ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการรีสตาร์ทคอม แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนกลับมาตามปกติหลังเข้า Safe Mode ซึ่งเป็นโหมดที่คอม แท็บเล็ต หรือมือถือจะโหลดขึ้นมาเฉพาะโปรแกรมและข้อมูลที่จำเป็นต่อการทำงาน เหมาะกับการหาจุดบกพร่องเพื่อซ่อมแซมหรือลบไวรัส แนะนำให้ออกจาก Safe Mode ตอนที่แน่ใจแล้วเท่านั้น ว่าแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

Windows

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รีสตาร์ทคอม.
    เปิด Start
    How.com.vn ไท: Windows Start
    คลิก Power
    How.com.vn ไท: Windows Power
    แล้วคลิก Restart ส่วนใหญ่แค่นี้ก็ออกจาก Safe Mode ของคอมได้แล้ว
    • ถ้ารีสตาร์ทแล้วคอมยังเข้า Safe Mode ให้ทำขั้นตอนต่อไป
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เปิด Start icon.
    คลิกโลโก้ Windows ที่มุมซ้ายล่างของหน้าจอ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 พิมพ์ system configuration ใน Start.
    เพื่อค้นหาโปรแกรม System Configuration ในคอม
  4. How.com.vn ไท: Step 4 คลิก System Configuration.
    ที่ไอคอนเป็นรูปจอคอม ทางด้านบนของหน้าต่าง Start เพื่อเปิด System Configuration
  5. How.com.vn ไท: Step 5 คลิก tab General.
    ที่เป็น tab มุมซ้ายบนของหน้าต่าง
  6. Step 6 ติ๊กช่อง "Normal startup".
    ทางด้านบนของหัวข้อ General ในหน้าต่าง
  7. How.com.vn ไท: Step 7 คลิก tab Boot.
    ทางด้านบนของหน้าต่าง
  8. Step 8 เอาติ๊กออกจากช่อง "Safe boot".
    ตรงกลางทางซ้ายของหน้าต่าง ถ้าช่องนี้ไม่ได้ติ๊กไว้ แสดงว่า Safe Boot ปิดอยู่
  9. How.com.vn ไท: Step 9 คลิก Apply แล้วคลิก OK.
    ทั้ง 2 ตัวเลือกอยู่ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อให้คอมไม่บูทเข้า Safe Mode ตามค่า default
  10. How.com.vn ไท: Step 10 ปิดคอม.
    คลิก Start
    How.com.vn ไท: Windows Start
    คลิก Power
    How.com.vn ไท: Windows Power
    แล้วคลิก Shut down เพื่อปิดคอม
  11. How.com.vn ไท: Step 11 ปิดคอมไว้ 2 - 3 นาที.
    เพื่อทิ้งช่วงให้คอมได้ปิดสนิทจริงๆ แล้วรีเฟรช cache ข้อมูลภายใน
  12. How.com.vn ไท: Step 12 เปิดคอมกลับมา.
    กดปุ่ม "Power" ของคอม พอคอมบูทเครื่องกลับขึ้นมาแล้ว ก็จะออกจาก Safe Mode เรียบร้อย
    • ถ้าถึงตอนนี้คอมยังติดอยู่ใน Safe Mode อาจจะต้องยกไปให้ช่างช่วยดูให้แทน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

Mac

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รีสตาร์ท Mac.
    เปิดเมนู Apple
    How.com.vn ไท: Mac Apple
    คลิก Restart... แล้วคลิก Restart ตอนที่ขึ้น ส่วนใหญ่แค่นี้ก็พอให้คอมออกจาก Safe Mode ได้แล้ว
    • ถ้ารีสตาร์ทแล้วคอมยังเข้า Safe Mode ให้ทำขั้นตอนต่อไป
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เช็คก่อนว่าปุ่ม ⇧ Shift ของ Mac ไม่ได้ค้าง.
    กด Shift ค้างไว้ตอนรีสตาร์ท เพื่อให้ Mac เข้า Safe Mode ถ้าปุ่มค้าง ระวังจะรีสตาร์ท Mac ไม่หลุดจาก Safe Mode ซะที
    • ถ้าปุ่ม Shift ค้าง ให้แก้ไขก่อน แล้วค่อยรีสตาร์ท Mac ถ้ายังเข้า Safe Mode อีก ให้ทำขั้นตอนต่อไป
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ปิดเครื่อง Mac.
    เปิดเมนู Apple
    How.com.vn ไท: Mac Apple
    คลิก Shut Down... แล้วคลิก Shut Down ตอนที่ขึ้น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เปิดเครื่อง Mac กลับมา.
    กดปุ่ม "Power" ของ Mac ปกติจะอยู่ที่ไหนสักที่ในคีย์บอร์ด (แล็ปท็อป) หรือที่หน้าจอ (iMac)
  5. How.com.vn ไท: Step 5 กด ⌥ Option+⌘ Command+P+R ค้างไว้ทันที.
    ให้กดทันทีหลังกดปุ่ม "Power" ของ Mac
  6. How.com.vn ไท: Step 6 กดปุ่มค้างไว้จน Mac ส่งเสียงเปิดเครื่องครั้งที่...
    กดปุ่มค้างไว้จน Mac ส่งเสียงเปิดเครื่องครั้งที่ 2. จะใช้เวลาประมาณ 20 วินาที ระหว่างนั้น Mac จะเหมือนเปิดเครื่องขึ้นมา[1]
    • ถ้า Mac ไม่มีเสียงเปิดเครื่อง ให้รอจนโลโก้ Apple โผล่มารอบที่ 2
  7. How.com.vn ไท: Step 7 รอจน Mac รีสตาร์ทเสร็จ.
    ขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช้รีเซ็ต system settings ชั่วคราวของ Mac พอ Mac เปิดเครื่องกลับขึ้นมา ก็จะกลับสู่โหมดปกติ
    • ถ้าถึงตอนนี้ Mac ยังไม่ยอมรีสตาร์ทเข้าโหมดปกติ อาจจะต้องยกไปให้ช่างช่วยดูแทน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

iPhone

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เช็คว่าเจลเบรค iPhone หรือยัง.
    iPhone ที่ยังไม่ได้เจลเบรค จะไม่มีตัวเลือก Safe Mode ในตัว แปลว่าอาจเกิดปัญหาที่อื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง
  2. Step 2 กดปุ่ม "Volume Down"...
    กดปุ่ม "Volume Down" (ลดเสียง) กับปุ่ม "Power" ของ iPhone ค้างไว้. เพื่อบังคับให้ iPhone รีสตาร์ทเข้าโหมดปกติ ต้องกดปุ่มที่ว่าไว้นานหลายวินาทีหน่อย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ปล่อยปุ่มได้หลังปิดเครื่องเรียบร้อย.
    หรือก็คือตอนที่หน้าจอดับไป
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รอจนมือถือเปิดกลับมา.
    จะเห็นโลโก้ Apple โผล่มา แล้วค้างอยู่หลายวินาที จนถึงหลายนาที พอ iPhone รีสตาร์ทเสร็จ ก็จะกลับสู่โหมดปกติ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ลองลบแอพหรือ mod ที่มีปัญหา.
    ถ้า iPhone ยังไม่ยอมบูทเข้าโหมดปกติ ทั้งที่เจลเบรคแล้ว แสดงว่าคุณเพิ่งติดตั้งอะไรที่เป็นต้นตอของปัญหา ให้ลองลบแอพใหม่ๆ หรือ package ไม่ก็ mod ที่เพิ่งลงไป น่าจะช่วยให้มือถือกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
    • วิธีนี้ใช้กับ iPhone ที่ยังไม่เจลเบรคได้ด้วย
  6. How.com.vn ไท: Step 6 รีเซ็ต iPhone.
    ถ้าทำทุกวิถีทางแล้ว iPhone ยังไม่กลับเข้าโหมดปกติ ให้รีเซ็ตแล้วเซฟ backup กลับมา ถ้า iPhone ของคุณเจลเบรคแล้ว เท่ากับเจลเบรคจะถูกลบไป
    • ถ้า iPhone ยังไม่ได้เจลเบรค ให้รีเซ็ต iPhone กลับไปใช้ backup เวอร์ชั่นก่อนหน้าของระบบปฏิบัติการ น่าจะช่วยได้
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

Android

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ใช้แถบแจ้งเตือน หรือ notifications panel.
    ปัดหน้าจอ Android ลงมาจากด้านบน แล้วจะเห็นแถบแจ้งเตือน ให้แตะ SAFE MODE หรือตัวเลือกอื่นที่ใกล้เคียง ปกติแค่นี้ Android ก็จะออกจาก Safe Mode แล้ว บางทีก็หลังรีสตาร์ท
    • ไม่ใช่ Androids ทุกเครื่องจะมีตัวเลือกนี้ ถ้าไม่เจอตัวเลือก SAFE MODE ในแถบนี้ ให้ทำขั้นตอนต่อไป
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รีสตาร์ท Android.
    กดปุ่ม "Power" ค้างไว้ แล้วแตะ Restart หรือ Reboot ในหน้าต่าง pop-up ปกติเท่านี้ Android ก็น่าจะออกจาก Safe Mode ได้แล้ว
    • ถ้ารีสตาร์ท Android แล้วยังเข้า Safe Mode ให้ทำขั้นตอนต่อไป
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทำ cold shut-down.
    โดยปิดเครื่อง รอ 2 - 3 นาที แล้วค่อยเปิดกลับมา
    • กดปุ่ม "Power" ค้างไว้
    • แตะ Shut down
    • ปิดเครื่องทิ้งไว้ 2 - 3 นาที
  4. Step 4 เปิดเครื่องกลับมาโดยกดปุ่ม "Volume Down" ค้างไว้.
    กดปุ่ม "Power" กับ "Volume Down" (ลดเสียง) ค้างไว้พร้อมกัน เพื่อรีสตาร์ทแบบ cold shut-down
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ล้าง cache ของ Android.
    เพื่อลบไฟล์ชั่วคราว (temporary files) ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเครื่อง Android รวมถึงแอพต่างๆ ในมือถือและแท็บเล็ต
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ลองลบแอพใหม่ๆ ที่เพิ่งลง.
    ถ้าเพิ่งติดตั้งแอพใหม่ไป อาจเป็นสาเหตุทำ Android ค้างใน Safe Mode ให้ลองลบแอพที่เพิ่งลงและคิดว่าน่าจะเป็นสาเหตุ จากนั้นลองรีสตาร์ท Android ดู
  7. How.com.vn ไท: Step 7 รีเซ็ต Android...
    รีเซ็ต Android. ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วไม่ได้ผล ก็คงต้องรีเซ็ต Android กลับค่าโรงงาน เท่ากับลบข้อมูลทุกอย่างใน Android เพราะงั้นอย่าลืม backup ข้อมูลใน Android ไว้ ก่อนรีเซ็ต
    • ถ้าทำแล้วก็ยังออกจาก Safe Mode ไม่ได้ แบบนี้คงต้องเอา Android ที่ใช้ไปให้ช่างช่วยดูให้แล้ว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ปกติถ้าเป็นที่ Safe Mode จริงๆ แค่รีสตาร์ทคอมก็กลับเข้าโหมดปกติได้แล้ว
  • ลองถอดอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อไว้ (เช่น แฟลชไดรฟ์ USB เมาส์ สายชาร์จ และอื่นๆ) ออกจากคอม แล้วลองรีสตาร์ทดูใหม่
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าพยายามออกจาก Safe Mode โดยไม่เช็คให้ดีกว่าเป็นสาเหตุของปัญหาหรือเปล่า ระวังคอมจะค้าง รีสตาร์ทวนไป หรือเจ๊งได้เลย
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 78,519 ครั้ง
หมวดหมู่: คอมพิวเตอร์
มีการเข้าถึงหน้านี้ 78,519 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา