ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 12,205 ครั้ง
นับวัน Ubuntu ก็ยิ่งกลายมาเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ แต่แน่นอนว่าโปรแกรมส่วนใหญ่นั้นใช้ได้บนระบบ Microsoft Windows เท่านั้น ข่าวดีก็คือมีโปรแกรมชื่อ Wine ที่สามารถทำให้โปรแกรมทั้งหลายนั้นใช้งานได้บน Ubuntu ของคุณ ที่สำคัญคือคุณสามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ เพราะฟรีและถูกกฎหมายอีกต่างหาก
ขั้นตอน
1เปิด Software Center ขึ้นมาก่อน. ซึ่งก็คือ package manager ของ Ubuntu และถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการติดตั้ง Wine เวอร์ชั่นที่เสถียรที่สุดสำหรับใช้งานใน Ubuntu ที่คุณต้องการคืออินเทอร์เน็ต แค่นั้นก็พร้อมติดตั้งแล้ว[1]- เรารู้คุณอยากติดตั้ง Wine เวอร์ชั่นล่าสุด แต่เราไม่แนะนำเพราะมันยังไม่เสถียรมากนัก ซึ่งอาจก่อปัญหาร้ายแรงเวลาคุณใช้งานได้
2มองหา "wine" ใน Software Center. ปกติโปรแกรม Wine จะอยู่บนสุดของรายการเลย
3คลิก "Install" เพื่อเริ่มติดตั้งโปรแกรม Wine. อดใจรอสัก 2 - 3 นาทีนะ
4พอติดตั้ง Wine เสร็จแล้วให้เปิด Terminal ขึ้นมา. ต้องปรับแต่งค่าต่างๆ ของ Wine ซะก่อนถึงจะเริ่มใช้งานได้ โดยปรับแต่งผ่าน Terminal- คุณเปิด Terminal ได้ที่ Applications → Accessories → Terminal หรือกด Ctrl+Alt+T
5พิมพ์ .winecfg แล้วกด ↵ Enter. จะเป็นการสร้างโฟลเดอร์ขึ้นมาในคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้แทนไดรฟ์ "C:" ของ Windows ให้คุณสามารถใช้งานโปรแกรมต่างๆ ได้- โฟลเดอร์นี้จะมีชื่อว่า .wine และจะซ่อนอยู่ใน directory Home
6ปรับแต่งตัวเลือกการตั้งค่าของ Windows emulation หรือ "Windows เสมือน" ของคุณ. พอสร้างไดรฟ์ "C:" เรียบร้อยแล้ว หน้าต่าง configuration สำหรับปรับแต่งก็จะปรากฏขึ้น คุณสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ สำหรับ Windows เสมือนของคุณได้เลย โดยเลือกปรับแต่งจากแถบตัวเลือกต่างๆ- "Applications" - ให้คุณเลือกเวอร์ชั่นของ Windows สำหรับแต่ละโปรแกรมที่ติดตั้ง โดย "Default Settings" ก็คือเวอร์ชั่นของ Windows ที่จะใช้เปิดโปรแกรมต่างๆ ที่ไม่ได้กำหนดระบบปฏิบัติการไว้เฉพาะเจาะจง
- "Libraries" - ให้คุณปรับแต่งไฟล์ DLL ของ Windows เสมือนของคุณ ถ้าคุณเป็นผู้ใช้ทั่วไปไม่ได้เชี่ยวชาญมากนักจะปล่อยไว้เฉยๆ ก็ได้ เพียงแต่การปรับแต่งตรงนี้จะช่วยให้บางโปรแกรมทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้นก็เท่านั้น
- "Graphics" - ให้คุณปรับแต่งตัวเลือกต่างๆ อย่างขนาดหน้าจอ, mouse capture หรือ resolution ได้ โดยจะอยู่ในส่วนของแถบ "Applications" คุณจึงสามารถปรับแต่งแบบระบุโปรแกรมได้
- "Drives" - ให้คุณสร้างไดรฟ์เสมือนสำหรับ Wine จากไดรฟ์และโฟลเดอร์ของคุณเองได้ โดยการจะระบุปลายทางของไดรฟ์นั้น ก็แค่คลิกขวาที่ไอค่อนที่หน้าจอ desktop นอกจากนี้ยังสามารถคลิก "Autodetect" ได้ด้วยเพื่อให้ Wine ลองหาไดรฟ์ที่ติดตั้งไว้แล้วโดยอัตโนมัติ
- "Desktop Integration" - ให้คุณปรับแต่งธีมและหน้าตาของโปรแกรมเสมือนของคุณ
- "Audio" - เป็นการปรับแต่งค่า audio หรือเสียงของ Wine เช่นกัน ถ้าคุณเป็นผู้ใช้ทั่วไปก็ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งอะไร Wine จะไปใช้ค่าที่กำหนดไว้ของ Linux เอง
โฆษณา
1ดาวน์โหลดโปรแกรมของ Windows มา หรือติดตั้งจากแผ่นโปรแกรม. คุณสามารถติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ได้เหมือนเวลาใช้งานทั่วไปใน Windows ถ้าคุณดาวน์โหลดตัวติดตั้งมา ก็ให้เอาไปแปะไว้ที่ไหนก็ได้ในเครื่องที่หาเจอง่ายๆ
2เปิด Terminal ขึ้นมาแล้วไปที่โฟลเดอร์ที่มีตัวติดตั้งอยู่. ถ้าคุณติดตั้งด้วยแผ่นโปรแกรม ให้ข้ามไปดูขั้นตอนถัดไปได้เลย
3เริ่มติดตั้งด้วยการพิมพ์ .wine programname.extension. เช่น ถ้าคุณดาวน์โหลดไฟล์ชื่อ "itunes_installer.exe" มา ก็ให้พิมพ์ wine itunes_installer.exe แล้วกด ↵ Enter จะเป็นการเปิดโปรแกรมเหมือนตอนเปิดด้วย Windows- ถ้าเลือกติดตั้งผ่านแผ่น ขอให้แน่ใจว่ามีตัวอักษรของ disc drive นั้นอยู่ใน Wine แล้ว จากนั้นให้พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้ wine start 'D:\setup.exe' โดยใส่ชื่อไฟล์ตามชื่อไฟล์ของคุณ
4ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏเพื่อติดตั้งโปรแกรม. การติดตั้งจะเริ่มต้นขึ้นเหมือนเวลาติดตั้งโปรแกรมใน Windows ถ้าเครื่องถามตำแหน่งปลายทางที่จะติดตั้งโปรแกรม ให้เลือก C:\Program Files
5หาโปรแกรมที่ติดตั้งแล้วได้ในเมนู Ubuntu Applications หรือที่หน้า desktop. ส่วนใหญ่โปรแกรมของ Windows ก็จะสร้าง shortcut ขึ้นมาเหมือนเวลาติดตั้งใน Windows นั่นแหละ คุณสามารถเปิดโปรแกรมได้ง่ายๆ แค่กดดับเบิลคลิก
6เปิดโปรแกรมที่ติดตั้งแล้วผ่าน Terminal ก็ได้ถ้าหา shortcut ไม่เจอ. ถ้าติดตั้งแล้วไม่มี shortcut ของโปรแกรมขึ้นมา คุณก็เปิดโปรแกรมด้วย Terminal ได้เลย[2]- ไปที่ตำแหน่งของไฟล์ที่ใช้เปิดโปรแกรม เช่น /home/user/.wine/drive_c/Program Files/Apple
- พิมพ์ wine progamname.extension แล้วกด ↵ Enter เพื่อเปิดโปรแกรม เช่น wine itunes.exe
7สร้าง shortcut ไว้เปิดโปรแกรมของ Wine. ถ้าคุณไม่อยากมานั่งพิมพ์คำสั่งของ Wine ลงใน Terminal ทุกครั้งที่จะเปิดโปรแกรม คุณสามารถสร้าง shortcut ไว้ที่หน้า desktop ได้เลย- คลิกขวาที่หน้า desktop แล้วเลือก "Create launcher"
- เลือกไอค่อนจากในรายชื่อหรือจะเพิ่มขึ้นมาเองก็ได้
- ในแถบ "Command" ให้พิมพ์ wine progam-location/program.extension ตรงส่วนของ location ก็คือตำแหน่งของไฟล์ที่เอาไว้ใช้เปิดโปรแกรม เช่น wine /home/user/.wine/drive_c/Program Files/itunes.exe
- เอาติ๊กถูกออกจากช่อง "Run in terminal"
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 12,205 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 12,205 ครั้ง
หมวดหมู่: ระบบปฏิบัติการอื่นๆ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,205 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
