บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Natalie Punt, DVM. ดร. นาตาลี พันท์ เป็นสัตวแพทย์ และผู้ก่อตั้งและ CEO ของ mPet เธอเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินและเวชศาสตร์ทั่วไปสำหรับสัตว์ขนาดเล็กและเศรษฐศาสตร์การปฏิบัติทางสัตวแพทย์ ดร. พันท์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาชีวเคมีและอณูชีววิทยา จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส ปริญญาโทวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาชีวเคมี จากมหาวิทยาลัยบัฟฟาโล และสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต จาก Western University of Health Sciences
บทความนี้ถูกเข้าชม 108,272 ครั้ง
ไม่แน่ใจใช่ไหม ว่าน้องหนูที่เพิ่งได้มาเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย? ตรงนั้นของแมวเด็กไม่ได้ดูกันง่ายๆ เหมือนของแมวโต แต่ถ้าคุณจับทางได้เมื่อไหร่ ว่าต้องสังเกตตรงไหน บอกเลยว่ารู้เพศลูกแมวได้ไม่ยากอย่างที่คิด จริงๆ แล้วเอาน้องหนูไปหาคุณหมอเลยจะดีที่สุด แต่แอบกระซิบว่าหมอก็หมอเถอะ บางทีก็ดูยากจนพลาดไปได้เหมือนกัน
ขั้นตอน
- ต้องให้ลูกแมวอยู่ในที่ที่อุ่นและปลอดภัย. ถึงภายนอกจะดูแข็งแรงดี แต่ลูกแมวส่วนใหญ่มักทนความหนาวไม่ค่อยได้ จนกว่าลูกแมวจะสร้างความอบอุ่นได้ด้วยตัวเอง แม่แมวต้องคอยกกให้ความอบอุ่นแทน ถ้าคุณไปพรากลูกแมวมาจากแม่ ก็อาจเป็นอันตรายได้ เพื่อป้องกันไม่ให้คุณเผลอทำอันตรายน้องๆ หนูๆ โดยไม่รู้ตัว คุณต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ เวลาจับลูกแมวมาดูเพศ
- ลูกแมวต้องอยู่ในที่ร่มที่อากาศอุ่นตลอดเวลา
- อย่าเอาลูกแมวไปจากแม่แมวเกิน 5 - 10 นาที
- อย่าวางลูกแมวบนพื้นผิวที่ "เย็นเฉียบอยู่ตลอด" อย่างเคาน์เตอร์หินอ่อนหรือพื้นไม้เนื้อแข็ง เพราะจะทำให้ลูกแมวตัวเย็นลงได้
- ยกหางลูกแมวดูเบาๆ. ระบุเพศจาก "ตรงนั้น" ของลูกแมวนี่แหละง่ายและตรงจุดที่สุด ลูกแมวอาจมีดิ้นหนีบ้าง (แหงล่ะ) ไม่ยอมให้คุณยกหางสังเกตเพศ ก็ต้องใจเย็น เบามือเข้าไว้ ถ้าใจร้อนไปบีบลูกแมวแรงๆ หรือดึงหาง นอกจากลูกแมวจะเจ็บแล้วยังอาจแว้งกัดคุณได้ด้วยสัญชาตญาณป้องกันตัว ห้ามถือลูกแมวโดยจับแค่หางเด็ดขาด บอกเลยว่าเป็นจุดที่บอบบางอันตรายมาก
- ลูบหรือตบเบาๆ ปลอบลูกแมวให้หายกลัวสัก 2 - 3 นาที แล้วค่อยวางกลับไปบนผ้าขนหนูสะอาดนุ่มๆ เพื่อเปิดหางดู แต่ถ้าลูกแมวไม่ยอมจริงๆ ให้รีบเอาไปคืนแม่แมว แล้วค่อยหยิบมาดูใหม่โอกาสหน้าจะดีกว่า
- จับลูกแมวยืนขึ้น ให้หันหน้าไปทางตรงกันข้ามกับคุณ
- ยกหางขึ้นเบาๆ "อย่าดึง" และ "อย่ากระชาก"
- ถ้าลูกแมวดิ้น ไม่อยากให้คุณยกหางดู คงต้องหาผู้ช่วยมาอีกคน ให้เขาช่วยอุ้มลูกแมวไว้ในวงแขนแบบทะนุถนอม ระหว่างคุณยกหางขึ้นดูเพศแบบเบามือไม่แพ้กัน
- จริงๆ แล้วก็พอมีวิธีที่ทำให้ลูกแมวยอมยกหางให้คุณดูด้วยตัวเอง คือคุณต้องเกาตรงก้น จุดที่หางต่อกับหลังน่ะ[1]
- จะมีรูหรือจุดสังเกตด้วยกัน 2 จุด จุดบนคือรูก้น ส่วนจุดล่างก็คือ "ตรงนั้น" ไม่ว่าของตัวเมียหรือตัวผู้ก็ตาม[2]
- ลองสังเกตตรงจุดล่างดู. ถ้ามีลูกแมวมากกว่า 1 ตัว จะลองจับมาเทียบกันตัวๆ เลยก็ได้ ทีนี้ละเปรียบเทียบจุดต่างของตัวผู้กับตัวเมียได้แบบชัดๆ เลย
- ตรงนั้นของตัวเมียจะหน้าตาเหมือนรอยผ่าแนวตั้ง พอมารวมกับรูก้นแล้ว จุดสังเกต 2 จุดของลูกแมวตัวเมียจะออกมาหน้าตาเหมือนตัว “i” ยังไงอย่างงั้น
- ส่วนตรงนั้นของตัวผู้จะหน้าตาเหมือนรูกลมๆ เล็กๆ พอมารวมกับรูก้นแล้ว จุดสังเกต 2 จุดของลูกแมวตัวผู้จะออกมาหน้าตาเหมือน colon ( : ) แทน[3]
- เช็คระยะห่างระหว่าง 2 จุด. ถ้าเป็นลูกแมวตัวเมีย ระยะห่างระหว่างรูก้นกับตรงนั้นจะใกล้กันกว่าของลูกแมวตัวผู้ คุณก็ใช้ระยะห่างตรงนี้ช่วยบอกเพศได้อีกทาง
- ตรงนั้นของลูกแมวตัวเมียจะอยู่สูงขึ้นไป จนใกล้กับรูก้น
- ในขณะที่ตรงนั้นของลูกแมวตัวผู้จะห่างลงมาจากรูก้นมากกว่า
- ลองมองหาป๋องแป๋ง. ป๋องแป๋งตุ้มจิ๋วของลูกแมวตัวผู้จะดูยากกว่าแมวโต แต่ถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นได้ แต่ห้ามคุณใช้ความรุนแรงเด็ดขาด ตรงนั้นของแมวตัวผู้ยิ่งบอบบางเข้าไปใหญ่ ถ้าอยู่ๆ คุณไปบีบให้มันยื่นออกมาละก็ (เพราะปกติจะหดซ่อนอยู่) ระวังลูกแมวจะบาดเจ็บหรือพิการในระยะยาวได้
- สังเกตดูดีๆ ระหว่างรูก้นกับตรงนั้น ถ้ามีถุงหรือก้อนจิ๋วๆ อยู่ นั่นแหละป๋องแป๋ง แปลว่าลูกแมวของคุณเป็นตัวผู้
- ถ้ามองเท่าไหร่ก็หาป๋องแป๋งไม่เจอ ก็ต้องลองคลำๆ หาดู แต่ลูกแมวต้องอายุอย่างน้อย 1 - 2 เดือนแล้ว วิธีคลำหาป๋องแป๋งก็คือให้ลองบีบเบาๆ ระหว่างรูก้นกับตรงนั้น จะรู้สึกว่ามีก้อนเล็กๆ เหมือนเมล็ดถั่ว 1 - 2 เมล็ด แต่ถ้าเป็นลูกแมวตัวผู้ที่เล็กมาก ยังไม่ถึง 1 - 2 เดือน บางทีป๋องแป๋งจะหลบอยู่ในท่อขาหนีบ (inguinal canal) จนคุณคลำหาไม่เจอ
- สีขนก็บอกเพศได้. สีขนนี่แหละบอกได้ว่าลูกแมวเป็นเพศอะไร
- สีขนบางสี อย่างสามสีแบบ calico (สีดำ ขาว และส้มเป็นวงใหญ่ๆ) หรือแบบ tortoiseshell (สีดำลายหินอ่อน สีส้ม/น้ำตาล และบางทีก็สีขาว) จะมีโครโมโซม X และต้องมี 2 โครโมโซม X ถึงจะเป็นสีอย่างที่ว่า เพราะงั้นในเมื่อแมวตัวเมียมี 2 โครโมโซม X แต่แมวตัวผู้มีแค่ 1 โครโมโซม แปลว่าแมวตัวผู้จะไม่มีทางมีสีแบบนี้ได้ เว้นแต่ยีนส์จะเกิดผิดปกติขึ้นมา ซึ่งหายากหน่อย
- แมวสลิดสีส้ม หรือ Orange tabby (พูดง่ายๆ ก็แมวลายนั่นแหละ) ส่วนใหญ่จะเป็นตัวผู้
- คอยสังเกตสัญญาณบอกระยะติดสัด (estrus). พอผ่านไปประมาณ 6 - 10 เดือน (บางพันธุ์ก็แค่ 4 เดือน) ลูกแมวตัวเมียที่ยังไม่ได้ทำหมันส่วนใหญ่จะเริ่มแสดงอาการ “ติดสัด” ขึ้นมา (ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า “อยู่ในระยะ estrus”) แมวตัวเมียจะติดสัดอยู่ประมาณ 2 - 19 วัน โดยทั่วไป ถ้าไม่ได้ผสมพันธุ์ ระยะติดสัดของตัวเมียจะอยู่ที่ประมาณ 8 วัน แต่ถ้าได้ผสมพันธุ์ก็จะสั้นลง เพราะการผสมพันธุ์จะไปกระตุ้นให้ไข่ตก[4] แมวที่ติดสัดจะแสดงอาการที่เห็นได้ชัด ซึ่งอาการบางอย่างจะบอกได้ว่าลูกแมวของคุณนั้นเป็นตัวเมีย อาการที่ว่าก็คือ
- เริ่มร้องเหมียวดังขึ้น ฟังดูก้าวร้าวขึ้น แถมร้องบ่อย ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งเป็นมาก ดีไม่ดีจะร้องโหยหวนยังกับหอน
- ทำท่าจะออกจากบ้านให้ได้
- แสดงความรักกับคุณมากเป็นพิเศษ ไม่เว้นกระทั่งสิ่งของที่ไม่มีชีวิต
- แสดงอาการ “เชิญชวน” แบบแมวๆ หรือก็คือถ้าเป็นแมวตัวเมียจะยืนก้มไปทางขาหน้า แล้วยืดหลังเยอะผิดปกติ แถมยกหางสูง ชูก้นไปมา
- พ่นฉี่ไปทั่ว
- ลองดมๆ ดูว่ากลิ่นฉี่แรงหรือเปล่า. ถ้าแมวตัวผู้ที่ยังไม่ทำหมัน (ภาษาอังกฤษเรียกว่า tom) เกิดโตเต็มวัยพร้อมผสมพันธฺุ์ขึ้นมา ก็จะเริ่มฉี่พ่นอาณาเขตไปทั่ว กลิ่นแรงอย่าบอกใคร
- แมวตัวผู้ของคุณจะเริ่มฉี่เปะปะนอกกระบะทราย ทั้งๆ ที่ฝึกจนฉี่เป็นที่เป็นทางแล้วแท้ๆ
- กลิ่นฉี่จะฉุนแรง เป็นเอกลักษณ์ซะจนคุณบอกได้
- สังเกตจากโครงสร้างและลักษณะหน้าตา. คุณจะยังดูไม่ออกหรอก ว่าหุ่นหรือหน้าแมว 2 เพศนั้นต่างกันยังไง จนกว่าแมวจะโตเต็มวัยพร้อมผสมพันธฺุ์ แต่พอแมวโตเต็มที่แล้ว จะมีลักษณะเฉพาะบางอย่างที่คุณสังเกตได้ไม่ยากเลย
- แมวตัวผู้ที่ยังไม่ทำหมันจะหุ่นเพรียว มีกล้ามเนื้อ แถมกะโหลกกับขากรรไกรจะใหญ่กว่า
- นอกจากนี้ แมวตัวผู้ที่ยังไม่ทำหมันมักจะมี “stud tail” หรือก็คือกลุ่มต่อมตรงโคนหาง ที่จะขับน้ำมันส่วนเกินที่เรียกว่า sebum ออกมา คุณจะสังเกตเห็นได้ตรงบริเวณใกล้ๆ โคนหาง ว่าขนตรงนั้นจะมันหรือด้านเป็นพิเศษ ขนเป็นกระจุก บาง หรือโหว่หายไป มีตุ่มดำๆ ขึ้นเหมือนสิว มีผื่นหรือผิวหนังติดเชื้อ และ/หรือมีกลิ่นแรง
คำเตือน
- อย่าพยายามไปยุ่งกับลูกแมวอายุน้อยกว่า 3 - 4 อาทิตย์ เพราะลูกแมวอายุขนาดนั้นจะติดกลิ่นคุณไปมากเกิน จนพอเอาไปคืนแล้วแม่แมวจำไม่ได้ แล้วจะพาลไม่ยอมเลี้ยงลูกแมวเอา สุดท้ายลูกแมวก็จะตายเพราะขาดความอบอุ่นและสารอาหาร[5]
- นอกจากลูกแมวบางตัวจะดิ้นหนี ไม่ยอมให้คุณหยิบจับแล้ว แม่แมวบางตัวก็อาจรำคาญหรือหวงลูก เพราะรู้สึกว่าลูกตกอยู่ในอันตราย เพราะงั้นอันดับแรกคือแม่แมวต้องคุ้นเคยกับคุณพอจะวางใจให้คุณหยิบจับลูกแมวไปได้ซะก่อน ถ้าแม่แมวเกิดเครียดหรือโกรธขึ้นมาเมื่อไหร่ ให้รีบเอาลูกแมวกลับไปคืนจะดีที่สุด
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.petmd.com/cat/centers/kitten/health/evr_ct_determining_sex_of_cat
- ↑ http://www.vetmed.wsu.edu/cliented/kittengender.aspx
- ↑ http://cats.lovetoknow.com/caring-kittens/how-determine-sex-kitten
- ↑ Johnston, Shirley D. et al Canine and Feline Theriogenology Philadelphia: W.B. Saunders, 2001
- ↑ http://www.pet-informed-veterinary-advice-online.com/sexing-kittens.html