วิธีการ เขียนรายงานข่าว

การรายงานข่าวใกล้เคียงกับบทความข่าว มันคือข้อเท็จจริงของเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นหรือเพิ่งจะเกิดขึ้น การเขียนรายงานข่าวเป็นเรื่องง่ายถ้าคุณรายงานหัวข้ออย่างชัดเจน มีบทสัมภาษณ์ที่ดี และเขียนด้วยรูปแบบที่ชัดเจน แม่นยำ และเคลื่อนไหว

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 2:

การรวบรวมข้อมูลสำหรับรายงาน

ดาวน์โหลดบทความ

1
ดูว่าคุณต้องเขียนเกี่ยวกับอะไร. การรายงานข่าวคือเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นหรือเพิ่งจะเกิดขึ้น ประเด็นในปัจจุบัน เหตุการณ์อาชญากรรม และการสืบสวนคือหัวข้อที่ดีสำหรับรายงานข่าว สไตล์การเขียนข่าวแบบอื่นๆ เหมาะสมกับโปรไฟล์ บทความแนะนำ และความคิดเห็นมากกว่า
- ถามคนรอบข้างสำหรับแนวคิดของเรื่องราวโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากข้าราชการและตัวแทนประชาสัมพันธ์ทั้งหลาย^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แสกนข่าวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งนี้จะช่วยให้คุณหาแนวคิดของเรื่องราวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ค้นหาเว็บไซต์หรือสารบัญของเมืองหรือจังหวัดสำหรับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในท้องที่
- เข้าร่วมการประชุมเมืองเพื่อดูว่ามีปัญหาใดเกิดขึ้นในท้องที่หรือไม่
- เข้ารับฟังการตัดสินคดีและดูว่ามีเรื่องที่น่าสนใจที่คุณสามารถทำรายงานได้หรือไม่
2
ไปยังสถานที่เกิดเหตุ. เมื่อคุณรู้แล้วว่าคุณต้องการเขียนเกี่ยวกับอะไรก็ให้ไปที่สถานที่เกิดเหตุ คุณอาจจะต้องไปสถานที่เกิดเหตุอาชญากรรม ธุรกิจ คดี หรือเหตุการณ์ คุณจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างได้ยากถ้าคุณไม่อยู่ในสถานที่
- เขียนทุกอย่างที่คุณเห็นและทุกอย่างที่เกิดขึ้น
- บันทึกและเขียนโน๊ตของคำพูดที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ อย่าลืมจดชื่อของผู้พูด
3
ทำการสัมภาษณ์. คนที่คุณจะสัมภาษณ์ขึ้นอยู่กับว่าคุณรายงานเรื่องอะไร คุณต้องมีบทสัมภาษณ์ที่กว้างสำหรับรายงาน เพราะฉะนั้นคุณต้องสัมภาษณ์คนจำนวนมาก คนที่เหมาะสมกับการสัมภาษณ์คือผู้ที่จัดงาน ทนาย ตำรวจ เจ้าของธุรกิจ อาสาสมัคร ผู้เข้าร่วม และพยานหลักฐาน ถ้าคุณต้องหาผู้คนเพื่อนัดสัมภาษณ์ก็ควรใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูลติดต่อ คุณสามารถสัมภาษณ์ผู้คนโดยตรงในสถานที่เกิดเหตุโดยขึ้นอยู่กับหัวข้อรายงานข่าวของคุณ
- ถ้าเรื่องราวขัดแย้งหรือเกี่ยวข้องกับการเมือง คุณก็ต้องได้รับข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย
- เตรียมคำถามที่เรียบง่ายแต่ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับคำถามเหล่านี้^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ทำการสัมภาษณ์ให้เหมือนเป็นบทสนทนา ^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- บันทึกเสียงการสัมภาษณ์
- คุณต้องจดชื่อเต็ม (สะกดให้ถูกต้อง) ของคนที่คุณสัมภาษณ์
4
ถอดคำพูดบทสัมภาษณ์และเนื้อหา. เมื่อคุณกลับถึงบ้านหรือออฟฟิศก็ควรถอดคำพูดบทสัมภาษณ์และเนื้อหา ฟังเสียงที่คุณบันทึกและพิมพ์ทุกอย่าง (หรืออย่างน้อยใจความสำคัญ) ของบทสัมภาษณ์และเนื้อหา วิธีนี้จะช่วยให้การหาข้อมูลสำหรับรายงานและคำพูดง่ายขึ้น
- อย่าลืมตรวจทานบทสัมภาษณ์ที่คุณถอดใจความเพื่อให้มั่นใจว่ามันแม่นยำ คุณคงไม่อยากทำให้คำพูดของใครผิดเพี้ยน
การรายงานข่าวคือสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันแต่คุณควรค้นคว้าเกี่ยวกับหัวข้อด้วย ค้นหาบริษัท ผู้คน หรือโครงการที่คุณกำลังรายงานเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ตรวจทานการสะกดชื่อ วันที่ และข้อมูลที่คุณรวบรวมให้ถูกต้อง
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 2:

การเขียนรายงานข่าว

ดาวน์โหลดบทความ

1
เขียนหัวข้อ. หัวข้อข่าวต้องแม่นยำ ชัดเจน และเข้าใจได้ง่ายใช้คีย์เวิร์ดจากเรื่องราวและทำให้ตรงไปตรงมาและเรียบง่าย ใช้กริยาที่เคลื่อนไหวและสั้นในหัวข้อ หัวข้อต้องทำให้ผู้อ่านรู้ว่ารายงานนี้เกี่ยวกับอะไรอย่างแม่นยำ^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หัวข้อข่าวต้องดึงดูดความสนใจแต่ไม่เกินหรือบิดเบือนความจริง
- เน้นคำแรกของหัวข้อและคำนามหลังจากนั้น
- ถ้าคุณไม่สามารถหาหัวข้อได้ คุณสามารถเขียนสิ่งนี้ในภายหลัง คุณจะเขียนหัวข้อได้ง่ายขึ้นหลังจากที่คุณเขียนบทความเสร็จ
- เช่น คุณสามารถเขียนหัวข้อว่า “เกิดเหตุโจรกรรมติดอาวุธที่ตลาดชาวนาในเมืองพอร์ตแลนด์”
2
เขียนบรรทัดแรกและสถานที่. บรรทัดแรกอยู่ใต้หัวข้อเรื่อง บรรทัดนี้ระบุชื่อและตัวตนของคุณ สถานที่คือที่ที่บทความเกิดเหตุและเขียนรายงาน สไตล์การเขียนแบบ AP สำหรับตัวย่อของรัฐ
- ตัวอย่างของบรรทัดแรก: ซู สมิท นักข่าวรายงาน
- ตัวอย่างของสถานที่: เมืองยูจีน รัฐโอเรกอน^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ใช้บทนำข่าว. บทนำข่าวคือย่อหน้าเปิดรายงานหรือบทความที่ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด รายงานข่าวไม่ใช่เวลาสำหรับบทนำที่ยืดเยื้อหรือสละสลวยเกินไป เขียนบทนำให้ตรงประเด็นและเหมาะสมกับข้อมูลพื้นฐานให้มากที่สุด บทนำสามารถมีความยาว 1-2 บรรทัดและสรุปเรื่องราวของข่าว สิ่งที่คุณควรเน้นย้ำในบทนำคือ ใคร อะไร เมื่อไหร่ ที่ไหน ทำไม และอย่างไร^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- อย่าระบุชื่อของผู้คนในบทนำ (เก็บข้อมูลนี้ไว้ในภายหลัง) นอกเสียจากว่าทุกคนรู้จักบุคคลคนนี้เป็นอย่างดี (เช่น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา)
- เช่น: ชายชาวซีแอตเทิลถูกจับในขณะที่ขายรถยนต์ที่ขโมยมาในร้านขายเครื่องยนต์ของเขาในวันอังคารโดยตำรวจปลอมตัวเป็นลูกค้า
เนื้อหาจะประกอบไปด้วยข้อเท็จจริงซึ่งลงรายละเอียดและเฉพาะเจาะจงมากกว่าในบทนำ ใช้ข้อมูลที่คุณเก็บและรวบรวมมาในที่เกิดเหตุและบทสัมภาษณ์ เขียนรายงานในมุมมองของบุคคลที่ 3 และมุมมองที่เป็นกลาง ทำให้เรื่องราวของคุณถ่ายทอดข้อมูลและไม่ใช่ความคิดเห็น
5
ใส่คำพูดลงในรายงานข่าว. คุณสามารถใส่คำพูดลงในรายงานข่าวเพื่อสื่อสารข้อมูล คุณต้องระบุว่าเป็นคำพูดของใครและใช้คำพูดเดียวกับที่ผู้พูดใช้ ใช้ชื่อเต็มเมื่อระบุชื่อผู้พูดในครั้งแรกจากนั้นจึงใช้เพียงชื่อตัวในภายหลัง
- เช่น: แมรี่ ควิบเบิ้ลเป็นผู้กำกับละครเวทีสำหรับเด็กมาเป็นเวลา 6 ปี “ฉันรักเด็กๆ และรักความทุ่มเทที่พวกเขามีให้กับการแสดงเหล่านี้” แมรี่กล่าว “มีเด็ก 76 คนในโครงการ พวกเขามีอายุตั้งแต่ 7-16 ปี”
6
ระบุแหล่งข่าวเสมอ. คุณต้องระบุแหล่งข่าวที่คุณได้รับนอกเสียจากว่าข้อมูลนี้เป็นความรู้ทั่วไป คุณอาจจะเจอปัญหาถ้าคุณไม่ใส่แหล่งข้อมูล สิ่งนี้สำคัญอย่างยิ่งในกรณีที่ข้อเท็จจริงผิดเพี้ยนซึ่งจะทำให้รู้ว่าคุณได้ข้อมูลมาจากที่อื่นและไม่ใช่จากคุณ
- เช่น: ตำรวจกล่าวว่าผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งออกจากบ้านตอนห้าทุ่มเมื่อเธอได้ยินเสียงโจรบุกเข้าบ้าน
7
เขียนในสไตล์ของข่าว. คุณไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาที่บรรยายมากเกินไปเมื่อเขียนรายงานข่าว เพียงแค่ยึดข้อเท็จจริงและใช้ประโยคที่สั้นและแม่นยำ ใช้ภาษาที่เคลื่อนไหวและคำกริยาที่แข็งแกร่ง
- พูดว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วเมื่อเขียนรายงานข่าว
- ขึ้นย่อหน้าใหม่เมื่อมีแนวคิดใหม่ (สิ่งนี้อาจจะแปลว่าคุณมีย่อหน้าใหม่ที่สั้นเพียง 1-2 ประโยค)
- เขียนรายงานข่าวด้วยสไตล์ของ AP^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา