ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การมีทัศนคติเชิงบวกนั้นเป็นเรื่องของการเลือก คุณสามารถเลือกที่จะคิดในสิ่งที่ยกระดับอารมณ์ คิดในเชิงสร้างสรรค์แม้ในยามที่ยากลำบาก และเติมสีสันให้แต่ละวันด้วยความคิดที่สดใสเปี่ยมในความหวังกับทุกสิ่งที่คุณทำ โดยการเลือกที่จะมองชีวิตในมุมบวก คุณจะเริ่มหลุดออกจากกรอบความคิดในแง่ลบและมองชีวิตว่าเปี่ยมไปด้วยหนทางความเป็นไปได้และทางออกแทนที่จะมีแต่ความกังวลกับอุปสรรค หากคุณต้องการจะรู้วิธีคิดในเชิงบวกมากขึ้น แค่อ่านตามเคล็ดลับเหล่านี้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ประเมินความคิดของตนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 แสดงความรับผิดชอบในกิริยาท่าทีของตน.
    คุณเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบความคิดทั้งหมดของคุณเพียงคนเดียว และทัศนคติที่คุณมีต่อชีวิตก็คือสิ่งที่คุณเลือกแล้ว[1] ถ้าคุณมีแนวโน้มจะคิดแต่ในแง่ลบ คุณก็เลือกที่จะคิดเช่นนั้นเอง หากได้ฝึกฝนคุณเองก็สามารถเลือกจะมีทัศนคติที่เป็นเชิงบวกมากขึ้นได้[2]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เข้าใจในประโยชน์ของการเป็นคนคิดในแง่บวก.
    การเลือกคิดในแง่บวกมากขึ้นไม่เพียงแต่จะช่วยคุณควบคุมชีวิตและทำให้กิจวัตรประจำวันดูน่าสุขสมมากขึ้น แต่มันยังสร้างประโยชน์แก่สุขภาพทั้งทางจิตและทางกาย รวมไปถึงความสามารถในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอีกด้วย การตระหนักในประโยชน์ที่ได้เหล่านี้จะช่วยให้คุณยิ่งทวีแรงจูงใจให้คิดเชิงบวกเป็นประจำ[3]นี่คือผลพลอยได้จากการคิดเชิงบวก:
    • อายุยืนขึ้น
    • ลดอัตราความซึมเศร้าและความรู้สึกหดหู่ลง
    • มีภูมิต้านหวัดมากขึ้น
    • มีสภาพร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้น
    • มีความสามารถรับมือช่วงที่เครียดได้ดีขึ้น
    • สามารถสร้างสัมพันธ์ที่มั่นคงและผูกพันกับคนอื่นได้เป็นธรรมชาติขึ้น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เขียนสมุดบันทึกเพื่อสะท้อนความคิด.
    การบันทึกความคิดจะช่วยให้คุณได้ถอยกลับมาประเมินรูปแบบในสิ่งที่คุณคิด ให้เขียนความคิดและความรู้สึกลงไปและพยายามมองหาตัวกระตุ้นใดๆ ที่นำไปสู่ความคิดทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ ใช้เวลาเพียงแค่ยี่สิบนาทีในการติดตามรูปแบบความคิดในช่วงเวลาก่อนนอนสามารถกลายเป็นวิธีที่มีค่ายิ่งสำหรับการระบุความคิดในแง่ลบและหาทางวางแผนเปลี่ยนเจ้าความคิดนี้ให้เป็นความคิดเชิงบวก
    • บันทึกของคุณจะมีรูปแบบไหนก็ตามใจคุณเลย ถ้าคุณไม่สนใจที่จะเขียนสะท้อนความคิดเป็นบทยาว ก็สามารถทำเป็นบัญชีรายชื่อของความคิดเชิงบวกและความคิดเชิงลบที่คุณมีในวันนั้น
    • ให้แน่ใจว่าตนเองมีเวลาและโอกาสที่จะประเมินและคิดกลับกับข้อมูลในสมุดบันทึกนั้น ถ้าคุณเขียนประจำทุกวัน คุณอาจต้องการจะสะท้อนความคิดทั้งหมดในปลายของทุกสัปดาห์ก็ได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ต่อสู้กับความคิดในแง่ลบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หาความคิดในแง่ลบโดยอัตโนมัติของคุณ.
    เพื่อที่จะสลัดหลุดจากความคิดในแง่ลบที่คอยรั้งคุณไว้ไม่ให้มีทัศนคติเชิงบวกแล้ว คุณจะต้องตระหนักใน “ความคิดในแง่ลบโดยอัตโนมัติ” ของคุณมากยิ่งขึ้น เมื่อคุณสังเกตเห็นมันแล้ว คุณจะอยู่ในตำแหน่งที่จะท้าทายมันและออกคำสั่งให้มันถอยออกไปจากความคิดคุณ[4][5]
    • ตัวอย่างของความคิดในแง่ลบโดยอัตโนมัติก็เช่น ทันทีที่ได้ยินว่าจะมีการสอบ คุณก็คิด “สงสัยตกแหงๆ” ความคิดนี้เป็นไปแบบอัตโนมัติเพราะมันเป็นปฏิกิริยาแรกทันทีที่คุณได้ยินเรื่องการสอบ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ท้าทายความคิดในแง่ลบของคุณ.
    ถึงแม้คุณจะใช้กว่าค่อนชีวิตคิดในแง่ลบ ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องยังคงคิดลบอยู่แบบนี้ไปตลอด เมื่อใดก็ตามที่เกิดความคิดเชิงลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดที่เกิดขึ้นอัตโนมัติ ให้หยุดคิดทบทวน[6] ไม่ว่าความคิดนั้นจะเป็นความจริงหรือค่อนข้างถูกต้อง[7]
    • วิธีหนึ่งที่ใช้ท้าทายความคิดเชิงลบคือลองไปเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ ให้เขียนความคิดในแง่ลบแล้วหยุดคิดว่าตัวคุณเองจะรู้สึกอย่างไรถ้ามีใครคนอื่นพูดอย่างที่คุณคิดใส่หน้า เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะสามารถหาข้อโต้แย้งให้ความคิดในแง่ลบของคนอื่นได้ แม้ว่าจะรู้สึกว่ายากหากมันเป็นเรื่องของตัวเอง[8]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจเกิดความคิดแง่ลบว่า “ฉันสอบทีไรก็ตกทุกที” มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ที่คุณยังจะอยู่ในโรงเรียนถ้าคุณสอบตกมาโดยตลอดจริง กลับไปดูผลการเรียนย้อนหลังดูผลสอบเลื่อนชั้นดู นี่คือการท้าทายความคิดในแง่ลบ คุณจะพบว่าคุณเคยสอบได้เกรด A และ B มาหลายตัว ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่าความคิดในแง่ลบของคุณนั้นมันเกินจริงไปเยอะ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แทนที่ความคิดในแง่ลบด้วยความคิดเชิงบวก.
    พอคุณรู้สึกมั่นใจว่าสามารถบ่งชี้และท้าทายความคิดแง่ลบแล้ว คุณก็พร้อมที่จะเลือกแทนที่ความคิดแง่ลบด้วยความคิดเชิงบวก[9] นี่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างในชีวิตคุณจะต้องเป็นไปในเชิงบวกตลอดเวลา มันเป็นเรื่องปกติที่คนเราจะมีอารมณ์หลากหลาย อย่างไรก็ตาม คุณสามารถแทนที่รูปแบบความคิดในชีวิตประจำวันที่ไม่เอื้อประโยชน์อันใดเลยให้เป็นความคิดที่ช่วยคุณเบิกบาน
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณคิดว่า “ฉันคงสอบตกแน่เลย” ให้หยุดคิดซะ คุณได้มองความคิดนี้ในแง่ลบและประเมินความเป็นไปได้ของมันไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ลองแทนที่มันด้วยความคิดในเชิงบวก ความคิดในเชิงบวกนั้นไม่จำเป็นต้องมองโลกในแง่ดีชนิดไม่ลืมตามองความจริง ดังเช่น “ฉันจะต้องสอบได้ 100 คะแนนเต็ม โดยที่ไม่ต้องอ่านหนังสือ” มันอาจเป็นอะไรง่ายๆ แค่ “ฉันจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวอ่านหนังสือ เพื่อจะทำคะแนนตอนสอบให้ดีที่สุด”
    • ใช้พลังของการตั้งคำถาม เวลาที่คุณตั้งคำถามกับสมอง มันมักหาทางหาคำตอบแก่คุณ ถ้าคุณถามตัวเองว่า “ทำไมชีวิตมันถึงได้แย่ยังงี้หนอ?” สมองก็จะพยายามเพียรหาคำตอบ มันก็ต้องเป็นจริงเหมือนกันถ้าคุณถามตัวเองว่า “ทำไมฉันถึงได้โชคดีอะไรยังงี้?” จึงให้ถามตัวเองด้วยคำถามที่เน้นไปตรงความคิดในเชิงบวก
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ลดทอนอิทธิพลภายนอกที่กระตุ้นความคิดในแง่ลบแก่ตัวคุณให้ออกมาน้อยที่สุด....
    ลดทอนอิทธิพลภายนอกที่กระตุ้นความคิดในแง่ลบแก่ตัวคุณให้ออกมาน้อยที่สุด. คุณอาจพบว่าภาพยนตร์, ดนตรีหรือวิดีโอเกมที่มีความรุนแรงบางแนวมีอิทธิพลต่อแนวคิดโดยรวมของคุณ[10] > พยายามลดทอนการรับสิ่งเร้าทางความตึงเครียดหรือความรุนแรงแล้วมาใช้เวลาฟังดนตรีหรืออ่านหนังสือสงบจิตสงบใจ ดนตรีนั้นมีประโยชน์กับจิตใจเป็นอย่างมากและหนังสือเกี่ยวกับแนวคิดเชิงบวกนั้นก็สามารถแนะเคล็ดลับดีๆ สำหรับการเป็นคนที่มีความสุขยิ่งขึ้นได้
  5. How.com.vn ไท: Step 5 หลีกเลี่ยง “การคิดแบบไม่ขาวก็ดำ”.
    ในความคิดรูปแบบนี้ หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “สุดขั้ว” ทุกอย่างที่คุณเจอจะเป็น ใช่” หรือไม่ก็ “ไม่ใช่” มันมีอะไรเป็นสีเทาตรงกลางเลย มันจะส่งผลให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาต้องทำอะไรให้สมบูรณ์แบบหรือไม่ก็ล้มเหลวไปเลย[11]
    • ในการหลีกเลี่ยงแนวคิดเช่นว่านี้ ให้ชีวิตได้เปิดรับอะไรที่มันเป็นสีเทาบ้าง แทนที่จะคิดว่าผลลัพธ์ออกมาได้แค่สองด้าน (ด้านหนึ่งแง่บวกและด้านหนึ่งแง่ลบ) ให้เขียนผลลัพธ์ทั้งหมดที่อยู่ระหว่างสองขั้วนี้เพื่อจะได้เห็นว่ามันไม่ได้เลวร้ายเหมือนอย่างที่เห็น
    • ในการหลีกเลี่ยงแนวคิดเช่นว่านี้ ให้ชีวิตได้เปิดรับอะไรที่มันเป็นสีเทาบ้าง แทนที่จะคิดว่าผลลัพธ์ออกมาได้แค่สองด้าน (ด้านหนึ่งแง่บวกและด้านหนึ่งแง่ลบ) ให้เขียนผลลัพธ์ทั้งหมดที่อยู่ระหว่างสองขั้วนี้เพื่อจะได้เห็นว่ามันไม่ได้เลวร้ายเหมือนอย่างที่เห็น
      • คุณยังควรหลีกเลี่ยงความคิดที่ว่าผลลัพธ์เดียวที่จะได้คือไม่ได้เกรด A ก็ได้เกรด F ไปเลย มันยังมี “ส่วนสีเทา” ตรงกลางระหว่างนั้นระหว่างเกรด A กับเกรด F
  6. How.com.vn ไท: Step 6 หลีกเลี่ยง “การตีตนไปก่อนไข้”.
    การตีตนไปก่อนไข้คือการเหมาสรุปว่าคุณคือคนเดียวที่สมควรถูกตำหนิในทุกเรื่องที่เกิดผิดพลาดขึ้น หากคุณคิดแบบนี้จนสุดโต่ง คุณอาจเป็นบ้าเอาได้และคิดไปว่าไม่มีใครชอบหรืออยากสนิทสนมกับคุณ และทุกสิ่งที่คุณทำล้วนแต่จะทำให้ใครสักคนผิดหวัง[12]
    • คนที่ชอบตีตนไปก่อนไข้จะคิดว่า “เช้านี้หมวยไม่ได้ยิ้มให้ฉัน ฉันต้องไปทำอะไรที่ทำให้เธอไม่พอใจแน่ๆ” อย่างไรก็ดี มันอาจจะเป็นแค่ว่าหมวยเพิ่งเจอเรื่องแย่ๆ มา การที่เธออารมณ์เสียไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณเลย
  7. How.com.vn ไท: Step 7 หลีกเลี่ยง “การเลือกกรองความคิด”.
    นี่คือการที่คุณเลือกจะได้ยินเฉพาะด้านลบของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง เหตุการณ์ส่วนมากจะมีแง่มุมองค์ประกอบทั้งด้านดีและร้าย และสมควรที่เราจะต้องตระหนักถึงทั้งสองด้าน หากคุณคิดแบบนี้ คุณจะไม่มีวันเห็นด้านดีในเรื่องใดๆ เลย[13]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจสอบแล้วได้เกรด C ตามมาด้วยคำติชมจากอาจารย์ว่าคุณพัฒนาขึ้นมามากนับจากการสอบคราวที่แล้ว การเลือกกรองความคิดจะทำให้คุณคิดแต่แง่ลบถึงเกรด C โดยที่มองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่าคุณมีพัฒนาการขึ้นมาจากหนก่อน
  8. How.com.vn ไท: Step 8 หลีกเลี่ยง “การคิดว่าจะเกิดหายนะ”.
    นี่คือเวลาที่คุณทึกทักเอาว่าผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กำลังจะเกิดขึ้น [14] การคิดว่าจะเกิดหายนะมักจะเกี่ยวข้องกับอาการกังวลว่าจะทำได้ไม่ดี คุณสามารถต่อสู้กับเจ้าความคิดชนิดนี้ได้โดยการเป็นคนที่มองตามหลักความจริงถึงผลที่เป็นไปได้ของเหตุการณ์นั้นๆ
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจคิดว่าต้องสอบตกในวิชาที่กำลังเรียน คนที่ชอบคิดแบบหายนะจะขยายความกังวลใจนั้นออกไปจนมโนไปเองว่าคงสอบตกและอาจถูกไล่ออกจากโรงเรียน จากนั้นก็ต้องหางานทำไม่ได้เพราะวุฒิไม่มี หากคุณมองผลลัพธ์ในแง่ลบด้วยสายตาที่เป็นจริง คุณจะตระหนักว่าแม้จะสอบวิชานั้นตก ก็ใช่ว่าจะต้องสอบตกไปเสียทุกวิชา และไม่มีทางถูกไล่ออกเด็ดขาด
  9. How.com.vn ไท: Step 9 ไปสถานที่เงียบสงบ.
    มันจะช่วยพาเราหลบหนีไปสงบจิตสงบใจในยามที่คุณต้องการเปลี่ยนทัศนคติ หลายคนพบว่าการใช้เวลาสักเล็กน้อยออกมาอยู่ข้างนอกสามารถทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้[15]
    • ถ้าหากที่ทำงานของคุณมีบริเวณกลางแจ้งที่มีโต๊ะและม้านั่ง จัดหาเวลาให้ตัวเองออกไปปรับเปลี่ยนบรรยากาศสร้างความสดชื่นสักพัก
    • ถ้าคุณไม่สามารถพาตัวเองไปยังสถานที่สงบเงียบนั้นได้ ลองฝึกนั่งทำสมาธิและค้นพบสถานที่เงียบสงบภายในใจคุณเอง [16]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ใช้ชีวิตมองโลกในแง่ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ให้เวลาแก่ตัวเองในการปรับเปลี่ยน.
    การพัฒนาทัศนคติเชิงบวกนั้นจริงๆ แล้วก็เป็นการพัฒนาทักษะความสามารถอย่างหนึ่ง และก็เช่นเดียวกับทักษะอื่นๆ มันย่อมต้องใช้เวลาในการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ และมันต้องอาศัยการฝึกอย่างทุ่มเทและคอยเตือนใจไม่ให้ถอยกลับไปคิดในแง่ลบอีก[17]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ปรับเปลี่ยนร่างกายไปในทางบวก.
    ถ้าคุณเปลี่ยนพฤติกรรมทางร่างกาย จิตใจจะพลอยเปลี่ยนตามไปด้วย ในการที่จะทำให้รู้สึกมีความสุขมากขึ้นโดยรวม จึงต้องปรับเปลี่ยนร่างกายไปในทางที่ดีขึ้น ฝึกการวางท่าทางที่สง่า ยืนตัวตรงอกผายไหล่ผึ่ง[18] การยืนหลังงอมีแต่ทำให้คุณรู้สึกในแง่ลบ ยิ้มบ่อยๆ ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้อื่นส่งยิ้มกลับมาแต่การยิ้มจะทำให้ร่างกายเชื่อมั่นว่ามันมีความสุขขึ้น[19][20]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ฝึกการตระหนักรู้.
    การตระหนักรู้ในสิ่งที่ตัวคุณกระทำลงไปในชีวิตจะทำให้คุณรู้สึกมีความสุขขึ้น เมื่อคุณปล่อยผ่านความเคลื่อนไหวในชีวิตไปเหมือนหุ่นยนต์ คุณก็มักจะลืมค้นหาความสุขในสิ่งต่างๆ ภายในชีวิตประจำวัน การตระหนักรู้ในสิ่งรอบตัว, ในสิ่งที่เลือก และในสิ่งที่คุณทำเป็นกิจวัตร จะทำให้คุณสามารถกลับมาควบคุมชีวิตและความสุขของตนเองได้[21]
    • ลองพิจารณาการทำสมาธิว่าเป็นวิธีที่คุณจะควบคุมตนเองและเรียนรู้เรื่องการเพ่งไปที่จุดสำคัญได้ดีขึ้น โดยการนั่งทำสมาธิทุกวันครั้งละ 10 ถึง 20 นาทีในช่วงที่คุณสะดวก คุณจะสามารถเพิ่มความตระหนักรู้ในตัวตนและปัจจุบันขณะได้ ช่วยให้คุณกักความคิดแย่ๆ เอาไว้อย่างมีสติ[22]
    • ลองเข้าคลาสโยคะ โยคะอาจช่วยให้คุณตระหนักในความเป็นไปของโลกนี้ดียิ่งขึ้นผ่านทางการควบคุมลมหายใจเข้าออก [23]
    • แม้กระทั่งแค่การนั่งนิ่งๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วปล่อยใจไปสักพักหนึ่งก็สามารถช่วยให้คุณรู้สึกมีความสุขขึ้นได้แล้ว[24]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ค้นพบด้านที่สร้างสรรค์ของคุณ.
    ถ้าคุณไม่เคยมีโอกาสได้ค้นพบด้านที่เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ของคุณ นี่แหละถึงเวลานั้นแล้ว ใช้เวลาค้นพบความเป็นศิลปินในตัว ลงมือทำงานหรือค้นพบความคิดริเริ่มของตัวเอง ซึ่งจะมีผลอย่างน่าอัศจรรย์ทีเดียวต่อพลังในการคิดนอกกรอบและมีผลต่อการคิดในเชิงบวก[25] แม้ว่าคุณอาจไม่เคยมีความคิดว่าตนเองจะเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์อะไร มันมีตั้งหลายวิธีที่คุณจะแสดงตัวตนออกมาในเชิงสร้างสรรค์มากขึ้น [26]
    • ไปลองสมัครเรียนเรื่องที่คุณไม่เคยทำมาก่อน: ลองเรียนปั้นหม้อ วาดรูป ทำงานศิลปะแบบสื่อผสม แต่งบทกวี หรืองานไม้[27]
    • ลองเรียนทำงานฝีมือใหม่ๆ เช่นการถักนิตติ้ง ถักโครเชต์ หรือตัดเย็บเสื้อผ้า ร้านขายอุปกรณ์งานฝึมือหรือบทเรียนออนไลน์เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นหัดโดยไม่อยากเสียเงินสมัครเรียน
    • วาดหรือลากเส้นขยุกขยิกลงในสกุดสเก็ตช์ทุกวัน พยายามย้อนไปดูรูปเก่าๆ ที่เคยวาดไว้แล้วเปลี่ยนมันให้กลายเป็นอะไรใหม่ๆ
    • เป็นนักเขียนเชิงสร้างสรรค์ ลองแต่งบทกวี เรื่องสั้น หรือกระทั่งลองแต่งนิยายดู คุณสามารถนำบทกวีที่แต่งขึ้นไปแสดงตามงานอ่านบทกวีก็ได้
    • ลองสวมบทบาท แต่งตัวตามตัวละครในโทรทัศน์หรือการ์ตูนเรื่องโปรด หรือไปลองทดสอบการคัดเลือกตัวแสดงตามคณะละครสมัครเล่นก็ได้[28]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 พาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางผู้คนที่คิดเชิงบวก.
    เรามักจะได้รับอิธิพลจากผู้คนแวดล้อมตัวเรา ถ้าคุณรู้สึกว่าผู้คนรรายรอบตัวนั้นดูมีแต่คนมองโลกในแง่ลบ ให้มองหาทางไปอยู่กลางหมู่คนที่มองโลกในแง่ดีแทน[29] นี่จะช่วยเติมพลังให้แก่มุมมองในเชิงบวกของคุณ หากคุณมีญาติสนิทหรือคนสำคัญในชีวิตที่ช่างมองโลกในแง่ลบอยู่เรื่อย ลองกระตุ้นให้เธอร่วมทางสู่การเป็นคนมองโลกในเชิงบวกไปกับคุณ
    • หลีกเลี่ยงผู้คนที่ดูดเอาพลังงานและแรงจูงใจของคุณไปจนหมด หากเลี่ยงไม่ได้ หรือไม่อยากทำเช่นนั้น ก็เรียนรู้วิธีที่จะไม่ปล่อยให้เขามาทำให้คุณผิดหวังและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาให้กระชับสั้น [30]
    • หลีกเลี่ยงการออกเดทกับคนที่มีทัศนคติในเชิงลบ ยิ่งถ้าคุณเป็นพวกเปิดกว้างต่อการคิดในแง่ลบเองด้วยแล้ว คุณจะติดกับมัน แต่ถ้าคนที่คุณคิดสานความสัมพันธ์ด้วยก็เป็นคนที่กำลังพยายามปรับตัวให้คิดในแง่บวกอยู่เหมือนกัน การมองหาคำแนะนำร่วมกันอาจเป็นทางออกที่วิเศษ
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ตั้งเป้าที่มีความหมาย.
    ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นอย่างไร คุณควรพยายามหาทางบรรลุมันให้จงได้และเชื่อมั่นในเป้าที่คุณตั้งไว้กับตัวเอง พอคุณบรรลุในเป้าหมายแรก คุณจะมีแรงบันดาลใจอยากจะบรรลุในเป้าที่เหลือต่อไป เช่นเดียวกับการเพิ่มเป้าหมายใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต และในทุกเป้าหมายที่คุณทำสำเร็จ ไม่ว่ามันจะเป็นเป้าที่เล็กแค่ไหนก็ช่าง คุณจะได้รับความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตนเองที่เพิ่มขึ้น ช่วยเติมพลังเชิงบวกให้แก่ชีวิตคุณ[31]
    • การพยายามทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จะทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น แม้ว่ามันจะเป็นแค่เป้าหมายเล็กๆ ก็ตามที [32]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 อย่าลืมที่จะสนุก.
    คนที่เปิดโอกาสให้ชีวิตมีความสนุกสนานอยู่เป็นประจำมักจะมีความสุขและมองโลกในแง่บวกมากกว่าเพราะมันจะไม่ได้มีแต่ความน่าเบื่อและราบเรียบไม่มีที่สิ้นสุด ความสนุกช่วยหยุดชะลองานหนักและอุปสรรค พึงจำไว้ว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความสนุกแบบเดียวกัน ฉะนั้นคุณอาจต้องใช้เวลาค้นหาว่ากิจกรรมอะไรที่คุณรู้สึกสนุกไปกับมัน[33]
    • ให้เวลากับเสียงหัวเราะเสมอ ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนคนที่เรียกเสียงหัวเราะแก่คุณเป็นประจำ ไปร้านที่มีตลกเล่น หรือดูหนังตลก คงเป็นเรื่องยากอยู่หรอกถ้าจะยังคิดในแง่ลบเวลาที่ต่อมก๊ากกำลังถูกกระตุ้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • "คนมองโลกในแง่ดีย่อมดึงดูดคนที่มองโลกในแง่ดี " ในรูปแบบเดียวกับที่ "คนมองโลกในแง่ลบย่อมดึงดูดคนมองโลกในแง่ลบ” ถ้าคุณใจดี น่ารักและชอบช่วยเหลือผู้อื่น คุณก็ย่อมได้รับการปฏิบัติตอบเช่นเดียวกัน ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณหยาบคาย ไร้มารยาทและไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ใคร ผู้คนก็จะไม่เคารพนับถือคุณและจะหลีกเลี่ยงคุณเพราะคุณไม่น่าดึงดูดและมีทัศนคติน่ารังเกลียด
  • คุณไม่สามารถควบคุมทุกเรื่องราวในชีวิตแต่คุณสามารถควบคุมสิ่งที่คุณจะเลือกและรู้สึกถึงมัน คุณสามารถเลือกที่จะมองในแง่ดีหรือเป็นอย่างอื่น คุณคือผู้ตัดสินใจเลือก
  • รักษาสภาพร่างกายให้แข็งแรงและรับประทานอาหารถูกสุขอนามัย มันคือพื้นฐานสำคัญของการมีทัศนคติเชิงบวกเลยล่ะ มันเป็นเรื่องยากที่จะยังรู้สึกในแง่ดีในเมื่อไม่รู้สึกสบายตัวและ/หรือไม่แข็งแรง
  • หัวเราะบ่อยๆ เสียงหัวเราะกับความรู้สึกในเชิงบวกผ่านทางหนังตลก สวนสนุก หรือกิจกรรมที่สร้างความสนุกและความสุขอื่นๆ เป็นส่วนสำคัญในการทำให้จิตใจเบิกบาน และใช่แล้ว เวลาที่อะไรไม่เป็นดังใจหวังนั้น จะหัวเราะออกมาก็ได้ บางทีอารมณ์ขันคือสิ่งที่คุณต้องการในการเริ่มต้นสะสางปัญหา
  • ถ้าคุณรู้สึกว่าวันนี้มันซวย ให้คิดถึงเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในวันนั้น คิดไปว่าไอ้เรื่องแย่ๆ ในวันนั้นมันอาจจะแย่ลงกว่านั้นได้อีกตั้งขนาดไหน คุณจะแปลกใจที่ได้รู้สึกว่าวันๆ นั้นมันก็ดูไม่เลวนะถ้าเรามองแบบนี้
  • การมีอารมณ์ขันเป็นปัจจัยสำคัญของการมีทัศนคติเชิงบวก
  • ระลึกอยู่เสมอว่าการมองเรื่องต่างๆ ในเชิงบวกนั้นมันง่ายอย่างกับอะไรดี
โฆษณา

คำเตือน

  • บางครั้งความกังวลใจในอดีตหรืออนาคตอาจเข้ามาขัดขวางการคิดในเชิงบวก หากคุณยึดติดอยู่กับอดีต ปล่อยให้ความโศกเศร้าหรือประสบกรณ์แย่ๆ จากอดีตมานำชีวิตในปัจจุบัน ให้เรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ยอมปล่อยให้มันมามีอิทธิพลครอบงำทัศนคติและความคิดในตอนนี้ ถ้าคุณเป็นพวกเอาแต่พุ่งเป้าไปที่อนาคตจนละเลยปัจจุบัน พยายามลดความกังวลในสิ่งที่จะเกิดในวันข้างหน้า แล้วหันมาเริ่มใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันขณะให้มากขึ้น
  • ถ้าคุณมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ให้ขอความช่วยเหลือในทันที ไม่เพียงแต่ชีวิตนี้มีค่าควรแก่การดำรงอยู่ คุณยังสมควรที่จะใช้มันให้เต็มที่ด้วย ยังมีผู้คนอีกมากมายที่พร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือคุณให้ผ่านความโศกเศร้าและความยากลำบากเหล่านี้
  • ความกังวลและอาการซึมเศร้าเป็นสภาวะที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างจริงจัง มันไม่ได้มีค่าเท่ากับการคิดในแง่ลบโดยทั่วไป ถึงแม้การคิดแบบนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เป็นตัวก่อความกังวลและอาการซึมเศร้า ให้หาทางรักษาโดยแพทย์ในทันทีสำหรับอาการป่วยทางจิตเช่นนี้ ยิ่งได้รับการช่วยเหลือเร็วเพียงใด คุณก็จะยิ่งนำชีวิตกลับมาอยู่ในเส้นทางและรู้สึกว่าทุกอย่างกลับมาดีเร็วขึ้น
โฆษณา
  1. https://www.psychologytoday.com/blog/peacemeal/201301/what-happens-if-you-dont-watch-what-you-watch
  2. http://www.mayoclinic.org/healthy-living/stress-management/in-depth/positive-thinking/art-20043950?pg=2
  3. http://www.mayoclinic.org/healthy-living/stress-management/in-depth/positive-thinking/art-20043950?pg=2
  4. http://www.mayoclinic.org/healthy-living/stress-management/in-depth/positive-thinking/art-20043950?pg=2
  5. http://cmhc.utexas.edu/selfesteem.html
  6. http://www.health.harvard.edu/press_releases/spending-time-outdoors-is-good-for-you
  7. http://greatist.com/happiness/thinking-negative-thoughts-mindfulness-meditation
  8. https://www.psychologytoday.com/blog/hope-relationships/201409/6-ways-become-more-positive-today
  9. https://www.psychologytoday.com/blog/hope-relationships/201409/6-ways-become-more-positive-today
  10. http://www.huffingtonpost.com/2013/12/09/scientific-proof-that-you_n_4384433.html
  11. https://www.psychologytoday.com/blog/hope-relationships/201409/6-ways-become-more-positive-today
  12. http://greatist.com/happiness/thinking-negative-thoughts-mindfulness-meditation
  13. http://greatist.com/happiness/thinking-negative-thoughts-mindfulness-meditation
  14. http://tinybuddha.com/blog/10-tips-to-overcome-negative-thoughts-positive-thinking-made-easy/
  15. http://www.fredonia.edu/counseling/pdf/BreatheWithCredit.pdf
  16. https://www.authentichappiness.sas.upenn.edu/learn/creativity
  17. http://www.pbs.org/thisemotionallife/topic/creativity/creativity
  18. http://time.com/3111054/be-more-creative/
  19. http://time.com/3111054/be-more-creative/
  20. http://www.huffingtonpost.com/2014/09/13/positive-thinking-day-steps_n_5810744.html
  21. http://tinybuddha.com/blog/train-yourself-to-be-more-positive-in-5-steps/
  22. https://www.psychologytoday.com/blog/dont-delay/200806/goal-progress-and-happiness
  23. https://www.psychologytoday.com/blog/dont-delay/200806/goal-progress-and-happiness
  24. http://www.gretchenrubin.com/happiness_project/2011/01/your-happiness-project-have-more-fun/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Trudi Griffin, LPC, MS
ร่วมเขียน โดย:
ผู้ให้คำปรึกษามืออาชีพที่มีใบอนุญาต
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Trudi Griffin, LPC, MS. ทรูดี้ กริฟฟินเป็นผู้ให้คำปรึกษามืออาชีพที่มีใบอนุญาตในวิสคอนซิน เธอได้รับปริญญาโทด้านการให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพจิตจากมหาวิทยาลัยมาร์เกว็ตต์ในปี 2011 บทความนี้ถูกเข้าชม 20,565 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 20,565 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา