ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Moshe Ratson, MFT, PCC. โมเช่ แรทสันเป็นผู้จัดการอาวุโสของ spiral2grow Marriage & Family Therapy คลินิกบำบัดและให้คำปรึกษาในกรุงนิวยอร์ก เขาจบปริญญาโทด้านการบำบัดชีวิตคู่และครอบครัวจากมหาวิทยาลัยไอโอน่า และทำงานบำบัดมากว่า 10 ปี
บทความนี้ถูกเข้าชม 21,775 ครั้ง
ในช่วงหนึ่งของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ คุณก็จะต้องทำบางอย่างที่ทำให้แม่หรือพ่อโกรธแต่บทความนี้เกี่ยวกับการทำให้แม่ยกโทษให้ บางครั้งคำขอโทษธรรมดาจะไม่ได้ผลและคุณจะต้องพยายามมากขึ้นเพื่อให้แม่ยกโทษให้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถยกระดับคำขอโทษ ให้ความเคารพและประพฤติตัวอย่างดีที่สุดเพื่อให้แม่ลืมสิ่งที่คุณทำ
ขั้นตอน
ขอโทษต่อหน้าบุคคล. ไม่ว่าจะอย่างไรก็พยายามอย่าขอโทษผ่านทางข้อความหรืออีเมล การคุยกับบางคนในสถานการณ์ที่อ่อนไหวนั้นยากแต่การขอโทษต่อสิ่งที่ทำจะช่วยให้เธอเห็นว่าคุณจริงใจ
จริงใจ. ใช้น้ำเสียงที่เคารพและขอโทษด้วยเสียงที่ชัดเจน การพูดพึมพำหรือว่าคุณไม่ได้รู้สึกผิดต่อสิ่งที่ทำ- หากคุณไม่รู้จะเริ่มอย่างไรก็ลองพูดว่า: "หนูขอโทษที่ทำให้แม่เสียใจ หนูรู้ว่าไม่ควรทะเลาะกับจอร์จ หนูอารมณ์เสียแต่อยากทำให้ดีกว่านี้ หวังว่าแม่จะยกโทษให้"
บอกความจริง. บางครั้งคุณจะต้องการโกหกแต่อย่าโกหกเพราะคุณจะถูกจับได้เมื่อทำสิ่งนี้อีกครั้ง คุณจะโดนโกรธมากขึ้นและแม่จะยกโทษให้ยากขึ้น
อย่าคุยกับแม่ในขณะที่โกรธ. ปล่อยให้แม่ใจเย็นลงเล็กน้อยแล้วจึงคุยกับเธอเมื่อเธอได้มีโอกาสคิด ห้ามทะเลาะเพราะมันจะทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลง
เลือกเวลาที่เหมาะสม. พยายามอย่าขอโทษในขณะที่แม่จดจ่ออยู่กับสิ่งอื่น เช่น ทำอาหารเย็น คุยกับแม่ในช่วงเวลาที่เงียบและถามว่าขอคุยด้วยสักแป๊บนึงได้ไหม [1]- เข้าใจหากแม่ไม่อยากฟัง เธออาจจะยังไม่พร้อมได้ยินสิ่งที่คุณจะพูด รอสักพักแล้วจึงถามอีกครั้ง
อย่ารอนานเกินไป. คุณต้องขอโทษสิ่งที่คุณทำในเวลาที่เหมาะสม หากคุณรอนานเกินไป แม่ของคุณจะคิดว่าคุณไม่ละอายใจกับสิ่งที่ทำ
ฟังสิ่งที่เธอพูด. ฟังอย่างตั้งใจและพยายามคิดว่าทำไมเธอถึงคิดว่าคุณทำผิด วิธีเดียวที่คุณสามารถขอโทษกับสิ่งที่ทำได้คือการเข้าใจว่าทำไมเธอถึงโกรธ เพราะฉะนั้นคุณต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา เธอพยายามจะช่วยคุณเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นคุณต้องพยายามมองในแบบของเธอ[2]
อย่าหยิบยกเหตุการณ์อื่นเข้ามาเกี่ยว. อย่าหยิบยกสิ่งที่พี่น้องของคุณทําหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต คุณจะยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่ไม่ดีและทำให้เธอโกรธมากขึ้น [3]- เช่น อย่าพูดว่า "แต่เทรซี่ไปข้างนอกสัปดาห์ที่แล้วแล้วไม่โดนทำโทษ ทำไมแม่ถึงโกรธหนูแต่ไม่โกรธเธอ?" การหยิบยกเรื่องที่เกิดในอดีตจะยิ่งทวีคูณความโมโห คุณควรพูดว่า "หนูรู้ว่าแม่โกรธแต่หนูไม่ควรออกไปเที่ยว หนูขอโทษ"
อย่าใช้ข้ออ้างกับสิ่งที่ทำ. ข้ออ้างทำให้คำขอโทษดูมีค่าน้อยลงเพราะมันดูเหมือนคุณกำลังโยนความผิดให้คนอื่นหรือสิ่งอื่น คุณต้องยอมรับว่าคุณทำผิดหากคุณต้องการให้แม่ยกโทษให้- เช่น แทนที่จะพูดว่า "หนูไม่ได้ไปเที่ยวดึกและอีกอย่างมันเป็นเพราะหนูพยายามไปส่งเพื่อน" คุณควรพูดว่า "หนูรู้ว่าหนูไปเที่ยวดึกและหนูขอโทษ หนูจะพยายามกลับบ้านให้เร็วขึ้นในคราวหน้า"
พยายามแก้ไขข้อผิดพลาด. คำขอโทษเป็นสิ่งที่ดีแต่การพยายามแก้ไขสถานการณ์นั้นดีกว่า [4]- เช่น หากคุณทำบางอย่างเสียก็ควรซ่อมหรือเปลี่ยนมัน หากคุณตะคอกใส่พี่สาวก็ควรทำตัวดีขึ้นกับเธอและแสดงว่าคุณใส่ใจ
ขอโทษเป็นลายลักษณ์อักษร. ขั้นตอนนี้อาจจะตรงกันข้ามกับการ "ขอโทษต่อหน้าบุคคล" แต่คุณควรขอโทษเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมจากการขอโทษต่อหน้าบุคคล อีกครั้งคุณไม่ควรใช้อีเมลหรือข้อความสำหรับคำขอโทษแบบนี้ คุณควรเขียนจดหมายด้วยลายมือเกี่ยวกับข้อผิดพลาดและสิ่งที่จะปรับปรุงในอนาคต จดหมายที่เขียนด้วยลายมือต้องใช้ความคิดและเวลาและแม่ของคุณจะชื่นชมกับความพยายามของคุณ หากคุณเป็นศิลปินที่ดี คุณก็สามารถวาดรูปในจดหมายในแบบที่คุณรู้ว่าแม่ของคุณจะชอบ- คุณสามารถเขียนว่า "แม่จ๋า หนูรู้ว่าแม่เสียใจที่หนูทะเลาะกับเจน หนูรู้ว่าแม่อยากให้เรารักกันและไม่ทะเลาะกันและหนูชื่นชมสิ่งนั้น หนูรักเจนมากแม้เธอจะทำให้หนูคลุ้มคลั่งบางเวลา หนูแก่กว่าน้องและหนูควรทำตัวเป็นผู้ใหญ่เวลาที่น้องกวนหนูแบบเจตนา หนูเข้าใจว่าความสัมพันธ์ต้องใช้เวลาและหนูแค่พยายามเตรียมตัวเองสำหรับความสัมพันธ์ในอนาคตและช่วยให้สร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวกับเจน หนูจะพยายามสงบนิ่งในอนาคตจริงๆ หนูรักแม่มากและหวังว่าแม่จะยกโทษให้ รักแม่จากจอย"
เข้าใจว่าการให้อภัยต้องใช้เวลา. บางครั้งแม่ของคุณอาจจะยกโทษให้อย่างรวดเร็วแต่บางครั้งก็อาจจะต้องใช้เวลา อันที่จริงแล้วนักจิตวิทยาบางคนบอกว่ามันมีขั้นตอนของการให้อภัยเช่นเดียวกับความโศกเศร้า แม่ของคุณอาจจะกำลังเผชิญกับการปฏิเสธ การต่อรอง ความโกรธและความซึมเศร้าที่มาก่อนการยอมรับและการให้อภัยแม้เธอจะไม่เรียงสิ่งเหล่านี้ตามลำดับ ไม่ว่าอย่างไร จำไว้ว่าคุณต้องพยายามให้เธอยกโทษและไว้ใจคุณอีกครั้ง[5]
รู้ว่าเธอไม่สมบูรณ์แบบ. แม่ของคุณทำผิดพลาดและเธออาจจะโกรธคุณนานกว่าสมควร- บางครั้งแม่โกรธเราด้วยเหตุผลอื่น มันไม่ใช่แค่ความผิดของเรา เช่นเดียวกับที่คุณสามารถมีวันที่ไม่ดีกับน้องสาว แม่ของคุณก็อาจจะปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำเวลาที่เธอมีวัน (หรือสัปดาห์) ที่ไม่ดีเช่นกัน
โฆษณา
ทำตามกฎ. คุณไม่ควรทำให้เธอโกรธมากขึ้นโดยการทำผิดเพิ่มอีก 1 กระทง เพราะฉะนั้นคุณต้องทำตามกฎของบ้านและทำให้ดีที่สุด หากคุณมีโอกาสในการทำตัวให้เป็นประโยชน์ก็อย่าปล่อยโอกาสให้เสียไป ทำตัวให้เป็นประโยชน์
แก้ไขร่วมกันไม่ใช่ต่อต้านกัน. ขอให้แม่ช่วยคุณวางแผนสำหรับพฤติกรรมที่ดีขึ้นในอนาคต[6]- เช่น บางทีปัญหาของคุณคือการที่คุณกลับบ้านดึกตลอดเวลา ขอให้แม่ช่วยหาวิธีในการแก้ปัญหา บางทีคุณสามารถตั้งนาฬิกาเตือนบนโทรศัพท์ 30 นาทีก่อนเวลาที่คุณควรจะถึงบ้านและขอให้แม่ช่วยตั้งนาฬิกาเวลาที่คุณจะไปข้างนอก
สงบนิ่ง. อย่าคิดเกินตัวและตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ เช่น ย้ายออกจากบ้านหรือหนีออกจากบ้าน คุณอาจจะโกรธที่คุณกำลังมีปัญหาและคุณอาจจะรู้สึกว่าแม่ของคุณไม่สนใจ อย่างไรก็ตาม การที่แม่โกรธแสดงว่าแม่สนใจว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ แม่ต้องการให้คุณทำตัวให้ดีขึ้น หากคุณรู้สึกโดดเดี่ยวก็ลองคุยกับเพื่อน พ่อหรือแม่หรือพี่น้องหากคุณต้องการระบายอารมณ์
อย่าทำผิดช้ำอีกครั้ง. หากคุณทำผิดซ้ำ แม่ของคุณอาจจะเริ่มสงสัยความจริงใจของคำขอโทษ
ทำงานบ้านเพิ่มขึ้น. เอาขยะไปทิ้งโดยที่ไม่ต้องรอให้แม่ขอ ซักผ้ารีดผ้ามากขึ้น เสนอตัวที่จะดูแลเด็กหรือไปซื้ออาหาร ทำอาหารเย็นก่อนที่แม่จะทำ แม่ของคุณจะสังเกตว่าคุณพยายามทำสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้อง
ทำสิ่งที่ดีสำหรับแม่. เอาอาหารเช้ามาเสริฟบนเตียง เก็บดอกไม้มาให้แม่ ทำการ์ดหรือรูปภาพที่ไม่สามารถนำไปที่ทำงานด้วย ทำให้เธอรู้ว่าคุณรักเธอ
ทำสิ่งต่างๆ ที่คุณรู้ว่าเธอชอบกับเธอ. ไปสวนสาธารณะกับแม่แม้คุณจะรู้สึกไม่ชอบหรือขอให้เธอไปห้องสมุดกับคุณ
ทำตัวน่ารักและไม่ดื้อ. การทำตัวน่ารักจะแสดงให้แม่เห็นว่าคุณใส่ใจเราต้องการทำตัวให้ดีขึ้น [7]โฆษณา
แสดงว่าคุณกำลังฟังอยู่. เมื่อแม่บ่นและคุยกับคุณก็ให้ฟังอย่างตั้งใจและอย่าเถียง ยอมรับว่าคุณผิดและแม่มีสิทธิ์ที่จะบ่นคุณ
อย่าเมินแม่. แม่แค่พยายามจะช่วยและเธอต้องการคุยกับคุณ จงใช้เวลารับฟัง โต้ตอบสิ่งที่เธอพูดและใช้เวลาคิดเกี่ยวกับมัน คุณสามารถทำให้เธอมั่นใจว่าเหตุการณ์นั้นจะไม่เกิดขึ้นอีกในตอนท้ายของการพูดเพื่อที่เธอจะได้รู้ว่าคุณคิดเกี่ยวกับมันและคำขอโทษของคุณนั้นออกมาจากใจ
ใช้น้ำเสียงที่เคารพ. เมื่อคุณตอบคำถามของเธอก็อย่าใช้อารมณ์ ตอบอย่างใจเย็น ตรงไปตรงมาและจริงใจ- เช่น หากแม่พูดว่า "ตอนนั้นคิดอะไรอยู่?" ก็อย่าพูดว่า "ไม่รู้สิเพราะหนูมันโง่" ด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน ลองพูดว่า "ตอนนั้นหนูไม่ได้คิดให้รอบคอบ หนูจะพยายามทำให้ดีขึ้นครั้งต่อไป"
ยอมรับบทลงโทษโดยไม่บ่น. การทำเช่นนี้จะแสดงให้เธอเห็นว่าคุณเคารพการตัดสินใจของเธอ- แม่ของคุณไม่ได้ว่าคุณเพราะเธอไม่ชอบหรือเกลียดคุณ เธอใส่ใจเกี่ยวกับคุณและไม่ต้องการให้คุณเลือกสิ่งที่ผิดซึ่งจะมีผลกับอนาคตของคุณ เธอต้องการให้คุณปลอดภัยและเรียนรู้ที่จะเป็นคนที่ดีขึ้น[8]
เป็นผู้ใหญ่. อย่าใจร้ายหรือด่าทอแม่ อย่ากระแทกประตู คุณจะทำให้เธอโกรธมากขึ้นและในภายหลังคุณจะต้องเสียใจที่คุณทำตัวแบบนั้น [9]- นอกเหนือจากนี้ แม่ของคุณจะเคารพในความเป็นผู้ใหญ่ของคุณและอาจจะยกโทษให้เร็วขึ้น
- หากเธอพูดว่า "ลูกพูดแบบนั้นแต่ไม่เคยทำตาม!" ก็อย่าเถียง พูดว่าคุณเข้าใจและขอให้เธอช่วยให้คุณทำให้ดีขึ้นในอนาคต
โฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่าตะโกนใส่แม่
- เป็นลูกที่ดีกับแม่
- ซื้อของขวัญมาให้แม่หรือเขียนการ์ดขอโทษ
- ทำบางสิ่งที่จะทำให้เธอมีความสุข เธอจะชื่นชอบมัน
- อย่าพูดหากเธอยังพูดไม่จบ
- ทำตัวสงบและพูดสิ่งต่างๆ ออกไป
- พูดว่าขอโทษแต่อย่าถี่
- ทำให้มั่นใจว่าแม่ไม่ได้โกรธเรื่องอื่นอยู่
- ปล่อยให้แม่มีเวลาเป็นของตัวเองและจึงคุยกับเธอ
- อย่าขออะไรประมาณ 1-2 วัน
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าพูดคำไม่ดีกับแม่
- อย่าพยายามหาข้ออ้างเพราะมันจะทำให้สถานการณ์แย่ลง
- อย่าทำสิ่งที่ไม่ดีกับแม่หลังจากที่แม่ตะคอกใส่คุณ (เช่น ขังแม่ไว้ข้างนอกบ้าน ทำแว่นของแม่แตก เป็นต้น) มันจะทำให้สถานการณ์แย่ลง
- อย่าพยายามวิ่งหนี
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.cyh.com/HealthTopics/HealthTopicDetailsKids.aspx?p=335&np=282&id=2535
- ↑ http://www.cyh.com/HealthTopics/HealthTopicDetailsKids.aspx?p=335&np=282&id=2535
- ↑ Child and Youth Health
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/the-intelligent-divorce/201110/can-you-forgive
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/the-intelligent-divorce/201110/can-you-forgive
- ↑ http://www.pbs.org/wholechild/parents/getting.html
- ↑ http://www.cyh.com/HealthTopics/HealthTopicDetailsKids.aspx?p=335&np=282&id=2535
- ↑ http://www.cyh.com/HealthTopics/HealthTopicDetailsKids.aspx?p=335&np=282&id=2535
- ↑ http://www.safeteens.org/relationships/getting-along-with-your-parents/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักบำบัดชีวิตคู่และครอบครัว
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Moshe Ratson, MFT, PCC. โมเช่ แรทสันเป็นผู้จัดการอาวุโสของ spiral2grow Marriage & Family Therapy คลินิกบำบัดและให้คำปรึกษาในกรุงนิวยอร์ก เขาจบปริญญาโทด้านการบำบัดชีวิตคู่และครอบครัวจากมหาวิทยาลัยไอโอน่า และทำงานบำบัดมากว่า 10 ปี บทความนี้ถูกเข้าชม 21,775 ครั้ง
หมวดหมู่: ภายในครอบครัว
มีการเข้าถึงหน้านี้ 21,775 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
