วิธีการ ป้องกันงูเข้าบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ป้องกันงูไม่ให้เข้าบ้าน

เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

งูนั้นเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศมาก ถึงแม้มันช่วยควบคุมจำนวนประชากรของพวกสัตว์รบกวนต่างๆ ซึ่งได้แก่ พวกหนูต่างๆ แมลงสาบ และแมลงอื่นๆ แต่ก็มีงูหลายพันธุ์ที่มีพิษและบางชนิดก็อาจเป็นอันตรายแก่มนุษย์และสัตว์เลี้ยงได้ จากสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้เราต้องป้องกันงูไม่ให้เข้ามาในบริเวณบ้าน รวมทั้งต้องป้องกันงูไม่ให้เข้ามาใกล้เวลาเดินทางไกลหรือเดินป่าด้วย

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

ป้องกันงูไม่ให้เข้าบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   อย่าให้บริเวณบ้านรก. งูเป็นนักล่าแบบชอบซุ่มโจมตี หมายความว่ามันชอบจู่โจมเหยื่อจากที่ซ่อนมืดๆ ฉะนั้นการปล่อยให้รอบบ้านรกจึงเป็นการเชื้อเชิญงูให้เข้ามาอยู่อาศัย เพราะมีบริเวณให้ซ่อนตัวมากมาย กองเศษใบไม้ กองเศษอาหาร กองฟาง กองขี้เลื่อย กองฟืน และกองเศษหญ้าล้วนเป็นสถานที่ซึ่งงูสามารถเข้ามาซ่อนตัวได้สบาย ฉะนั้นจัดการกองสิ่งเหล่านี้ อย่าให้มีอยู่ในบริเวณบ้าน

   • ลองใช้หินคลุกแทนกองไม้ เพราะงูจะไม่สามารถเข้ามาหลบซ่อนได้สะดวก
2. 
   2
   อย่าปล่อยให้พืชขึ้นหนาแน่น. นอกจากการปล่อยให้บริเวณบ้านรกแล้ว การปล่อยให้ไม้พุ่มและพืชอื่นๆ ขึ้นหนาแน่นจนรกอาจเป็นการให้แหล่งหลบซ่อนชั้นดีแก่งูทั้งหลาย ฉะนั้นการหมั่นถางหญ้าและถางต้นไม้ออกไปบ้างจึงเป็นวิธีการป้องกันงูไม่ให้มาเยือนบ้านเรา เพราะพวกไม้พุ่มและสวนที่แออัดยัดเยียดไปด้วยต้นไม้ใบหนาจะดึงดูดให้งูเข้ามาหลบซ่อน

   • ถ้ากลัวว่าจะมีงูเข้ามาหลบซ่อน ให้เอาต้นไม้ออก หรือถางออกไปบ้าง แต่ถ้าอยากรักษาต้นไม้ต่างๆ เอาไว้ อาจย้ายต้นไม้ไปปลูกให้ห่างจากบริเวณบ้านและตัวบ้าน
3. 
   3
   กำจัดแหล่งอาหารของงู. งูจะมาป้วนเปี้ยนแถวบ้านเราแน่ ถ้าบ้านเรามีสัตว์ที่มันกินได้ สัตว์ที่เป็นอาหารของงูได้แก่แมลงต่างๆ เช่น แมลงสาบและตั๊กแตน หรือสัตว์ตัวเล็กๆ เช่น พวกหนู

   • อาจลองวางกับดักหรือฉีดสารขับไล่เพื่อป้องกันไม่ให้พวกสัตว์รบกวนมาอาศัยอยู่บริเวณบ้านและป้องกันงูไม่ให้เข้ามาในบริเวณบ้านเช่นกัน
4. 
   4
   อุดรูโหว่. ถ้าสังเกตเห็นว่ามีงูเลื้อยเข้ามาในบริเวณบ้านและอยากป้องกันไม่ให้มันเข้ามาอีก วิธีการที่เราสามารถทำได้คือตรวจดูบริเวณบ้านไม่ว่าจะเป็นตัวบ้าน โรงรถ หรือบานประตูกั้นห้องว่ามีรูหรือช่องโหว่ไหม ถ้ามี ก็ซ่อมแซมให้เรียบร้อย ตรวจบริเวณต่างๆ ให้ละเอียดและถ้าเห็นว่ามีรูโหว่ ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหน ซ่อมแซมทันที ถึงแม้จะเป็นแค่รูเล็กๆ แต่ก็อาจใหญ่พอให้งูบางชนิดลอดเข้ามาได้

   • นอกจากรูโหว่หรือช่องจากรอยแตกต่างๆ จะเป็นเส้นทางให้งูเลื้อยเข้ามาในบ้านได้แล้ว บางแห่งอาจกลายเป็นที่หลบซ่อนของงูได้ด้วย
5. 
   5
   ติดรั้วป้องกันงู. รั้วจะป้องกันงูได้ดีแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเราเจองูชนิดใดและมันเข้ามาในบริเวณบ้านอย่างไร แต่ก็มีรั้วบางแบบที่สามารถป้องกันงูได้หลายชนิด โดยหลักแล้วรั้วป้องกันงูมีสามแบบคือแบบแผ่นพลาสติก แบบตะแกงเหล็ก และแบบตาข่ายไว้ดักจับ ไม่ว่าจะใช้รั้วแบบไหน ควรติดตั้งรั้วเหล่านี้ให้ติดกับพื้นและขอบรั้วด้านบนหักออกไปด้านนอก เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้งูเลื้อยลอดเข้ามาทางใต้รั้วหรือเลื้อยปีนเข้ามาทางขอบรั้วได้

   • เราอาจไม่สามารถล้อมรั้วแบบนี้รอบบริเวณบ้านได้ ฉะนั้นให้ล้อมรั้วเฉพาะบริเวณที่เด็กและสัตว์เลี้ยงชอบมาวิ่งเล่นบ่อยๆ แทน
   • เราควรวางรั้วป้องกันงูรอบสิ่งก่อสร้างในบริเวณบ้านซึ่งถูกยกขึ้นสูงจากพื้น จะได้ช่วยป้องกันไม่ให้งูไปซ่อนตัวอยู่ใต้สิ่งก่อสร้างนั้น
6. 
   6
   ใช้แรงสั่นสะเทือน. ถ้าสังเกตเห็นว่าที่ผ่านมามีงูอยู่ในสวนหรือบริเวณบ้านและตอนนี้ชักสงสัยว่าอาจมีงูมาซ่อนตัวอยู่ ให้เปิดเครื่องตัดหญ้าหรือรถตัดหญ้าแล้วนำไปเดินผ่านบริเวณแถวนั้น ก่อนจะใช้งาน เราไม่ต้องการที่จะฆ่างูแต่ต้องการทำให้มันตกใจกลัว แรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากเครื่องยนต์เหล่านี้มากพอที่จะเตือนให้งูหลายชนิดกลัว งูจะได้ไม่กล้าเข้ามาภายในบริเวณบ้าน

   • วิธีนี้อาจไม่ใช่วิธีป้องกันงูเข้าบ้านอย่างถาวร แต่ถ้าจำเป็นต้องทำงานในสวน วิธีนี้ก็ทำให้งูกลัวนานพอที่จะเอื้อให้เรามีเวลาทำภารกิจจนเสร็จ
7. 
   7
   วางกับดัก. ถ้าสงสัยว่ามีงูเข้ามาในบริเวณบ้านหรือกลัวว่าจะมีงูแอบเข้าในบริเวณบ้านก่อนที่เราจะทันได้ใช้มาตรการป้องกัน เราอาจวางกับดักหรือวางกาวดักไว้ในบริเวณบ้านที่มักจะมีงูผ่าน ก่อนวางกับดัก ควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำและดำเนินการเพื่อให้การวางกับดักเป็นไปอย่างปลอดภัยและใช้ได้ผล

   • อย่าใช้กับดักกาวด้านนอก เพราะอาจมีสัตว์ชนิดอื่นนอกเหนือจากงูมาติดเอาได้
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ใช้ไม้เท้าเดินป่า. ไม้เท้าเดินป่าดูคล้ายไม้ค้ำในการเล่นสกีมาก ยกเว้นไม้เท้าเดินป่าถูกปรับมาให้เดินบนพื้นดิน ไม้เท้าเดินป่าจะช่วยปัดหญ้าสูงๆ และพุ่มไม้อื่นออกไปให้พ้นทาง จึงทำให้งูที่อาจซ่อนตัวอยู่กลัวได้ ขณะที่เดินป่า ไม้ของเราจะกระทบพื้นและหิน จึงช่วยป้องกันงูไม่ให้เข้ามาใกล้ด้วย มันจะรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนและเลื้อยหนีเมื่อรู้สึกว่าเราเข้ามาใกล้

   • ถ้าไม่มีไม้เท้าเดินป่า อาจใช้ไม้อื่นที่ใกล้เคียงกันแทนได้
2. 
   2
   เลือกเดินในพื้นที่โล่งเตียนและผู้คนพลุกพล่าน. งูมักจะซ่อนแถวซอกหิน ท่อนซุง และกองเศษใบไม้ เส้นทางที่โล่งเตียนมักจะไม่ค่อยมีงู นอกจากนี้ถ้าเราใช้เส้นทางที่มีคนเดินพลุกพล่าน ก็จะเป็นการป้องกันงูไปในตัว เพราะมันไม่อยากเข้าใกล้มนุษย์อยู่แล้ว และถ้ามันรู้ว่าบริเวณนั้นมีผู้สัญจรกันพลุกพล่าน ก็จะพยายามไม่เข้าไปใกล้
3. 
   3
   เดินด้วยความระมัดระวัง. งูหลายชนิดอย่างเช่น งูหางกระดิ่ง จะมีสีกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม ฉะนั้นจึงต้องคอยสอดส่ายสายตามองตลอดขณะเดิน เราจะได้สังเกตเห็นมันทันและสามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ามันโดยตรงได้ ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งตอนที่เดินข้ามหินหรือท่อนซุง เพราะทั้งสองอย่างนี้เป็นจุดที่งูหลายชนิดชอบซ่อนตัว ถ้าเราต้องข้ามสิ่งกีดขวางเหล่านี้ ให้ก้าวขึ้นไปเหยียบมันก่อนมันแล้วค่อยก้าวลงมา ดีกว่าก้าวข้ามไปเลย เราจะได้มีโอกาสตรวจดูบริเวณสิ่งกีดขวางนั้นก่อนว่ามีงูซ่อนตัวอยู่หรือเปล่า

   • ไม่ควรหยิบหินหรือท่อนไม้ขณะเดินป่า เพราะอาจเป็นการรบกวนงูที่ซ่อนตัวอยู่ใต้นั้นและกระตุ้นให้มันเข้ามาจู่โจม
   • ถ้าเราต้องการศึกษาหินหรือพืชขณะที่เดินป่า ก็ให้ระวังเวลาเอามือไปสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ด้วย
4. 
   4
   เลือกเดินป่าในเวลาที่เหมาะสม. งูเป็นสัตว์เลือดเย็น จึงไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายอย่างมนุษย์ได้ ฉะนั้นมันจึงต้องอาบแดดเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นและหลบแดดเพื่อให้ร่างกายเย็นลง ผลคืองูมักจะกระฉับกระเฉงในช่วงฤดูที่อากาศอบอุ่น ถ้าไม่อยากเจองูระหว่างเดินป่า ก็อาจเลือกเดินป่าในช่วงฤดูหนาว
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ถึงแม้พฤติกรรมของงูส่วนใหญ่จะคล้ายกัน แต่ก็มีงูบางชนิดชอบซ่อนตัวและชอบอาหารไม่เหมือนกับงูชนิดอื่น ฉะนั้นการรู้ว่างูที่มักมาป้วนเปี้ยนแถวบริเวณบ้านเป็นงูชนิดใดจะช่วยให้เราหาวิธีป้องกันไม่ให้มันเข้ามาในบ้านได้ดีขึ้น

โฆษณา

คำเตือน

• ถ้าพบงูที่คิดว่ามีพิษ ไม่ควรพยายามจับหรือจัดการด้วยตนเอง เพราะงูอาจทำอะไรที่เราคาดไม่ถึง ถ้าถูกต้อนให้จมมุมและสามารถจู่โจมได้ไกลกว่าที่คิด ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ งูจะได้ถูกจับออกไปโดยไม่มีใครได้รับอันตราย
• อย่าใช้สารเคมีไล่งู เพราะนอกจากส่วนใหญ่จะใช้ไม่ได้ผลแล้วยังอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ชนิดอื่นและเด็ก
• อย่าใช้ลูกเหม็นไล่งู ลูกเหม็นเป็นยาฆ่าแมลงที่ขึ้นทะเบียนโดยสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม ต้องใช้ตามที่ฉลากระบุไว้ อย่าใช้ลูกเหม็นที่ไม่มีฉลากระบุ ไม่เพียงกลิ่นที่แพร่ออกมาจากลูกเหม็นจะเป็นพิษเท่านั้น ลูกเหม็นยังไม่สามารถไล่งูออกจากบ้านเราได้อีกด้วย

โฆษณา