วิธีการ ทำให้เสื้อผ้าสีดำกลับมาสีเข้มตามเดิม

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ย้อมสี

ย้อมด้วยกาแฟ

ป้องกันสีซีดจาง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ถึงจะเป็นเสื้อผ้าสีดำสนิท แต่พอใส่ไปนานๆ ก็สีซีดสีตกได้ เพราะถูกซักและอบนับครั้งไม่ถ้วน ใครชอบใส่เสื้อผ้าสีดำเลยมีแต่สีเทาเต็มตู้ แต่บอกเลยว่าไม่ต้องทิ้งแล้วรีบไปหาซื้อใหม่ เพราะบทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีทำให้เสื้อผ้าสีดำกลับมาสีเข้มตามเดิมให้คุณเอง

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

ย้อมสี

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สีจะติดเนื้อผ้าที่ใช้แค่ไหน. สีย้อมผ้าจะย้อมใยธรรมชาติได้ดีที่สุด เช่น คอตตอน ลินิน และผ้าไหม ถ้าเป็นใยสังเคราะห์อย่างเรยอน หรือไนลอน ก็พอได้เหมือนกัน แต่ที่ย้อมไม่ค่อยติดเลย คือโพลีเอสเตอร์ 100% และผ้ายืดหรือสแปนเด็กซ์ เพราะงั้นถ้ารู้เนื้อผ้าที่ใช้ก็จะได้ตัดสินใจถูก

   • แนะนำว่าอย่าย้อมผ้าที่เขียนว่า “dry clean only” (ซักแห้งเท่านั้น)
   • ผ้าต่างชนิด เส้นใยก็ดูดซึมสีย้อมได้ต่างกันไป สุดท้ายเลยได้เสื้อผ้าที่สีออกมาต่างกัน ถ้าไม่แน่ใจว่าย้อมแล้วเสื้อผ้าของคุณจะออกมาเป็นยังไง ให้ทดลองย้อม swatch คือตัวอย่างผ้าชนิดเดียวกันชิ้นเล็กๆ ก่อน
2. 
   2
   เตรียมสถานที่. คลุมบริเวณที่กลัวสีกระเด็นใส่ด้วยผ้าพลาสติกหรือหนังสือพิมพ์ เตรียมฟองน้ำและทิชชู่ไว้ใกล้มือ เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันจะได้หยิบฉวยมาใช้ทันท่วงที ส่วนอุปกรณ์สำหรับใส่ผ้าเวลาย้อมก็เช่น ถังพลาสติก ถังสแตนเลส หรืออ่างล้างจานที่เป็นสแตนเลส

   • อย่าย้อมผ้าในอ่างอาบน้ำที่เป็นพอร์ซเลนหรือไฟเบอร์กลาส เพราะสีจะติดทนนาน เกิดคราบแน่นอน
   • ตอนย้อมผ้าหรือซักผ้าหลังจากนั้นต้องใส่ถุงมือยางตลอด
3. 
   3
   เทน้ำร้อนใส่ถังหรืออ่างล้างจาน. ยิ่งน้ำร้อนเท่าไหร่สีก็ยิ่งเข้มยิ่งติดทน อุณหภูมิสูงสุดที่ใช้ได้คือ 140°F/60°C ซึ่งจะย้อมออกมาได้สีดำเข้มสมใจ ต้องเช็คให้ดีว่าน้ำร้อนจัดจริงๆ ก่อนเอาเสื้อผ้าจุ่มลงไป

   • ถ้าอยากย้อมให้ได้สีดำเข้มจัด แต่น้ำร้อนจากก๊อกไม่ร้อนพอ ก็ต้องเอาใส่กาหรือหม้อแล้วต้มบนเตาหรือในไมโครเวฟก่อน
4. 
   4
   ละลายผงสีที่จะใช้ย้อมในภาชนะแยกที่เติมน้ำร้อนจัดไว้. สีย้อมต้องละลายจนหมด ให้คนด้วยตะเกียบหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช้แล้ว (เพราะสีติดแน่นอน) จนไม่เหลือผงสี ถ้าใช้สีย้อมแบบน้ำ ก็แค่เขย่าผสมให้เข้ากันแล้วเอาไปใช้ได้เลย

   • อ่านฉลากของสีย้อมให้ละเอียด จะได้กะปริมาณให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าที่จะย้อม ปกติปริมาณที่ต้องใช้จะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อสีย้อม เพราะงั้นอ่านข้อมูลที่กล่องและใบแนบในกล่องจะถูกต้องที่สุด
5. 
   5
   เทสีย้อมใส่น้ำในอ่างหรือถัง. เช็คว่าสีผสมกับน้ำร้อนจนเข้ากัน ต้องใส่น้ำเยอะพอที่เสื้อผ้าจะลอยไปมา และหมุนไปตามแรงน้ำได้ระหว่างย้อม เพื่อให้ย้อมออกมาสีเนียนเท่ากัน

   • เติมผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้า 1 ช้อนโต๊ะในน้ำย้อมผ้า เสื้อผ้าจะได้ยิ่งดูดซับสีดี ใส่แล้วคนจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
   • ถ้าจะย้อมผ้าคอตตอน เรยอน รามี หรือลินิน ให้เติมเกลือในน้ำย้อมผ้า 1 ถ้วยตวง จะช่วยให้สียิ่งเข้ม ติดทนนาน
   • ถ้าจะย้อมผ้าไนลอน ผ้าไหม และผ้าขนสัตว์ ให้เติมน้ำส้มสายชูกลั่นขาวในน้ำย้อมผ้า 1 ถ้วยตวง จะได้ผลเช่นเดียวกัน
6. 
   6
   แช่ผ้าในน้ำสี. ยิ่งแช่นานผ้าก็ยิ่งออกมาสีเข้ม คุณแช่ผ้าได้นานถึง 1 ชั่วโมงเลย ต้องหมั่นกวนน้ำหรือสั่นถัง ให้ผ้าหมุนไปตามแรงน้ำ สีย้อมจะได้ทั่วถึง

   • รักษาอุณหภูมิน้ำให้สูงสม่ำเสมอ เพราะงั้นต้องเตรียมเตา ไมโครเวฟ หรือกาน้ำพร้อมใช้ตลอด จะได้คอยต้มน้ำไม่ให้สีย้อมหายร้อน
   • อีกวิธีคือย้อมผ้าในหม้อสแตนเลสใบใหญ่ๆ ระหว่างนั้นก็ตั้งไฟไว้บนเตาตลอดเพื่อรักษาอุณหภูมิ
   • ถ้าแช่ผ้าในน้ำร้อนสัก 2 - 3 นาทีก่อนย้อม ผ้าจะนุ่ม ซับสีได้ดียิ่งขึ้น
7. 
   7
   เอาผ้าขึ้นจากหม้อหรืออ่างล้างจาน แล้วล้างในน้ำอุ่น. น้ำอุ่นจะกำจัดสีย้อมตกค้างที่ผิวของผ้าได้ดี เสร็จแล้วต่อด้วยน้ำเย็นจัด ให้ล้างจนน้ำออกมาใสตามเดิม

   • ตอนเอาผ้าขึ้นจากสีย้อม ผ้าจะเปียกเลยดูสีเข้มกว่าความเป็นจริง
   • กลับด้านผ้า แล้วเอาใส่เครื่องซักผ้า อย่าซักรวมกับอย่างอื่น ให้ซักโดยใช้น้ำอุ่น และผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนๆ รวมถึงเลือกปั่นแบบถนอมผ้า
8. 
   8
   ซักเสร็จเอาไปตาก หรือใส่เครื่องอบผ้า. คุณจะทำให้แห้งด้วยวิธีไหนก็ได้ แต่ถ้าตากไว้จะคงความเข้มของสีย้อมได้มากกว่า เพราะงั้นก็เลือกตามสะดวก พอผ้าแห้งแล้วก็พร้อมใส่

   • 3 ครั้งแรกที่ซักเสื้อผ้าหลังย้อมและใส่ ต้องแยกซักในน้ำเย็นจัด ปั่นแบบถนอมผ้า และใช้น้ำยาซักผ้าอ่อนๆ แบบไม่ผสมน้ำยาฟอกขาว
   • หลังจากนั้นก็ซักเสื้อผ้าที่ย้อมแล้วรวมกับผ้าสีเดียวกันชิ้นอื่นๆ ที่ยังไม่เคยย้อมได้เลย แต่ต้องซักในน้ำเย็นจัดเท่านั้น และใช้น้ำยาซักผ้าอ่อนๆ
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

ย้อมด้วยกาแฟ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ซักผ้าในเครื่อง. ถ้าจะย้อมผ้าหลายๆ ชิ้น ก็ต้องเป็นสีเดียวกันหมด เริ่มจากซักแบบตั้งค่าตามปกติโดยใช้น้ำเย็น

   • ถ้าเป็นผ้าคอตตอน ย้อมด้วยวิธีนี้จะเห็นผลที่สุด เช่น ย้อมเสื้อยืดสีดำที่เริ่มซีด ถ้าเป็นผ้าชนิดอื่นจะออกมาไม่ดีเท่า
   • ถ้าอยากย้อมผ้ากลับเป็นสีดำสนิท กาแฟจะช่วยได้ไม่มากเท่าสีย้อมจริงๆ แค่ว่าใช้กาแฟแล้วสีจะออกมาเป็นธรรมชาติกว่าเท่านั้น
2. 
   2
   ชงกาแฟ 1 กาแบบเข้มๆ. ยิ่งกาแฟเข้มเท่าไหร่ ก็จะย้อมผ้าออกมาได้ดำขึ้นเท่านั้น เวลาย้อมต้องใช้กาแฟ 2 ถ้วย เพราะงั้นให้ใช้เครื่องชงกาแฟขนาดมาตรฐาน อย่าไปใช้เครื่องเล็กๆ แบบชงทีละแก้ว

   • จะย้อมผ้าด้วยชาดำ 2 ถ้วยแทนกาแฟก็ได้ แล้วแต่สะดวก
   • จะเอากาแฟมาจากไหนก็ได้ ขอแค่กาแฟ 2 ถ้วยที่ว่าเพิ่งชงร้อนๆ และเข้มพอ ถ้าปกติดื่มแต่กาแฟสำเร็จรูปก็ไม่เป็นไร ใช้แทนกันได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องชงหรือหม้อต้มกาแฟเสมอไป
3. 
   3
   เทกาแฟ 2 ถ้วยที่เพิ่งชงใหม่ใส่ในเครื่องซักผ้าตอนจะซักน้ำเปล่า. ปิดฝาเครื่องซักผ้าแล้วปล่อยให้ซักด้วยกาแฟไป เสร็จเมื่อไหร่ก็เหมือนเวลาซักผ้าตามปกติเลย

   • ถ้าเคยย้อมผ้าด้วยสีสำเร็จรูปมาก่อน จะรู้เลยว่าวิธีธรรมชาติแบบนี้กลิ่นสบายจมูกกว่าเยอะเลย ทั้งตอนย้อมและหลังย้อมเสร็จ
   • ย้อมผ้าด้วยกาแฟไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษ แถมไม่ทิ้งคราบเกรอะกรังในถังซักผ้า
4. 
   4
   ตากผ้าไว้ให้แห้ง. ถ้าเอาเข้าเครื่องอบผ้าระวังสีจะซีด ถ้ารักจะใส่เสื้อผ้าสีดำ แนะนำเลยให้ตากแทนอบในเครื่อง สีจะซีดช้ากว่าเยอะเลย พอผ้าแห้งก็พร้อมใส่แล้ว
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

ป้องกันสีซีดจาง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ซักผ้าสีเข้มเฉพาะตอนที่จำเป็น. แต่ละครั้งที่ซัก สีผ้าก็จะซีดไปอีกหน่อย เพราะงั้นยิ่งซักน้อยครั้ง สีก็จะยิ่งคงทน โดยเฉพาะพวกผ้ายีนส์ที่ซีดง่ายแบบสุดๆ

   • วิธีทำให้ไม่ต้องซักเสื้อผ้าสีเข้มบ่อยๆ ก็คือถอดแล้วผึ่งลมไว้ ไม่ต้องซัก ให้เอาใส่ไม้แขวนเสื้อ แล้วแขวนไว้ 1 วันเต็มๆ ค่อยเอากลับเข้าตู้ไป
   • พอใส่เสื้อผ้าชิ้นนั้นและผึ่งลมไปได้ 2 - 3 ครั้ง ก็ค่อยเอาไปซัก
2. 
   2
   ตอนจะซักให้คัดแยกเสื้อผ้าตามสีและน้ำหนัก. โดยเฉพาะแยกผ้าสีและผ้าขาว ไม่งั้นสีตกใส่กันแน่ ต่อมาก็แยกผ้าตามเส้นใยและความบางเบา

   • ถ้าไปซักผ้าเนื้อเบาบางกับผ้าหนาๆ รวมกัน ก็แน่นอนว่าผ้าเนื้อบางอาจเสียหาย ส่วนผ้าเนื้อหนาก็ไม่สะอาดเท่าที่ควร
3. 
   3
   ถ้าผ้าบาง ขาดง่าย ต้องซักมือ. ถ้าถูกเครื่องซักผ้าจับโยนไปมาระหว่างซัก เสื้อผ้าจะเสียหายได้ ให้ซักมือด้วยน้ำเย็น จะทำให้สีไม่ซีดเร็วแถมช่วยถนอมเนื้อผ้า

   • ถ้าไม่อยากซักมือจริงๆ วิธีต่อมาที่พอช่วยได้ ก็คือหาถุงตาข่ายเล็กๆ สำหรับซักผ้า พอเอาเสื้อผ้าใส่ในถุงตาข่ายนั้น ก็เอาเข้าเครื่องซักผ้าได้เลย จะช่วยถนอมเนื้อผ้าได้ในระดับหนึ่ง
   • ถ้ามีเสื้อผ้าที่ไม่แน่ใจว่าควรซักยังไง เอาไปซักแห้งเลยจะดีกว่า
4. 
   4
   กลับด้านเสื้อผ้าสีดำก่อนซัก. ช่วยป้องกันไม่ให้สีซีดได้ เพราะไม่เจอแรงเสียดสีตอนซักเครื่อง จริงๆ แล้วซักเครื่องทำให้ผ้าถูกโยนไปมาแถมมักใช้ความร้อนสูง เส้นใยของเสื้อผ้าสีดำเลยถูกทำร้ายจนซีดจางในที่สุด
5. 
   5
   ซักผ้าด้วยน้ำเย็น และปั่นแบบถนอมเนื้อผ้า. น้ำอุ่นกับน้ำร้อนจะทำให้สีเสื้อผ้าซีดจาง การซักผ้าแบบปกติหรือใช้ความเร็วในการปั่นสูงก็เช่นกัน ให้เปลี่ยนเป็นระบบถนอมใยผ้า ซักด้วยรอบปั่นต่ำๆ จะช่วยได้เยอะ

   • ถ้าเครื่องซักผ้าเลือก soil setting หรือระดับความสกปรกของผ้าที่ซักได้ ให้เลือก light-soil สำหรับซักเสื้อผ้าที่ไม่ได้สกปรกอะไรมาก (เว้นแต่เขรอะจริงๆ) แบบนี้จะอ่อนโยนถนอมใยผ้ากว่า สีเลยไม่ค่อยซีด
6. 
   6
   เลือกน้ำยาซักผ้าสำหรับเสื้อผ้าสีดำหรือผ้าสีโดยเฉพาะ. ห้ามใช้น้ำยาซักผ้าที่มีส่วนผสมของน้ำยาฟอกขาวหรืออะไรที่ใกล้เคียง มีหลายยี่ห้อที่มีน้ำยาซักผ้าสีหรือผ้าดำโดยเฉพาะ ยังไงลองหามาใช้ดู

   • ใช้น้ำยาซักผ้าน้อยๆ แค่พอให้หอมสะอาด มากเกินไประวังสีซีด
7. 
   7
   ตากผ้าดีกว่าอบด้วยเครื่อง. อย่าเอาผ้าดำไปใส่เครื่องอบผ้า เพราะความร้อนจัดๆ จะทำให้สีซีดจางเร็วและง่ายมาก พอซักเสร็จให้สะบัดผ้าแล้วเอาไปแขวนตากไว้ที่ราวจนแห้งดีกว่า

   • พอเสื้อผ้าแห้งสนิทแล้ว ก็พร้อมให้เก็บเข้าตู้ รวมกับเสื้อผ้าชุดอื่นๆ แล้ว
   โฆษณา