บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Amy Guerrero. เอมี่ เกอร์เรโรเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและงานฝีมือ และเป็นเจ้าของ Sunshine Craft Co. สตูดิโองานฝีมือในฟีนิกซ์ แอริโซนา เธอเชี่ยวชาญด้านการถักเชือกเมคราเม งานฝีมือทำเอง และสอนศิลปะเส้นใย เธอจัดเวิร์กช็อปรายเดือนทั้งในสถานที่และทางออนไลน์พร้อมกับพัฒนาชุดงานฝีมือทำเองต่างๆ สำหรับโปรเจ็กต์งานฝีมือที่บ้าน เอมี่ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจากมหาวิทยาลัยฟิลาเดลเฟีย และเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ก่อนเริ่มธุรกิจส่วนตัว Sunshine Craft Co. เป็นศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์ที่มีทั้งเวิร์กช็อป อุปกรณ์ และแหล่งข้อมูลต่างๆ มากมายสำหรับโปรเจ็กต์งานฝีมือ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชน
บทความนี้ถูกเข้าชม 13,980 ครั้ง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ การเล่นสไลม์ก็ยังเป็นเรื่องสนุก มันทั้งหนึบทั้งเหนียว แถมจิ้มเล่นสนุกมือ สูตรสไลม์ที่นิยมทำกันต้องใช้กาวและสารบอแรกซ์เป็นส่วนผสม แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีของสองอย่างนั้น ถ้าคุณไม่มีก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะพลาดความสนุกในการทำและเล่นสไลม์ไปนะ คุณแค่ต้องใช้แชมพูและส่วนผสมเพิ่มเติมอีกไม่กี่อย่างเท่านั้นเอง!
ขั้นตอน
- เทแชมพู ½ ถ้วยตวง (120 มิลลิลิตร) ลงในชาม. ยิ่งแชมพูเข้มข้นยิ่งได้ผลดี เลือกสีและกลิ่นได้ตามใจชอบเลย[1]
- เติมสีหรือกากเพชรลงไปถ้าต้องการ. ถ้าแชมพูที่ใช้มีสีขาวหรือสีใส คุณจะเติมสีผสมอาหารลงไปสักสองสามหยดก็ได้ หรือถ้าอยากได้สไลม์แบบวิบวับหน่อยก็เติมกากเพชรลงไป แล้วใช้ช้อนคนทุกอย่างให้เข้ากัน[2]
- ใส่แป้งข้าวโพดลงไป 2¼ ถ้วยตวง (280 กรัม). ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน[3] ถ้าอยากได้สไลม์ข้นๆ คุณก็ทำเสร็จแล้ว แต่ถ้าอยากได้สไลม์ที่เหลวและนุ่มหนึบกว่านี้ อ่านต่อเลย!
- ถ้าที่ที่คุณอยู่ไม่มีแป้งข้าวโพดแบบ cornstarch ให้หาแบบ cornflour แทน
- เติมน้ำเปล่าครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร). คุณอาจต้องเติมน้ำถึง 6 ช้อนโต๊ะ (90 มิลลิลิตร) ยิ่งเติมน้ำมาก สไลม์ของคุณก็จะยิ่งเหลว[4] ถ้าอยากได้สไลม์นุ่มแน่นเหมือนแป้งก็ไม่ต้องเติมน้ำเยอะ หรือไม่ต้องใส่เลยก็ได้
- นวดสไลม์ด้วยมือ. พอถึงจุดหนึ่ง สไลม์ก็จะเก็บน้ำและแป้งไว้ได้หมด เมื่อถึงตอนนั้นสไลม์ของคุณก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมเล่นแล้ว! ใช้มือควักขึ้นมาจากชามและปล่อยให้มันไหลผ่านซอกนิ้วสิ อี๋ รู้สึกหยึยๆ เนอะ
- เก็บสไลม์ในภาชนะสุญญากาศหลังเล่นเสร็จ
- คุณอาจต้องเติมน้ำลงในสไลม์สัก 1/4 ช้อนชาเมื่อจะเล่นในวันต่อไป[5]
โฆษณา
- บีบแชมพูข้นๆ ลงในชาม. คุณจะใช้แชมพูแบบไหนก็ได้ แต่แชมพูเนื้อเข้มข้นจะได้ผลดีกว่า เลือกสีและกลิ่นได้ตามใจชอบ[6]
- ใส่สบู่เหลวลงไปถ้าต้องการ. มันจะทำให้สไลม์ของคุณข้นขึ้นอีก ใช้สบู่เหลวในอัตราส่วนเท่าๆ กับแชมพูสระผม คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว[7]
- ควรเลือกสบู่เหลวให้มีสีเดียวกับแชมพู ไม่อย่างนั้นสไลม์ของคุณอาจจะออกมาสีไม่สวย
- เติมเกลือลงไปจนกว่าแชมพูจะข้นขึ้น. เราไม่ได้ระบุปริมาณเกลือที่แน่นอน เพราะแชมพูแต่ละยี่ห้อจะทำปฏิกิริยาต่อเกลือต่างกัน ลองเติมลงไปทีละหนึ่งหยิบมือแล้วคน เติมเกลือและคนเรื่อยๆ จนแชมพูเริ่มจับตัวกัน[8]
- นำไปแช่ช่องฟรีซ 15 นาที. พอแชมพูจับตัวกันแล้ว เอาชามไปแช่ช่องฟรีซทิ้งไว้ 15 นาที[9]
- เล่นสไลม์ได้. พอแช่ไว้จนครบเวลาแล้ว สไลม์ก็จะเซ็ตตัวและพร้อมเล่นได้! เมื่อเล่นเสร็จให้เก็บใส่ภาชนะสุญญากาศ ถ้ามันเริ่มเหลวเกินต้องเอาไปแช่ช่องฟรีซใหม่ (15 นาที)โฆษณา
- บีบแชมพูแบบผสมครีมนวดลงในชาม. แชมพูแบบทูอินวันดูจะให้ผลดีกว่า เลือกกลิ่นที่เข้ากับมินต์[10]
- จะใช้แชมพูแบบธรรมดาก็ได้ แต่ขอให้เป็นเนื้อครีมเข้มข้น
- ใส่ยาสีฟันลงไป. จะเป็นยาสีฟันแบบครีมหรือแบบเจลก็ให้ผลไม่ต่างกัน ใส่ยาสีฟันในปริมาณเท่าๆ กับแชมพู[11]
- ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน. คนไปจนกว่าสีจะเข้ากันและเป็นเนื้อเดียว เมื่อคนไปเรื่อยๆ แชมพูกับยาสีฟันจะรวมตัวกันและกลายเป็นสไลม์หน้าตาคล้ายปูน[12]
- ปรับความเข้มข้นได้ถ้าต้องการ. ถ้าสไลม์ข้นไปสำหรับคุณ สามารถเติมแชมพูได้อีก แต่ถ้าเหลวไปก็ใส่ยาสีฟันเพิ่มได้ พอเติมแล้วคนให้เข้ากันดี[13]
- เล่นสไลม์ได้. สไลม์แบบนี้จะไม่นุ่มหนึบเท่ากับที่หาซื้อได้ตามร้าน แต่ก็จิ้มและบีบเล่นได้สนุกเหมือนกัน พอเล่นเสร็จแล้วให้เก็บใส่ภาชนะสุญญากาศโฆษณา
เคล็ดลับ
- ใส่กากเพชรหรือกระดาษสายรุ้งแบบมันเงาเพื่อเพิ่มความวิบวับ
- เติมสีผสมอาหารเพื่อเพิ่มสีสัน หรือจะลองใช้สีน้ำก็ได้ ใช้สีผสมอาหารหรือสีน้ำสีเขียวก็จะได้สไลม์แบบเรียบๆ หน่อย
- เมื่อเล่นเสร็จแล้วให้เก็บสไลม์ใส่ภาชนะสุญญากาศ
- สไลม์อาจทำให้เลอะเทอะได้ ควรเล่นบนโต๊ะดีกว่า ไม่ควรเล่นบนพรมหรือเอามาแปะเสื้อผ้า
- สไลม์จะไม่คงอยู่ให้เล่นไปตลอด มันจะแห้งไปในที่สุด
- แชมพูยี่ห้อที่แนะนำคือ Suave Kids 2-in-1 และ Tresemme
- ใส่ไข่มุกพลาสติกหรือเม็ดโฟมลงในสไลม์เพื่อเพิ่มสัมผัสหรือให้มีเสียงกรอบแกรบก็ได้
- อย่าให้เด็กเล็กเล่นสไลม์ เด็กอาจนำเข้าปากได้เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร (ในกรณีที่กินไม่ได้)
- เติมสบู่แบบโฟมลงไปเพื่อให้สไลม์นุ่มขึ้น
สิ่งของที่ใช้
สำหรับสูตรแชมพูและแป้งข้าวโพด
- แป้งข้าวโพด 2¼ ถ้วยตวง (280 กรัม)
- แชมพูสระผม ½ ถ้วยตวง (120 มิลลิลิตร)
- น้ำเปล่า 6 ช้อนโต๊ะ (90 มิลลิลิตร)
- สีผสมอาหาร (ใส่หรือไม่ก็ได้)
- กากเพชร (ใส่หรือไม่ก็ได้)
- ชามผสม
- ช้อน
สำหรับสูตรแชมพูและเกลือ
- แชมพูสระผม
- เกลือ
- ชามผสม
- ช้อน
- ช่องฟรีซ
- สบู่เหลว (ใส่หรือไม่ก็ได้)
สำหรับสูตรแชมพูและยาสีฟัน
- แชมพูแบบทูอินวัน (ผสมครีมนวดผม)
- ยาสีฟัน
- ชามผสม
- ช้อน
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.funathomewithkids.com/2013/07/borax-free-slime-dough.html
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=Vh1NEXrH5hM
- ↑ http://www.funathomewithkids.com/2013/07/borax-free-slime-dough.html
- ↑ http://www.funathomewithkids.com/2013/07/borax-free-slime-dough.html
- ↑ http://www.funathomewithkids.com/2013/07/borax-free-slime-dough.html
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=bITMgqgHTo0
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=-URSmdNaxjk
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=bITMgqgHTo0
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=bITMgqgHTo0
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.