วิธีการ ผสมสีเขียว

สีเขียว เกิดจากสีน้ำเงินผสมสีเหลือง ถ้ารู้ทฤษฎีสีเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็จะผสม "สีเขียว" ได้ด้วยทุกวัสดุและส่วนผสม เช่น สีสำหรับระบาย ครีมแต่งหน้าเค้ก และดินปั้น polymer clay

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 4:

ผสมสีสำหรับระบาย

ดาวน์โหลดบทความ

1
ผสมสีเหลืองกับสีน้ำเงินเข้าด้วยกัน. บีบสีน้ำเงินแท้ (pure blue) และเหลืองแท้ (pure yellow) ที่เป็นแม่สี ในปริมาณที่เท่ากัน ใส่ถาดหรือจานสี จากนั้นใช้เกรียงผสมสีให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- ผสม 2 แม่สีเข้าด้วยกันแล้ว จะได้สีเขียวแท้ (pure green)
- ถ้าอยากแน่ใจว่าสีเขียวนี้ใช้ระบายแล้วออกมาแบบไหน ให้เอาพู่กันแต้มสีเล็กน้อย แล้วเอาไปลองระบายบนกระดาษทดหรือเศษกระดาษดู
2
เพิ่มลดสัดส่วนตามต้องการ. อันนี้แล้วแต่สีที่ต้องการจะใช้งาน บางทีสีเขียวแท้ๆ อาจจะไม่ใช่สีที่ตรงใจ วิธีเปลี่ยนเฉดสีได้ง่ายที่สุด คือเพิ่มสีเหลืองหรือสีน้ำเงินเข้าไป
- ถ้าเพิ่มสีเหลืองเข้าไป จะได้สีเขียวโทนอุ่นขึ้น ถ้าเพิ่มสีน้ำเงินเข้าไป จะได้สีเขียวโทนเย็นลง
- ตอนพยายามจะเปลี่ยนเฉดสี ให้ค่อยๆ เปลี่ยน ค่อยๆ ผสมสีไปทีละนิด จนเจอเฉดสีที่ใช่ เพราะจะมีโอกาสพลาดยากกว่า ถ้าบีบสีเพิ่มเข้าไปตูมเดียว อาจจะต้องปวดหัวกับการผสมสีให้กลับมาเป็นสีกลาง ก่อนจะปรับเฉดสีต่อไป
3
ผสมสีเหลืองกับสีน้ำเงินในปริมาณที่แตกต่างกันไป. เผื่อที่ในจานสีไว้เยอะๆ แล้วผสมสีดูหลายๆ เฉด โดยผสมสีเหลืองและน้ำเงินเข้าไปในปริมาณที่ต่างกัน สุดท้ายจะได้สีเขียวหลายๆ เฉดให้เลือกใช้^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แม่สีเหลืองกับแม่สีน้ำเงิน ผสมแล้วจะได้สีเขียวแท้ๆ แต่ถ้าไปผสมสีก่อนเอามาผสมกัน สีที่ได้ก็จะแตกต่างออกไป เช่น ถ้าผสมสีเหลืองทองกับสีน้ำเงิน ก็จะได้สีเขียวตุ่นๆ ออกน้ำตาล กลับกัน ถ้าผสมสีเหลืองกับสีฟ้า ก็จะได้สีเขียวอ่อนแทน
- วิธีที่จะรู้ได้ว่าสีน้ำเงินและสีเหลืองเฉดไหน ผสมออกมาได้สีเขียวเฉดไหน ก็มีแต่ต้องทดลองผสมดูเองเท่านั้น เพราะงั้นให้เลือกสีเหลืองและน้ำเงินมาสัก 2 - 3 เฉด จากนั้นก็ผสมกันในสัดส่วนที่เท่ากัน คือเหลือง 1 ส่วน กับน้ำเงิน 1 ส่วน ทำไปทีละเฉดจนได้สีที่ต้องการ อย่าลืมถ่ายรูปหรือบันทึกผลที่ได้ไว้ผสมอีกคราวหน้า^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
ลองเอาสีเขียวเฉดต่างๆ มาผสมกัน. ถ้ามีสีเขียว 2 เฉดที่ใกล้เคียงกับสีที่ต้องการ แต่ยังไม่เป๊ะ ก็ลองเอา 2 เฉดนั้นมาผสมกันดู เผื่อจะได้สีที่ตรงใจ
- อย่างที่บอกว่าสีเขียวทุกเฉดมีสีน้ำเงินและสีเหลืองผสมกันอยู่ เพราะงั้นถ้าจับสีเขียวเฉดต่างๆ มาผสมกัน ก็จะได้สีเขียวเฉดใหม่
- หรือจะผสมสีเขียวกับสีเหลือง/น้ำเงินเฉดอื่นก็ได้ ถ้าอยากเปลี่ยนเฉดสีไปเลย
5
เปลี่ยนค่าน้ำหนักของสี (value) โดยผสมสีดำหรือขาวเข้าไป. พอเจอเฉดสีที่ใช่แล้ว ก็ปรับเปลี่ยน value ให้สีนั้นเข้มขึ้นหรืออ่อนลงได้ โดยเติมสีดำหรือขาวเข้าไป
- ถ้าเพิ่มสีขาวเข้าไป จะได้สีที่อ่อนจางลง ในขณะที่ถ้าเติมสีดำเข้าไป จะได้สีที่เข้มดำขึ้น
- ไม่ว่าจะอยากให้สีเขียวนั้นเข้มขึ้นหรืออ่อนลง ก็ขอให้ค่อยๆ ผสมสีขาวหรือดำเข้าไปทีละนิด ถ้าใส่ทีเดียวเยอะๆ สีจะพังได้ กลายเป็นสีอ่อนหรือเข้มกว่าที่คิดไปมาก
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 4:

ผสมสีครีมแต่งหน้าเค้ก

ดาวน์โหลดบทความ

1
เตรียมถ้วยเล็กไว้หลายๆ ใบสำหรับทดลองผสม. คุณผสมครีมแต่งหน้าเค้กสีเขียวได้หลายวิธีด้วยกัน ที่สำคัญคือมีสีเขียวให้เลือกหลายเฉดสีด้วย ถ้าลองผสมไว้หลายๆ สี ก็จะเลือกสีได้ตรงใจที่สุด และรู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้สีตามต้องการ
- ต้องมีถ้วยเล็กๆ เหมือนถ้วยสำหรับชิมขนม อย่างน้อย 4 ถ้วยด้วยกัน แต่จริงๆ แล้วจะสะดวกกว่าถ้าเตรียมไว้สัก 6 - 12 ถ้วย จะได้มีหลายตัวเลือกในคราวเดียว
- บีบครีมแต่งหน้าเค้กสีขาวใส่ถ้วย ถ้วยละ 1/4 - 1/2 ถ้วยตวง (60 - 125 มล.) ต้องเช็คปริมาณครีมดีๆ เพราะมีผลต่อปริมาณสีผสมอาหารที่ต้องใช้
- เตรียมสีผสมอาหารอย่างน้อย 4 สี: เขียว เหลือง น้ำเงิน และดำ อย่างละ 1 จะเตรียมสีเขียว เหลือง หรือน้ำเงินเฉดต่างๆ ไว้ทดลองผสมสีเพิ่มเติมด้วยก็ได้
- สีผสมอาหารทั้งแบบ paste แบบผง และแบบเจล มีไว้แต่งสีของครีมแต่งหน้าเค้ก เพราะงั้นให้เลือกใช้สีที่ว่า เพื่อไม่ให้ครีมข้นหรือเหลวขึ้น พวกสีผสมอาหารเหลวๆ ที่เอาไว้ใช้หยด เหมาะจะเอาไว้แต่งสีอ่อนๆ เท่านั้น ถ้าใส่เยอะเพราะต้องการสีสดๆ จะทำให้ครีมแต่งหน้าเค้กเหลวเกินไปได้^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
หยดสีผสมอาหารสีเขียวในถ้วยใบหนึ่ง. เอาไม้จิ้มฟันจุ่มสีผสมอาหารสีเขียว แล้วเอาไม้จิ้มฟันอันเดียวกันนี้ ไปจุ่มในถ้วยครีมขาวถ้วยหนึ่ง เพื่อผสมสี โดยผสมจนสีเข้ากันดี
- ถ้าอยากแน่ใจว่าสีจะออกมาเป็นเฉดไหน ให้ผสมไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือสีด่างเป็นเส้นเขียวๆ ในครีม
- เฉดของสีเขียวที่ใช้ จะมีผลต่อสีของครีมแต่งหน้าเค้ก เช่น ถ้าใช้สี "เขียวมอส" ก็จะได้สีโทนอุ่นกว่าสีเขียวเข้ม "kelly green" หรือสีเขียวใบไม้ "leaf green"
- จะได้สีเฉดไหน ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณสีผสมอาหารที่ใช้ เพราะครีมเค้กเป็นสีขาว ถ้าใช้สีผสมอาหารสีเขียวในปริมาณน้อย ก็จะได้ครีมสีเขียวพาสเทลอ่อนๆ ถ้าใส่เยอะ สีก็จะเข้มสดขึ้น
3
ผสมสีน้ำเงินกับเหลืองในอีกถ้วย ในสัดส่วนที่เท่ากัน. ใช้ไม้จิ้มฟันใหม่สะอาดๆ จิ้มผสมสีน้ำเงินกับเหลืองในปริมาณเท่ากัน ใส่ครีมเค้กสีขาวถ้วยที่ 2 โดยผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- หลังจากผสมสีน้ำเงินกับเหลืองแล้ว จะได้ครีมเค้กสีเขียว
- ส่วนจะได้สีเขียวเฉดไหน ก็แล้วแต่เฉดสีของสีเหลืองกับน้ำเงินที่เลือกใช้ ซึ่งความอ่อนแก่ (ขาวเยอะ ดำเยอะ) ก็จะเปลี่ยนไปตามสีผสมอาหารที่ใช้ด้วย
4
ผสมสีเขียวกับดำในอีกถ้วย. แต่งสีครีมเค้กถ้วยที่ 3 คราวนี้ให้ผสมสีเขียวลงไป หรือใช้สีน้ำเงินกับเหลืองในปริมาณเท่ากัน ทำตามขั้นตอนเดิมกับถ้วยอื่นๆ แต่ถ้วยที่ 3 นี้ให้ผสมสีดำลงไปด้วย ในปริมาณที่น้อยมาก
- พอใส่สีดำแล้วผสมให้เนียนเป็นเนื้อเดียว จะได้ครีมสีเขียวเฉดเดิม แต่เข้มกว่า ไม่ต้องกลัวว่าเฉดสีจะเปลี่ยนไป
- ย้ำตรงนี้ว่าสีดำใส่แล้วสีเปลี่ยนรุนแรงมาก เพราะงั้นต้องค่อยๆ ผสมเข้าไปทีละน้อยมากๆ
5
ลองผสมสีแบบอื่นๆ. ใช้ครีมเค้กสีขาวที่เหลือ ทดลองผสมสีแบบต่างๆ อย่าลืมบันทึกเฉดสีและปริมาณสีผสมอาหารที่ใช้ในแต่ละถ้วยด้วย จะได้ผสมใหม่ได้ในภายหลัง
- บางยี่ห้อจะมีสัดส่วนและวิธีผสมสีให้อ้างอิง ก็ลองทำดู จะได้เฉดสีต่างๆ แต่ใครจะผสมเองก็ไม่ว่ากัน
- ไอเดียแนะนำก็เช่น^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
  - ผสมสีท้องฟ้า (sky blue) กับเขียวใบไม้ (leaf green) ในสัดส่วนที่เท่ากัน จะได้ออกมาเป็นสีฟ้าน้ำทะเล (aqua)
  - ถ้าอยากได้สีเขียวใสแบบเหล้า chartreuse ให้ผสมสีเหลืองมะนาว 9 ส่วน กับสีเขียวใบไม้ 1 ส่วน
  - ผสมสีเขียวใบไม้ กับน้ำเงิน (royal blue) ในสัดส่วนที่เท่ากัน แล้วผสมสีดำเข้าไปเล็กน้อย จะได้ออกมาเป็นสีเขียวหยกเข้ม (deep jade)
  - ถ้าผสมสีเหลืองมะนาวกับสีท้องฟ้า ในสัดส่วนที่ต่างกันออกไป จะได้สีเขียวนกเป็ดน้ำ (teal) หรือสีเทอร์ควอยซ์ (turquoise)
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 4:

ผสมสีดินปั้น Polymer Clay

ดาวน์โหลดบทความ

1
เตรียมดินปั้นไว้ทดลองผสมสีหลายๆ ก้อน. เบื้องต้นที่ต้องมีคือสีน้ำเงิน 2 ก้อน สีเหลือง 2 ก้อน สีขาว 1 ก้อน สีใส 1 ก้อน และสีดำ 1 ก้อน
- สีน้ำเงินก้อนหนึ่งให้สีออกโทนร้อน (ออกเขียว) ส่วนอีกก้อนเป็นโทนเย็น (ออกม่วง) ส่วนสีเหลืองก้อนหนึ่งให้ออกโทนร้อน (ออกส้ม) และอีกก้อนโทนเย็น (ออกเขียว)
- จริงๆ แล้วเลือกใช้สีน้ำเงินและสีเหลืองได้หลายเฉด แต่ถ้าเริ่มจากเฉดเดียวกัน 2 ก้อน จะผสมออกมาไม่ผิดพลาด เข้าใจง่ายว่าต้องผสมยังไงถึงจะได้สีเขียวที่ต้องการ
2
ผสมดินสีน้ำเงิน 1 ก้อน กับดินสีเหลืองอีก 1 ก้อน. หยิบดินสีน้ำเงินโทนร้อน กับสีเหลืองโทนเย็น ออกมาในปริมาณที่เท่ากัน จากนั้นปั้นรวมกัน คลึงจนได้ดินก้อนกลมที่เนียนเข้ากันดี
- นวด ยืด แล้วปั้นดินเป็นก้อนกลมซ้ำๆ จนได้สีใหม่ที่เนียนเป็นเนื้อเดียว ถ้าปั้นถูกวิธีแล้ว จะไม่เหลือสีน้ำเงินหรือเหลืองด่างเป็นเส้นๆ ในก้อนดิน
- สีใหม่ที่ได้จะออกมาเป็นสีเขียวสด เพราะทั้งดินสีน้ำเงินและเหลืองที่นำมาปั้น สีออกเขียวอยู่แล้ว^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ผสมดินที่เหลือให้ได้สีต่างๆ. ผสมดินสีน้ำเงินกับเหลืองในปริมาณที่เท่ากัน ทำตามขั้นตอนเดิมกับตอนผสมสีเขียวสีแรก ผสมไปเรื่อยๆ จนได้ออกมาหลายๆ สี
- ผสมสีเหลืองโทนร้อนกับสีน้ำเงินโทนเย็น จะได้สีเขียวตุ่นๆ ออกน้ำตาลนิดๆ
- ผสมสีเหลืองโทนร้อนกับสีน้ำเงินโทนร้อน จะได้สีเขียวโทนร้อนกลางๆ มี undertone เป็นเหลืองเข้ม
- ผสมสีเหลืองโทนเย็นกับสีน้ำเงินโทนเย็น จะได้สีเขียวโทนเย็นกลางๆ มี undertone เป็นสีฟ้าเข้ม
4
เติมดินสีขาวไปในดินก้อนหนึ่ง. เลือกดินสีเขียวเฉดที่ชอบ แล้วผสมขึ้นมาอีกก้อนตามขั้นตอนก่อนๆ พอได้สีเขียวแล้ว ให้ผสมดินสีขาวเข้าไปเล็กน้อย
- ปั้นผสมจนดินสีเขียวนั้นไม่มีสีขาวด่างเป็นเส้น จะเห็นว่าดินสีจางลง ไม่สดเข้ม ยิ่งผสมดินสีขาวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสีอ่อนลงเท่านั้น
5
เติมดินสีใสไปในดินก้อนหนึ่ง. ผสมดินสีเขียวขึ้นมาอีกก้อนตามขั้นตอนก่อนๆ แต่คราวนี้ อย่า ผสมสีขาว ให้ผสมดินสีใสเข้าไปเล็กน้อย
- พอผสมดินสีใสแล้วปั้นรวมกันเสร็จ จะได้ดินสีเขียวที่ดูไม่สดเข้มเท่าเดิม โดยที่ความขาว-ดำกับเฉดสีไม่เปลี่ยนไป
- ถ้าสัดส่วนของดินสีใสมากกว่าดินสีเขียว จะกลายเป็นดินสีเขียวโปร่งแสงแทน ไม่ได้ดินสีทึบ
6
เติมดินสีดำไปในดินก้อนสุดท้าย. ผสมดินสีเขียวขึ้นมาอีกก้อนตามขั้นตอนก่อนๆ เหมือนตอนจะผสมดินสีขาวหรือดินสีใส แต่คราวนี้ให้ผสมดินสีดำเข้าไปเล็กน้อย
- หลังปั้นผสมดินสีดำกับเขียวแล้ว จะได้ดินสีเข้มขึ้น โดยที่ยังเป็นเฉดสีเดิมอยู่
- ส่วนใหญ่ผสมดินสีดำแค่นิดเดียวก็ทำให้ดินสีเขียวเข้มขึ้นมากแล้ว เพราะงั้นให้ผสมเพิ่มเข้าไปทีละนิด จนได้สีที่ต้องการ
โฆษณา

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 4:

รู้จักทฤษฎีสี

ดาวน์โหลดบทความ

1
ผสมสีเหลืองกับน้ำเงิน. สีเขียวเป็นสีขั้นที่ 2 (secondary color) ที่จะได้ก็ต่อเมื่อผสมสีน้ำเงินกับเหลืองเข้าด้วยกัน ในสัดส่วนเท่ากัน โดยสีน้ำเงินกับเหลืองนั้นเป็นแม่สี (primary color)^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- "Primary colors" คือสีปฐมภูมิ หรือแม่สี คือสีนั้นในตัวเอง ไม่ได้เกิดจากการผสมสีอื่นๆ เข้าด้วยกัน แม่สีนั้นมี 3 สีด้วยกัน คือแดง เหลือง และน้ำเงิน ส่วนสีเขียว จะได้ก็ต่อเมื่อผสมสีน้ำเงินกับสีเหลืองเข้าด้วยกัน
- "Secondary colors" คือสีทุติยภูมิ หรือสีขั้นที่ 2 เป็นสีที่เกิดจากการผสม 2 แม่สีเข้าด้วยกัน ในที่นี้คือสีเขียว เป็นสีขั้นที่ 2 ที่เกิดจากการผสมสีน้ำเงินและเหลืองเข้าด้วยกัน อีก 2 สีทุติยภูมิ ก็คือสีส้ม กับสีม่วง (violet) นั่นเอง
2
ถ้าปรับสัดส่วนของสีที่เอามาผสมกัน จะได้เฉดสีที่ต่างออกไป. สีเขียวแท้ ได้จากการผสมสีเหลืองและสีน้ำเงินที่เป็นแม่สี แต่ถ้าเพิ่มสัดส่วนของสีน้ำเงินหรือสีเหลือง ก็จะได้สีเขียวเฉดอื่นที่ต่างออกไปเล็กน้อย
- 2 สีผสมที่พบบ่อยคือ "เขียวอมฟ้า" และ "เขียวอมเหลือง" หรือที่เรียกว่า "tertiary" colors หรือสีขั้นที่ 3 นั่นเอง เป็นสีที่อยู่ระหว่างสีขั้นที่ 2 กับแม่สี ในวงล้อสี (color wheel)
  - สีเขียวอมฟ้า เกิดจากการผสมสีน้ำเงิน 2 ส่วน กับสีเหลือง 1 ส่วน หรือจากการผสมสีเขียวกับสีน้ำเงินในสัดส่วนที่เท่ากัน
  - สีเขียวอมเหลือง เกิดจากการผสมสีเหลือง 2 ส่วน กับสีน้ำเงิน 1 ส่วน หรือจากการผสมสีเขียวกับสีเหลืองในสัดส่วนที่เท่ากัน
3
เปลี่ยน value หรือค่าน้ำหนักสี โดยเติมสีดำหรือขาว. ถ้าอยากให้สีเขียวอ่อนลงโดยไม่เปลี่ยนเฉดสี ให้ผสมสีขาวเข้าไป ถ้าอยากได้สีเขียวเข้มขึ้น ให้ผสมสีดำเข้าไป
- เฉดสีอ่อน จะเรียกว่า "tints" ส่วนเฉดสีเข้ม จะเรียกว่า "shades"
โฆษณา