วิธีการ ทำตัวเป็นผู้หญิงลึกลับ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

เป็นเรื่องที่น่าเย้ายวนใจใช่ไหมล่ะที่จะทำตัวเปิดกว้างให้กับคนทุกคนที่อยู่รายล้อมเรา แต่ถามจริง คุณจะไปสนอะไรถ้าพวกเขารู้เรื่องคุณทุกซอกทุกมุม? แต่ถ้าเราอยากจุดประกายความสนใจของใครสักคน การทำตัวเป็นคนลึกลับดูจะเป็นกลยุทธที่เข้าท่ากว่าด้วยซ้ำ ถ้าคุณต้องการปล่อยให้คนเขานึกฉงนว่าแม่นี่เธอ “เป็น” อะไรของเธอกันนะ? รีบอ่านต่อเลยจ้า

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

คิดให้ลึกลับซับซ้อน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    เป็นตัวของตัวเอง. เคยเจอใครที่แตกต่างไปจากคุณโดยสิ้นเชิงบ้างไหม? แตกต่างเสียจนโลกทัศน์ของพวกเขานั้นช่าง...น่าสนใจ? ผู้คนพวกนี้ไม่ได้ลึกลับมาตั้งแต่เกิดหรอก พวกเขาแค่ลึกลับเพราะ “ความแตกต่าง” กันระหว่างคุณกับเขา คุณรู้ไหมว่าหนทางเดียวที่จะแตกต่างจากคนอื่นๆ คืออะไร? ก็การเป็นตัวของตัวเองไงล่ะ
    • พูดจริงนะเนี่ย ลองคิดดูสิ เวลาที่ชายหญิงออกเดทกัน องค์ประกอบของความลึกลับนั้นส่วนใหญ่ก็มาจากการที่แต่ละฝ่ายมองและโต้ตอบสนองกัน ผู้ชายมองผู้หญิงจิ๊จ๊ะไปมาในโลกที่ช่างเป็นผู้ยิ้งผู้หญิงของเธอ โดยรู้ว่าเขาไม่มีทางเป็นส่วนหนึ่งของมันได้ ส่วนผู้หญิงก็มองฝ่ายชายแบบเดียวกัน ซึ่งโลกอันโดดเด่นเฉพาะตัวของคุณเองก็ถูกมองไม่ต่างกัน ไม่ว่าคุณจะเพศไหน ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นจะเป็นแบบใด
  2. 2
    มั่นใจเข้าไว้. ในการที่จะเป็นตัวของตัวเองได้ในโลกทุกวันนี้ (โลกที่ฉาบไปด้วยภาพตามสื่อต่างๆ ว่าด้วยความจำเป็นที่เราจะต้องทำตัวกลมกลืนและยอมเปลี่ยนไปตามกระแส) คุณ “จะต้อง” มั่นใจในตัวเอง เวลาที่โลกตั้งคำถามว่า “จะจมหรือจะว่ายทวนกระแส?” มันเป็นหนทางเดียวที่คุณจะต้องว่าย และใช่เลยล่ะ ผู้คนนั้น “นิยมชมชอบ” คนที่มีความมั่นใจ พวกเขาโคตรดึงดูดใจ คนพวกนี้มีเสน่ห์ดึงดูด โน้มน้าวใจเราและน่านับถือ แล้วเราก็ไม่ยักจะตระหนักรู้ว่าเป็นมาจากสาเหตุอะไร
    • ไม่มีอะไรลึกลับเลยกับการรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เวลาที่ความรู้สึกนี้ครอบงำใจคุณ สิ่งที่คุณทำก็ล้วนแต่ถูกบังคับโดยเจ้าความคิดที่ว่า “คนอื่นเขาจะยอมรับฉันหรือเปล่าน้า?” ซึ่ง ก) มันไม่เห็นจะน่าดึงดูดใจใครตรงไหน และ ข) มันช่างมองออกได้อย่างง่ายดายและโจ๋งครึ่ม คนที่เขามีความมั่นใจ คนที่รู้สึกสบายใจที่ได้เป็นอย่างที่ตัวเองเป็น คนที่จะยืนกรานในความเป็นตัวเอง แสดงตัวออกมาตามสิ่งที่ตนศรัทธาน่ะต่างหากที่ผู้คนจะเข้ามารุมล้อม เป็นคนที่ผู้คนจะมองแล้วรำพึงออกมา “คนพวกนี้มีดีอะไรกันนะ?”
  3. How.com.vn ไท: Step 3 นิ่งเข้าไว้.
    ผู้คนที่แสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาหมดนั้นไม่เหลืออะไรให้ได้จินตนาการตามต่อมากนัก หลังผ่านไปไม่กี่วัน คุณก็รู้ว่าอะไรทำให้เขาอารมณ์เสีย อะไรทำให้เขามีความสุข อะไรที่จะต้อนเขาไปจนมุม แต่ถ้าคุณเป็นคนที่นิ่งได้ในทุกสถานการณ์ ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าคุณคิดอะไรอยู่ แต่มันอาจมีผลตรงข้ามเหมือนกัน ก็ตรงที่พวกเขาอาจเพียรพยายามอยากรู้มากขึ้นว่าแล้วจริงๆ คุณคิดอะไร!
    • เป็นคนที่ไม่คิดอะไรมากในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ และถ้าคุณจะต้องแสดงอารมณ์ออกมา ให้แสดงอารมณ์ที่ไม่จำเป็นจะต้องเชื่อมโยงกับสถานการณ์นั้นๆ หากข้างนอกอากาศร้อนทั้งที่เป็นหน้าหนาว? อะไรกันเนี่ยเทวดาจ๋า?! กำลังเล่นตลกอะไรกับโลกมนุษย์?! โธ่เอ๊ย หนาวนี้มันไม่เห็นได้เรื่องเลย รู้งี้ย้ายไปอยู่ดอยดีกว่า
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สุภาพเข้าว่า.
    เนื่องจากการเป็นคนลึกลับมักถูกเทียบเคียงให้เท่ากับ “ความดาร์ค” และ “ความเย็นชา” จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะเล่นเล่ห์กับความคิดเชิงลบนี้ด้วยการทำตัวสุภาพเข้าว่า การเป็นคนลึกลับ “ไม่ได้” หมายความว่าจะต้องหยาบคายหรือทำตัวเมินเฉย อย่าสับสนระหว่างอารมณ์สองแบบนี้! ทุกคนล้วนสมควรได้รับการปฏิบัติอย่างดี ไม่ว่าคุณจะอยากสลัดหลุดจากพวกเขาแค่ไหนก็ตาม
    • หนทางเริ่มต้นที่ดีคือให้ใบหน้ามีรอยยิ้มนิดๆ ตลอดเวลา ไม่เพียงแต่คุณจะดูเป็นมิตรและชวนเข้าหา แต่ผู้คนเป็นต้องได้นึกฉงน “ตกลงผู้หญิงคนนี้เขาคิดอะไรของเขาอยู่นะ?” ถ้าคุณเคยเดินผ่านใครสักคนตามท้องถนนที่ดูเหมือนจะยิ้มหรือหัวเราะให้กับตัวเองได้ คุณจะเข้าใจความรู้สึกนี้
  5. 5
    อย่ากลัวที่จะทำตัวเซอร์ๆ. พอเราโตขึ้น เราค่อยๆ วัดค่าสิ่งที่สังคมคาดหวังจากเราและวิธีที่เราควรแสดงออกในที่สาธารณะ คุณสามารถคว้าปีกไก่ทั้งชิ้นเข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆ แล้วถุยเศษกระดูกทิ้งลงบนพื้นก็ได้ แต่คุณไม่ทำอย่างนั้น (หวังว่านะ) ในขณะที่คุณไม่ควรยึดเอา “ตัวอย่างนี้” เป็นสรณะ แต่ลองคิดตามสัญชาตญาณที่คุณ “มี” ในบางเรื่องที่ดูไม่น่ารังเกียจเกินไปนัก อย่างเช่นเวลาที่บริกรเดินเข้ามาถามว่าจะรับอะไรดี บางทีคุณอาจอยากบอกไปว่า “ฉันบอกคุณก็ได้ค่ะ แต่บอกแล้วก็ต้องเชือดปิดปาก” พูดแบบหน้าตาย ถ้าอย่างเนี้ยโอเค
    • ในขณะที่มันอาจไม่ใช่กลยุทธที่ดูมีรสนิยมดีนัก แต่มันจะทำให้คนเขานึกสงสัยว่าในสมองคุณกำลังคิดอะไรอยู่แน่ และมันอาจดูน่าสนุก! ฉะนั้นคราวหน้าที่คุณจะสั่งสลัดกุ้ง ให้เริ่มเกริ่นว่า “ฉันเป็นคนแพ้กุ้งค่ะ” พอเขาถามว่าแล้วงั้นจะสั่งจานนี้ทำไม ก็ให้บอกเขาไปว่ากำลังฝึกให้ชินกับมันอยู่
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 อย่าลงในรายละเอียด.
    เวลาคนถามอะไรเรา ส่วนใหญ่เราจะรู้ว่าเขาคาดหวังคำตอบอะไรไว้ เมื่อมีใครถามว่า “ตอนนี้โสดอยู่รึเปล่า?” เรารู้ว่า “จริงๆ แล้ว” มันหมายถึง “ตอนนี้มีแฟนรึยัง? ถ้ามีแล้วกับใครล่ะจ๊ะ?” ฉะนั้นแทนที่จะบอกไปว่า “เปล่าค่ะ มีแฟนแล้ว เขาชื่อโจ้” ก็ให้พูดแค่ว่า “เปล่า” พวกเขาจะไม่รู้ว่าอยากคุ้ยแคะแงะต่อได้หรือเปล่า แต่ต่อมเผือกต้องทำงานแน่นอน!
    • พยายามสรุปเรื่องราวตามความเป็นจริงและถูกต้องพอที่จะทำได้โดยไม่เอาตัวเข้าไปพัวพัน อย่าสอดแทรกความคิดเห็น แค่เล่าในสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
    • อย่างเช่นถ้าแฟนคุณถามเรื่องแฟนเก่า แทนที่จะพล่ามเสียละเอียดลออว่าเหตุไฉนมันถึงไปด้วยกันไม่ได้ แค่บอกเขาไปว่า “ก็เข้ากันไม่ได้น่ะ พอเลิกเป็นแฟนกัน ฉันก็เลิกคิดถึงมันแล้วล่ะ” เรียบง่าย บางทีอาจรู้สึกห้วนๆ ไปหน่อย แต่มันตรงประเด็นและจริงใจดี
  2. 2
    ทำตัวให้อ่านไม่ออก. ปฏิกิริยาส่วนใหญ่ที่เราโต้ตอบกับคนอื่นนั้นเป็นทางอวัจนะภาษา เรามี “ภาษากาย” มากมายที่แสดงออกไปในช่วงเวลาหนึ่งบ่งบอกให้คนอื่นได้รู้ว่าเรารู้สึกอย่างไรในช่วงขณะนั้น จึงพึงรับรู้เอาไว้และใช้ประโยชน์จากรูปแบบที่ผู้คนยึดติดคิดเป็นหลักนี้ไว้อย่างมีสติ คุณก็รู้ว่าสายลับเจมส์ บอนด์ตั้งใจหมายความเช่นไรเวลาเขาพูดมุกตลก? มันคล้ายๆ แบบนั้นแหละ เวลาเขาจีบผู้หญิง เขาจะทำตัวนิ่งๆ เข้าไว้ และนั่นล่ะคือผู้ชายที่ดูช่างลึกลับ
    • คำนึงถึงท่วงท่าเวลามีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ทดลองเปลี่ยนท่าทางไปมาแล้วดูว่าคนอื่นนั้นเขาแสดงปฏิกิริยากลับมาอย่างไร เล่นกับน้ำเสียง หรือการสบตา ปล่อยให้พวกเขางงว่าคุณรู้สึกยังไง
  3. 3
    เปลี่ยนจุดโฟกัสให้ไปอยู่ที่คนอื่น. ข้อนี้น่าแปลกใจว่ามันง่าย “เอามากๆ” เมื่อต้องสนทนากับใครก็แค่เป็นฝ่ายเอ่ยถามเขาเรื่องนั่นโน่นนี่ จนพอจบการสนทนา เขาจะเหลือแต่ความคิดว่าคุณนี่ช่างเป็นคู่สนทนาที่เก่งจริงๆ โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าพวกเขาไม่ได้ล่วงรู้เรื่องทางฝ่ายคุณแม้แต่กระผีกเดียว พูดสั้นๆ ก็คือ ผู้คนชอบคุยเรื่องของตนเอง ใช้ประโยชน์จากมันซะ!
    • ถามคำถามปลายเปิด เมื่อคุณเห็นประกายน้ำเสียงของพวกเขา รีบกระโจนถามต่อทันที ให้พวกเขาได้เล่ามัน ทำตัวตั้งใจฟังให้พวกเขาเล่าต่อไปเรื่อยๆ คุณจะดูน่ารักเป็นผู้ฟังที่ดี ดูน่าคบหาอยู่ใกล้ทั้งที่แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย เห็นไหม? ง่ายจะตาย
  4. 4
    พูดแต่ข้อเท็จจริง. เวลาที่บทสนทนา “ได้” ย้ายมาที่คุณ ให้พูดในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อย่าใส่ความคิดเห็น ความเชื่อ หรือประสบการณ์ในอดีตเข้าไป ด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณสามารถเพิ่มคุณค่าแก่บทสนทนาโดยไม่ได้เปิดเผยตัวเองอะไรนัก
    • แทนที่จะพูดว่า “โอ๊ยนี่เชื่อมะ ฉันเพิ่งอ่านเจอในเน็ตเมื่อวันก่อนตอนที่กำลังนั่งฆ่าเวลารอไปเที่ยวกับเอ๋ ว่าถ้าเราดื่มน้ำมากขึ้นกว่าเดิมแค่วันละลิตร มันจะทำให้น้ำหนักลดในระยะยาวเชียวนะ ฉันต้องลองดูหน่อยแล้ว แค่ออกกำลังกายอย่างเดียวดูท่าจะไม่พอ!" ให้พูดแค่ “มีงานวิจัยเขาบอกว่าถ้าเราดื่มน้ำมากขึ้นมันจะมีผลต่อการลดน้ำหนัก เป็นวิธีที่ฟังดูเข้าทีเลยนะ” คุณได้พูดออกไปในประเด็นเดียวกันโดยไม่ได้เปิดเผยอะไรของตัวเองนัก
  5. How.com.vn ไท: Step 5 หายตัวไปอย่างลึกลับบ้าง.
    เพื่อที่จะได้รับเชิญไปงานเลี้ยงนั้น คุณจะต้องไปในงานที่คุณ “ได้” รับเชิญจริงๆ แต่พอคุณได้ย่างกรายเข้าในงานและทักทายใครต่อใครแล้ว ถ้าอยากหายวับไปก็เชิญได้เลย อย่าโผล่เสนอหน้าตลอดเวลา ทำให้คนเขานึกสงสัยว่าคุณหายไปไหน มาสายหน่อยแล้วออกจากงานเร็วกว่าคนอื่นโดยไม่ต้องอธิบายความ ทำให้พวกเขานึกแปลกใจ
    • อย่าทำแบบนี้บ่อยๆ ถ้าคุณผลุดหายไปจากงานตลอด มันจะกลายเป็นพฤติกรรมพิลึกประจำตัวคุณที่ดูน่ารำคาญใช่น้อย แล้วถ้าคุณไม่เคยโผล่ไปงานเลี้ยงเลยล่ะ ต่อไปก็ไม่มีใครเขาเชิญชวนคุณน่ะสิ ดังนั้นนี่ก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ เลือกเวลาใช้ให้ดี
  6. 6
    เก็บอดีตไว้เป็นความลับ. ถ้าคุณเพิ่งย้ายมาใหม่และอยากรักษาลับลมคมในเอาไว้ ก็จงอย่าเอ่ยถึงอดีต คุณจะประหลาดใจเลยทีเดียวว่าสามารถเอาตัวรอดออกมาจากหลายๆ เรื่องได้! หากมีใครถามว่าคุณย้ายมาจากที่ไหน บอกออกไปแบบ “มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณเคยอยู่ที่ไหน สำคัญว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนต่างหาก” หรือไม่งั้น ก็เอาแบบง่ายๆ แค่ว่า “แม่ฮ่องสอน” โดยไม่มีรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม รับรองเรียกความฉงนใจได้แน่นอน
    • ถ้าการเก็บงำอดีตฟังดูเป็นประเด็นเกินไป ก็ให้เล่นมันเหมือนเกมไปเลย เล่าให้ทุกคนฟังว่าคุณเคยอยู่ที่เวียดนามและทำงานในฟาร์มเลี้ยงกระรอก แล้วบอกว่าคุณเคยเป็นแม่ครัวในภัตตาคารหรูตอนอยู่ถิ่นเก่าแล้วระหว่างนั้นให้แทรกเนื้อหาส่วนที่ว่าคุณเคยเป็นเพื่อนซี้กับณเดชน์ลงไป สนุกไปกับจินตนาการที่โลดแล่นเลยใช่ไหมล่ะ?
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ฝึกฝนท่าทางการเป็นคนลึกลับ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    มีท่วงท่าที่สมบูรณ์แบบ. การเดินห่อตัวแสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจในตนเอง และแทนที่จะดูลึกลับ กลับเป็นว่าดูคุณขี้อายหรือไม่ก็แปลกแยกซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากเป็นเลย ท่วงท่าที่สมบูรณ์แบบคือการยืดอกยกไหล่แต่ยังคงรักษาแนวท้องเป็นเส้นตรง ถ้าท่วงท่าการยืนของคุณดูแย่ ก็หัดพัฒนามันหน่อย การมีท่วงท่าการยืนสง่าจะทำให้คุณแลดูมีความมั่นใจและน่าดึงดูด ซึ่งจะเรียกความสนใจอยากรู้จักจากทั้งชายและหญิง ให้คุณได้พบปะเพื่อนคุยอีกเยอะแยะ
  2. 2
    พัฒนาสไตล์ที่เป็นเฉพาะตัว. น่าเสียดายที่เทรนด์การแต่งกายทำให้ง่ายต่อการเหมารวม หรืออย่างน้อยก็ง่ายต่อผู้คนจะคิดว่าเราสามารถเหมารวมให้เป็นพวกใด ผูกผ้าพันคอพร้อมแว่นดำกรอบโต? คุณคือพวกฮิปสเตอร์ สวมเสื้อยืดที่โชว์หน้าอกหน้าใจพร้อมกระโปรงตัวสั้นจุ๊ด? คงไม่ต้องให้บอกว่าจะถูกเหมารวมว่าเป็นอะไร ใส่กางเกงเอวต่ำเตี้ยเรี่ยสะโพกและรองเท้าไม่ผูกเชือกล่ะ? เฮ้อ ดังนั้นแทนที่จะถูกตีตราว่าต้องเป็นแบบไหน ให้สร้างแบบของเราเองขึ้นมา
    • ถ้าคุณชอบ ก็ลุยเลย คุณสามารถผสมผสานสไตล์ต่างแบบในทีเดียวกัน หรือจะเปลี่ยนลุคสามแบบในสามคราว วันหนึ่งใส่แว่นกรอบดำดูเด็กเรียน วันถัดมาเปลี่ยนเป็นแนวลุยๆ อีกวันใส่เสื้อยืดทำเอง หรือเอาทั้งหมดมาใส่ร่วมกันในคราวเดียวก็ได้ แล้วแต่ว่าอะไรที่มันใส่แล้ว “โดน”
  3. 3
    เลือกงานอดิเรกที่มันไม่เกี่ยวโยงกัน. ถ้าคุณเห็นนักฟุตบอลประจำโรงเรียนทั่วไปสักคนหนึ่ง คุณอาจจะคิด “อ๋อ เขาก็คงชอบเล่นกีฬา บ้าแต่งรถ ชอบสังสรรค์กับเพื่อนทุกวันศุกร์ และมีแฟนขาวหมวย” ถ้าไปเห็นสมาชิกวงดนตรีร็อคของโรงเรียนก็อาจคิดว่า “ดูนิ่งๆ เน้นเท่ อาจมีเพื่อนไม่กี่คน อยู่ติดบ้าน โดยทั่วไปก็คงนิสัยดี บางทีอาจเป็นพวกติดเกม” ถึงแม้มันจะดูเป็นการเหมารวมซึ่งไม่ได้ถูกต้องเสมอไป ทำไมไม่ลองเอามันมาผสมกันเลยล่ะ เป็นผู้หญิงที่นุ่งกระโปรงสั้นทาลิปสติกแต่อ่านหนังสือปรัชญา เป็นนักเป่าแซกโซโฟนที่โผล่ไปเชียร์ฟุตบอลทุกสุดสัปดาห์ ทำให้หมดทุกด้านเลย
    • ยิ่งคุณปราดเปรียวไม่อยู่นิ่ง ก็จะยิ่งยากที่คนอื่นจะจับคุณใส่กล่องเหมารวม และพอเขาจับคุณใส่กล่องตีตราให้ คุณก็ไม่ดูลึกลับแล้วถูกไหม ฉะนั้นออกไปทำอะไรที่ “คุณ” ปกติไม่ได้ทำ ไม่เพียงแต่คุณจะยังคงความลึกลับ แต่คุณอาจได้พบบางสิ่งที่ชอบทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดจะชอบมาก่อนก็ได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รักษาอารมณ์ให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด.
    เวลาที่ผู้คนมีโอกาสยั่วยุให้คุณโมโห พวกเขาไม่ยอมพลาดแน่ เมื่อพวกเขารู้ว่าอะไรทำให้คุณอารมณ์เสีย อะไรทำให้คุณตื่นเต้น พวกเขาจะรู้สึกว่าจับคุณได้อยู่หมัดแล้ว หลีกเลี่ยงการแสดงอารมณ์แบบโจ่งแจ้งเพื่อจะได้ไม่โดนถูกแขวน ถ้าผู้คนไม่สามารถหยั่งรู้ว่าคุณรู้สึกยังไง พวกเขาก็จะไม่มีวันรู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร พอคุณโผล่หน้ามา พวกเขาจะไม่รู้กระทั่งว่าคุณชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง และคุณมีจุดยืนอย่างไร คนส่วนใหญ่ไม่สามารถปิดปากตัวเองได้หรอก!
    • เป็นความคิดที่ดีถ้าจะลดเสียงให้เบาที่สุดด้วย เคยสังเกตไหมว่าคนพูดจาเสียงดังไม่เคยให้ความรู้สึกลึกลับเลย? ไม่เคยมีใครพูดว่า “นักท่องเที่ยวชาวจีน พวกเขาช่างดูลึกลับจังเลย!” ดังนั้นจงกระซิบกับคนข้างๆ ด้วยใบหน้าที่เมินเฉยนั้นได้ตามสบาย ทุกคนคงจะคิดว่าคุณกำลังพูดถึงพวกเขาอยู่ ชนะใสๆ อ้อ ก็หมายถึงเกมที่เราเล่นอยู่นี่ไง
  5. 5
    ออฟไลน์. ..เป็นส่วนใหญ่ คุณรู้จักคนที่อัพเดทข้อมูลส่วนตัวบนเฟซบุ๊คทุกๆ หกวินาทีด้วยข้อความประเภท “โอ๊ย ให้ตายเถอะ ฉันลืมกินข้าวไปเลย” อะไรทำนองนี้บ้างไหม? อย่าริเป็นบุคคลคนนั้น ไอ้คนพรรค์นี้แหละที่ทำลายเฟซบุ๊คไปจากเราทุกคน อย่าโพสต์ภาพของทุกอย่างที่กำลังจะเข้าปากคุณ อย่าโพสต์รูปเซลฟี่ที่คุณถ่ายในห้องน้ำตอนรู้สึกเซ็งๆ อย่าอัพสเตตัสเลื่อนลอยแบบพยายามแสดงความรู้สึกแบบโลกสวย เวลาที่คุณมีอะไรจะบอกโลกออนไลน์ ช่วยใช้ให้มันคุ้มค่าหน่อย
    • ข้อเท็จจริงของประเด็นนี้ก็คือเราไม่จำเป็นต้องรู้ไปหมดว่าพวกเรากำลังทำอะไรอยู่ในนาทีนี้ ยิ่งรู้น้อยก็ยิ่งดี นี่พูดจริงๆ เลย ถ้าคุณต้องการจะเป็นคนลึกลับ ก็ปล่อยให้คนอื่นนึกฉงนสงสัยว่าคุณอยู่ที่ไหน อยู่กับใครและกำลังทำอะไรกันอยู่ ดังนั้นหลีกเลี่ยงการเช็คชื่อในร้านสตาร์บัคทุกๆ เช้า หลีกเลี่ยงสเตตัส “ถึงคนนั้นคนนี้” พยายามขัดขืนแรงยวนใจที่จะใส่แฮชแทกหลังทุกประโยคที่คุณพิมพ์ออกไป ถึงโซเชียลเน็ตเวิร์คจะมีประโยชน์ก็จริง แต่อย่าใช้มันจนคนทั้งโลกรู้ทุกอย่างที่คุณคิดและทำ
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ถ้าจะทำก็ทำให้สุด.
    มีไอเดียอีกเป็นล้านเลยล่ะที่คุณจะใช้ประโยชน์ได้หาก “อยาก” เป็นคนดูลึกลับ คุณสามารถทำอะไรงี่เง่าแบบสวมแว่นกันแดดดำตลอดเวลา แต่งห้องในแนวกอธิคแต่ยังคงธีมตกแต่งแบบเจ้าหญิง คุณสามารถยกนิ้วขึ้นทำสัญลักษณ์เครื่องหมายคำพูดในอากาศแล้วพูดเรื่องประเภท “วันนี้ฉันไป”ไปรษณีย์”มาล่ะ” คุณจะใส่ผ้าคลุมยังได้เลย อยู่ที่กล้าจะไปให้ไกลแค่ไหน?
    • อยากจะทำอะไรสนุกๆ ไหมล่ะ? แสร้งทำเป็นคนที่คุณไม่ได้เป็น เวลาไปงานปาร์ตี้ บอกชื่อปลอมกับคนอื่นๆ และถามว่าเพิ่งมีม็อบเกิดขึ้นแถวนี้หรือเปล่า มันไม่เหมือนกับการเป็นตัวของตัวเอง แต่น่าสนุกไม่หยอก!
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าปล่อยให้มีคนเข้ามาในเกมการทำตัวเป็นคนลึกลับของคุณมากเกินไป ไม่งั้นมันก็ไม่ลึกลับนะสิ!
  • พยายามใช้คำประเภทที่คนต้องไปเปิดพจนานุกรมดูหลังจากที่ได้คุยกับคุณ
  • เวลาพิมพ์ข้อความ อย่าใช้การแสดงอารมณ์แบบเกร่อๆ อย่าง 5555 ให้ลองพิมพ์ “ฟังดูตลกดีนะ” อาจเบื่อที่ต้องพิมพ์ยาวหน่อย แต่มันเติมความลึกลับให้คุณ และคนจะมองมันจริงจังมากขึ้น
  • พยายามอย่าทำตัวจนสามารถเหมารวมให้ข้อจำกัดความคุณว่า “ลึกลับ” ฟังดูเพี้ยนๆ ดีใช่ไหมล่ะ พอคุณถูกจำกัดความแบบนั้น “ความลึกลับ” ของคุณมันจะไม่ดูลึกลับนักอีกต่อไป
  • เคล็ดลับคือโดดเด่นแต่กลมกลืน นั่นหมายความว่าคุณจะเป็นที่จดจำว่ามีบุคลิกไม่เหมือนใครโดยไม่ได้พยายาม
  • รู้ว่าคุณต้องการจะทำตัวลึกลับ “เพราะ” เหตุใด นี่เป็นเกมที่คุณกำลังเล่นอยู่หรือเปล่า
  • อย่ากลัวที่จะใช้คำหรูเริ่ดอลังการ! ใช้คำที่ทำให้ผู้คนต้องหลุดปากว่า “ว่าไงนะ?” และถ้าเขาเอ่ยปากถามจริงๆ ก็แค่ยักไหล่แล้วอมยิ้ม ไม่มีอะไรจะเอาชนะคนลึกลับที่ฉลาดด้วยได้
  • ใช้คำประเภทบริบทและอะกาลิโก มันจะทำให้คนต้องนั่งคิด “ไอ้เจ้าอะกาลิโกนี่มันคืออะไรนะ?"
  • เวลาเป็นคนลึกลับ อย่าแสดงอารมณ์ออกมามากนัก อย่าพูดมาก แต่ให้เงียบสงบปากสงบคำ คุณสามารถเป็นสาวนิ่งเงียบที่เล่นคาราเต้และชอบอนิเมะ หรือเป็นสาวขี้โวยวายแต่ขี้อาย! เอาแต่ละอย่างมาผสมผสานกันสักหน่อย
โฆษณา

คำเตือน

  • บางคนอาจมองว่าคุณนั้น “เพี้ยน” อย่ามองว่ามันเป็นคำตำหนิ ให้มองเป็นคำชมแทน
  • การเป็นคนลึกลับไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีเพื่อนไม่ได้ คุณยังมีเพื่อนเป็นโขยงแล้วยังดูลึกลับก็ได้ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณนำเสนอตัวเองอย่างไรต่างหาก
  • การทำตัวลึกลับจนเกินไปอาจทำให้บางคน โดยเฉพาะพ่อและแม่ คิดว่าคุณแอบไปก่อเรื่องอะไรไม่ดีหรือเปล่า ฉะนั้นทำตัวเงียบๆ อย่าล้ำเส้น
  • ผู้คนอาจคิดไปเองได้ว่าคุณไม่ชอบพวกเขาแล้วและไม่เข้ามากวนคุณหรืออาจเมินคุณหรือเลิกคบไปเลยก็ได้ ถ้าคุณยังอยากรักษาเพื่อนพวกนี้ไว้ ก็อย่าทำแบบนี้ตลอดเวลา ไม่คุ้มกันหรอกถ้าต้องอยู่โดดเดี่ยว แม้มันจะน่าสนุกก็ตาม
  • คุณอาจถูกมองว่า “เจ้าอารมณ์”
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 58 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 54,885 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 54,885 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา