วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ นักเขียนที่อาสาสมัครมาได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ถูกเข้าชม 4,358 ครั้ง
ที่เรียก Butter slime เพราะเป็นสไลม์ที่แผ่หรือเกลี่ยได้เหมือนเนยนั่นเอง เวลาดึงยืดออกจากกันหรือจิ้มเล่น สไลม์นี้ก็ยังคงรูป แต่ยืดขยายได้เหมือนทาเนย เรียกว่าเป็นลูกครึ่งแป้งโดว์กับสไลม์ประมาณนั้นเลย! ถ้าอยากได้สไลม์ทำเองแบบยืดได้เกลี่ยได้ เอาไว้ปั้นหรือขยำเล่นแบบสนุกๆ butter slime นี่แหละใช่เลย
ส่วนประกอบ
- ผงบอแรกซ์ 1 ช้อนชา (5 มล.)
- น้ำร้อน 1 ถ้วยตวง (240 มล.)
- กาว 4 ออนซ์ (110 กรัม)
- สบู่โฟมล้างมือ
- ครีมโกนหนวด 1/2 ถ้วยตวง (120 มล.)
- โลชั่น
- สีผสมอาหาร (ไม่จำเป็น)
- แป้งข้าวโพด (Cornstarch)
- ดินน้ำมันสีตามชอบ
- กาว 4 ออนซ์ (110 กรัม)
- แป้งข้าวโพด (cornstarch) 1 ถ้วยตวง (240 มล.)
- แชมพู 1 ถ้วยตวง (240 มล.)
- โลชั่น 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.)
- น้ำยาซักผ้า
- สีผสมอาหาร (ไม่จำเป็น)
ขั้นตอน
- ผสมน้ำบอแรกซ์. ผสมผงบอแรกซ์ 1 ช้อนชา (5 มล.) กับน้ำร้อน 1 ถ้วยตวง (240 มล.) จนผงบอแรกซ์ละลายหมด จากนั้นเก็บไว้ก่อน เราต้องใช้ทีหลัง
- เทกาว 4 ออนซ์ (110 กรัม) ใส่ชามอีกใบ.
- ผสมสบู่โฟมล้างมือลงไป. ใส่ประมาณ 8 - 9 ปั๊ม
- ถ้าอยากให้บัตเตอร์สไลม์ของคุณกลิ่นหอมชื่นใจ ก็ให้เลือกสบู่โฟมกลิ่นที่ชอบ
- บีบโลชั่นลงไป. ประมาณ 2 - 4 ปั๊ม
- ใส่ครีมโกนหนวดประมาณ 1/2 ถ้วยตวง (120 มล.).
- ผสมทุกอย่างให้เข้ากันจนเนียน. ส่วนผสมที่ได้ต้องข้นแต่ฟู ประมาณมาร์ชเมลโลครีม (marshmallow creme)
- ใส่น้ำบอแรกซ์นิดหน่อยแล้วผสม. ให้ใส่แค่ทีละ 1 ช้อนชา แล้วคนผสมให้เข้ากัน ใส่น้ำบอแรกซ์แค่ให้สไลม์พอจับตัวกันเป็นก้อน อย่าเยอะจนสไลม์ไม่หนึบติดชาม แห้งแข็งไป ยังไงสไลม์ก็ต้องนุ่มๆ หนืดๆ
- อย่าเติมน้ำบอแรกซ์ลงไปจนหมด แค่ไม่กี่ช้อนชาก็เกินพอ เพราะถ้าใส่เยอะเกินสไลม์จะแข็งซะก่อน ทีนี้ก็ไม่ได้บัตเตอร์สไลม์อย่างที่ตั้งใจ
- พอสไลม์เริ่มจับตัวเป็นก้อน คุณจะสังเกตได้ว่าเนื้อสัมผัสคล้าย fluffy slime หรือสไลม์แบบนุ่มฟูมาก เว้นแต่จะหนืดกว่า ซึ่งก็เป็นไปตามที่เราต้องการ
- เทแป้งข้าวโพดใส่ชามแยก. กะดูว่ามีสไลม์อยู่มากน้อยแค่ไหน แล้วเทแป้งปริมาณที่เท่ากันใส่ชาม
- เอาสไลม์ไปใส่ชามแป้งข้าวโพด จากนั้นนวดผสมให้เข้ากัน. ต้องใช้เวลาหน่อย แป้งถึงจะเป็นเนื้อเดียวกับสไลม์
- แป้งข้าวโพดทำให้สไลม์ยืดหยุ่นได้เยอะ และจะได้เนื้อสัมผัสที่หนืดๆ และ/หรือ "นุ่มเหลว" เหมือนเนย ตามที่เราต้องการ
- ถ้านวดด้วยมือจะง่ายกว่า แต่ก็อาจเลอะเทอะบ้าง เพราะงั้นถ้าห่วงมือเปื้อนให้ใช้ไม้พายหรือช้อนคนผสมแทน
- เติมน้ำบอแรกซ์ลงไปอีกนิด ถ้าสไลม์หนืดไป. ถ้าผสมแป้งข้าวโพดแล้วสไลม์หนืดหรือเหลวไป ให้ใส่น้ำบอแรกซ์อีก 1 ช้อนชา (5 มล.) แล้วนวดต่อ ถ้าหลังจากนี้ยังหนืด ก็ให้เติมน้ำบอแรกซ์ตามต้องการ (ระวังคราวนี้แข็งไป)
- ห้ามเติมน้ำบอแรกซ์เยอะไปเด็ดขาด ไม่งั้นสไลม์แข็งโป๊กแน่ ที่เราต้องการคือสไลม์นุ่มหยุ่น ฉีกง่าย ไม่แน่นแข็ง
- ใส่ดินน้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ (30 มล.). หลังจากนี้จะใส่เพิ่มก็ได้ ถ้าสไลม์นิ่มเละเกินไป
- หยดสีผสมอาหารใส่ดินน้ำมัน (ไม่จำเป็น). ถ้าดินน้ำมันที่มีเป็นสีขาวล้วน จะหยดสีผสมอาหารไป 2 - 3 หยดก็ได้ โดยเลือกสีตามชอบ เวลาเอาไปผสมกับสไลม์ก็จะได้ออกมาเป็นสีที่ต้องการ แต่สีผสมอาหารติดมือแน่นทนนาน เพราะงั้นให้เริ่มจากแค่ 2 หยดก่อน แล้วนวดจนเนียน ถ้าไม่พอค่อยหยดเพิ่ม
- ถ้าอยากให้สไลม์สีเหมือนเนยสมชื่อ ก็หยดสีผสมอาหารสีเหลืองลงไปสัก 2 หยด
- ถ้าดินน้ำมันมีสีอยู่แล้ว จะข้ามขั้นตอนนี้ไปก็ได้
- นวดดินน้ำมันให้เข้ากับสไลม์. กดดินน้ำมันลงไปในสไลม์ แล้วเอามือนวดผสมจนเป็นเนื้อเดียว จับแล้วเหมือนแป้งโดว์ ถ้าดินน้ำมันมีสีอยู่แล้ว สไลม์ก็จะกลายเป็นสีตามนั้น
- ปั้นหรือขยำบัตเตอร์สไลม์เล่นตามสบาย!. เสร็จแล้วเก็บในซิปล็อคหรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดโฆษณา
- เทแป้งข้าวโพด 1 ถ้วยตวง (240 มล.) ลงในชาม.
- เทแชมพู 1 ถ้วยตวง (240 มล.) แล้วผสม. จะได้ออกมาเหมือนแป้งโดว์
- เทกาว 4 ออนซ์ (110 กรัม) ใส่ส่วนผสมที่ได้.
- ผสมโลชั่น 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) ลงไป.
- ใส่สีผสมอาหาร 2 - 3 หยด (ไม่จำเป็น). ถ้าอยากได้บัตเตอร์สไลม์สีสันสดใส ให้ใส่สีผสมอาหารไป 2 - 3 หยด จะออกมาสวยสมใจ แต่สีผสมอาหารติดมือแน่นทนนาน เพราะงั้นให้เริ่มจากแค่ 2 หยดก่อน แล้วนวดจนเนียน ถ้าไม่พอค่อยหยดเพิ่ม
- ถ้าอยากให้สไลม์สีเหมือนเนยสมชื่อ ก็หยดสีผสมอาหารสีเหลืองลงไปสัก 2 หยด
- ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จนเนียนนุ่ม ไม่เหลือก้อนแป้งเล็กๆ. ถ้าใส่สีผสมอาหารเพิ่มไปในสไลม์ ก็ต้องผสมจนไม่เหลือเส้นสีขาว
- ค่อยๆ เติมน้ำยาซักผ้า แล้วผสม. สไลม์จะเริ่มจับตัวเป็นก้อน ให้ค่อยๆ เติมน้ำยาซักผ้าจนสไลม์เริ่มหายหนึบ ไม่ค่อยติดกับชาม
- อย่าเทน้ำยาซักผ้ารวดเดียวหมด! เพราะสไลม์จะแห้งแข็งทันที นวดหรือปั้นเล่นไม่ได้ ต้องค่อยๆ ผสมลงไป แล้วเติมเป็นระยะถ้ายังไม่ได้เนื้อสัมผัสตามต้องการ
- นวดสไลม์ด้วยมือ. พอสไลม์จับตัวกันแล้ว ก็เอาออกจากชามไปนวด ไม่ให้เหนียวติด
- ถ้าสไลม์หนึบไป ให้เอาใส่กลับไปในชาม จากนั้นเติมแป้งข้าวโพดนิดหน่อยแล้วนวดต่อ สุดท้ายจะได้สไลม์นุ่มหยุ่นเหมือนแป้งโดว์
- ปั้นหรือขยำบัตเตอร์สไลม์เล่นตามสบาย!. เสร็จแล้วเก็บในซิปล็อคหรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดโฆษณา
เคล็ดลับ
- ที่ใช้แทนน้ำบอแรกซ์ได้ก็มีน้ำยาซักผ้า, น้ำยารีดผ้า หรือน้ำเกลือกับเบคกิ้งโซดา
- ถ้าอยากให้สไลม์วิบวับ ก็เติมกลิตเตอร์ ลูกปัด หรือสารพัดของฟรุ้งฟริ้งตามชอบ
- สีน้ำก็ใช้แทนสีผสมอาหารได้ แต่ต้องระวัง เพราะสีน้ำจะยิ่งติดมือ เลอะเทอะกว่าสีผสมอาหารอีก!
- ถ้าใช้สูตรผสมดินน้ำมันแล้วอยากได้สไลม์แบบมันวาว ให้ใส่เบบี้ออยล์ประมาณ 1 ช้อนชา (5 มล.) แล้วนวดจนเป็นเนื้อเดียว แต่ต้องหลังผสมแป้งข้าวโพดและน้ำบอแรกซ์แล้วนะ
คำเตือน
- ถ้าใส่น้ำยาซักผ้าหรือน้ำบอแรกซ์มากไป ระวังสไลม์แห้งแข็ง ปั้นเล่นไม่ได้
- เวลาใช้ผงบอแรกซ์ต้องระวังมากๆ เพราะถ้าเข้าปากหรือสูดดมอาจเป็นอันตราย แถมกัดมือได้ถ้าผสมไม่ดีพอ
สิ่งของที่ใช้
- ชาม (หลายๆ ใบ)
- ไม้พายหรือช้อนคน
- ภาชนะไว้เก็บสไลม์
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.