆ ก็ยิ่งดี ให้ท้าทายตัวเองโดยการเพิ่มสิ่งที่คุณคิดว่าต้นแบบยังขาดไป วิธีเดียวกันกับการเรียนดนตรีของนักเรียนดนตรีที่มีนักดนตรีเก่งๆ เป็นแรงบันดาลใจ เรียนจากสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นทำโดยการเรียนรู้จากงานของคนอื่นๆ เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจได้อย่างแท้จริงว่าอะไรใช้ได้หรือไม่ได้และทำไม
9. 
   9
   สร้างแฟ้มผลงาน. ยิ่งไปกว่านั้นนี่คือสิ่งที่คุณต้องการถ้าคุณอยากได้งาน การรวมผลงานใส่แฟ้มผลงานเป็นความท้าทายต่อคำวิจารณ์การตัดสินงานของผลงานของคุณ งานชิ้นไหนที่ดีที่สุดและทำไม งานชิ้นไหนที่ไม่ผ่าน มีธีมหรือไม่ และถ้าเป็นเช่นนั้น คุณสามารถประยุกต์ใช้กับแฟ้มผลงานของคุณได้หรือไม่ ถ้าคุณอยากจะทำงานแบบดิจิตอล ให้แสดงผลงานของคุณลงบนเว็บไซต์
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• อย่ากลัวที่จะแตกต่าง การเปิดมุมมองทำให้ได้แนวทางใหม่ๆ การได้ทำความเข้าใจกับงานที่มีอยู่ (โดยเฉพาะถ้าคุณเรียนทฤษฎีการออกแบบมา)
• จงจำไว้เสมอว่าความคิดสร้างสรรค์คือเครื่องมือที่ดีที่สุดที่คุณมี
• มี 2 หนทางหลักๆ เพื่อที่จะเป็นนักออกแบบกราฟฟิกคือจากการเรียนจากโรงเรียนและจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
• ไม่มีงานออกแบบไหนถูกใจทุกคน ดังนั้นค้นคว้าหาข้อมูลของเป้าหมายในตลาดเพื่อหาว่าแบบไหนเหมาะสม การค้นคว้าข้อมูลคือ 3/4 ของการออกแบบ
• ใช้เครื่องมือที่แตกต่าง เรียนรู้การใช้โปรแกรมให้คล่อง
• อย่าทำตัวเป็นฤาษี นั่งอยู่ในห้องทั้งวัน ออกไปพบปะคน สร้างเครือข่ายกับนักออกแบบคนอื่นๆ ในละแวกเดียวกันและตีแผ่งานของคุณเองกับกิจกรรมในท้องถิ่นรวมถึงการพัฒนาเอกลักษณ์และฝีมือตัวเอง ถ้าคุณมีวงโปรด หรือคอร์ส หรือนักการเมืองที่ชื่นชอบ ให้ถามพวกเขาว่าอยากได้โปสเตอร์หรือไม่

โฆษณา