วิธีการ เปลี่ยนสี iMessage

iMessage ของ Apple เป็นแอพที่ใช้ง่าย หลายคนที่ใช้ iPhone ก็นิยมใช้แอพนี้ส่งข้อความหากัน แต่เวลาจะปรับแต่งหน้าตาแอพนี่ไม่ง่ายเหมือนตอนใช้งานเลย โชคดีที่ยังพอมีบางวิธีใช้เปลี่ยนสีลูกโป่งข้อความใน iMessage ได้ บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีและขั้นตอนต่างๆ ในการเปลี่ยนสีแอพ iMessage ให้คุณเอง

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

เปลี่ยนสี iMessage ด้วยแอพอื่น

ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าตอนนี้ใช้แอพอื่นอยู่ ให้กดปุ่ม home เพื่อกลับไปที่หน้า home แล้วมองหาไอคอน App Store ^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
search option จะเป็นไอคอนรูปแว่นขยาย ซึ่งไม่ว่าคุณใช้ iOS เวอร์ชั่นไหน ก็จะอยู่ด้านล่างของหน้าจอ ในหน้าหลักของ App Store นั่นแหละ อาจมีแตกต่างกันนิดหน่อยตามแต่ละเวอร์ชั่น
3
ค้นหาแอพที่ใช้สร้างรูปข้อความต่างๆ. ทุกแอพที่คุณเจอใน App Store นั้นจริงๆ แล้วเปลี่ยน settings ของ iMessage ไม่ได้ แต่จะเปลี่ยนข้อความที่คุณส่งหากันเป็นรูป (ตามฟอนต์ สไตล์ หรือสีที่คุณเลือก) ใช้ paste ในกล่องข้อความได้เลย
- แอพแบบนี้มีหลายแอพด้วยกัน เช่น Color Texting และ Color Your Messages ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นแทบไม่ต่างกันเลย แต่ข้อแตกต่างหลักๆ คือจำนวนและชนิดของฟอนต์ ภาพพื้นหลัง และสีที่ใช้ได้
- ถ้าอยากเห็นรายชื่อแอพทั้งหมด ให้พิมพ์ “color iMessage” ในแถบค้นหา แล้วคลิก "Search" เพื่อแสดงแอพต่างๆ สำหรับสร้างลูกโป่งข้อความของ iMessage ในสไตล์ที่คุณเลือกโดยเฉพาะ
4
เลือกแอพที่ต้องการ. เลื่อนลงไปเลือกแอพ เช่น Color Text Messages, Color Messaging Pro หรือ Color Texting for iMessage ซึ่งแอพต่างๆ ก็มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ซึ่งก็ไม่เกิน $0.99 หรือประมาณ 30 - 40 บาท
- อ่านรีวิวของแอพด้วย มีบางแอพที่ชอบค้าง หรือใช้กับ iMessages เวอร์ชั่นปัจจุบันไม่ได้
- เลือกที่มีฟีเจอร์ที่คุณต้องการ แอพส่วนใหญ่จะมีรูปตัวอย่างให้ดูว่าเวลาใช้งานเป็นยังไง ให้คุณเลือกแอพที่เข้ากับสไตล์ที่คุณอยากได้ที่สุด
อาจต้องพิมพ์ Apple ID ก่อน ถ้ายังไม่ได้ใส่
ให้เลือก “Open” หลังแอพติดตั้งเสร็จ หรือมองหาไอคอนในหน้าหลัก
7
แต่งข้อความตามต้องการ. ใช้ตัวเลือกต่างๆ ในเมนูสร้างไฟล์รูปตามต้องการ
- ในแอพ "Color Your Messages" จะมี 3 ตัวเลือกตรงกลางจอ ข้อแรกคือสไตล์ข้อความที่แอพกำหนดมาแล้วพร้อมพื้นหลัง ข้อสองคือคุณเปลี่ยนสีข้อความหรือพื้นหลัง (หรือทั้ง 2 อย่าง) เองได้ และสามใช้เปลี่ยนฟอนต์ ให้แตะเลือกข้อที่ต้องการเพื่อดูลาย สี หรือตัวเลือกฟอนต์ต่างๆ ที่ครึ่งล่างของหน้าจอ พอเลือกได้แล้วให้พิมพ์ข้อความที่จะใช้ส่งตามต้องการ
- ถ้าคุณใช้แอพ "Color Texting" จะมี 6 ไอคอนโผล่ขึ้นมาที่หน้าจอหลังเปิดแอพ คือ Colored Bubbles, Textured Bubbles, Colored Text, Glow Text, Cursive Text และ Ghost Text ให้แตะเลือกข้อที่ชอบ แล้วเลื่อนลงไปดูแบบต่างๆ ที่จะเรียงกันเป็นแถวตรงกลางจอ คุณแตะเลือกสไตล์หรือสีที่ต้องการแล้วพิมพ์ข้อความได้เลย
8
Copy, paste แล้วส่งไฟล์รูปที่สร้าง. ส่วนใหญ่แอพจะให้คุณย้ายไฟล์รูปไปที่แอพ iMessage เอง
- ถ้าคุณใช้แอพ "Color Your Messages" พอพิมพ์ข้อความเสร็จก็กดปุ่ม "Send" ได้เลย จะมีคำแนะนำโผล่ขึ้นมาบอกว่าแอพได้ copy รูปไว้ใน clipboard แล้ว จากนี้ต้องส่งรูปยังไง พอแตะ "Continue" โปรแกรมจะเปลี่ยนไปทำงานเบื้องหลัง คุณก็เปิด iMessage ได้เลย ให้หา contact ที่จะส่ง แล้วกดกล่องข้อความค้างไว้ จนมีไอคอน "paste" โผล่ขึ้นมา ให้แตะแล้วส่งรูปได้เลย
- ในแอพ "Color Texting" พอสร้างไฟล์รูปแล้ว ให้แตะปุ่ม "Click here to send the text message" จะมีหน้าต่างโผล่มาบอกว่าไฟล์ถูก copy ไปที่ clipboard แล้ว ให้แตะ ok แล้วแตะปุ่ม home จากนั้นเปิด iMessage แล้วเลือก contact ที่จะส่งรูป กดกล่องข้อความค้างไว้ จนมีไอคอน "paste" โผล่ขึ้นมา ให้แตะแล้วส่งรูปแทนข้อความได้เลย
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

เปลี่ยนสี iMessage โดยเจลเบรค iPhone ก่อน

ดาวน์โหลดบทความ

1
เจลเบรค iPhone แล้วจะเป็นยังไง. ในหมู่คนใช้ iPhone การเจลเบรคเครื่องคือการยกเลิกข้อจำกัดของ Apple จาก iOS ถ้าใครอยากปรับแต่ง iPhone ตามใจชอบ วิธีนี้แหละเหมาะกับคุณ แต่สำหรับบางคน ใช้เครื่องไปตามปกติจะดีกว่า ^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เช็คก่อน ว่าเจลเบรคแล้ว iPhone จะหมดประกันไปเลยหรือเปล่า ถ้าคุณไม่เชี่ยวเรื่องเจลเบรคมากพอละก็ บอกเลยว่ารอจนประกัน Apple ครบ 1 ปีหลังซื้อก่อนดีกว่า ^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ด้วยตัวบทกฎหมาย Apple เขาเน้นเรื่องระบบที่ทุกคนใช้ง่ายและปลอดภัยอยู่แล้ว เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าจะโดนมัลแวร์หรือถูกเจาะข้อมูลถ้าเจลเบรคแล้ว ^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
อัพเดทโปรแกรมแล้วเซฟไฟล์ก่อน. อย่าลืม backup ไฟล์สำคัญก่อนเจลเบรค เผื่อมีอะไรผิดพลาด
- อัพเดท iTunes เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด
- backup ข้อมูลใน iPhone ลง iTunes และ/หรือลงเว็บ cloud ที่ใช้
- เลือกโปรแกรมที่ใช้เจลเบรค อย่าง RedSn0w หรือ RageBreak เป็นต้น ยังไงให้ศึกษาก่อน ว่าโปรแกรมไหนใหม่ล่าสุด โปรแกรมไหนคนฮิตสุด สำหรับเจลเบรค iPhone รุ่นคุณ จริงๆ ก็มีหลายโปรแกรมให้เลือก แต่ให้เลือกโปรแกรมที่มีคนการันตีแล้ว ว่าใช้ได้ผลจริง แต่อย่างที่รู้ว่าโปรแกรมพวกนี้ Apple ไม่รับรอง เพราะงั้นก็ต้องอาศัยความเห็นของผู้ใช้ด้วยกันแทน
- หลายโปรแกรมมีการอัพเดทให้ใช้ได้กับ iOS เวอร์ชั่นเก่าๆ (เพราะ Apple จงใจอัพเดทระบบปฏิบัติการบ่อยๆ เพื่อป้องกันการเจลเบรค) เพราะงั้นโปรแกรมมักใช้ได้กับ iOS 8.1.1 แต่ใช้กับ 8.1.2 ไม่ได้ เป็นต้น ยังไงลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมดูก่อน
3
ติดตั้งโปรแกรมที่ใช้เจลเบรค. คุณต้องดาวน์โหลดไฟล์ลงคอม ถึงจะเจลเบรค iPhone ได้
- ดาวน์โหลดโปรแกรมที่ใช้เจลเบรคลงคอม
- ติดตั้งโปรแกรมลงคอม บางทีก็มี passcode เอาไว้ให้คุณใช้ทีหลัง อย่าลืมจดแล้ววางไว้แถวนั้นก่อนล่ะ
- ดาวน์โหลด firmware ล่าสุดของ iOS ที่นี่ ตอนคุณเปิดโปรแกรมที่ใช้เจลเบรคในฐานะแอดมิน ให้เลือกไฟล์ firmware นี้
เช็คว่าคอมกับ iPhone ต่อเน็ตเครือข่ายเดียวกันหรือเปล่า
5
เจลเบรคให้เสร็จ.
- ให้ iPhone เข้า device firmware upgrade หรือ DFU mode (โดยกดปุ่ม Power ค้างไว้ 3 วินาที จากนั้นกดปุ่ม Home ค้างไว้พร้อมปุ่ม Power 10 วินาที ต่อมาปล่อยปุ่ม Power ระหว่างกดปุ่ม Home ค้างอยู่) ปิดเครื่อง iPhone แล้วเสียบกับคอม จากนั้นเตรียมเซฟโปรแกรมที่เพิ่งดาวน์โหลดลง iPhone
- เปิดใช้โปรแกรมเจลเบรคใน iPhone ปล่อยปุ่ม home ของ iPhone แล้วรอจน iPhone บูทเครื่องขึ้นมาใหม่
- พอเปิดใช้ jailbreak tether แล้ว ก็ต้องเข้า DFU mode อีกรอบ ระหว่างนี้ต้องรีสตาร์ท iPhone 2 - 3 ครั้ง
- หา IP address ของ iPhone ปกติจะอยู่ในแอพ Settings แถวๆ Wi-Fi
- เปิด terminal ในคอม แล้วพิมพ์คำสั่ง “ssh root@<IP address>” (ให้พิมพ์ IP address ของ iPhone ในวงเล็บ)
- พิมพ์รหัสผ่านที่ได้ตอนติดตั้งโปรแกรมเจลเบรค
Cydia คือแอพสำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมใหม่ๆ ลง iPhone หลังเจลเบรคแล้ว บางโปรแกรมเจลเบรคจะติดตั้ง Cydia โดยอัตโนมัติ เพราะงั้นก็ไม่ต้องลงแยกเอง แต่ถ้าโปรแกรมที่คุณเลือกไม่ติดตั้งให้ ก็ต้องพิมพ์คำสั่งนี้ลง Terminal "wget -q -O /tmp/cyinstall.sh http://downloads.kr1sis.net/cyinstall.sh && chmod 755 /tmp/cyinstall.sh && /tmp/cyinstall.sh."
ก็จะเห็นแอพ Cydia ที่หน้า Home
ค้นหาแอพสำหรับปรับแต่งหน้าตาเมนูหลักของ iPhone เช่น เปลี่ยนสีข้อความหรือ iMessage ที่นิยมใช้กันคือ Winterboard กับ Dreamboard แต่จะใช้แอพอื่นก็ได้ ให้ติดตั้งแอพที่เลือกลง iPhone เลย แล้วเดี๋ยวจะไปขึ้นที่หน้า home เอง ^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ติ๊กช่องเลือกสีลูกโป่งข้อความตามต้องการ มีหลายสีให้เลือกใช้ แถมใช้ได้ทั้งเวลารับ-ส่งข้อความ ^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา